เสียงโวยวายดังลั่นหน้าบ้านปลุกหลิวซินเยว่ให้ตื่นจากภวังค์ เธอลุกขึ้นอย่างงัวเงีย หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงตะคอกดังมาจากหน้าบ้าน
"ซูหลิน เงินที่แกยืมไปเมื่อไหร่จะคืน นี่มันเลยเวลาไปหลายวันแล้วนะ"
หลิวซินเยว่รีบวิ่งไปที่หน้าบ้าน ภาพที่เห็นทำให้เลือดในกายเธอเดือดพล่าน ชายฉกรรจ์สองคนหน้าตาดุดันกำลังยืนค้ำหัวแม่ของเธออยู่ ใบหน้าของแม่ของเธอซีดเผือด มือข้างหนึ่งกำชายเสื้อไว้แน่น
"ขอเวลาให้ฉันอีกหน่อยเถอะนะคะ พอดีลูกค้ายังไม่มาเอาเสื้อที่ตัดไว้ อีกไม่กี่วันฉันจะรีบเอาเงินไปคืนให้แน่นอนค่ะ" ซูหลินกล่าวเสียงสั่นเครือ
"อีกไม่กี่วัน? แกพูดแบบนี้มาหลายรอบแล้ว อย่ามาลีลาหลอกลวงกูอีก" เสียงตวาดดังลั่นมาจากหน้าบ้าน ทำให้นางซูหลินสะดุ้งสุดตัว
ชายร่างยักษ์สองคนยืนจังก้าขวางประตู ใบหน้าดุร้ายราวกับยักษ์มาร หนึ่งในนั้นคือ เจียงกู่เหวยเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบผู้โหดเหี้ยม เขาเดินเข้ามาใกล้ซูหลิน ยกมือขึ้นหมายจะตบใบหน้าของเธอ
หลิวซินเยว่ เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เลือดในกายก็พลุ่งพล่าน เธอเคยเป็นตำรวจสาวมาก่อน ความเก่งกาจด้านการต่อสู้ยังคงฝังแน่นอยู่ในสัญชาตญาณ เธอพุ่งตัวออกไป ยืนขวางหน้าคนเป็นแม่ พร้อมกับใช้ทักษะที่ฝึกฝนมาอย่างชำนาญ หักแขนชายฉกรรจ์ทั้งสองคน พวกมันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
"พวกแกออกไปจากบ้านฉันซะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน" หลิวซินเยว่ตวาดเสียงเข้ม ดวงตาแข็งกร้าวราวกับพยัคฆ์
ชายฉกรรจ์ทั้งสองมองหน้ากัน ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะกล้าต่อกรกับพวกมัน แต่ความเจ็บปวดที่แขนก็ทำให้พวกมันไม่กล้าทำตัวหุนหันพลันแล่น
"พวกฉัน...พวกฉันแค่มาทวงหนี้" เจียงกู่เหวยพูดตะกุกตะกัก "แม่ของหล่อนยืมเงินพวกเราไป"
"แม่ฉันเป็นหนี้พวกแกเท่าไหร่" หลิวซินเยว่ถามเสียงเย็น แม้ในใจจะร้อนรุ่ม แต่เธอก็พยายามควบคุมสติ
"ห้า...ห้าร้อยหยวน" เจียงกู่เหวย ตอบเสียงอ่อย
หลิวซินเยว่ขมวดคิ้ว ห้าร้อยหยวนเป็นจำนวนเงินที่มากโขในยุคนี้ และครอบครัวของเธอคงไม่มีเงินมากขนาดนั้น แต่เพื่อไม่ให้แม่ต้องเจ็บตัว เธอต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้
"พวกแกให้เวลาฉันหน่อย ฉันจะหาเงินมาคืนให้" หลิวซินเยว่กล่าว
"อีกแล้วเหรอ จะให้รออีกกี่วัน กี่เดือน พวกกูไม่หลงกลแกหรอก" เจียงกู่เหวยคำราม
"หนึ่งเดือน ขอเวลาให้ฉันแค่หนึ่งเดือน ฉันจะหาเงินมาคืนให้ครบ ถ้าครบกำหนดแล้วฉันไม่มีเงิน พวกแกอยากจะทำอะไรก็เชิญ" หลิวซินเยว่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เจียงกู่เหวย มองหน้าลูกน้อง แล้วพยักหน้า "ก็ได้ กูจะให้โอกาสพวกมึงอีกครั้ง แต่ถ้าครบกำหนดแล้วพวกแกไม่มีเงินมาคืน อย่าหาว่ากูใจร้ายก็แล้วกัน"
"ตกลง" หลิวซินเยว่รับคำ
หลังจากชายฉกรรจ์สองคนเดินออกไปจากบ้านหลังเล็ก ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและบรรยากาศที่หนักอึ้ง หลิวซินเยว่จึงหันไปมองหน้านางซูหลินผู้เป็นมารดาด้วยความสงสัย
"แม่คะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเราถึงเป็นหนี้พวกนั้นตั้งห้าร้อยหยวน" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ซูหลินมองหน้าลูกสาว ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลรินอาบแก้ม "เยว่เยว่...แม่ขอโทษ แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ค่าเทอมคณะแพทย์ของลูกมันแพงมากเหลือเกิน..." เสียงของซูหลินขาดหายไปชั่วขณะ ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ลูกสาวฟัง "แม่ไปกู้เงินนอกระบบมาจ่ายค่าเทอมให้ลูก แม่คิดว่าอีกแค่ปีเดียวลูกก็เรียนจบแล้ว คงหางานทำได้ แล้วเราค่อยหาทางใช้หนี้..."
หลิวซินเยว่โผเข้ากอดมารดา พยายามปลอบประโลม "ไม่เป็นไรนะคะแม่ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน แม่ไม่ต้องกังวลนะคะ"
แม้ปากจะพูดปลอบใจมารดา แต่ในใจของหลิวซินเยว่กลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ห้าร้อยหยวนเป็นจำนวนเงินที่มากมายมหาศาลสำหรับครอบครัวของเธอ เธอจะหาเงินจำนวนนี้ภายในหนึ่งเดือนได้อย่างไร
ทันใดนั้น เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจ หลิวซินเยว่นึกขึ้นได้ "จริงสิคะแม่ หนูลืมไปเลย หนูมีไอเดียหาเงิน..."
ดวงตาของซูหลินเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจปนสงสัย มองลูกสาวคนเดียวของเธออย่างไม่เข้าใจนัก "ไอเดียหาเงินหรือ?เยว่เยว่ ลูกพูดเรื่องอะไรแม่ฟังไม่เข้าใจเลย"
หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง พยายามกลบเกลื่อนความตื่นเต้นในใจ "คือ...หนูหมายถึงหนูมีวิธีหาเงินค่ะแม่"
"วิธีหาเงิน? " นางซูหลินขมวดคิ้ว "ลูกจะไปหาเงินที่ไหน เงินห้าร้อยหยวนไม่ใช่จำนวนน้อยๆ นะ"
หลิวซินเยว่เห็นท่าทีของแม่ก็รีบพูดต่อ "แม่มีฝีมือในการตัดเย็บเสื้อผ้าเก่งมาก หนูว่าเราลองทำชุดสำเร็จรูปขายกันดีไหมคะ หนูจะออกแบบให้เอง รับรองว่าขายดีแน่นอน"
"ชุดสำเร็จรูปเหรอลูก? " นางซูหลินยังคงไม่มั่นใจ "มันจะขายได้จริงๆ เหรอ สมัยนี้ใครๆ เขาก็ตัดเย็บเสื้อผ้าใส่เองกันทั้งนั้น"
"ขายได้สิคะแม่" หลิวซินเยว่พูดอย่างมั่นใจ "เดี๋ยวนี้สาวๆ ในโรงงานเขาไม่ค่อยมีเวลาตัดเย็บเสื้อผ้าเองแล้วค่ะ ชุดสำเร็จรูปแบบสวยๆ ใส่สะดวกๆ ต้องขายดีแน่ๆ "
หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ๆ มารดา เธอจับมือของซูหลินไว้แน่น "แม่คะ ยุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิรูป ใครๆ ก็อยากร่ำรวยกันทั้งนั้น หนูเห็นคนอื่นเค้าค้าขายกัน บางคนก็รวยขึ้นมาจริงๆ หนูอยากลองดูบ้าง พวกเราอาจจะโชคดีก็ได้นะคะ"
นางซูหลินเริ่มคล้อยตาม "ถ้าลูกว่าอย่างนั้นก็ลองดูก็ได้"
"งั้นหนูจะเริ่มออกแบบชุดให้แม่ลองดูก่อนนะคะ" หลิวซินเยว่ดีใจที่แม่ตอบตกลง
"แต่ว่า... ตอนนี้เรามีเงินทุนแค่แปดสิบหยวนเองนะ" ซูหลินพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง "ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ หนูจะทำให้เงินแปดสิบหยวนงอกเงยขึ้นมาเอง"
หญิงสาวมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แม้ว่าเงินทุนจะน้อยนิด แต่เธอก็เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน ยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เธอต้องดิ้นรนต่อสู้ ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้กระทั่งตอนเรียนอยู่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ช่วงปิดเทอมเธอก็ยังต้องไปทำงานเป็นพนักงานเย็บผ้าในโรงงาน ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้เธอเป็นคนเข้มแข็ง อดทน และมีความรู้ด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นอย่างดี
หลิวซินเยว่เริ่มลงมือออกแบบเสื้อผ้า เธอเลือกแบบที่ทันสมัย แต่ยังคงความเรียบง่าย เหมาะกับผู้หญิงในยุคนี้ เธอออกแบบมาทั้งหมด 4-5 แบบ มีทั้งเสื้อเชิ้ต กระโปรง และกางเกง แต่ละแบบเธอจะทำไซซ์ S, M, L และ XL ไว้ เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกหลากหลาย เมื่อได้แบบที่ต้องการแล้ว เธอก็ให้คนเป็นแม่ช่วยกันตัดเย็บ
"แม่คะ หนูว่าเราใช้ผ้าลายดอกไม้แบบนี้ดีไหม มันดูสดใสดี" หลิวซินเยว่หยิบผ้าลายดอกไม้สีสันสดใสขึ้นมาให้นางซูหลินดู
"อืม... สีสันสดใสดีนะ แต่ว่ามันจะดูเด่นเกินไปหรือเปล่า คนสมัยนี้เขาไม่ค่อยนิยมใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาดกันหรอก" คนเป็นแม่เอ่ยด้วยความกังวล
หลิวซินเยว่ยิ้มรับ "ไม่หรอกค่ะแม่ เดี๋ยวนี้คนเริ่มเปิดรับอะไรใหม่ๆ แล้ว หนูว่าลายดอกไม้นี่แหละกำลังจะกลับมาฮิตอีกครั้ง แถมสีสันสดใสแบบนี้ยังช่วยขับผิวให้ดูผ่องใสขึ้นอีกด้วยนะคะ" ร่างบางพยายามโน้มน้าว
"จริงเหรอ..." นางซูหลินยังคงลังเล
"จริงสิคะแม่ เชื่อหนูเถอะ เดี๋ยวหนูจะลองตัดชุดตัวอย่างขึ้นมาให้แม่ดูก่อนก็ได้"
หลิวซินเยว่รีบลงมือตัดเย็บชุดตัวอย่างจากผ้าลายดอกไม้ทันที เธอเลือกแบบเสื้อเชิ้ตแขนพอง จับคู่กับกระโปรงทรงเอ เมื่อตัดเย็บเสร็จ เธอก็รีบนำมาให้ซูหลินดู
"แม่คะ ลองดูสิคะ สวยไหม" หลิวซินเยว่ยื่นชุดตัวอย่างให้ซูหลินพร้อมกับรอยยิ้ม
คนเป็นแม่รับชุดมาพิจารณาดูอย่างละเอียด "อืม... ก็ดูสวยดีนะ"
"ใช่ไหมละคะ หนูว่าถ้าเราขายชุดแบบนี้ได้ รับรองว่าต้องขายดีแน่ๆ " หลิวซินเยว่พูดอย่างมั่นใจ
"แต่ว่า..." ซูหลินยังคงมีสีหน้ากังวล "แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อผ้าลายดอกไม้ล่ะ แปดสิบหยวนคงไม่พอหรอก"
หลิวซินเยว่ยิ้มเจ้าเล่ห์ "ไม่ต้องห่วงค่ะแม่ หนูมีวิธีแล้ว"
"ก็ได้ๆ แม่เชื่อลูกก็แล้วกัน ว่าแต่ลูกจะเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปขายที่ไหนล่ะ"
"หนูว่าเราไปขายที่ตลาดนัดกันดีกว่าค่ะแม่ คนเยอะดี"
"ตลาดนัดเหรอ... มันจะขายได้เหรอ"
"ขายได้สิคะแม่ หนูมั่นใจ" หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย "หนูจะทำให้เสื้อผ้าของเราขายดีที่สุดในตลาดเลยค่ะ"
มาเอาใจช่วยยัยน้องให้ปลดหนี้เร็วๆด้วยนะคะ
เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว บอกให้คนเมืองหลวงรับรู้ว่าวันนี้เป็นวันมงคลสมรสของตระกูลหวัง งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี กำลังจะเริ่มต้นขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ แขกเหรื่อมากมายต่างทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ในที่สุดวันนี้ วันที่หวังหย่งเจี๋ยเฝ้ารอคอยก็มาถึง หลังจากที่เขาต้องอดทนรอให้หลิวซินเยว่ คนรักของตนเรียนจบมหาวิทยาลัยตลอดหนึ่งปีเต็ม วันนี้เขาจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักที่สุดเสียทีหวังหย่งเจี๋ยในชุดสูทสีดำดูที่ดูหล่อเหลา เขานั่งรอเจ้าสาวอย่างใจจดใจจ่อ เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก หวังหย่งเจี๋ยที่ยืนรออยู่ด้านนอกแทบหยุดหายใจ หัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เขารักดังใกล้เข้ามาทุกขณะ ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าสาวของเขาหลิวซินเยว่ในชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลวดลายด้วยดิ้นเงินระยิบระยับเข้ารูปกับเรือนร่างอรชร ใบหน้างดงามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาแต่ขับเน้นให้ดวงตากลมโตดูสดใสเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มทาด้วยลิปสติกสีแดงสดตัดกับผิวขาวผ่องราวกับหยกชั้นดี ยิ่งขับให้เธอดูงดงามราวกับนางฟ้า เธอเดินออกมาพร้อมหลี่เหมยฮัวเพื่อนสนิทของเ
พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังเสร็จสิ้นพิธี หลี่เหมยฮัวและซุนเจ๋อคู่สามีภรรยาผู้เป็นเพื่อนสนิทของหลิวซินเยว่ ก็เข้ามาแสดงความยินดีหลิวซินเยว่ เข้ามาทักทายคนมี้งคู่ทันที "เหมยฮัว ดีใจจังที่มาได้" เธอกอดคุณนางเอกไว้แน่น"เยว่เยว่ ยินดีด้วยนะ วันนี้เธอสวยมาก" เหมยฮัวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม"ขอบคุณนะเหมยฮัว" เธอกล่าวขอบคุณ สายตาเหลือบไปเห็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นของคุณนางเอก"เหมยฮัว เธอเป็นอย่างไรบ้าง แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า" หลิวซินเยว่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"นิดหน่อยนะ ช่วงนี้ฉันแทบทานอะไรไม่ได้เลย"คนเป็นแม่หมาดๆ เอ่ยตอบ"ถ้าเธอไม่สบาย ไม่ต้องบังคับตัวเองมางานหมั้นฉันก็ได้นะ" หลิวซินเยว่กล่าว"ฉันจะไม่มางานหมั้นเพื่อนสนิทของฉันได้อย่างไร" เหมยฮัวตอบกลับด้วยรอยยิ้มสดใส แม้ใบหน้าจะซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการแพ้ท้อง"แล้วตอนนี้เธอรู้หรือยังว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว" หลิวซินเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นพลางลูบท้องของเพื่อนเบาๆ"ยังไม่รู้เพศเลย" หลี่เหมยฮัวตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ"ถ้าฉันมีลูกชาย แล้วเยว่เยว่มีลูกสาว พวกเราจับทั้งสองหมั้
ไม่นานนักพวกเขาทั้งคู่ก็ก้าวลงจากรถยนต์คันหรูด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ เบื้องหน้าเธอคือร้านอาหารฝรั่งเศสตกแต่งสไตล์ยุโรป ดูหรูหรา ทันสมัย ตัดกับบรรยากาศรอบข้างอย่างสิ้นเชิง"ว้าว สวยจังเลยค่ะพี่หย่งเจี๋ย" เยว่เยว่อุทานอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตเป็นประกายหวังหย่งเจี๋ยยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ "ชอบไหม?พี่ตั้งใจเลือกเลยนะ""ชอบมากค่ะ" หลิวซินเยว่พยักหน้าหงึกหงัก "ไม่คิดว่าปักกิ่งจะมีร้านแบบนี้ด้วย""ร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ เขาว่ากันว่าอาหารอร่อยมาก แถมบรรยากาศยังโรแมนติก เหมาะกับคู่รักอย่างเรา" หวังหย่งเจี๋ยขยิบตาให้หลิวซินเยว่ ก่อนจะคว้ามือบางของเธอเดินเข้าไปในร้านภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ทอง ดูหรูหรา โอ่อ่า เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงเบาๆ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีขาวสะอาดตา โค้งคำนับต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้ม"โต๊ะริมหน้าต่าง วิวดีที่สุดครับ" หวังหย่งเจี๋ยบอกพนักงาน ก่อนจะพาหลิวซินเยว่ ไปนั่งประจำที่"พี่หย่งเจี๋ยคะ ที่นี่ดูแพงมากเลย" เยว่เยว่กระซิบเสียงเบา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย"ไม่ต้องห่วงน่า พี่เลี้ยงเอง" หวังหย่
เวลาผ่านไปอย่ารวดเร็ว ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมากิจการร้านขายเสื้อผ้าบูติกที่ถนนหนานจิงขายดีเป็นอย่างมาก ภายในร้าน หลิวซินเยว่กำลังสาละวนอยู่กับการจัดเรียงเสื้อผ้าตัวใหม่ๆ"คุณหลิว เสื้อผ้าที่ทำออกมาขายแทบจะตัดเย็บไม่ทันแล้วนะ" เสียงจินฮวาดังขึ้นขณะกำลังแขวนชุดเดรสลายดอกไม้สีสดใส "ลูกค้าติดใจแบบเสื้อผ้าของเราใหญ่เลย คนแน่นร้านทุกวัน""จริงอย่างที่พี่จินฮวาว่า" เสี่ยวหลันพูดพลางจัดเรียงกางเกงยีนตัวใหม่ "เมื่อวานตอนบ่าย ฉันเห็นลูกค้าต่อแถวรอซื้อเสื้อผ้าหน้าร้านยาวเหยียดเลย"หลิวซินเยว่ยิ้มกว้าง พลางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ขึ้นมาพับอย่างบรรจง "ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่ร้านของเราขายดีแบบนี้ ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันเต็มที่ขนาดนี้""แต่ว่านะคุณหลิว" จินฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "พวกเราจะทำเสื้อผ้าทันขายเหรอ?แค่พวกคุณซูกับป้าหวังคงไม่ไหวแน่ๆ "หลิวซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราคงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ" หลังจากจัดของในร้านเสร็จเธอก็ไปหาแม่และป้าหวังที่บ้านของเธอเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ"ป้าหวัง ...เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้ กว่าโ
เช้าวันรุ่งซินเยว่ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนยินดี เธอจัดแจงแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนที่เตรียมไว้ ก่อนจะลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้ากับนางซูหลินผู้เป็นแม่"อรุณสวัสดิ์ค่ะแม่" ซินเยว่กล่าวทักทายพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะอาหาร"อรุณสวัสดิ์จ้ะเยว่เยว่ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม" นางซูหลินถามด้วยรอยยิ้ม"ค่ะแม่ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายมากเลยค่ะ"บนโต๊ะอาหารมีโจ๊กข้าวต้มร้อนๆ กับหมั่นโถววางอยู่ หลิวซินเยว่ตักโจ๊กเข้าปากพลางเล่าเรื่องราวที่ร้านเมื่อวานนี้ให้แม่ฟังด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข"แม่คะ เมื่อวานนี้คนมาซื้อเสื้อผ้าที่ร้านเยอะมากเลยค่ะ ขายดีจนสินค้าในร้านหายไปครึ่งหนึ่งเลย""จริงเหรอจ๊ะ แม่ดีใจด้วยนะลูก" นางซูยิ้มกว้าง "แล้วขายได้เงินเท่าไหร่ล่ะ""เมื่อวานขายได้ตั้ง 1,000 หยวนแน่ะค่ะ แม้ว่าจะลดราคาครึ่งหนึ่งก็ตาม" ซินเยว่บอกด้วยความภูมิใจ"เก่งมากจ้ะลูก"ซูหลินลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู "วันนี้แม่จะเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ไปเติมที่ร้านให้เอง ลูกจะได้ไปงานแต่งงานของเหมยฮัวได้อย่างสบายใจ""ขอบคุณมากนะคะแม่" หลิวซินเยว่ยิ้มกว
สองอาทิตย์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร้านบูติกของหลิวซินเยว่ก็ได้เปิดทำการที่ถนนหนานจิง เธอจัดร้านแบบร้านขายเสื้อผ้าในห้างยุคปัจจุบัน ทำให้ร้านของเธอเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก หน้าร้านเป็นกระจกใส มี หุ่นโชว์เสื้อผ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางร้านดูโดดเด่นสะดุดตา เสื้อผ้าสีสันสดใสตัดเย็บอย่างประณีตถูกสวมใส่โดยหุ่นเหล่านั้นราวกับมีชีวิตผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างชะงักฝีเท้า จ้องมองผ่านกระจกใสเข้าไปในร้านด้วยความสนใจ บ้างก็กระซิบกระซาบพูดคุยกันถึงความแปลกใหม่ บ้างก็จูงมือกันเข้ามาในร้านด้วยความอยากรู้อยากเห็น"นี่มันร้านอะไรกันเนี่ย ตกแต่งแปลกตาดีจัง" หญิงสาวคนหนึ่งพูดกับเพื่อนที่เดินข้างกันหลิวซินเยว่ในชุดเดรสสีแดงสด ยืนยิ้มต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญชมสินค้าตามสบายได้เลยนะคะ วันนี้ร้านเราเปิดร้านวันแรก ลดราคา 50% ทุกชิ้นเลยค่ะ"เสียงพูดของหลิวซินเยว่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายซื้อของ"ลดตั้งครึ่งราคาเลยเหรอ จริงหรือเนี่ย" พี่สาวเฉิน สาวโรงงานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น"จริงค่ะพี่สาววันนี้วันเดียวเท่านั้นนะค