共有

ตอนที่ 13 ข้อแลกเปลี่ยน

last update 最終更新日: 2025-08-17 20:47:49

วันนี้เขามีเป้าหมายเดียว หาลูกไก่ตัวเล็ก ๆ มาให้นางเลี้ยงไว้ในมิติ

เขาเดินตรงไปยังตลาดขายสัตว์ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์หลายชนิดและกลิ่นที่แรงฉุนลอยตลบอบอวล ขณะกำลังเดินชมสินค้า ชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาชนเขาเต็มแรงจนร่างเหว่ยหยางเซถอยหลัง

ชายคนนั้นมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เดินยังไงของเจ้า ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยรึไง ถึงได้ชนข้าเข้า!”

เหว่ยหยางรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นฝ่ายผิด แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เขาจึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ข้าขอโทษขอรับ”

ทว่าคำขอโทษนั้นกลับยิ่งจุดไฟให้ชายผู้นั้นเดือดดาล

“ขอโทษงั้นหรือ? ฟังดูเหมือนไม่ได้สำนึกอะไรเลย!”

เสียงโวยวายทำให้พ่อค้าแม่ค้ารอบข้างหันมามอง บางคนที่เห็นเหตุการณ์เต็มตาก็เอ่ยขึ้น

“เด็กมันก็ขอโทษแล้ว เจ้าเองต่างหากที่เป็นคนเดินชนเข้าไปก่อน!”

“ใช่ ๆ ข้าเห็นกับตาเลย” อีกเสียงสนับสนุนดังขึ้นตามมา

ชายร่างใหญ่หันมองรอบตัว เมื่อเห็นว่าผู้คนไม่ได้อยู่ข้างตน เขาก็หน้าแดงด้วยความอับอาย ก่อนจะเดินจากไปอย่างหัวเสีย

เหว่ยหยางหันไปกล่าวขอบคุณชาวบ้านที่ช่วยพูดให้ ฮวาอี้ที่อยู่ในตะกร้าสังเกตทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น นางรู้สึกไม่พอใจจนต้องจัดการกับอีกฝ่ายด้วยวิธีของตนเอง

กลีบใบของต้นหญ้าเล็ก ๆ ขยับเบา ๆ ก่อนโรยผงเกสรล่องลอยไปหาชายร่างใหญ่

ไม่นานนัก ชายผู้นั้นที่เพิ่งเดินห่างออกไปก็ล้มลงดัง ตึง! เขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ร่างกายขยับไม่ได้แม้แต่น้อย เหลือเพียงลูกตาที่กรอกไปมา

‘นี่มันอะไรกัน! ทำไมข้าขยับไม่ได้เลย! ข้ากำลังจะตายหรือ!?’

เขาหวาดกลัวสุดขีด แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ

ฮวาอี้หัวเราะในลำคออย่างเบา ‘สมน้ำหน้า!’ ก่อนจะเบะปากนิด ๆ อย่างสะใจ

เหว่ยหยางเหลือบมองนางพร้อมส่ายหน้าเบา ๆ เขารู้ดีว่านี่เป็นฝีมือของต้นหญ้าน้อยแน่นอน เขาเอื้อมมือไปลูบใบของนางเบา ๆ ราวกับปลอบโยน แล้วเดินออกจากจุดนั้นโดยไม่หันกลับไปมองอีก

เขาซื้อลูกไก่ตัวเล็ก ๆ มาหลายตัว ราวสี่สิบตัว เผื่อเอาไว้กรณีตายระหว่างเลี้ยง เขาอยากให้นางไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

หลังจากนั้นเขาพานางเดินดูรอบตลาด จนมาหยุดอยู่หน้าร้านขายยาแห่งหนึ่ง กลิ่นของสมุนไพรหลายชนิดลอยปะปนอบอวลไปทั่ว

ฮวาอี้รู้สึกถึงกลิ่นเหล่านั้นทันที ด้วยความสามารถพิเศษ นางสามารถแยกแยะชนิดสมุนไพรได้อย่างชัดเจน ดวงตาเป็นประกายวาววับ นางเหลียวซ้ายแลขวา พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ก็เอ่ยเรียกเสียงเบา

“เหว่ยหยาง…”

หูของเขารับเสียงนั้นได้ทันที เขารีบเดินเข้าไปยังซอกด้านข้างของร้านขายยา แล้วกระซิบเบา ๆ

“ฮวาอี้ เจ้าเรียกข้าหรือ?”

“ใช่ ข้าอยากเข้าไปในร้านขายยา เจ้าพาข้าเข้าไปหน่อยได้หรือไม่?”

“ได้สิ… แต่เจ้าอยากเข้าไปทำไม? เจ้าป่วยหรือ?” เขาถามอย่างเป็นห่วง

“ข้าก็ไม่แน่ใจนัก… แต่ข้ารู้สึกว่าอยากเข้าไป ถ้าเจอของที่ต้องการ ข้าจะใช้ใบไม้สะกิดเจ้าเอง”

ฮวาอี้รู้สึกถึงบางอย่างที่ดึงดูดให้นางต้องเข้าไปในร้านนั้นโดยไม่อาจอธิบายได้

“เช่นนั้นก็ตามใจ” เหว่ยหยางกล่าวก่อนพาฮวาอี้เดินเข้าไปในร้านขายยาซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เมื่อก้าวเข้าสู่ด้านใน ก็พบว่ามีเพียงชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่กลางร้านอย่างสงบ

เมื่อชายผู้นั้นรู้สึกถึงเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยหางตา เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็ถามขึ้นโดยไม่คิดจะสนใจต่อ

“เจ้าต้องการอะไร?”

“ข้าอยากมาดูยาเสียหน่อยขอรับ ไม่ทราบว่าพอจะดูได้หรือไม่?” เหว่ยหยางตอบกลับด้วยท่าทีสุภาพ

ชายวัยกลางคนพยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ได้ว่าอะไร เพราะร้านนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าอยู่แล้ว

“ดูได้ แต่ห้ามจับด้วยมือนะ” เขาตอบเสียงนิ่ง ก่อนจะเงยหน้าสบตาเด็กหนุ่มชั่วครู่

“ได้ขอรับ” เหว่ยหยางตอบพร้อมยิ้มบาง

เขาเดินพาฮวาอี้เข้าไปยังชั้นวางสินค้าภายในร้าน ขณะสายตากำลังสอดส่องดูเมล็ดพันธุ์สมุนไพร จู่ ๆ เขาก็สะดุดตากับกล่องไม้ใบหนึ่งที่วางไว้อย่างดี มีป้ายเขียนว่า “เมล็ดพันธุ์โสมเก้าสวรรค์”

ดวงตาของเหว่ยหยางเปล่งประกายขึ้นทันที เขาจ้องมันด้วยความสนใจเต็มเปี่ยม

ฮวาอี้เองก็ส่งสัญญาณตอบรับเช่นกัน นางเอาใบของตนสะกิดแขนเขาเบา ๆ เพื่อบอกว่า นางก็ต้องการเช่นเดียวกัน

เหว่ยหยางก้มลงกระซิบข้างต้นหญ้า “เจ้าอยากได้หรือ?”

ฮวาอี้โบกใบเล็ก ๆ ไปมาสามครั้ง แทนคำตอบว่านางต้องการเมล็ดพันธุ์นั้นจริง ๆ

เขาจึงตรงไปยังเคาน์เตอร์หน้าร้าน ถามชายเจ้าของร้านทันที

“ท่านลุงขอรับ… ท่านขายเมล็ดสมุนไพรด้วยหรือ?”

ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้น สายตาเหลือบมองต้นหญ้าซึ่งอยู่ในตะกร้าเล็กด้านหลังเหว่ยหยาง มันดูคล้ายหญ้าธรรมดาทั่วไป แต่กลับมีกลิ่นหอมจาง ๆ ที่ทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างน่าประหลาด

เขาผละสายตาออกแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ขาย แล้วเจ้าสนใจสมุนไพรชนิดไหนล่ะ?”

“ข้าอยากได้เมล็ดพันธุ์โสมเก้าสวรรค์ ไม่ทราบว่าท่านขายหรือไม่?” เขาถามอย่างมั่นใจ

ชายเจ้าของร้านหัวเราะเบา ๆ

“โสมเก้าสวรรค์หรือ? ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขายมันหรอก แค่เอามาตั้งไว้เฉย ๆ ต่อให้เจ้าซื้อได้ก็ใช่ว่าจะปลูกขึ้นหรอกนะ” น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความหยอกเย้า

“ข้าพูดจริงนะขอรับ ข้าอยากได้มันจริง ๆ” เหว่ยหยางกล่าวด้วยสีหน้าแน่วแน่

เจ้าของร้านนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขามองสลับไปมาระหว่างเด็กหนุ่มกับต้นหญ้าในตะกร้า

‘เด็กคนนี้ดูไม่ธรรมดา ต้นหญ้านั่นก็เช่นกัน… บางทีครั้งนี้อาจถึงเวลาของเมล็ดพันธุ์นี้แล้ว’

“ถ้าเจ้าอยากได้จริง ๆ ข้าจะขายให้ก็ได้ แต่ราคาของมัน เจ้าจะรับไหวหรือ?”

“มันราคาเท่าไหร่หรือขอรับ?” เหว่ยหยางถามกลับทันที แม้ในใจจะเริ่มกังวล เพราะเงินที่เขามีอยู่เหลือไม่มากนัก

“ข้าขายให้เจ้าในราคา หนึ่งพันตำลึงทอง พิเศษสุด ๆ สำหรับเจ้าเลยนะ” เจ้าของร้านพูดยิ้ม ๆ ราวกับแกล้งเด็ก

“หนึ่งพันตำลึงทอง?” เหว่ยหยางอุทานเสียงหลง

“ใช่ หนึ่งพันตำลึงทอง!” อีกฝ่ายย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เมื่อได้ยินราคานั้น เหว่ยหยางก็ต้องหลุบตาลงอย่างเสียใจ ‘เงินแค่นั้นข้ายังไม่เคยมีในชีวิตเสียด้วยซ้ำ…’

“ถ้าเช่นนั้น ข้าคงต้องขอลา ข้าไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกขอรับ” เขากล่าวพลางหมุนตัวเตรียมจะเดินออกจากร้าน

ชายเจ้าของร้านมองแผ่นหลังเล็ก ๆ นั้นด้วยรอยยิ้มจาง ๆ แล้วเอ่ยขึ้นเสียงดัง

“แต่หากเจ้าไม่มีเงิน ก็อาจจ่ายด้วยสิ่งอื่นแทนก็ได้นะ”

คำพูดนั้นทำให้เหว่ยหยางชะงักเท้า เขาหันกลับมาอย่างระแวดระวัง พลางเอ่ยถาม

“สิ่งอื่น? หมายถึงอะไรขอรับ?”

ชายวัยกลางคนเหลือบมองไปยังต้นหญ้าน้อยในตะกร้าของเหว่ยหยางด้วยแววตาเจือความสนใจ

เหว่ยหยางรู้สึกไม่ไว้วางใจ เขาจึงเอื้อมมือมากอดตะกร้าแน่นทันที

“ข้าไม่ได้หมายถึงแลกกับสมุนไพรของเจ้า” เจ้าของร้านรีบพูดขณะสังเกตท่าทีป้องกันของอีกฝ่าย

“หากเจ้าสามารถปลูกมันจนเติบโตได้ และเมื่อถึงเวลาที่มันออกดอก เจ้าจะต้องนำดอกของมันมามอบให้ข้าหนึ่งดอก เท่านี้ก็พอ”

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เกิดใหม่เป็นต้นหญ้าข้างเล้าไก่   ตอนที่ 48 แต่งงาน

    เมื่อคิดถึงฟ่านอิง เด็กน้อยก็คลานเข้ามาหานางพอดี เขายังดูน่ารักมากขึ้นทุกวัน ฮวาอี้อุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน เดินชมร้านไปพลาง เด็กน้อยก็มองนางด้วยสายตาใสซื่อราวกับกำลังพยายามจดจำใบหน้าของผู้คนรอบตัวอย่างจริงจังเวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือน จนถึงกำหนดวันแต่งงาน ฮวาอี้กลับไปพักที่บ้านของเหว่ยหยาง และเข้าไปเตรียมตัวที่ร้านในเมืองหลวงเมื่อถึงวันงาน เหว่ยหยางส่งเกี้ยวแปดคนหามมาอย่างยิ่งใหญ่เพื่อรับตัวเจ้าสาว ผู้คนริมทางต่างพากันชื่นชมและยินดี เมื่อเกี้ยวหยุดหน้าบ้าน เขาก็เป็นผู้มารับตัวนางด้วยตนเองฮวาอี้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงสดงดงาม ผ้าคลุมหน้าสีเดียวกันปิดบังใบหน้าไว้ บนศีรษะประดับด้วยปิ่นที่เหว่ยหยางเคยมอบให้นางเมื่อครั้งก่อน แซมด้วยปิ่นหยกอันใหม่ที่ส่องประกายเจิดจรัสยิ่งนักหลังพิธีเสร็จสิ้น เหว่ยหยางพานางเข้าห้องหอ ซึ่งเป็นห้องเดิมที่นางเคยนอนป่วยอยู่ บัดนี้ถูกประดับตกแต่งด้วยผ้าแพรสีแดงสด ดูอบอุ่นและเป็นสิริมงคลยิ่งนัก“ฮวาอี้…” เขาเอ่ยเรียกนางเบา ๆ“เจ้าค่ะ” เสียงตอบรับของนางนุ่มนวล เจือความเขินอาย“ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเสียเปรียบอีก คืนนี้เจ้าตรวจร่างกายของข้าได้เต็มที

  • เกิดใหม่เป็นต้นหญ้าข้างเล้าไก่   ตอนที่ 47 ฟื้นแล้ว

    “เจ้าเช็ดน้ำลายเสียหน่อยเถิด” เหว่ยหยางเอ่ยยิ้ม ๆฮวาอี้รีบยกมือเช็ดปากทันที ทว่ากลับไม่มีอะไรอย่างที่เขาว่า นางจึงหันมามองเขาตาขวางเหว่ยหยางหัวเราะเสียงดัง เขารู้สึกว่าการมีนางอยู่ให้หยอกเย้าเช่นนี้ คือความสุขที่แท้จริงของเขา“ข้าอยากออกไปข้างนอกแล้ว” ฮวาอี้รีบเปลี่ยนเรื่อง“ได้เลย หากทุกคนได้เห็นเจ้า คงดีใจกันไม่น้อย โดยเฉพาะท่านแม่ของข้า” เขาตอบก่อนจะเข้ามาพยุงนาง แม้นางจะเดินได้แล้ว แต่เขาก็ยังคงห่วงใยอย่างไม่คลายฮวาอี้รับรู้ถึงความใส่ใจของเขา จึงยินยอมให้เขาช่วยพยุงโดยไม่ขัดขืน นางกลับรู้สึกอบอุ่น… อยากให้เขาเอาใจใส่เช่นนี้ตลอดไปจริง ๆเมื่อเดินออกมานอกเรือน กลับไม่พบผู้ใดอยู่เลยแม้แต่คนเดียว เป็นเรื่องแปลกที่ไม่มีบ่าวมาคอยดูแล“ทุกคนไปไหนกันหมดหรือ?” ฮวาอี้ถามอย่างสงสัย“ตอนนี้ท่านแม่ไปช่วยงานที่อีกเรือนหนึ่ง ข้าจะพาเจ้าไปดูด้วยตนเอง”“ช่วยงานอะไรหรือ? ที่นี่มีงานให้ทำด้วยหรือ?” นางถามอย่างแปลกใจเหว่ยหยางไม่ปล่อยให้ความสงสัยนั้นอยู่นาน เขาจูงมือนางมายังเรือนหลังหนึ่งซึ่งมีบ่าวรับใช้นั่งทำงานกันอยู่หลายคน และตรงกลางเรือนก็คือมารดาของเขาเมื่อสายตาของฮวาอี้มองไปยังสิ่งที่พวกเขา

  • เกิดใหม่เป็นต้นหญ้าข้างเล้าไก่   ตอนที่ 46 กลับบ้าน

    “ข้าไม่ขอกลับไปยังโลกเดิมอีก… ในเมื่อที่แห่งนี้มีคนที่รักข้ารออยู่ ข้าย่อมไม่หนีเขาไปที่ใดได้อีก ท่านสามารถส่งข้ากลับไปได้หรือไม่?” หญิงสาวกล่าวด้วยเสียงสั่น น้ำตาไหลพรากลงมาตามพวงแก้มชายชราแย้มยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “หากเจ้าเลือกเช่นนี้ ตัวตนของเจ้าในโลกเดิมจะสูญสลายไปทันที… เจ้ายอมรับได้แล้วจริงหรือ?”“ข้ายอมรับ” ฮวาอี้ตอบด้วยแววตามุ่งมั่น น้ำเสียงหนักแน่นเปี่ยมความเชื่อมั่นเมื่อได้รับคำยืนยันอีกครั้ง ชายชราก็โบกมือเบา ๆ ภาพของร่างในโรงพยาบาลค่อย ๆ จางหาย พร้อมกับเรื่องราวในโลกเดิมที่นางเคยดำรงอยู่“บัดนี้ เจ้าหาได้มีตัวตนในโลกเดิมอีกต่อไปแล้ว… เจ้าจงใช้ชีวิตที่เจ้าเลือกให้คุ้มค่า ส่วนมิติที่ข้ามอบให้ จะยังคงอยู่ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของเจ้า ขอให้เจ้าพบความสุขในสิ่งที่เลือกไว้เถิด”เมื่อกล่าวจบ ร่างของชายชราก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากสายตา เหมือนสายลมที่พัดผ่านฮวาอี้ตกใจ รีบร้องเรียกเสียงหลง “เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ! ท่านยังไม่ส่งข้ากลับไปเลย ข้าจะกลับไปโลกนั้นได้อย่างไร!” นางโอดครวญอย่างไม่เข้าใจ เหตุใดเขาจึงไม่เคยบอกอะไรให้นางรู้ล่วงหน้าสักครั้งแต่ไม่นานนัก เส้นทางสีขาวสว่างไสวก็ปรากฏขึ้นตร

  • เกิดใหม่เป็นต้นหญ้าข้างเล้าไก่   ตอนที่ 45 ความฝัน

    ไป๋จิ้งอวี่รับดาบนั้นไว้ แต่แรงปะทะรุนแรงจนเขากระอักเลือดออกมา ร่างกายของเขาเองก็อ่อนแรงเต็มที ทว่าในห้วงสุดท้ายนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นนักฆ่าคนสนิทปรากฏตัวขึ้น เขาซ่อนรอยยิ้มไว้ในเงามืด ศึกครั้งนี้เขายังไม่แพ้!นักฆ่าในชุดดำที่เพิ่งมาถึง รีบพุ่งเข้าหาด้วยความรวดเร็ว ดาบในมือฟาดลงมาเพื่อช่วยเจ้านายของตนโดยไม่ลังเลฮวาอี้ที่เห็นดังนั้น รีบผลักเหว่ยหยางให้พ้นทาง แล้วรับคมดาบแทน ร่างของนางทรุดลงทันทีตรงหน้าชายคนรัก“ไม่!!” เหว่ยหยางตะโกนลั่น ก่อนจะใช้ดาบในมือตวัดแทงทะลุร่างของไป๋จิ้งอวี่ทันที ศัตรูตัวฉกาจล้มลงในบัดดลเหว่ยหยางรีบโผเข้าประคองร่างของฮวาอี้ไว้ในอ้อมแขน “ฮวาอี้… เจ้าฟังข้าอยู่หรือไม่… อย่าเป็นอะไรไปเลย…” เสียงของเขาสั่นเครือ มือของเขากุมมือของนางไว้แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นคมดาบเล่มนั้นปักกลางอกซ้ายของนางพอดี เลือดสีแดงไหลรินลงมาเปื้อนเสื้อคลุมสีอ่อนอย่างน่าสลดใจชายชุดดำอีกคนที่เหลืออยู่เห็นท่าไม่ดี พยายามหนีเอาตัวรอด แต่ยังไม่ทันพ้นระยะ ก็ถูกชายหน้าหวานผู้หนึ่งแทงร่างจนสิ้นใจไป๋เทียนวิ่งตรงเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อมองเห็นหญิงสาวในอ้อมแขนของเหว่ยหยาง เขา

  • เกิดใหม่เป็นต้นหญ้าข้างเล้าไก่   ตอนที่ 44 ไม่คาดคิด

    “เจ้าช่างปากหวานเสียจริง…” ฮวาอี้ยิ้มบาง “แล้วเจ้าส่งคนไปดูทางขบวนเจ้าบ่าวหรือยัง?”“ข้าน้อยส่งไปแล้วตามที่นายหญิงสั่งเจ้าค่ะ” ลัวหยูตอบด้วยความเคารพ นางไม่เข้าใจนักว่านายหญิงกังวลสิ่งใด เพราะเหว่ยหยางเองก็เป็นผู้มีฝีมือสูงส่ง ไม่มีใครกล้ารังแกได้ง่าย ๆ“ดี…ข้าค่อยวางใจได้หน่อย” ฮวาอี้พึมพำเบา ๆ พลางลูบต้นหญ้าปักกิ่งในมืออย่างแผ่วเบา หากเกิดเหตุร้ายใด ๆ ขึ้น นางยังมีวิธีช่วยเหลือเขาทางฝั่งของ เหว่ยหยางเขาสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงเข้มอย่างสง่างาม แววตาเต็มไปด้วยความสุข ในที่สุด…วันที่เขารอคอยก็มาถึงระหว่างทางขบวนขันหมากกำลังเคลื่อนตัวอย่างสงบ ผ่านเส้นทางแคบในหุบเขา ท่ามกลางเสียงดนตรีและเสียงหัวเราะเบา ๆ ของผู้ร่วมขบวนกระทั่ง…เงาดำหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า!ชายในชุดดำกระโจนออกมายืนขวางทางรถม้าอย่างไม่เกรงกลัวสายตาใด ๆ“นายท่าน! เกิดเรื่องแล้วขอรับ!”เสียงอู๋หยวนดังขึ้นอย่างร้อนรน ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดผิดปกติ…“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” เหว่ยหยางขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียด รู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง“มีชายชุดดำขวางหน้ารถม้าของเราขอรับ!”“ถ้าเช่นนั้น ฆ่ามันเสีย!” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงกร้าว โม

  • เกิดใหม่เป็นต้นหญ้าข้างเล้าไก่   ตอนที่ 43 ตอบรับแต่งงาน

    “เจ้า…ปลูกมันขึ้นมาได้เช่นไร?” เขาเอ่ยถามเสียงสั่นอย่างไม่เชื่อสายตา“ข้าก็ปลูกมันลงในดินธรรมดาเท่านั้น มันก็ขึ้นมาเอง ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลยขอรับ” เหว่ยหยางพูดออกมาด้วยท่าทางโอ้อวดเล็กน้อยเจ้าของร้านขายยามองทั้งสองด้วยสายตาเคลือบความหมั่นไส้ แต่ในใจก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอันใด เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมิใช่เรื่องธรรมดา ต้นโสมสวรรค์จะเติบโตได้ต้องอาศัยปัจจัยบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ง่ายดาย เช่นเดียวกับโชคชะตาและบุญวาสนา และแม้จะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีใด แต่เรื่องนี้ก็ไม่สมควรถามออกไปตรง ๆ“แล้วต้นโสมต้นนี้… เจ้าจะนำกลับไปหรือไม่? หากไม่ ข้าขอซื้อต่อในราคาที่สูงกว่าหลายเท่า” เขาถามพลางจับต้นโสมแน่นราวกับกลัวว่ามันจะหลุดมือเหว่ยหยางแย้มยิ้มบาง “หากไม่ใช่เพราะท่านมอบเมล็ดให้ข้า ข้าก็ไม่มีวันได้ต้นโสมต้นนี้มา ข้ามอบมันให้ท่านโดยไม่คิดสิ่งตอบแทนใด ๆ ถือว่าข้าได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว และเมื่อสัญญานั้นสิ้นสุด ข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาพบท่านอีกหรือไม่”เจ้าของร้านขายยาพลันยิ้มกว้างด้วยความยินดีที่ได้ต้นโสมสวรรค์มาโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่ตำลึงเดียว แต่เมื่อได้ยินว่าเหว่ยหยางจะจากไป ก

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status