เนี่ยหรานหราน สาวเฉิ่มแสนเชยที่สุดในชั้นมัธยม ในวันที่เธออายุ 25 ได้มมางานเลี้ยงรุ่นและได้พบกับ จวีหราน เพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่ผันตัวเองไปเป็นนางแบบวาบหวิว AV ในงานเลี้ยงรุ่นทั้งสองได้พบกันและกลับบ้านทางเดียวกัน แต่รถแท็กซี่ที่เนี่ยหรานหรานนั่งประสบอุบัติ เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่ในร่างจวีหรานและต้องไปทำงานตามสัญญานั้นก็คือ...เป็นนางเอกหนังผู้ใหญ่ แต่เนี่ยหรานหรานจะทำอย่างไร ในเมื่อเธอเป็นสาวเวอร์จิ้นที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้!
Lihat lebih banyakหญิงสาวยืนตัวสั่นหน้ากระจกเงาตรงหน้า ไม่ว่าจะหยิกตัวเองอีกกี่ครั้งมันก็คือเรื่องจริง!
ก่อนหน้านี้ เนี่ยหรานหรานในวัยยี่สิบห้าปี เธอเดินไปตามนัดหมายของเพื่อนร่วมรุ่นสมัยมัธยมปลาย เพื่อพบปะสังสรรคเพื่อนร่วมรุ่นด้วยซึ่งจัดประจำทุกปี เนี่ยหรานหรานเป็นเด็กเรียนดีติดท็อป 5 ของชั้นเรียนเสมอ ไม่เคยต่ำไปกว่านี้ แม้มีใบหน้าเกลี้ยงเกลาแต่หน้าตาเธอดูธรรมดาไร้จุดเด่นมาก เธอไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท นอกจากทำรายงานกลุ่มแล้วเธอแทบไม่เคยอยู่ในสายตาเพื่อนร่วมห้อง แต่กระนั้นเมื่อถึงวันเลี้ยงรุ่นพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความให้เธอทราบและเธอมารวมงานทุกครั้ง
หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย เนี่ยหรานหรานได้ทำงานทันที เธอทำงานที่ฝ่ายวิชาการที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งและวางแผนศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ครอบครัวของเธอเป็นสายวิชาการ มารดาเสียตั้งแต่เธออายุสิบสามปี ส่วนบิดาไม่แต่งงานใหม่ มีความห่างเหินระหว่างเธอกับพ่อแต่กระนั้นพ่อก็ไม่ได้ทอดทิ้งหรือละเลย เพียงแค่...เหมือนจะทำใจเรื่องการสูญเสียภรรยาไม่ได้ การเรียนและหน้าที่การงานของเธอเป็นพ่อที่วางแผนให้ซึ่งเธอก็เห็นตามที่พ่อตัดสินใจ เงินเดือนไม่สูงแต่มีความมั่นคงและสามารถก้าวหน้าในอาชีพได้อีก
ใครจะรู้ว่าชีวิตแสนเรียบง่ายของเธอจะพลิกผันได้เพียงแค่ชั่วคืน
ในงานเลี้ยงรุ่นชั้นมัธยม เนี่ยหรานหรานนั่งจิบเครื่องดื่มเพียงลำพัง มองดูเพื่อนๆ ต่างแย่งไมค์กันร้องเพลงสนุกสนาน งานเลี้ยงใกล้เลิกราเต็มที
ทว่าประตูห้องจัดเลี้ยงก็เปิดออกพร้อมการมาเยือนของ ‘จวีหราน’ หญิงสาวสวยสะกดทุกสายตาโดยเฉพาะชายหนุ่ม ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว จวีหรานเป็นดาวเด่นทั้งที่ผลการเรียนรั้งท้ายแต่เธอเป็นที่รักของเพื่อนในห้องเรียน นานๆ ทีเธอจะมางานเลี้ยงรุ่นสักครั้ง แต่ละครั้งที่มาล้วนเห็นความแตกต่างที่เธอสวยและดูทันสมัยขึ้นทุกครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่เธอสวมเดรสสีดำขับให้ผิวขาวผ่องเปล่งประกาย ใบหน้าแต้มแต่งสีสันแต่พอดีขับเน้นโครงหน้าหมดจด ทรวงทรงองค์เอวเย้ายวนตา
เนี่ยหรานหรานได้แต่มองด้วยความอิจฉา เธออิจฉาจวีหรานเสมอ เธออยากเป็นจุดเด่นที่มีผู้ชายล้อมหน้าล้อมหลังแบบนั้นบ้าง แต่ผู้หญิงเชยๆ และไม่มีความมั่นใจอย่างเธอก็ทำได้แค่นั่งจิบเครื่องดื่มตามลำพัง
หลังจากออกจากห้องน้ำ เนี่ยหรานหรานไม่ได้ล่ำลาใคร เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองแทบไม่มีตัวตนในสายตาของเพื่อนร่วมห้องเรียน เธอเดินออกมาด้านหน้าโรงแรมและรอแท็กซี่มารับ หญิงสาวนึกถึงบทสนทนาที่ได้ยินในห้องน้ำ
‘ได้ยินว่าจวีหรานเข้าวงการบันเทิงแล้วนะ’
‘ก็ไม่แปลก สวยขนาดนั้น’
‘ใครบอก ฉันได้ยินว่าจวีหรานตกต่ำขนาดต้องไปเล่นหนังผู้ใหญ่ต่างหากล่ะ’
‘ว้ายๆ หนังโป้มันผิดกฎหมายไม่ใช่เหรอ’
‘แต่เงินดีนะ’
‘เงินดีแต่เปลืองตัว’
‘หรืออาจจะสนุกก็ได้ กำไรสองต่อ ทั้งสนุกทั้งได้เงิน’
เนี่ยหรานหรานรอจนคนกลุ่มนั้นออกไปแล้วจึงออกมาจากห้องน้ำ เธอเองก็เคยได้ยินเรื่องของจวีหราน ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมก็ถูกทาบทามให้ไปถ่ายแบบโฆษณาอะไรพวกนั้น รวมทั้งเรื่องที่จวีหรานไปเล่นหนังผู้ใหญ่ แต่นั้นก็เป็นเพียงเรื่องที่พวกผู้หญิงนินทากัน เธอไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน
รถแท็กซี่เข้ามาจอดสนิทดีแล้ว เนี่ยหรานหรานยื่นมือไปเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปนั่ง แต่จู่ๆ ก็มีคนตามเข้ามาทำให้เธอถูกดันเข้าไปด้านในทันที หญิงสาวรีบหันไปมองแต่เสียงปิดประตูรถดังขึ้นก่อน เนี่ยหรานหรานอ้าปากค้างแต่กลับไม่มีเสียงออกมา
“ไปโรงแรมAAค่ะ”
“ครับ”
“จวีหราน” เนี่ยหรานหรานเรียกชื่ออีกฝ่ายเหมือนบอกตัวเองมากกว่า “เธอ”
“ฉันไม่อยากรอรถนาน ขอนั่งไปแค่สองช่วงตึกแล้วเธอค่อยไปต่อแล้วกันนะ”
“อื้อ” เนี่ยหรานหรานพยักหน้าแล้วบอกเส้นทางให้คนขับรถทราบ เธอตั้งใจกลับห้องพักของตัวเองที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่ตัวเองทำงานอยู่
“ไม่เปลี่ยนเลยนะหรานหราน”
“เอ๊ะ...เธอ...เธอจำฉันได้ด้วยเหรอ”
“อยู่ห้องด้วยกันตั้งสามปีทำไมจะจำไม่ได้”
“ฉัน...ฉันไม่เด่น”
แวบหนึ่งมีรอยเศร้าในดวงตาคู่สวย
“บางทีฉันก็อยากเป็นเหมือนเธอนะ หรานหราน เราชื่อเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกันเลย”
อาจเพราะดื่มเข้าไปมาก เนี่ยหรานหรานจึงพยักหน้ารับ “อืม บางทีฉันก็อยากเป็นเธอ สวย เป็นที่รักของทุกคน”
จวีหรานหัวเราะเสียงใส รถแท็กซี่ชะลอความเร็วและกำลังจะจอดหน้าโรงแรม จวีหรานหยิบกระเป๋าเงินแต่เนี่ยหรานหรานโบกมือไปมา
“ไม่เป็นไร ฉันจ่ายให้เอง”
“งั้นก็...ขอบใจนะ”
มือเรียวนุ่มยื่นมือจับมือเนี่ยหรานหรานก่อนส่งยิ้มให้แล้วเปิดประตูลงจากรถไป หญิงสาวส่งยกมือแล้วโบกมือลา รถแท็กซี่เคลื่อนตัวออกไป เธอยกมือลูบหลังมือตัวเองสัมผัสจางๆ นั้นยังคงประทับอยู่ ในสายตาของเนี่ยหรานหราน ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวจวีหรานดูงดงามไปหมด ดวงตากลมโตเป็นประกาย ริมฝีปากสีแดงสวย ผิวขาวผ่องดุจหิมะบริสุทธิ์ แม้กระทั่งนิ้วมือยังเรียวงาม
เธออยากเป็นจวีหราน ถ้าเธอสวยได้แบบนั้น ชีวิตของเธอคงไม่เหี่ยวเฉาเหมือนทุกวันนี้
รวดเร็วจนไม่ทั้งตั้งตัว
เร็วเกินกว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่รถแท็กซี่ขับผ่านสี่แยก รถเก๋งคันหนึ่งฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าใส่รถแท็กซี่ที่หญิงสาวนั่งอยู่ เหมือนโลกพลิกหลายตลบ ความเจ็บปวดทิ่มแทงไปทั่วร่างสมองไม่รับรู้เรื่องใดอีกไม่ได้ยินเสียงใด
เธอได้แต่หลับตาอย่างจำนนต่อความเจ็บปวด
ไม่มีใครรู้ โทรศัพท์มือถือเตือนการขึ้นวันใหม่และนั้น...เป็นวันเกิดปีที่ยี่สิบห้าของเนี่ยหรานหราน
“โอเค. สวยมาก” “ขอบคุณค่ะ” เนี่ยหรานหรานยิ้มขอบคุณทีมงานแล้วรับเสื้อคลุมจากหลิวลี่-ผู้จัดการมาสวมทับชุดนอนวาบหวิวที่สวมอยู่ วันนี้มีถ่ายแบบชุดนอนเซ็กซี่ เธอประหม่าแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี “รู้สึกว่าถ่ายแบบครั้งนี้จวีหรานเปลี่ยนไปนะ” ช่างภาพอดพูดกับหลิวลี่ไม่ได้ “เธอมีคนรักเหรอ” “ไม่มีๆ” หลิวลี่รีบตอบทันที “จวีหรานของเราทำงานเต็มที่เสมอ คุณว่าเธอถ่ายแบบไม่ดีเหรอ หรืออยากถ่ายใหม่” “ไม่ใช่แบบนั้น” ช่างภาพโคลงศีรษะไปมา “ผมถ่ายแบบให้เธอมาหลายครั้ง รู้สึกว่าวันนี้เปลี่ยนไป ท่าทางขี้อาย น่ารักน่าทะนุถนอม” “สรุปว่าดีหรือไม่ดี” “ดีสิ ดีอยู่แล้ว ได้ความรู้สึกแปลกใหม่ดี” เนี่ยหรานหรานดื่มหยิบขวดน้ำมาพยายามจะเปิดฝาออก เธอลองบิดอยู่สองสามครั้งแต่ไม่สำเร็จกำลังจะมองหาคนช่วยก็มีมือใหญ่เอื้อมมาหยิบขวดน้ำไปเปิดให้เสียก่อน “ขอบคุณค่ะ” เธอพูดอย่างจริงใจและเมื่อเห็นว่าคนใจดีเป็นใคร รอยยิ้มก็เจือนลงไปทันที แม้เขาสวมแว่นตากันแดดอยู่แต่เธอก็จำเขาได้ทันที “ทำไม” จี้อวี้เหิงกระตุ
“บ้าชิบ!” เขาสบถเพราะดุนดันเข้าไปได้แค่ปลายหัวบาก จำใจต้องถอนลำเอ็นออกมา เนี่ยหรานหรานหายใจเฮือกใหญ่เพราะคิดว่าเขาคงถอดใจ ทว่าเขากลับตั้งเข่าเธอขึ้นแล้วลากเก้าอี้มานั่งตรงหว่างขา เธอผงกศีรษะขึ้นมองอีกครั้งด้วยความงุนงง ทว่าเธอได้คำตอบในทันทีเมื่อลิ้นของเขาแตะต้องกลีบเนื้อบอบบางของเธอ “แมร่งงเอ๊ยยย” ฉู่อี้ผิงสบถด้วยความสะใจ คนอย่างจู้อวี้เหิงไม่ ‘เบิร์น’ให้ใครง่ายๆ ทำให้เขาเก็บภาพด้วยความตื่นเต้นและตื่นตัวไปด้วย “แฮ่กๆ” สิ่งที่เคยได้ยิน สิ่งที่เคยรับรู้ ไม่เท่ากับสัมผัสด้วยตัวเอง เนี่ยหรานหรานไม่เคยรู้เลยว่าถูกลิ้นเลียและละเลงที่กลีบเนื้อมันเสียวซ่านขนาดนี้ เธอครวญครางอย่างไม่อาจห้ามได้ ลิ้นเปียกชื้นแหย่เข้าไปสลับกับการดูดกลีบเนื้อของเธอ ความเสียวซ่านถาโถมจนน้ำตาปริ่มขอบตา ปล่อยให้อารมณ์ไหลบากจนเสร็จคาปากเขาไปอีกครั้ง “ให้ตายสิ เสร็จง่ายจริงๆ”จี้อวี้เหิงพึมพำแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าแดงก่ำฉ่ำน้ำตา เขาก็ยกมือขึ้นลูบใบหน้าเธอ “อย่าเอาเปรียบกัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่หยุด และไม่ว่าเธอจะร้องไห้ยังไง ฉันก็ไม่สนใจ ฉันจะหยุดก็เมื่อฉันพอใจเท่า
เนี่ยหรานสะดุ้งเฮือกหน้าตาตื่นตกใจไร้การเสแสร้ง จี้อวี้เหิงเดินเข้ามาสีหน้าดุดันเหมือนโกรธกันมานาน จนเนี่ยหรานหรานลืมไปจริงๆ ว่านี่เป็นการแสดง อาจเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ร่างเล็กถอยหนีอย่างไม่รู้ตัว เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลหรี่มองแล้วสาวเท้ามากระชากแขนเธออย่างแรง “ว้าย!” “ฉันเตือนแล้วใช่ไหมห้ามเข้าห้องของฉัน!” “ฉัน...ฉัน...” ท่าทางของเขาทำให้เธอกลัว เนี่ยหรานหรานหมุนตัวจะวิ่งหนีแต่ถูกรวบเอวไว้ได้ทัน ร่างเล็กถูกยกจนตัวลอยและกดลงบนโต๊ะอาหาร ดวงตากลมเบิกกว้างสองมือพยายามผลักไสเขาออกแต่ไม่เป็นผลเลยสักนิด “ได้! เห็นแก่ที่เธอพยายามเข้าหาฉัน ฉันจะสนองให้เอง!” “ไม่นะ!” เนี่ยหรานหรานส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลาย เธอหวีดร้องเมื่อมือใหญ่กระชากเสื้อผ้าของเธอหลุดออกมากลายเป็นเศษผ้า หน้าอกกลมกลึงปรากฏเบื้องหน้าเธอไม่รู้ว่าเพราะเธอหรือเพราะเขากำลังโกรธแววตาของจึงเหมือนเป็นลูกไฟ ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นทรวงอกอย่างไร้ความปรานี “อึก...อึก” เสียงสะอึกสะอื้นครางน่าสงสาร แต่จี้อวี้เหิงก็ไม่ลดแรงลง หน้าอกนุ่มหยุ่
จี้อวี้เหิงนึกถึงหญิงสาวที่เปลือยกายบนโซฟาเมื่อครู่ แน่นอนว่าเขาจำเธอได้ เธอคือจวีหราน นางแบบวาบหวิวที่ส่งใบสมัครมาเล่นเป็นนางเอกหนังอิโรติกของเขา และหลังจากเจรจาผ่านผู้จัดการ จวีหรานยินดีเล่นหนังเร็ตเอ็กซ์ให้บริษัทของเขา เขาต้องการนางเอกที่สดใหม่แต่ไม่ไร้เดียงสาขนาดต้องมาฝึกงานให้ แต่ละปีปั้นดาราสำหรับหนังผู้ใหญ่ขึ้นมาได้ก็ถูกค่ายอื่นขโมยซื้อตัวไป ทั้งเขาและฉู่อี้ผิงไม่ต้องการให้นางเอกของเขาหน้าช้ำเล่นหนังซ้ำกับของบริษัทอื่น จึงทำสัญญาว่าจ้างกันสามปี เล่นหนังให้บริษัทของเขาเพียงบริษัทเดียว และเพื่อความสะดวก ฉู่อี้ผิงให้จวีหรานพักในโรงแรมของตนเองแม้จะเป็นห้องธรรมดาแต่ความเป็นอยู่นับว่าไม่เลวนัก“นี่แต่งตัวไม่เป็นต้องตามผู้จัดการมาแต่งตัวให้หรือไง” จี้อวี้เหิงบ่นแล้วเปิดขวดวิสกี้รินใส่แก้วของตัวเอง“ก็นายบอกให้เธอไปอาบน้ำ แต่ความจริงฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ แค่เทสนิดๆหน่อยๆ” ฉู่อี้ผิงแย่งแก้วเหล้าของเพื่อนมาดื่ม ทำให้จี้อวี้เหิงต้องรินเหล้าให้ตัวเองใหม่อีกครั้ง “ฉันไม่ได้หวงเรื่องนั้น” จี้อวี้เหิงเทเหล้าลงคอ “แค่ไม่ชอบอะไรที่มันเหนอะหนะ”ผู้กำกับฉู่หัวเราะร่า “แต่เวลาแบบนั
“อะ...อะไรคะ...” “ไม่ต้องกลัว อุปกรณ์เซ็กส์ทอยที่ลูกค้าให้เอามาใช้ในหนังของผม” ฉู่อี้ผิงพูดขณะที่ดุนดันไข่สั่นเข้าไปในร่องสาว “มันเป็นซิลิโคนอย่างดีไม่เจ็บหรอก” ฉู่อี้ผิงดันอุปกรณ์เข้าไปจนมั่นใจว่าเจอจุดจีสปอตแล้วกดระบบสั่นทำงาน “อ๊ะ อ๊า อร๊ายยยย” เสียงครวญครางดังขึ้น เธอยื่นมือไปหมายจะผลักออกแต่ไร้เรี่ยวแรง มันเสียวซ่านจนเธอน้ำตาคลอ เขาปล่อยไข่สั่นทำงานแล้วขยับออกมายืนดูผลงานของตัวเอง “คุณช่วยตัวเองก็ได้นะ ผมไม่ว่าหรอก” เขาชอบสีหน้าและท่าทางเป็นธรรมชาติของเธอ เธอเสียวจริง ครางจริง เขารู้ได้ แต่จวีหรานกลับส่ายหน้าไปมา น้ำตาคลอเบ้าดูน่าสงสารและน่ารังแกไปพร้อมกัน “ฉัน...ฉันทำ...ทำไม่เป็น...” เธอสะอึกสะอื้นร่างกายสั่นระริกไปหมด “คุณ...ผู้กำกับฉู่...ชะ...ช่วยฉัน...ช่วยฉันนะคะ ได้โปรด” ฉู่อี้ผิงเลิกคิ้ว เธอไม่ใช่นักแสดงคนแรกที่ขอให้เขาช่วย แต่คนอื่นๆ เสนอตัวเพราะต้องการแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่าง แต่กับจวีหราน หากเธอกำลังแสดงอยู่ นับว่าทำให้เขาประทับใจกับบทเด็กสาวไร้เดียงสาจริงๆ “หวังว่าตอนแสดงจริ
เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ดึงข้อมือเธอมาให้เดินตามมาที่โซฟา มือแกร่งกดไหล่ให้เธอนั่งลง ตอนนี้เนี่ยหรานหรานมีเพียงชุดชั้นในลูกไม้ปกปิด ดวงตาคมกริบจ้องมองจนเธอหน้าแดงจัดยกมือขึ้นปิดเนินอกขนาด34นิ้ว เขาเลื่อนมือไปปลดตะขอด้านหลังให้บราหลุดออก “ขอดูหน่อย” เขาพูดหน้านิ่ง “ผมไม่ถือเรื่องทำศัลยกรรม แต่คุณกรอกในใบประวัติว่าไม่เคยทำก็ขอดูว่ามีรอยเย็บหรือเปล่า” เมื่อผู้กำกับพูดแบบนั้น เนี่ยหรานหรานก็ลดมือลง เธอไม่รู้จะวางมือที่ไหนจึงเกาะขอบโซฟากำมะหยี่ที่นั่งอยู่ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้หน้าอกกลมกลึง ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เคยรู้จัดทำให้หญิงสาวทำหน้าไม่ถูก มันหวิวไปถึงปลายนิ้วเท้า ฉู่อี้ผิงเลิกคิ้วประหลาดใจ เธอทำเหมือน ‘ไม่เคย’ ถูกสัมผัส หรือว่าเธอกำลัง ‘แสดง’ บทสาวน้อยไร้เดียงสาที่เขาพูดไปเมื่อครู่ คิดได้ดั่งนั้นเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากแล้วออกแรงบีบเคล้น “อื้ม ของจริงไม่รอยเย็บ”เขาโน้มหน้าไปใกล้ ผู้หญิงคนนี้ไม่พรมน้ำหอมที่ทำให้เขารู้สึกฉุนจมูก กลิ่นกายของเธอเป็นกลิ่นสะอาด ใบหน้าแดงก่ำและกัดริมฝีปากอย่างกลั้นเสียงร้อง เธอหลุบตาลงทำให้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยิ้มพอใจกับท่าท
Komen