เนี่ยหรานสะดุ้งเฮือกหน้าตาตื่นตกใจไร้การเสแสร้ง จี้อวี้เหิงเดินเข้ามาสีหน้าดุดันเหมือนโกรธกันมานาน จนเนี่ยหรานหรานลืมไปจริงๆ ว่านี่เป็นการแสดง อาจเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ร่างเล็กถอยหนีอย่างไม่รู้ตัว เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลหรี่มองแล้วสาวเท้ามากระชากแขนเธออย่างแรง
“ว้าย!”
“ฉันเตือนแล้วใช่ไหมห้ามเข้าห้องของฉัน!”
“ฉัน...ฉัน...”
ท่าทางของเขาทำให้เธอกลัว เนี่ยหรานหรานหมุนตัวจะวิ่งหนีแต่ถูกรวบเอวไว้ได้ทัน ร่างเล็กถูกยกจนตัวลอยและกดลงบนโต๊ะอาหาร ดวงตากลมเบิกกว้างสองมือพยายามผลักไสเขาออกแต่ไม่เป็นผลเลยสักนิด
“ได้! เห็นแก่ที่เธอพยายามเข้าหาฉัน ฉันจะสนองให้เอง!”
“ไม่นะ!” เนี่ยหรานหรานส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลาย เธอหวีดร้องเมื่อมือใหญ่กระชากเสื้อผ้าของเธอหลุดออกมากลายเป็นเศษผ้า หน้าอกกลมกลึงปรากฏเบื้องหน้าเธอไม่รู้ว่าเพราะเธอหรือเพราะเขากำลังโกรธแววตาของจึงเหมือนเป็นลูกไฟ ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นทรวงอกอย่างไร้ความปรานี
“อึก...อึก” เสียงสะอึกสะอื้นครางน่าสงสาร แต่จี้อวี้เหิงก็ไม่ลดแรงลง หน้าอกนุ่มหยุ่นมือท้าทายสายตาจนเขาอดใจไม่ไหวโน้มหน้าลงใช้ปากดูดกลืนปลายถัน
“อ๊า!”
เนี่ยหรานหรานดิ้นพล่าน ยิ่งเธอดิ้นรนเขายิ่งดูดดึงรุนแรงจนได้ยินเสียงจ๊วบๆ ร่างเล็กสั่นสะท้าน สองมือดันไหล่เขาแต่ไม่เป็นผล มันรวดเร็วเกินไปเธอไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจก็ถูกจู่โจม เธอสนใจเพียงจี้อวี้เหิงจึงไม่ทันรู้ตัวว่าผู้กำกับฉู่ถือกล้องจับภาพคนทั้งสองอยู่
ความหอมหวานเย้ายวนชวนเผลอไผล จี้อวี้เหิงตวัดลิ้นเลียจุกสีหวานราวกับขนมหวาน ปากอมจุกขวามือบีบอกซ้าย เนี่ยหรานหรานเสียวซ่านจนรู้สึกว่าดอกไม้ของเธอเปียกชื้น แล้วเขาก็ปล่อยหน้าอกเธอเพื่อเลื่อนมือไปด้านล่าง หญิงสาวส่ายหน้ารัวๆ พยายามหนีบขาแน่น เขาน่ากลัวเกินไป ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงต่อต้าน เขาเงยหน้าพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
“ฉันจะให้ในสิ่งที่เธอต้องการ” มือใหญ่ลากกางเกงชั้นในออกพ้นเรียวขา “แต่อย่าหวังว่าจะได้เป็นเมียฉัน เธอเป็นได้แค่นางบำเรอเท่านั้น”
กระโปรงสั้นถูกตลบขึ้น ผิวกายไร้อาภรณ์ปกปิดเย็นวาบขึ้นทัน นิ้วเรียวยาวแหวกกลีบเนื้อแดงฉ่ำ เขาหัวเราะเยาะเย้ยแล้วโน้มหน้าลงกระซิบเสียงพร่า
“ปากบอกไม่ แต่ของเธอมันแฉะขนาดนี้ เธอนี่มัน...ร่านร้ายจริงๆ”
“อื้อ...คะ...คุณ...เบาหน่อยค่ะ”
เนี่ยหรานหรานวิงวอนเพราะนิ้วใหญ่สองนิ้วสอดเข้าไปในรูดอกไม้ของเธอ เขาไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่ทุกการขยับนำพาความเสียวซ่านปั่นป่วนช่องท้อง
จี้อวี้เหิงขมวดคิ้ว ร่องสาวคับแคบกว่าที่คิดไว้ เขาขยับนิ้วเป็นจังหวะเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะลงศึกใหญ่ ร่างเล็กอ่อนระทวยไร้การต่อต้าน เขาเร่งรัวนิ้วจนเกิดเสียงแจ๊ะๆ ดังขึ้น ยามนี้เขาไม่ได้สนใจฉู่อี้ผิงที่ถือกล้องเดินวนหามุมที่เหมาะ ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันจนไม่ต้องออกปากสั่ง ถ้าเขา ‘เครื่องติด’ ก็ไม่จำเป็นต้องบอกว่าต้องทำยังไง
ปกติเขาต้องบิ้วท์อารมณ์ตัวเองก่อนเข้าฉากกับนางเอกคนอื่น แต่กับจวีหรานนั้นให้ความรู้สึกที่แปลกไป หรือเพราะความสดใหม่ หรือเพราะความเป็นนักแสดงของเธอที่เข้าถึงบทบาท ‘ใสซื่อ’ ที่ทำให้เขาอยากรู้ว่าเธอจะหลุดบทนี้เมื่อไหร่ ทำให้เขาตื่นตัวแข็งขันจนต้องปลดเข็มขัดรูดซิปกางเกงเพื่องัดเอาน้องชายตัวโตออกมาสูดอากาศหายใจ
“อะ อ๊ะ อร๊ายยย” เนี่ยหรานหรานถูกสองนิ้วของเขาซอยถี่รัวจนน้ำเสร็จสม น้ำหวานไหลเยิ้มอย่างน่าอาย ร่างเล็กเกร็งกระตุกเธอหมดเรี่ยวแรงอยู่บนโต๊ะอาหาร สองขาทิ้งห้อยลงข้างโต๊ะ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหอบหายใจ เธอไม่คิดว่าท่าทางและการกระทำของเขาจะทำให้เธอเสร็จได้ เธอใฝ่ฝันจะมีเซ็กส์สุดแสนโรแมนติก แต่ไม่เคยคิดว่าจะถูกทำบนโต๊ะอาหารแบบนี้ ซ้ำยังเป็นตอนกลางวันที่ห้องสว่างโล่อีกด้วย
ชายหนุ่มสาวลำเอ็นตัวเองก่อนสวมถุงยางอนามัย เขาจับลำเอ็นของตนจ่อที่ปากที่ถ้ำที่ยังเปียกชุ่ม ปลายหัวบากถูไถทำให้หญิงสาวได้สติ เธอผงกศีรษะขึ้นมองแล้วก็อ้าปากค้างไม่คิดว่าท่อนเอ็นของเขาจะใหญ่โตถึงเพียงนั้น เธอกระถอดกายถอยหนีแต่มือใหญ่จับเอวเธอไว้แน่นแล้วดุนดันลำเอ็นเข้าไปในช่องทางที่คับแคบ
“อื้อ..มะ ไม่ไหวค่ะ คุณค่ะ...มันใหญ่เกินไป” เนี่นหรานหรานร้องบอกพลางส่ายหน้าไปมา น้ำตาเริ่มคลอเบา
“ผ่อนคลายหน่อย” น้ำตาของเธอชวนให้สงสารงแต่เขาก็ไม่อาจหยุดได้ ใครจะหยุดในเวลาแบบนี้ได้ และที่สำคัญมันคือเรื่องที่ตกลงแล้ว ไม่ว่าจะบทบาทไหน เธอต้องรับมันให้ได้
“ไม่...อะ..”
“โอเค. สวยมาก” “ขอบคุณค่ะ” เนี่ยหรานหรานยิ้มขอบคุณทีมงานแล้วรับเสื้อคลุมจากหลิวลี่-ผู้จัดการมาสวมทับชุดนอนวาบหวิวที่สวมอยู่ วันนี้มีถ่ายแบบชุดนอนเซ็กซี่ เธอประหม่าแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี “รู้สึกว่าถ่ายแบบครั้งนี้จวีหรานเปลี่ยนไปนะ” ช่างภาพอดพูดกับหลิวลี่ไม่ได้ “เธอมีคนรักเหรอ” “ไม่มีๆ” หลิวลี่รีบตอบทันที “จวีหรานของเราทำงานเต็มที่เสมอ คุณว่าเธอถ่ายแบบไม่ดีเหรอ หรืออยากถ่ายใหม่” “ไม่ใช่แบบนั้น” ช่างภาพโคลงศีรษะไปมา “ผมถ่ายแบบให้เธอมาหลายครั้ง รู้สึกว่าวันนี้เปลี่ยนไป ท่าทางขี้อาย น่ารักน่าทะนุถนอม” “สรุปว่าดีหรือไม่ดี” “ดีสิ ดีอยู่แล้ว ได้ความรู้สึกแปลกใหม่ดี” เนี่ยหรานหรานดื่มหยิบขวดน้ำมาพยายามจะเปิดฝาออก เธอลองบิดอยู่สองสามครั้งแต่ไม่สำเร็จกำลังจะมองหาคนช่วยก็มีมือใหญ่เอื้อมมาหยิบขวดน้ำไปเปิดให้เสียก่อน “ขอบคุณค่ะ” เธอพูดอย่างจริงใจและเมื่อเห็นว่าคนใจดีเป็นใคร รอยยิ้มก็เจือนลงไปทันที แม้เขาสวมแว่นตากันแดดอยู่แต่เธอก็จำเขาได้ทันที “ทำไม” จี้อวี้เหิงกระตุ
“บ้าชิบ!” เขาสบถเพราะดุนดันเข้าไปได้แค่ปลายหัวบาก จำใจต้องถอนลำเอ็นออกมา เนี่ยหรานหรานหายใจเฮือกใหญ่เพราะคิดว่าเขาคงถอดใจ ทว่าเขากลับตั้งเข่าเธอขึ้นแล้วลากเก้าอี้มานั่งตรงหว่างขา เธอผงกศีรษะขึ้นมองอีกครั้งด้วยความงุนงง ทว่าเธอได้คำตอบในทันทีเมื่อลิ้นของเขาแตะต้องกลีบเนื้อบอบบางของเธอ “แมร่งงเอ๊ยยย” ฉู่อี้ผิงสบถด้วยความสะใจ คนอย่างจู้อวี้เหิงไม่ ‘เบิร์น’ให้ใครง่ายๆ ทำให้เขาเก็บภาพด้วยความตื่นเต้นและตื่นตัวไปด้วย “แฮ่กๆ” สิ่งที่เคยได้ยิน สิ่งที่เคยรับรู้ ไม่เท่ากับสัมผัสด้วยตัวเอง เนี่ยหรานหรานไม่เคยรู้เลยว่าถูกลิ้นเลียและละเลงที่กลีบเนื้อมันเสียวซ่านขนาดนี้ เธอครวญครางอย่างไม่อาจห้ามได้ ลิ้นเปียกชื้นแหย่เข้าไปสลับกับการดูดกลีบเนื้อของเธอ ความเสียวซ่านถาโถมจนน้ำตาปริ่มขอบตา ปล่อยให้อารมณ์ไหลบากจนเสร็จคาปากเขาไปอีกครั้ง “ให้ตายสิ เสร็จง่ายจริงๆ”จี้อวี้เหิงพึมพำแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าแดงก่ำฉ่ำน้ำตา เขาก็ยกมือขึ้นลูบใบหน้าเธอ “อย่าเอาเปรียบกัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่หยุด และไม่ว่าเธอจะร้องไห้ยังไง ฉันก็ไม่สนใจ ฉันจะหยุดก็เมื่อฉันพอใจเท่า
เนี่ยหรานสะดุ้งเฮือกหน้าตาตื่นตกใจไร้การเสแสร้ง จี้อวี้เหิงเดินเข้ามาสีหน้าดุดันเหมือนโกรธกันมานาน จนเนี่ยหรานหรานลืมไปจริงๆ ว่านี่เป็นการแสดง อาจเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ร่างเล็กถอยหนีอย่างไม่รู้ตัว เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลหรี่มองแล้วสาวเท้ามากระชากแขนเธออย่างแรง “ว้าย!” “ฉันเตือนแล้วใช่ไหมห้ามเข้าห้องของฉัน!” “ฉัน...ฉัน...” ท่าทางของเขาทำให้เธอกลัว เนี่ยหรานหรานหมุนตัวจะวิ่งหนีแต่ถูกรวบเอวไว้ได้ทัน ร่างเล็กถูกยกจนตัวลอยและกดลงบนโต๊ะอาหาร ดวงตากลมเบิกกว้างสองมือพยายามผลักไสเขาออกแต่ไม่เป็นผลเลยสักนิด “ได้! เห็นแก่ที่เธอพยายามเข้าหาฉัน ฉันจะสนองให้เอง!” “ไม่นะ!” เนี่ยหรานหรานส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลาย เธอหวีดร้องเมื่อมือใหญ่กระชากเสื้อผ้าของเธอหลุดออกมากลายเป็นเศษผ้า หน้าอกกลมกลึงปรากฏเบื้องหน้าเธอไม่รู้ว่าเพราะเธอหรือเพราะเขากำลังโกรธแววตาของจึงเหมือนเป็นลูกไฟ ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นทรวงอกอย่างไร้ความปรานี “อึก...อึก” เสียงสะอึกสะอื้นครางน่าสงสาร แต่จี้อวี้เหิงก็ไม่ลดแรงลง หน้าอกนุ่มหยุ่
จี้อวี้เหิงนึกถึงหญิงสาวที่เปลือยกายบนโซฟาเมื่อครู่ แน่นอนว่าเขาจำเธอได้ เธอคือจวีหราน นางแบบวาบหวิวที่ส่งใบสมัครมาเล่นเป็นนางเอกหนังอิโรติกของเขา และหลังจากเจรจาผ่านผู้จัดการ จวีหรานยินดีเล่นหนังเร็ตเอ็กซ์ให้บริษัทของเขา เขาต้องการนางเอกที่สดใหม่แต่ไม่ไร้เดียงสาขนาดต้องมาฝึกงานให้ แต่ละปีปั้นดาราสำหรับหนังผู้ใหญ่ขึ้นมาได้ก็ถูกค่ายอื่นขโมยซื้อตัวไป ทั้งเขาและฉู่อี้ผิงไม่ต้องการให้นางเอกของเขาหน้าช้ำเล่นหนังซ้ำกับของบริษัทอื่น จึงทำสัญญาว่าจ้างกันสามปี เล่นหนังให้บริษัทของเขาเพียงบริษัทเดียว และเพื่อความสะดวก ฉู่อี้ผิงให้จวีหรานพักในโรงแรมของตนเองแม้จะเป็นห้องธรรมดาแต่ความเป็นอยู่นับว่าไม่เลวนัก“นี่แต่งตัวไม่เป็นต้องตามผู้จัดการมาแต่งตัวให้หรือไง” จี้อวี้เหิงบ่นแล้วเปิดขวดวิสกี้รินใส่แก้วของตัวเอง“ก็นายบอกให้เธอไปอาบน้ำ แต่ความจริงฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ แค่เทสนิดๆหน่อยๆ” ฉู่อี้ผิงแย่งแก้วเหล้าของเพื่อนมาดื่ม ทำให้จี้อวี้เหิงต้องรินเหล้าให้ตัวเองใหม่อีกครั้ง “ฉันไม่ได้หวงเรื่องนั้น” จี้อวี้เหิงเทเหล้าลงคอ “แค่ไม่ชอบอะไรที่มันเหนอะหนะ”ผู้กำกับฉู่หัวเราะร่า “แต่เวลาแบบนั
“อะ...อะไรคะ...” “ไม่ต้องกลัว อุปกรณ์เซ็กส์ทอยที่ลูกค้าให้เอามาใช้ในหนังของผม” ฉู่อี้ผิงพูดขณะที่ดุนดันไข่สั่นเข้าไปในร่องสาว “มันเป็นซิลิโคนอย่างดีไม่เจ็บหรอก” ฉู่อี้ผิงดันอุปกรณ์เข้าไปจนมั่นใจว่าเจอจุดจีสปอตแล้วกดระบบสั่นทำงาน “อ๊ะ อ๊า อร๊ายยยย” เสียงครวญครางดังขึ้น เธอยื่นมือไปหมายจะผลักออกแต่ไร้เรี่ยวแรง มันเสียวซ่านจนเธอน้ำตาคลอ เขาปล่อยไข่สั่นทำงานแล้วขยับออกมายืนดูผลงานของตัวเอง “คุณช่วยตัวเองก็ได้นะ ผมไม่ว่าหรอก” เขาชอบสีหน้าและท่าทางเป็นธรรมชาติของเธอ เธอเสียวจริง ครางจริง เขารู้ได้ แต่จวีหรานกลับส่ายหน้าไปมา น้ำตาคลอเบ้าดูน่าสงสารและน่ารังแกไปพร้อมกัน “ฉัน...ฉันทำ...ทำไม่เป็น...” เธอสะอึกสะอื้นร่างกายสั่นระริกไปหมด “คุณ...ผู้กำกับฉู่...ชะ...ช่วยฉัน...ช่วยฉันนะคะ ได้โปรด” ฉู่อี้ผิงเลิกคิ้ว เธอไม่ใช่นักแสดงคนแรกที่ขอให้เขาช่วย แต่คนอื่นๆ เสนอตัวเพราะต้องการแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่าง แต่กับจวีหราน หากเธอกำลังแสดงอยู่ นับว่าทำให้เขาประทับใจกับบทเด็กสาวไร้เดียงสาจริงๆ “หวังว่าตอนแสดงจริ
เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ดึงข้อมือเธอมาให้เดินตามมาที่โซฟา มือแกร่งกดไหล่ให้เธอนั่งลง ตอนนี้เนี่ยหรานหรานมีเพียงชุดชั้นในลูกไม้ปกปิด ดวงตาคมกริบจ้องมองจนเธอหน้าแดงจัดยกมือขึ้นปิดเนินอกขนาด34นิ้ว เขาเลื่อนมือไปปลดตะขอด้านหลังให้บราหลุดออก “ขอดูหน่อย” เขาพูดหน้านิ่ง “ผมไม่ถือเรื่องทำศัลยกรรม แต่คุณกรอกในใบประวัติว่าไม่เคยทำก็ขอดูว่ามีรอยเย็บหรือเปล่า” เมื่อผู้กำกับพูดแบบนั้น เนี่ยหรานหรานก็ลดมือลง เธอไม่รู้จะวางมือที่ไหนจึงเกาะขอบโซฟากำมะหยี่ที่นั่งอยู่ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้หน้าอกกลมกลึง ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เคยรู้จัดทำให้หญิงสาวทำหน้าไม่ถูก มันหวิวไปถึงปลายนิ้วเท้า ฉู่อี้ผิงเลิกคิ้วประหลาดใจ เธอทำเหมือน ‘ไม่เคย’ ถูกสัมผัส หรือว่าเธอกำลัง ‘แสดง’ บทสาวน้อยไร้เดียงสาที่เขาพูดไปเมื่อครู่ คิดได้ดั่งนั้นเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากแล้วออกแรงบีบเคล้น “อื้ม ของจริงไม่รอยเย็บ”เขาโน้มหน้าไปใกล้ ผู้หญิงคนนี้ไม่พรมน้ำหอมที่ทำให้เขารู้สึกฉุนจมูก กลิ่นกายของเธอเป็นกลิ่นสะอาด ใบหน้าแดงก่ำและกัดริมฝีปากอย่างกลั้นเสียงร้อง เธอหลุบตาลงทำให้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยิ้มพอใจกับท่าท