Share

ตอนที่ 9 หลุดพ้นเสียที

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2024-12-16 11:00:39

‘ท่านผู้เฒ่าหายไปไหนแล้ว?’

นางหันซ้ายหันขวากลับไม่พบผู้ใดเลยสักคน แรงกระชากจากด้านหลังทำเอานางไม่ทันตั้งตัวจนเซไปซบกับหน้าอกแกร่งของบุรุษตรงหน้าเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่าเป็นอ๋องฉินเขาออกมาตามนางทำไมกันนะ!

“บ้าจริงท่านกระชากข้าทำไมข้าเกือบจะหกล้มไปแล้วนะ”

“ใครอนุญาตให้เจ้าออกมาข้างนอกไม่บอกกล่าวข้าเช่นนี้”

“ข้าปลุกท่านแล้วแต่ท่านไม่ยอมตื่นเสียที ข้าเพียงแค่ร้อนจึงอยากออกมารับลมข้างนอกก็เท่านั้นเอง”

“เจ้าปลุกข้าแล้วเช่นนั้นหรือ”

“ปลุกไปแล้วพอออกมาข้างนอกก็พบทหารของท่านหลับกันทุกคน ข้าไม่มีเพื่อนคุยจึงเดินเล่นออกมาไกลไปหน่อยขอโทษท่านแล้วกัน”

นางสะบัดข้อมือออกจากฝ่ามือหนาของเขาก่อนจะรีบเดินเลี่ยงออกมาเพื่อกลับเข้าไปในกระโจมเมื่อเข้ามาด้านในแล้วลู่เหยียนซินก็ก้มลงมองที่หน้าอกของตนเองก็พบกับแหวนหยกสองชิ้นคล้องอยู่กับสายสร้อยเส้นหนึ่ง

‘พระเจ้า! เรื่องเมื่อครู่ไม่ใช่ความฝันหรอกหรือ อีกทั้งสายสร้อยที่นางสวมอยู่ในเวลานี้ดันเป็นสายสร้อยเส้นเดียวกันกับที่นางเก็บเอาไว้ใต้หมอนที่จวนอ๋องฉินในเมืองหลวง แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือว่านางเลอะเลือนจนจำไม่ได้ว่าหยิบติดมือมาด้วยเช่นนั้นหรือ’

อ๋องฉินที่มองตามจนนางหายลับเข้าไปในกระโจมแล้วก็ยืนครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

จะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกคนจะหลับกันหมดป่าแห่งนี้น่ากลัวจะมีอาถรรพ์อะไรสักอย่างไม่เช่นนั้นพวกเขาที่มีวรยุทธ์ไม่มีทางที่จะหลับลึกถึงขนาดที่จะไม่ได้ยินเสียงผู้ใดย่างกรายเข้ามาเลย อีกทั้งลู่เหยียนซินเดินเสียงดังถึงเพียงนี้ไม่มีทางที่จะไม่มีใครได้ยินยกเว้นก็เพียงแต่พวกเขาถูกบางสิ่งบางอย่างทำให้หลับลึกไม่ได้ยินเสียงรอบข้างใดๆ เลย

“พวกเจ้าผลัดเปลี่ยนเวรยามเฝ้าเอาไว้ให้ดีอย่าได้ละเลยทิ้งหน้าที่เหมือนเมื่อครู่นี้อีก”

เหล่าทหารทุกคนก่อนหน้านั้นรู้สึกหวั่นใจอย่างยิ่งพวกเขาคิดว่าอ๋องฉินจะสั่งลงโทษที่ละเลยต่อหน้าที่ปล่อยให้พระชายาเดินออกไปนอกกระโจมเพียงลำพังเกือบจะพบกับอันตรายแล้ว แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่เขาสั่งเพียงแค่ให้ผลัดเปลี่ยนเวรยามกันใหม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมโดยไม่มีบทลงโทษใดๆ เลย

อ๋องฉินที่หันหลังไปสั่งทหารคนสนิทของตนเองเรียบร้อยก็เดินตามลู่เหยียนซินเข้าไปในกระโจม เขาเห็นนางนั่งเหม่ออยู่บนเตียงมือข้างหนึ่งลูบที่สร้อยเส้นหนึ่ง

“ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าใส่สร้อยเส้นนี้ด้วย”

“ข้าก็เพิ่งรู้ว่ามีมันอยู่เหมือนกัน”

“?” อ๋องฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกับคำตอบที่ได้

“ท่านอ๋องข้าง่วงแล้วราตรีสวัสดิ์นะเพคะ”

นางพูดจบก็ล้มตัวลงนอนทันทีเขาไม่ซักไซร้นางต่อ เมื่อครู่เขาเห็นนางเหมือนยืนสนทนากับใครสักคนแต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้กับไม่มีผู้ใดยืนอยู่เลย ไม่น่าจะมีใครเข้ามาในม่านพลังของเขาได้และไม่น่าจะมีใครหนีหายไปได้โดยไม่เห็นแม้แต่เงาเช่นนี้ ยกเว้นผู้มีวิชาสูงกว่าแต่จะเป็นผู้ใดกัน

เช้าวันต่อมาอ๋องฉินสั่งจัดขบวนเพื่อเดินทางออกจากป่าแห่งนี้เขามองไปรอบๆ ก่อนจะสั่งให้ทหารทำเครื่องหมายเอาไว้เผื่อว่าพวกเขาจะวนกลับมาที่เดิมนั่นเอง ขณะที่กำลังจะออกเดินทางนั้นลู่เหยียนซินก็เดินมาใกล้ๆ กับม้าที่อ๋องฉินนั่งอยู่

“ท่านอ๋อง”

“พวกเรากำลังจะออกเดินทางเจ้ายังจะลงมาเดินเล่นอีกทำไมกัน”

“คือว่าข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องท่าน”

“มีสิ่งใดอีก”

“ข้าอยากให้ท่านสวมมันเอาไว้ของสิ่งนี้เป็นเครื่องรางที่ท่านปู่ของข้าให้ข้าไว้ตั้งแต่ยังเล็ก พวกเราวนอยู่ในป่าแห่งนี้มานานมากแล้วหากว่าท่านไม่กลัวเสียเวลาก็ลองเชื่อข้าดูสักครั้งเถอะ”

อ๋องฉินชั่งใจอยู่นานแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรับสร้อยเส้นนั้นมาแต่อย่างใด

“หากท่านไม่อยากใส่ก็เพียงแค่ถือเอาไว้ก็ได้แต่หากว่ามันขาดหรือหายไปข้าจะคิดท่านสามพันตำลึงเงิน”

“แหวนหยกธรรมดาจะเป็นสามพันตำลึงเงินได้อย่างไรกัน”

“ไม่อยากเสียตำลึงเงินให้ข้า ท่านก็สวมมันไว้เองสิเพคะ”

เขามองหน้านางนิ่งก่อนจะหยิบเอาสร้อยจากมือของนางไป ลังเลครู่ใหญ่ก่อนจะสวมมันไว้ที่ข้อมือของเขาแทน

“ก็เท่านั้นล่ะหวังว่าพวกเราจะออกจากเขาแห่งนี้ได้เสียทีนะเพคะ”

“ข้าก็คร้านจะวนในหุบเขาแห่งนี้เต็มทน”

นางเบ้ปากให้เขาก่อนจะเดินเลี่ยงไปขึ้นรถม้าของตนเอง อ๋องฉินส่ายหัวเบาๆ ให้กับความไร้สาระของนาง เขามองสร้อยที่อยู่บนข้อมือของตนเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

‘จะทำอย่างไรถึงจะออกจากหุบเขาแห่งนี้ได้กันนะ’

ว่ากันว่าเส้นทางไปยังเมืองจี้โจวเส้นทางสายตรงนั้นต้องใช้เวลานานนับสิบห้าวันจึงจะเดินทางถึงแต่เส้นทางลัดที่พวกเขาใช้อยู่นี้จะใช้เวลาเดินทางเพียงเจ็ดถึงแปดวันเท่านั้นแต่ต้องแลกมาด้วยเล่ห์กลของหนทางนี้ ความซับซ้อนของหุบเขาอาจพบเจอค่ายกลหรือเขาวงกตหรือโจรป่าที่ดักซุ่มอยู่ 

มาครั้งนี้เห็นทีพวกเขาจะพบเจอกับเขาวงกตที่ต่อให้วนหาทางออกมากเท่าใดก็หาไม่เจอเสียเวลาเดินทางร่วมหนึ่งวันเต็มๆ เมื่อเห็นลู่เหยียนซินเสนอทางเลือกด้วยสร้อยเครื่องลางก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนที่เขาจะรับมันไว้เวลานี้อะไรไม่เชื่อก็ต้องเชื่อไว้ก่อน

พวกเขาเริ่มออกเดินทางอีกครั้งโดยครั้งนี้อ๋องฉินนำขบวนเองเดินทางมาได้ไม่นานก็เริ่มเห็นทางออกด้านหน้าเป็นป่าโล่งกว้างสุดลูกหูลูกตา มองเห็นภูเขาสูงอยู่อีกฟากหนึ่งบรรยากาศช่างแตกต่างไปจากป่าเมื่อครู่นี้ลิบลับกันเลยทีเดียว

สวรรค์! ในที่สุดพวกเขาก็หลุดออกมาจากป่าแห่งนั้นได้เสียทีหรืออาจจะเป็นเพราะสร้อยเส้นนี้หรือไม่นะที่เปิดทางให้พวกเขาหลุดพ้นออกมาได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 4 ความวุ่นวายที่ไม่มีใครคิดเบื่อ

    -อารามชิงเหยียน-“ท่านอาจารย์อยากพบท่านแม่เจ้าค่ะ”“อยากพบข้างั้นหรือ”เยว่เหวินหลิงพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากตัวอารามเพื่อไปเล่นฟันดาบกับผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดและฮั่วเฟิงอวี้ลู่เหยียนซินเดินเข้าไปในอารามชิงเหยียนอารามเก่าแก่ที่ผู้อาวุโสมาพำนักในที่แห่งนี้เป็นเวลากว่าหกปีมาแล้ว“หลิงเอ๋อบอกว่าท่านเรียกหาข้าหรือเจ้าคะ”“ไม่ผิด ที่ข้าเรียกท่านมานั้นไม่เกี่ยวข้องอันใดกับท่านหญิงเลยแม้เพียงนิดอย่ากังวลใจไปเลย”“แล้วท่านมีอะไรจะสนทนากับข้าอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”“ข้าคิดว่าน่าจะได้เวลาที่ควรจะต้องบอกท่านแล้ว”“หืม”“พระชายาหลายปีมานี้เพราะใจของท่านนั้นปล่อยวางไปจนหมดสิ้นจึงไม่ทันได้สังเกตสิ่งใดที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวของท่านเลยสินะ”“ท่านหมายถึงอะไรหรือเจ้าคะ”“ยังจำแหวนหยกสองวงที่ข้ามอบให้ท่านได้อยู่หรือไม่”“เจ้าค่ะ”“ยังเก็บเอาไว้อยู่สินะ”“อยู่ที่สามีของข้าเอง”“ครั้งที่ท่านเดินทางมาที่จี้โจวครั้งแรกสิ่งที่ท่านเคยถามข้าว่าจะได้กลับบ้านหรือไม่ ท่านคงได้คำตอบนั้นแล้วสินะ”ลู่เหยียนซินไม่ได้ตอบเขาไปนางกำลังครุ่นคิดว่าผู้อาวุโสผู้นี้ต้องการจะสื่อสารสิ่งใดกับนางอยู่กันแน่“ไม่เสียดายเลยหรือ”

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 3 เป็นเพียงสหายเท่านั้นเองหรือ

    -เจ็ดวันผ่านไป-“ท่านหญิง”“หือ”เยว่เหวินหลิงที่กำลังหยอกล้อกับเสี่ยวจ้านเสือขาวหิมะที่ได้รับมาจากผู้เป็นมารดาอยู่นั้นก็ได้หันไปมองคนที่เพิ่งเรียกขานนาง เมื่อเห็นใบหน้าของคนผู้นั้นก็ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันที‘นั่นไม่ใช่คุณชายหลี่หรอกหรือมาที่นี่ได้อย่างไรกันนะ’และดูเหมือนเขาจะรู้ว่านางคิดสิ่งใดอยู่จึงได้เอ่ยออกมาว่า“ข้ามาหาพี่ชายของท่านน่ะ”“อ้อ งั้นหรอกหรือเจ้าคะพี่ชายของข้าน่าจะอยู่ด้านหลังจวน ท่านเดินไปแล้วเลี้ยวขวาอีกนิดก็ถึงลานประลองแล้วล่ะเจ้าค่ะ”“ลานประลองงั้นหรือ? ท่านจะบอกว่าเขากำลังประลองยุทธ์อยู่อย่างนั้นหรือขอรับ”“ก็น่าจะใช่ ท่านพี่ของข้าคงกำลังฝึกกระบี่กับท่านพี่เฟิงอวี้อยู่ อืมม...หากว่าท่านไปไม่ถูกต้องการให้ข้านำทางไปหรือไม่”“ไม่เป็นไรขอรับข้าไปเองได้”เขาพูดจบก็หันไปยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยนทั้งยังสบตานางอย่างลึกซึ้ง เยว่เหวินหลิงก็ยิ้มรับอย่างเป็นมิตรโดยไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใดท่ามกลางการเฝ้ามองของผู้ใหญ่ทั้งสี่คนที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของเรือนใหญ่“ท่านอ๋องจะไปไหนหรือเพคะ”“เจ้าก็ดูสิ เจ้าเด็กคนนั้นกล้าดีอย่างไรมาเกี้ยวลูกสาวของข้า”“ท่านคิดมากไปห

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 2 ความต้องการที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน

    “พระชายา”“ฮูหยินฮั่วไม่พบกันนานเลยนะเจ้าคะ”“ข้าคิดถึงท่านเหลือเกินเมื่อรู้ว่าท่านเดินทางมาถึงที่นี่แล้วก็รีบออกมาพบท่านทันทีเลยเพคะ”ฮูหยินฮั่วพูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างของนาง ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นบ่งบอกว่านางดีใจเพียงใดที่ได้พบลู่เหยียนซินอีกครั้ง“แล้วลูกชายของท่านล่ะไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ”“ไม่ทันได้พูดอะไรด้วยเลยสักคำแค่เท้าแตะถึงพื้นก็วิ่งไปหาคุณชายเยว่เหวินหลงเสียแล้วเพคะ”“ฮ่าๆๆ ช่างเถอะข้าไม่ถือสาหรอกปล่อยเด็กๆ เล่นกันไปเถอะ”“เพคะพระชายา”ทั้งสองยิ้มให้แก่กัน มิตรภาพระหว่างสตรีทั้งสองคนนี้นั้นแน่นแฟ้นยิ่งไปกว่าผู้เป็นสามีของทั้งคู่ที่คบหากันมาตั้งแต่เยาว์วัยเสียอีก“ฮูหยินของเจ้าดูจะตัวติดกับชายาของข้ามากเลยนะซื่อเหลียน”“ข้าก็คิดเช่นนั้นก่อนหน้านี้นางเอาแต่ถามว่าเมื่อไหร่พระชายาจะมาที่จี้โจวเสียที เมื่อรู้ว่าพวกท่านมาถึงแล้วก็รบเร้าให้ข้าพามาทันทีเลยน่าน้อยใจเป็นบ้า”“เอาน่าพวกนางรักใคร่กันก็ดีแล้วจะว่าไปเจ้าจัดการอนุผู้นั้นอย่างไร ส่งนางกลับบ้านไปแล้วงั้นหรือ?”ฮั่วซื่อเหลียนส่ายหน้าเบาๆ ใบหน้าของเขาไม่มีความกังวลหรือโกรธเกลียดใดๆ หลงเหลืออยู่เลย“นางพบรักกับชาวบ้านคนหนึ่

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนพิเศษ 1 น้องเล็กสุดแสบ

    -6 ปีต่อมา-เมืองจี้โจวเด็กๆ ทั้งสองเดินทางมาที่เมืองจี้โจวล่วงหน้าก่อนผู้เป็นบิดามารดาเนื่องจากพวกเขายังจัดการงานที่เมืองหลวงไม่เรียบร้อยนั่นเอง แม้อ๋องฉินจะห่วงเด็กๆ ไม่น้อยแต่เพราะพวกเขามีสัตว์เลี้ยงคู่ใจคอยดูแลอยู่ข้างกายจึงเบาใจไปได้แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“ท่านพี่จะให้ข้าไปด้วยหรือไม่” เยว่เหวินหลิงเอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดของนางด้วยเสียงอันเบา“ไม่ต้องหรอก”เยว่เหวินหลิงแม้จะดูแก่นๆ ไปบ้างแต่นางเชื่อฟังผู้เป็นพี่ชายมาโดยตลอดได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวแกรกๆ“อ้อ เช่นนั้นข้าจะกลับไปรอที่จวนก่อนท่านพี่ก็กลับไวๆนะเจ้าคะ”เยว่เหวินหลงพยักหน้าให้นาง หลังจากส่งน้องสาวขึ้นรถม้าแล้วเขาก็ยืนดูอยู่สักพักก่อนจะหันหลังแล้วเดินตรงไปในตรอกถัดไปไม่ไกล เดินต่อไปอีกยี่สิบกว่าเก้าก็ถึงรถม้าของฮั่วเฟิงอวี้ เขากระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วเข้าไปนั่งลงด้านในข้างๆ เด็กหนุ่มผู้นั้น“ท่านพี่เฟิงอวี้รอข้านานหรือไม่”“ไม่เลย ทีแรกข้าคิดว่าท่านจะพาหลิงเอ๋อร์มาด้วยเสียอีก”“นางพูดมากเกินไปเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง”“ฮ่าๆๆ เหตุใดถึงได้กล่าวหาน้องสาวของตนเองเช่นนั้นกันเล่า นางน่ารักถึงเพียงนั้นท่านก็ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจนางอยู่เรื

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 44 บทส่งท้าย_สีสันของชีวิตคู่

    -สี่ปีผ่านไป-วันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่าตลอดระยะเวลาสี่ปีมานี้เด็กทั้งสองคนเติบโตขึ้นมาภายใต้การเลี้ยงดูของทุกคน ฟังไม่ผิดแล้ว! ทุกคนช่วยกันเลี้ยงดูเด็กๆ แทนนางจริงๆพักนี้ท่านหญิงน้อยดูจะตัวอวบอ้วนขึ้นมามากเพราะไม่ว่าผู้ใดที่แวะมาเยี่ยมนางที่จวนล้วนหยิบเอาขนมหวานและของกินต่างๆ ติดมือมาให้นางด้วยทั้งนั้นคนในวังยิ่งแล้วใหญ่ขนมหวานมากมายตระการตาถูกประเคนใส่ปากนางไม่ยั้ง ฮองเฮาเองดูจะมีความสุขมากที่เห็นปากน้อยๆ ของนางเคี้ยวขนมอย่างเอร็ดอร่อยรัชทายาทก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันทรงเสด็จไปต่างเมืองเมื่อกลับมาก็มักจะนำของเล่นขนมแปลกๆ มาฝากเด็กๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือขนมหวานของโปรดของนาง‘ทุกคนล้วนต้องการให้ลูกของนางอ้วนเป็นหมูใช่หรือไม่นะ’ลู่เหยียนซินใช้วิชาความรู้ของนางเปิดสถานศึกษาวิชาการแพทย์ นางนำความรู้ของนางที่มีอยู่ออกมาถ่ายทอดให้แก่เหล่าบัณฑิตและผู้ที่ต้องการเรียนรู้วิชาแพทย์แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหมอหลวงในวังหลวงแห่กันมาร่ำเรียนวิชาจากนางกันมากมายเช่นกันในสถานศึกษาแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสอนวิชาแพทย์แต่เป็นสถานศึกษาสำหรับเด็กๆ ทั้งในเมืองหลวงและเมืองต่างๆ ใกล้เคียงกัน สถานศึกษาแห่งนี้มีอาจารย

  • เกิดใหม่ในร่างพระชายาร้ายร้าย   ตอนที่ 43 พระชายาจะคลอดแล้ว

    “เสด็จพ่อ!”เป็นฮ่องเต้ที่เดินเข้ามาทันได้ยินที่หมอหลวงรายงานการตรวจครรภ์ของลู่เหยียนซินพอดี“พวกเจ้าต้องวางแผนการทำคลอดครั้งนี้ให้ดีอย่าให้ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ข้าจะส่งหมอหลวงไปประจำที่จวนอ๋องฉินจงจำเอาไว้ว่าต้องระมัดระวังทำให้ดีที่สุด”“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”“เอาล่ะเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะชายาฉิน ท้องของเจ้าใหญ่เกินไปน่าจะเดินเหินไม่สะดวกนักจากนี้ไปก็จงอยู่แต่ในจวนจนกว่าจะคลอดไม่ต้องเข้าวังมาถวายพระพรแล้ว”“เพคะเสด็จพ่อ หม่อมฉันทูลลาเพคะเสด็จปู่”“อืม ไปเถอะ”- - - - - - - - - - -เพราะลู่เหยียนซินที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกจากจวนก็รู้สึกเบื่อหน่ายยิ่งนัก วันเวลาผ่านไปจนครรภ์ของนางก็เข้าสู่เดือนที่เก้านางกำลังเดินออกมาจากห้องอาบน้ำขณะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก็รู้สึกได้ว่ามีของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากต้นขาของนางเมื่อก้มมองดูถึงกับต้องรีบสูดหายใจเข้าปอดช้าๆ เพื่อลดอาการตื่นเต้น‘ถุงน้ำคล่ำของนางแตกแล้ว!’“ลี่ถิงมาช่วยข้าที”ลี่ถิงที่กำลังนั่งจัดของขวัญต้อนรับคุณหนูคุณชายน้อยอยู่นั้นก็ตกใจเสียงตะโกนเรียกของพระชายา นางรีบวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำด้วยความรวดเร็วเกือบสะดุดขอบพักประตูไปแล้ว“พระชายาเกิดอะไรขึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status