“เฟยคุยกับเจ๊หน่อยสิ นี่แกเล่นเงียบใส่เจ๊มาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
ถึงเธอจะแปลกใจในท่าทางของน้องชายหลังฟื้นจากอาการเมามายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ตาม ทว่าเธอกลับเอ็นดูสีหน้างอนตุ๊บป่องของเฟยในตอนนี้เอามาก ๆ
“มีอย่างที่ไหน ก็รู้อยู่ว่าน้องตัวเองกับเพื่อนไม่ถูกกันยังมีหน้าให้ไปช่วยเล่นละครอะไรก็ไม่รู้อีก” เฟยเอ่ยพลางมองไปออกนอกหน้าต่างรถอย่างไม่สบอารมณ์
“ถือว่าเจ๊ขอสักครั้งเถอะนะ หมิงมันทะเลาะกับคุณลุงเรื่องนี้มานานมากแถมช่วงนี้สุขภาพของคุณลุงก็ไม่ค่อยดีด้วย”
ในเนื้อเรื่องที่เฟยได้ดูมาไม่ค่อยได้กล่าวถึงครอบครัวของหมิงเท่าไร แต่ก็รับรู้ว่าหมิงทะเลาะกับผู้เป็นพ่อด้วยเรื่องของอดีตคนรักทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ข้างนอก จนในที่สุดเมื่อพ่อของเขาจากไปก็ทำให้หมิงเสียใจมากเพราะไม่มีโอกาสได้ดูแลท่านเลยแม้แต่น้อย
“ให้ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ถ้ายังมีอีกเฟยจะโกรธเจ๊จริง ๆ แล้วด้วย”
ได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวก็คลี่ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู หากเป็นก่อนหน้านี้เธอคงไม่กล้าที่จะใช้แผนนี้แน่นอน เพราะนอกจากเฟยจะไม่ยอมช่วยแล้วอาจอาละวาดจนเรื่องบานปลายใหญ่โตขึ้นมาก็ได้
˜
ณ บ้านตระกูลอัครา
“ว่าไงนะแกกับหนูเฟยกำลังคบหากันงั้นเหรอ?”
เสียงชายวัยห้าสิบปลาย ๆ เอ่ยอย่างตกตะลึงแต่ก็ดีใจไปด้วย พลางวางเอกสารในมือทั้งหมดลงบนโต๊ะทันที เขาไม่คิดมาก่อนว่าความฝันที่อยากได้เฟยมาเป็นลูกสะใภ้จะสมหวัง
“ครับ แต่ผมกับหมอนั่นแค่เริ่มคุยกันน่ะ ป๊าก็รู้ว่าเฟยเพิ่งถูกถอนหมั้นมา”
แม้จะรู้สึกกระดากใจที่ต้องพูดออกไปเช่นนั้น แต่เพราะด้วยไม่มีทางเลือกอีกทั้งเมื่อได้เห็นสีหน้าของคนเป็นพ่อที่ดูดีใจ เขาก็คงได้แต่ต้องกลืนอคติที่มีต่อเฟยลงไปก่อน
“งั้นวันนี้แกก็ชวนหนูเฟยมากินข้าวที่บ้านด้วยเลยสิ”
“เรียบร้อยแล้ว ทั้งเฟยทั้งเฟียมาด้วยกันหมด”
“ฮ่า ๆ ดี...ดีไม่เจอหน้ายัยตัวแสบนานแล้วเหมือนกันครั้งล่าสุดที่เจอก็...เมื่อครึ่งปีก่อนล่ะมั้ง”
ไม่รู้ว่าหมิงคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่สีหน้าของตาแก่บัดนี้ดูมีชีวิตชีวาจนผิดคาด ที่ผ่านมาเขาสั่งให้เปาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อคอยส่งข่าว และสถานการณ์ทางบ้านให้ฟังอยู่ตลอด จึงได้รู้ว่าพักหลัง ๆ ตาแก่ที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้เริ่มมีสุขภาพไม่ค่อยจะสู้ดี เนื่องจากเจ้าตัวโหมงานหนักมาตลอดทั้งชีวิต
˜
Aston Martin ถูกขับมาจอดยังลานหน้าบ้านตะกูลอัคราเพียงแต่คนด้านในรถยังไม่ลงมา เนื่องจากเฟยกับตกตะลึงกับความโอ่อ่าของอาคารสูงราวตึกห้าชั้นที่พี่สาวของเขาเรียกมันว่าบ้าน
‘หากที่นี่ติดตั้งลิฟต์ในบ้านเพื่อขึ้นลงระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างเขาเองก็ไม่แปลกใจ’
“เออเจ๊ เฟยขอถามอีกหน่อย...คือสมัยนี้คนสูงอายุเขาไม่มีอคติเรื่องการแต่งงาน หรือการคบเพศเดียวกันงั้นเหรอ?”
พอเฟียได้ยินคำถามเช่นนั้น เธอก็พลันตีสีหน้าไม่เข้าใจในคำถามที่น้องชายจะสื่อ มีอะไรให้ต้องอคติกันล่ะในเมื่อเพศเดียวกันก็สร้างแต่งงานสร้างครอบครัวได้เหมือนกันนี่นา
“ก็แบบคนแก่ ๆ ที่มีลูกชายคนเดียวเขาก็ต้องห่วงเรื่องมีทายาทไงแล้วคุณลุงจะไม่ห่วงเรื่องนี้เหรอ?”
“มีอะไรให้ห่วงล่ะ...ยังไงหมิงก็ทำผู้ชายด้วยกันท้องได้สบาย ๆ อยู่แล้ว”
“ว่าไงนะ!? ทำผู้ชายท้องได้...คือ?”
เฟยถึงกับตกใจในประโยคที่พี่สาวคนนี้เอ่ยเอามาก ๆ ผู้ชายหนึ่งคนจะสามารถทำให้ผู้ชายอีกคนตั้งท้องได้อย่างไร
“อืม แกคงลืมไปแล้วสินะหมิงมันเป็นอีนิกม่า ไม่ว่าจะโอเมก้า หรืออัลฟ่าก็สามารถมีลูกกับหมอนั่นได้หมด”
“อะ อะไรคืออีนิกม่า?” ในหัวของเฟยตอนนี้ตีกันให้วุ่นวายข้อมูลก่อนหน้าที่เขาแค่หาดูเล่น ๆ แต่กลับเป็นเรื่องที่ทำให้เขาต้องปวดหัวในตอนนี้พอสมควร
“เฮ้ออ สมงสมองไปหมดแล้วน้องฉัน...นอกจากเพศหลักอย่างชายหญิง ก็ยังมีเพศรองอย่างโอเมก้า อัลฟ่า เบต้า แล้วก็อีนิกม่าไง”
“ละ แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ?”
ก๊อก ๆๆ
ขณะเฟยกำลังเค้นถามเอาข้อมูลจากพี่สาว หมิงที่ได้รับแจ้งจากพ่อบ้านว่าสองพี่น้องมาถึงแล้ว แต่ยังไม่ลงจากรถสักทีจึงรีบมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่หรือเปล่า
ซึ่งพอสิ้นเสียงเคาะเฟียก็ลดกระจกฝั่งข้างคนขับลง ทำให้หมิงได้เห็นสีหน้าของเฟยที่ดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ไง...เกิดปอดแหกขึ้นมางั้นเหรอ?”
“มึงสิปอดแหก!” เฟยหันขวับไปโต้กลับคนนอกรถทันทีปฏิกิริยานี้ทำเอาหมิงเผลอคิดไปว่าเหมือนแมวตัวน้อยที่ถูกแหย่เข้าหน่อยก็โกรธแล้วหันมาขู่ฟ่อ ๆ
“งั้นก็เข้าบ้านสิ เออ...เข้าไปแล้วเรียกกูว่าเฮียด้วยนะ ถ้าหลุดพูดคำหยาบขึ้นมาละก็กูเอามึงตาย!” หมิงพูดประโยคเหล่านั้นออกมาในขณะที่ใบหน้าแสร้งทำเป็นยิ้ม พลางส่งสายตาหวานราวกับว่าเขามีความรู้สึกรักใคร่ต่ออีกคนเล่นเอาคนมองรู้สึกขนลุกขึ้นมาเชียวล่ะ
หมิงเดินนำเฟยกับพี่สาวเข้ามาในตัวบ้าน ซึ่งถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา และมีระดับ อีกทั้งที่มียังลิฟต์แบบที่เฟยคิดเอาไว้ในตอนแรกเสียด้วย
“นี่เรากำลังไปไหนกันน่ะ?” เฟยถาม
“ห้องอาหาร” หมิงตอบเพียงเท่านั้น ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังเดินผ่านห้องนั้นอยู่นี่นา เฟยชี้นิ้วไปทางห้องที่เขาเห็นแต่กลับถูกพี่สาวแตะมายังมือของเขาพลางส่ายหน้า
“ห้องอาหารส่วนตัวน่ะ”
‘ยังมีส่วนตัวกว่านี้อีกงั้นเหรอ?’ เฟยได้แต่คิดในใจเพียงเท่านั้นไม่ได้เอ่ยออกมา เพราะเกรงว่าอาจถูกจับได้ว่าไม่เฟยคนก่อนก็เป็นได้
“โอ้...มากันแล้วเหรอ?”
พอพวกเขามาถึงยังห้องรับประทานอาหารที่ว่า เสียงชายวัยกลางคนที่เพิ่งลงจากลิฟต์ก็เอ่ยออกมาด้วยความยินดี สีหน้ายกยิ้มบ่งบอกว่าเจ้าตัวตั้งตารอการมาของทั้งสองเอามาก ๆ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะยัยหนูเฟย”
คำเรียกที่ชายคนนั้นเอ่ยถึงเฟยทำเอาเจ้าตัวรู้สึกขนลุกแปลก ๆ ทั้งที่เขาเองก็เป็นผู้ชาย แต่ว่าทำไมกลับถูกเรียกว่า ‘ยัยหนู’ กันล่ะ
“สวัสดีครับคุณลุง”
“ดูเปลี่ยนไปหรือเปล่าเนี่ย...หล่อเหลากว่าแต่ก่อนขึ้นเยอะเชียวนะ” ตาลุงคนนี้เอ่ยพลางหัวเราะชอบใจ ความรู้สึกเอ็นดูที่มีต่อคนตรงหน้าทำเอาคนถูกถามเกิดอาการประหม่าน้อย ๆ
“ช่วงนี้อยู่ ๆ เฟยก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนลุคน่ะค่ะคุณลุง เฟียเองยังตกใจตอนนี้เห็นเลยนะคะ” แม้ปากจะบอกว่าตัวเองตกใจกับลุคใหม่ของน้องชายก็เถอะ แต่สีหน้ากลับแสดงออกว่าดูภูมิใจซะมากกว่า ในตอนแรกเธอแค่นึกว่าน้องชายตัวเองคงอยากเปลี่ยนลุคบ้า ๆ บอ ๆ เท่านั้น
ทว่าพอ Finish Look ออกมากลับทำให้เธอประทับใจจนอยากเที่ยวพาไปอวดว่าตัวเองมีน้องชายหน้าตาหล่อเหลาเสียอย่างนั้น
ทั้งหมดพากันเข้าไปยังในห้องทานอาหาร บนโต๊ะถูกจัดวางด้วยเมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจประกอบกับมีพนักงาน และพ่อบ้านยืนคอยท่าเตรียมพร้อมให้บริการอยู่ก่อนแล้ว
“นั่งเถอะ” พอคนอายุสูงกว่ากล่าว ทุกคนต่างก็นั่งลงโดยพร้อมเพรียงกันแล้วจึงเริ่มลงมือรับประทาน
“หมิงตักอาหารให้น้องด้วยสิ” ตาลุงคนดังกล่าวเอ่ยพลางมองหน้าลูกชายของตนเพื่อกำชับ หมิงทำหน้ารับทราบก่อนจะหันมายิ้มให้เฟยแล้วเอื้อมมือไปตักชิ้นปลาทอดสามรสมาให้
“ขะ ขอบคุณครับ”
ท่าทีของเฟยที่แสดงออกกับหมิงนั้นทำเอาร่างหนากว่าต้องเขม่นตาเพื่อกำชับว่าหากทำเช่นนี้อาจทำให้ตาแก่นั่นไม่เชื่อในความสัมพันธ์ของเขาสองคนได้ เหตุที่หมิงต้องย้ำอีกคนออกไปอย่างนั้น เพราะยัยหนูเฟยจะยิ้มก็ไม่ยิ้มแถมดูประหม่าแบบสุด ๆ
“แล้วเป็นไงบ้างลุงได้ข่าวว่าเจ้าหยางถอนหมั้นเรางั้นเหรอ?”
“ครับ? อ๋อ...ใช่ครับ”
“คงเสียใจมากสินะ มาจับพลัดจับผลูคบกับเจ้าหมิงได้ยังไง?”
เฟยนึกในใจอย่างหงุดหงิด ‘ไหนบอกว่าตาลุงนี่จะไม่สงสัยไงวะ แล้วไอ้ที่เขากำลังถามมันเรียกว่าอะไรกัน!?’
“เอ่อคือ...”
“ไอ้หมิงมันคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ เฟยน่ะค่ะ แฮะ ๆ”
เฟียรีบโพล่งขึ้นแทนน้องทันที เนื่องจากเธอดูสีหน้าของเฟยแล้วคงจะยังไม่พร้อมรับมือกับคนตรงหน้าสักเท่าไร
“งั้นเหรอ?”
“คะ ครับ/ครับ” ทั้งเฟย และหมิงขานรับพร้อมกัน
บอกตามตรงมองลงมาจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าพวกเขาจงใจจัดฉากเพื่อหลอกตาแก่นั่น
“หึ พวกแกคิดว่าจะหลอกฉันได้หรือไงกัน หา?”
โปรดติดตามตอนต่อไป..
“หรือมึงไม่อยาก?”แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ทว่าแรงปรารถนาเองก็มีมากพอสมควร“เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะไม่ได้ทำแบบนี้แล้ว”ขณะเฟยกำลังก้มหน้าลงไปใช้ปากช่วยทำให้คนพี่อยู่นั้นกลับหลุดถ้อยคำที่ทำให้หมิงถึงกับต้องหยุดค้างไปกลางคัน“อีกหน่อยจะไม่ได้ทำ? หมายความว่าไง?”หมิงถามทวนอีกครั้งพร้อมกับช้อนคางคนด้านล่างให้เงยหน้าขึ้น ทั้งสองจ้องตากันอยู่สักพัก ก่อนจะเป็นยัยน้องเองที่เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาแล้วผุดลุกขึ้นนั่งข้างกายหมิง“กูตัดสินใจว่าจะไปเรียนแลกเปลี่ยนน่ะ”ราวกับฝันที่หมิงวาดไว้พังลงตรงหน้า เมื่อเฟยเอ่ยออกมาถึงการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่เขาเองก็ไม่ได้คิดถึงมันมาก่อน“ความจริงกูตั้งใจว่า...หลังหย่าค่อยไปน่ะ แต่ตอนนี้คุณลุงเขาไม่ได้เร่งรัดอะไรแล้วไง กูก็เลย...อยากใช้โอกาสนี้รีบไปก่อนที่เขาจะไม่อนุญาต”ช่วงที่ผ่านเหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนั้น เฟยก็รู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ที่ตัวเองมีต่อหมิงแล้ว นั่นไม่ใช่แค่ความรู้สึกหวั่นไหวแต่เป็นความรู้สึกชอบ เป็นห่วง คิดถึงจนสามารถเรียกได้ว่ามันเป็นความรักได้เลยเพียงแต่เฟยไม่รู้ว่าอีกคนคิดเช่นไร แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากรู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกอะไรกับตัวเองหรือไม่ เพราะเฟยกลั
ณ คอนโดแห่งหนึ่งย่านชานเมือง“นอนห้องนี้แล้วกัน”หวังเดินนำไปยังห้องนอนห้องหนึ่ง พลางเปิดประตูแล้วบอกให้อีกคนเข้าพักที่นี่ เฟยได้แต่ทำว่าง่ายทว่าสายตากลับพยายามสอดส่ายมองว่ามีบริเวณไหนบ้างที่ตนจะสามารถหลบหนีออกไปได้ก่อนหน้านั้นโทรศัพท์มือถือของเจ้าตัวก็ถูกลียึดไว้แล้วส่งให้หวังไปเรียบร้อยแล้ว การจะติดต่อกับคนภายนอกจึงถูกตัดไป“ทะ ทำไมระเบียงเป็นกระจกปิดตายล่ะครับ? แบบนี้ได้อึดอัดตายกันพอดี” สายตากวาดไปรอบห้องแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าระเบียง ที่ปกติตามคอนโดทั่วไปจะสามารถเปิดออกได้“กูสั่งให้คนเอาประตูเลื่อนออกน่ะ มึงจะได้หนีไปไม่ได้ไง”เรื่องนี้หวังคงคิดมาอย่างดี เพราะแม้ว่าเขาจะรู้จักเฟยคนนี้ดีแค่ไหน ทว่าคนตรงหน้านี้กลับดูแตกต่างราวกับคนละคน ซึ่งเขามั่นใจว่าถ้ามีช่องทางให้หนีได้ละก็ไม่ว่าจะระเบียง หรือแค่หน้าต่างโง่ ๆ เจ้าตัวก็คงสามารถหนีตนไปแน่นอน“หึ เฮียกะจะขังไว้ที่นี่เลยสินะครับ?”“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่จนกว่างานแต่งนั่นจะยกเลิกไปน่ะ”ยามนี้เฟยคิดถึงหมิง คิดถึงเฟียสุดหัวใจ ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะสามารถตามรอยจากมือถือ และหาที่อยู่ของเขาเจอหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องหาหนทางด้ว
ณ คอนโดแห่งหนึ่งย่านชานเมือง“เข้าไป! พวกมึงจับมันดี ๆ สิวะ!” ลีตะโกนออกคำสั่งให้ลูกน้องที่หวังส่งไปลักพาตัวเฟยมา ให้นำเข้ามาในห้องพักย่านห่างไกลจากการตามหาของหมิง และเฟียสภาพยัยหนูเฟยที่ถูกนำตัวเข้ามามีแต่รอยช้ำจากการถูกตบถูกทำร้าย และมีเลือดออกที่บริเวณมุมปากหวังที่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมาดู ทว่าก็กลับต้องชักสีหน้าเมื่อเห็นสภาพของคนน้องไม่เป็นไปตามที่ตนกำชับ“กูสั่งไปแล้วเหรอ...ว่าห้ามใครทำร้ายเฟย!” รอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจในตอนแรกเปลี่ยนกลับมาเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมา“ใครใช้ให้มีปากดีใส่กูล่ะ อีกอย่างก็เพราะมันเสือกโทรหาหมิงไงล่ะ ดีนะที่กูจับได้” นายเอกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้คีพความเป็นนายเอกอีกต่อไป สีหน้าหงุดหงิด และรังเกียจ ทุกแสดงออกมาจนหมดเฟยได้เห็นอีกมุมของทั้งสองคนจากที่ต่างออกไปมาก เมื่อก่อนที่มักเห็นทั้งคู่เป็นคนสุภาพ แต่บัดนี้ไม่มีแม้แต่คราบของตัวละครที่เขาดูมาก่อนเลยสักนิด“พวกมึงกลับไปได้ล่ะ โดยเฉพาะมึงไอ้ลี...อย่าคิดนะว่ามึงจะเอาเหตุผลเหี้ยอะไรนั่นมาอ้างแล้วกูจะปล่อยมึงไป ถ้าไม่ติดว่ามึงยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง...มึงได้ตายห่าอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว!”หวังกระชากคอเสื้อลีเข้า
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 วันก่อน..˜“เฟยนอนหรือยัง เจ๊เข้าไปหาได้ไหม?”เฟียพยายามเคาะเรียกน้องชายหลังจากที่เธอไล่ให้เพื่อนสนิทกลับไปก่อน เพราะอยากให้ทั้งสองฝ่ายอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งไม่นานเฟยก็เป็นฝ่ายเดินมาเปิดประตูให้ร่างบางเดินนำพี่สาวเข้าไปด้านใน ก่อนจะนั่งลงบนเตียงหลังกว้างด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ...บอกเจ๊ได้ไหม?”เฟียเดินไปนั่งลงข้าง ๆ โอบไปยังไหล่ของเฟยพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้คาดคั้น“เรื่องมันยาวอะเจ๊ แต่สรุปสั้น ๆ เลยก็คือลีมันจ้างคนมาทำร้ายตัวเองเพื่อใส่ร้ายเฟย แล้วหยางกับหมิงก็เชื่อ”เฟยเล่าเพียงแค่นั้น ทว่าเฟียก็พอจะเดาสถานการณ์ที่เหลืออยู่ออก เธอต่อยมือลงบนที่นอนเพื่อระบายโกรธ ซึ่งไม่ได้โกรธที่ลีทำแบบนั้น แต่เธอโกรธที่ตัวเองไม่ดื้อตามน้องชายไปด้วย เพราะอย่างน้องเธอนี่แหละที่จะสามารถเป็นพยานยืนยันได้ว่าเฟยไม่ได้เป็นคนทำ“เจ๊ขอโทษนะ ฮึก” เฟียขอโทษน้องชายเสียงสั่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปกป้องน้องชายผู้เป็นที่รักได้“ขอโทษทำไม เจ๊ไม่เกี่ยวซะหน่อย” พอเฟยได้ยินเช่นนั้นก็หันไปโอบไหล่เล็ก ๆ ของพี่สาวพลางลูบเบา ๆ เพื่อปลอบ“เจ๊จะไปบอกไ
“ยกเลิกงานแต่งไปซะ”หลังประโยคนั้นบรรยากาศกลับเงียบลงทันตา เฟยนิ่งคิดว่าที่อีกคนนัดตนมาแล้วพูดเช่นนี้เพราะอะไรกันแน่“หึ แล้วกูต้องทำตามที่มึงพูดด้วยเหรอ?” ยัยหนูเฟยสวนกลับกลอกตาทำเหมือนไม่ใส่ใจฟังที่ลีบอก พลางยกขาขึ้นมาไขว่ห้างทำราวกับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร“ไม่แปลกใจหน่อยเหรอที่ผมก็มาคุยกับคุณเรื่องนี้น่ะ”แน่นอนว่าเฟยก็ต้องแปลกใจอยู่แล้ว เพียงแต่จะให้แสดงทีท่าเช่นนั้นต่อหน้าฝ่ายตรงข้ามก็อาจเป็นการเผยไต๋ให้อีกคนคาดเดาความคิดของเขาได้“ก็ไม่นี่ แล้วไง...สรุปนี่เรียกมาคุยแค่นี้ใช่ไหม? งั้นกูขอตัว”“ดูท่าจะมั่นใจมากสินะว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เฮียหยางหันกลับไปสนใจน่ะ...ไม่คิดบ้างเหรอว่าลูกไม้แค่นี้มันอ่อนเกินไปหน่อยน่ะ เฮ้ออ ถ้าเป็นผมคงทำได้ดีกว่านี้” คำพูดยืดยาวทำให้ เฟยต้องหยุดฟังโดยไม่ทันรู้ตัวทำไมกันนี่เขายังแสดงออกไม่พออีกเหรอว่าตัวเองไม่ได้สนใจในตัวของหยางอีกต่อไปแล้ว..“เฮ้ออ พูดจนปากเปียกปากแฉะ มึงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีสินะว่าที่กูแต่งงานน่ะ...ไม่ใช่เพราะไอ้หยาง”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ? จะบอกว่าเป็นเพราะคุณชอบเฮียหมิงงั้นเหรอ หึ ๆ อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย เอาตรง ๆ นะที่พวกคุณเล่นละครว่าร
“ช่วยกูแยกเฟยออกจากไอ้หมิงซะ”“หึ ชอบมันมากสินะ” พอได้ยินเช่นนั้นก็ทำเอาลีพ่นเสียงหัวเราะในลำคอออกมาอย่างนึกขบขัน ไม่คิดว่าคนอย่างหวังจะมีความคิดอยากแย่งชิงแบบนี้กับเขาด้วย“คิดว่าคนอย่างมึงมีสิทธิ์จะมาเรียกเฟยว่ามันงั้นเหรอ?”เบต้าหนุ่มยกเหล้าขึ้นจิบเบา ๆ พลางมองแก้วในมือก่อนจะเงยหน้าจ้องไปที่อีกคนด้วยสายตาดูถูก“ทำไม!? มันมีดีกว่าตรงไหน ก็แค่คุณหนูเอาแต่ใจ...”เพล้ง!แก้วถูกเขวี้ยงผ่านหน้าไปยังด้านหลังโอเมก้าหนุ่ม ก่อนมันจะตกกระทบลงพื้นดังสนั่น ทำเอาร่างบางสะดุ้งตกใจหน้าซีดไม่คิดว่าคนสุภาพเช่นนั้นจะมีมุมน่ากลัวแบบนี้ด้วย“ต้องถามว่ามึงมีอะไรเอามาเทียบกับเฟยได้หรือเปล่ามากกว่า”“เฮีย!”“หรือว่าไม่จริง?” ลีถึงกับพูดไม่ออกได้แต่คว้าแก้วค็อกเทลของตัวเองมาดื่มรวดเดียวจนหมด สีหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก“ถ้าช่วยแล้วจะได้อะไรล่ะ?”“ก็ได้ไอ้หมิงคืนไปไม่ใช่หรือไง?”“ทำไมพูดแบบนั้นอะ! ลีไม่ได้...คิดอะไรกับเฮียหมิงแล้วซะหน่อย” ทำเป็นเฉไฉไปอย่างนั้น ทว่าในใจกลับรู้สึกเต้นเร่าเพราะถูกอีกคนจับทางเอาได้ หากยังด้อแพร่งไม่ให้ความร่วมมือต่อไปดีไม่ดีเรื่องนี้คงได้ไปเข้าหูของหยางอย่างแน่นอน“เฮียจะทำยังไง