Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 12

Share

เขื่อนขุนเขา 12

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-09 11:10:00

เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ รถตู้สีดำแล่นฉิวไปบนถนนใหญ่

ขุนเขานั่งเบียดชิดกระจก ร่างบางสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบคลอไปด้วยน้ำใส

ริมฝีปากเม้มแน่นแต่เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้

สายตาเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง

ตึกรามสูงเสียดฟ้า รถราแน่นขนัด ผู้คนเดินขวักไขว่บนฟุตบาท…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะสังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกจับตัว

มือแข็งแรงของชายชุดดำคนหนึ่งวางบนต้นแขนเขาแน่น

“ร้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร!” เสียงเหี้ยมตวาดดังขึ้น

ขุนเขาสะดุ้งสุดตัว ริมฝีปากเม้มแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงสะอื้นยังสะท้านในลำคอแต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้

หัวใจบีบแน่น ร่างกายเย็นเฉียบ แม้เสื้อผ้าจะยังเปื้อนทรายและกลิ่นดินปืนจากการปะทะก่อนหน้า

เวลาผ่านไป ถนนค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นเส้นทางโล่งและรกเรื้อ

ต้นไม้หนาทึบ โอบล้อมถนนเล็กๆ ดั่งอุโมงค์เขียวครึ้ม เสียงนกร้องและแมลงหึ่งเบาๆ

รถตู้เลี้ยววกเข้าไปในทางแคบอีกสายหนึ่ง ก่อนจะหยุดนิ่งในที่สุด

ประตูรถถูกเปิดออกแรง ๆ

มือหยาบกระชากต้นแขนขุนเขาอย่างไร้ความปรานี

“ลงไป!”

ขุนเขาเซถลาออกจากรถ

ไม่ทันได้มองสภาพแวดล้อมรอบตัว ผ้าผืนหนาก็ถูกกระชากมาปิดตาเขาแน่นจนมืดสนิท

เสียงรองเท้ากระทบพื้นกรวดและเสียงพูดคุยเบาๆ ดังรอบตัว

ขุนเขาถูกลากเข้าไปยังอาคารเก่าโทรมที่กลิ่นอับชื้นตีจมูก สัมผัสได้ถึงความเย็นของผนังซีเมนต์และพื้นที่ขรุขระ

“เห้ย พามันไปนั่งตรงนั้น!” เสียงห้าวของชายคนหนึ่งสั่งการ

ร่างบางถูกผลักลงนั่งกับเก้าอี้เหล็กขาโยก ใบหน้าหันไปตามแรง

แขนทั้งสองข้างถูกดึงไพล่หลัง มัดเชือกไนล่อนอย่างแน่นหนา

กลิ่นควันบุหรี่ขมฉุน ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ

ขุนเขาย่นจมูกเล็กน้อย น้ำตาไหลเงียบ ๆ จากขอบตาที่ถูกผ้าปิดไว้

หัวใจของเขาเต้นแรงรัวจนเจ็บหน้าอก ความเหงา ความว้าเหว่ และความกลัวถาโถมจนแทบหายใจไม่ออก

เสียงแว่วของชายสองคนดังข้างหู

“นายจะมาถึงยังวะ?”

“จับอีนี่มาเพื่ออะไร ไม่เห็นจะมีประโยชน์”

“เออ ค่าไถ่ก็แพงชิบ”

ขุนเขากัดริมฝีปากแน่น พยายามไม่ร้องไห้ออกมาอีก

ในใจพลันนึกถึง เขื่อน

เขื่อน… ขอโทษนะ… ผมทำให้คุณเดือดร้อนอีกแล้ว…

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร เสียงฝีเท้านับสิบกรูเข้ามาด้านหน้าของเขา

เสียงรองเท้าคอมแบทกระแทกพื้นหินกรวดหนัก ๆ เป็นจังหวะชัดเจน

“เคารพนาย!” ชายคนหนึ่งตะโกนก้อง

ฝีเท้าหนักแน่น เดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ

แม้จะมองไม่เห็น แต่ขุนเขาก็สัมผัสถึงแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา

แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

เสียงที่เย็นเยียบและคุ้นเคยจนขุนเขาใจสั่นไม่หยุด

“หึ หน้าตาสวยเหมือนเดิม…”

ขุนเขาแทบหยุดหายใจ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ

เขารู้ดีว่าเสียงนี้คือใคร

มันคือคนที่พ่อพาเขาไปขายให้เมื่อหลายเดือนก่อน

คนที่เขาคิดว่าจะไม่มีวันได้พบเจออีก

เพี๊ยะ!

แรงตบมหาศาลฟาดลงบนแก้มขวา

ใบหน้าขาวจัดสะบัดไปตามแรง รอยนิ้วมือแดงเป็นปื้น

กลิ่นโคโลญฉุนและกลิ่นเหงื่อเก่าลอยปะทะปลายจมูก

เสียงหัวเราะต่ำดังลอดไรฟัน

“หึ… เฝ้ามันให้ดี นายประจิมมาเมื่อไหร่ มึงต้อนรับเขาให้ดีๆ ล่ะ”

เสียงทุ้มต่ำของชายร่างท้วมกล่าวอย่างเย้ยหยัน

ขุนเขารู้สึกถึงเงาใหญ่ที่ถอยห่างออกไป พร้อมเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกที่ก้องสะท้อนในโกดัง

เขาสะอื้นเบาๆ น้ำตาไหลเงียบใต้ผ้าปิดตา

หัวใจเขาเต้นแรงและสั่นไหว

ในใจมีแต่ภาพของเขื่อนลอยมาไม่ขาดสาย…

ช่วยผมด้วยนะ… เขื่อน…

เวลาผ่านไปไม่นาน เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังเข้ามาอีกครั้ง

ขุนเขาเพิ่งจะสงบสติลงได้บ้าง ผ้าปิดตาถูกกระชากออกอย่างแรง แสงไฟสลัวในโกดังทำเอาดวงตาเขาแสบพร่า

เบื้องหน้าคือชายร่างสูงใหญ่ นายประจิม

สูทสีดำเข้ารูป เผยให้เห็นรอยสักเสือเผ่นเต็มแขน แว่นตาดำสนิทบดบังดวงตาเย็นยะเยือก ใบหน้าอ้วนท้วมยิ้มเหี้ยม

ขุนเขาหายใจสะท้าน ดวงตาเบิกโพลงด้วยความกลัว

“หึ… หน้าตายังสวยไม่เปลี่ยน”

เพี๊ยะ! ฝ่ามือหนาตบเต็มแรงไปยังแก้มซ้ายของขุนเขา

ร่างบางหน้าสะบัดไปตามแรงตบ เลือดกบมุมปาก ร่างทั้งร่างสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้

“วันนี้แหละ… มึงจะได้เป็นเมียกู”

ประจิมแสยะยิ้ม เสียงหัวเราะต่ำก้องสะท้อนในโกดัง

ขุนเขาหน้าซีดเผือด น้ำตาเอ่อคลออีกครั้งแต่ไม่กล้าขัดขืน

เขาถูกลูกน้องกระชากขึ้นยืนแล้วลากตัวออกจากโกดัง

รถตู้สีดำอีกคันแล่นพาเขาเข้าสู่ย่านกลางเมืองที่คึกคัก

ตึกสูงระฟ้าและแสงไฟนีออนระยิบระยับบาดตา กาสิโนหรู ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

ขุนเขาถูกพาเข้าไปด้านใน

ผ่านโต๊ะพนันเสียงดังจ้อกแจ้ก แสงไฟกระพริบวูบวาบ และกลิ่นบุหรี่จาง ๆ ตีจมูก

เขาถูกลากขึ้นบันไดวนไปยัง ชั้นบนสุด

ประตูไม้สักบานใหญ่เปิดออก เผยให้เห็นห้องหรูหราโทนแดงเข้ม

ม่านกำมะหยี่หนาหนัก เครื่องบรรณาการมีค่าเรียงรายอยู่เต็มห้อง — เหล้าเก่า หีบสมบัติล้ำค่า และภาพเขียนโบราณ

ลูกน้องเหวี่ยงขุนเขาลงบนเตียงขนาดใหญ่ ผ้าปูสีแดงฉานสะท้อนแสงไฟราง ๆ

นายประจิมเดินเข้ามาช้า ๆ

มือหยาบไล้ปลายคางขุนเขาก่อนจะลากลงมายังซอกคอขาว

ขุนเขาสะอิดสะเอียนจนตัวสั่น พยายามเบือนหน้าหนีแต่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้

ประจิมก้มลงไซร้คอขาวเนียนแล้วบรรจงจูบแบบรุนแรง ริมฝีปากหนาเหี้ยมกัดริมฝีปากเขาจนเจ็บแสบ

ขุนเขาสะอื้นฮัก น้ำตาไหลพราก

ทั้งความกลัว ความรังเกียจ และความสิ้นหวังถาโถมจนแทบขาดใจ

นายประจิมเริ่มหัวเสีย มือใหญ่ตบซ้ำอีกครั้งจนเลือดซึมจากมุมปาก

ร่างบางทรุดฮวบลงกับเตียง กุมใบหน้าแน่น

“อย่าดื้อกับกู ไอ้สัด!” เขาคำราม

มือหนากระชากเนคไทของตัวเองออก ก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด

เขาคร่อมร่างขุนเขาไว้เต็มตัว

มือหยาบเริ่มลูบไล้เนื้อตัว ลมหายใจร้อนจัดเป่ารดซอกคอ ขุนเขาสะอื้นจนตัวโยน

ประจิมจับขอบกางเกงของเขา เตรียมจะปลดเปลื้อง

แต่แล้ว…

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงทุบประตูดังสนั่นจนผนังสั่นสะเทือน

ประจิมชะงัก ใบหน้าเหี้ยมแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง

“เหี้ยอะไรวะ?” เขาคำราม ก่อนจะตบหน้าขุนเขาเต็มแรงอีกครั้งแล้วต่อยซ้ำไปที่ท้อง

ขุนเขาร้องโอด ใบหน้าบิดเบี้ยว มือกุมท้องแน่น ร่างงอเป็นกุ้ง น้ำตาไหลพราก

นายประจิมลุกพรวดเตรียมจะเดินไปเปิดประตู

แต่ยังไม่ทันแตะลูกบิด ประตูถูกถีบกระแทกเปิดออก

ชายฉกรรจ์ไม่คุ้นหน้าในชุดดำบุกเข้ามานับสิบ

อาวุธครบมือ แววตาดุดัน

“เห้ย ใครวะ? พวกมึงทำเหี้ยไรของมึง!?”

ประจิมแผดเสียง ท่าทีกราดเกรี้ยว

แต่ชายสองคนพุ่งเข้าประชิด กระชากแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วมัดแน่น

“ปล่อยกูนะเว้ย ไอ้เหี้ย! กูบอกให้ปล่อยยย!”

ชายคมเข้มรูปร่างสูงใหญ่ เดินเข้ามา

ใบหน้าเย็นเฉียบ เสียงต่ำดุดัน

“อยู่นิ่ง ๆ ไอ้เหี้ย ก่อนที่คอมึงจะหลุดจากบ่า”

พูดจบ เขาเหวี่ยงหมัดกระแทกเข้าท้องประจิมเต็มแรง

ประจิมทรุดฮวบลงกับพื้น จุกจนหายใจแทบไม่ออก

ขณะเดียวกัน ชายอีกกลุ่มรีบเข้ามาที่เตียง

หนึ่งในนั้นประคองร่างขุนเขาขึ้นจากเตียงเบา ๆ

“ห..หมอ…พาไปหาหมอหน่อย…”

เสียงแผ่วเบาสั่นเครือของขุนเขาหลุดลอดออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ชายหนุ่มคนนั้นพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอุ้มร่างบางไว้แนบอก

“พาออกไปเดี๋ยวนี้!” เขาสั่งลูกน้องเสียงเข้ม

ขุนเขาถูกอุ้มออกไปจากห้องหรูสีแดงในทันที

ทิ้งไว้เพียงนายประจิมที่ถูกจับกดกับพื้น ใบหน้าเหี้ยมบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและความเจ็บปวด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 17

    เดือนที่ผ่านมา ขุนเขาดูเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ผิวเนียนละเอียด ผ่องขึ้นเหมือนคนสุขภาพดี แววตาก็อ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มหวานแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก็ปรากฏให้คนรอบตัวได้เห็นบ่อยขึ้น ส่วนอาการแพ้ท้องที่เคยทรมานหนักในช่วงเดือนก่อนก็ค่อย ๆ เบาบางลง ขุนเขาดูสดใสและสบายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม่บ้านต่างรักและเอ็นดูดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งหาของเปรี้ยวของหวาน ทั้งพาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พี่ชายอย่างขุนแผนก็ใจเย็นและดูแลน้องเป็นพิเศษ ไม่เคยปล่อยให้น้องเหงาหรือทำอะไรหนักไปมากกว่ายกจานข้าว ดูสิว่าพี่ชายของขุนเขาเวอร์วังสักแค่ไหน สัปดาห์ก่อน ขุนแผนพาขุนเขาไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ที่สุสานประจำตระกูล สองพี่น้องยืนเงียบงันหน้าหลุมศพคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้ขาวสะอาด ขุนเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลง นั่งพับเพียบก้มกราบหลุมศพ น้ำตาเงียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อ…แม่…ผมกลับมาแล้วนะครับ” เสียงขุนเขาเบาแต่สั่น เขายกมือไหว้แนบอก ยังคงพูดกับแผ่นป้ายชื่อที่ตั้งนิ่งตรงหน้า “ผมขอโทษที่หายไปนาน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ผมจะดูแลตัวเอง นี่ลูกของผม เป็นเด็กผู้ชาย…” ร่างบางพูดพลางลูบท้องที่ยื่นออกมา “จะดูแลลูกให้ดี…ไม่ต้องห่ว

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 16

    หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน “ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา” เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม “มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุน

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 15

    — หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง “ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน” ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม “ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา” ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป เช้านั้น ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส “ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม” ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 14

    หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย “กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นท

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 13

    เขื่อนเดินลากเท้าช้า ๆ บนพื้นปูนเก่า ท่ามกลางแดดร้อนจัดของเมืองท่า กลิ่นทะเลเจือควันบุหรี่และน้ำมันเครื่องยังคงแตะจมูกไม่จาง มือหนากำแผ่นพับข้อมูลไว้แน่น ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความกังวล สามวันแล้ว…สามวันที่ขุนเขาหายไปไร้วี่แวว แม้จะส่งเพื่อนออกตามหาแทบพลิกเมือง แต่กลับได้แค่ข่าวร้ายว่า ‘ชัย’ คนที่พาขุนเขาไป ถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว เขื่อนกัดกรามแน่น ใจเหมือนถูกกรีดซ้ำไปมา ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล ในห้องพักฟื้นกว้างขวาง ตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนสีขาวและเทา ร่างบางของขุนเขานอนสงบอยู่บนเตียงสีขาว ผ้าห่มปกคลุมถึงอก ผิวซีดขาวจนดูเปราะบาง ชายรูปร่างสูงโปร่ง 193 เซนติเมตร นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง สูทสีดำสนิทแนบกายเผยเรือนร่างสมส่วน ผมสีเทาเงินเซ็ตเรียบร้อย ตาคมเข้มกริบใต้คิ้วหนา ริมฝีปากบางขยับน้อย ๆ อย่างคนที่มีความอดทนสูง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ “นายครับ มีเอกสารที่ต้องเซ็นครับ” หนึ่งในลูกน้องในชุดดำเอ่ยขึ้นพลางยื่นแฟ้ม ชายสูงใหญ่ปรายตาไปทางลูกน้อง เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบตอบกลับอย่างเฉียบคม “แล้วมันด่วนไหม แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรือไง” ลูกน้องก้มหน้ารับคำทันทีแล้วถอยออกจากห้องอย่า

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 12

    เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ รถตู้สีดำแล่นฉิวไปบนถนนใหญ่ ขุนเขานั่งเบียดชิดกระจก ร่างบางสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบคลอไปด้วยน้ำใส ริมฝีปากเม้มแน่นแต่เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ตึกรามสูงเสียดฟ้า รถราแน่นขนัด ผู้คนเดินขวักไขว่บนฟุตบาท…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะสังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกจับตัว มือแข็งแรงของชายชุดดำคนหนึ่งวางบนต้นแขนเขาแน่น “ร้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร!” เสียงเหี้ยมตวาดดังขึ้น ขุนเขาสะดุ้งสุดตัว ริมฝีปากเม้มแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงสะอื้นยังสะท้านในลำคอแต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ หัวใจบีบแน่น ร่างกายเย็นเฉียบ แม้เสื้อผ้าจะยังเปื้อนทรายและกลิ่นดินปืนจากการปะทะก่อนหน้า เวลาผ่านไป ถนนค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นเส้นทางโล่งและรกเรื้อ ต้นไม้หนาทึบ โอบล้อมถนนเล็กๆ ดั่งอุโมงค์เขียวครึ้ม เสียงนกร้องและแมลงหึ่งเบาๆ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 11

    เขื่อนก้มตัวหลบหลังแผงไม้ไผ่ เสียงกระสุนเฉียดผ่านหูวูบวาบ กลิ่นดินและควันปืนคละคลุ้งเต็มบรรยากาศ ลูกน้องของเขากระจายกำลังตามจุดที่เตรียมไว้ สาดกระสุนโต้กลับอย่างแม่นยำ เรือสปี๊ดโบ้ทของแก๊งประจิมจอดเทียบท่าเร็วราวสายฟ้า พวกมันสวมชุดดำสนิท ใบหน้าโหดเหี้ยมเต็มไปด้วยอาวุธหนัก “ยิง! อย่าให้มันขึ้นฝั่ง!” เขื่อนตะโกนสั่ง เสียงดังฝ่ากระสุน เขาไถลตัวออกจากที่กำบัง เปลี่ยนแม็กกระสุนอย่างรวดเร็ว ก่อนสาดกระสุนชุดใหญ่ใส่ศัตรูที่กำลังพยายามวิ่งขึ้นฝั่ง กระสุนปืนลูกซองจากพวกเขื่อนกระแทกเข้ากับเกราะกันกระสุนของฝ่ายตรงข้าม เสียงโลหะกระทบดังสนั่น เขื่อนกรามแน่น ใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าสถานการณ์นี้มันต้องเกิด แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งของเขื่อนพุ่งเข้ามา “เฮีย! ขุนเขาปลอดภัยครับ ชัยพาไปหลบหลังเกาะแล้ว!” เขื่อนพยักหน้าก่อนตะโกนสั่งเสียงแข็ง “จัดการให้จบเร็วที่สุด! มันจะต้องไม่เหยียบเข้ามาถึงบ้านเราเด็ดขาด!” เสียงปืนดังต่อเนื่อง กลิ่นดินปนควันปืนและไอเค็มของทะเลหลอมรวมเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ เขื่อนกราดสายตามองคู่ต่อสู้ ไม่มีความลังเลในแววตาแม

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 10

    เช้าวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วเบา เขื่อนลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า แขนยังโอบร่างบางของขุนเขาไว้แน่น คนในอ้อมแขนยังคงหลับสนิท ใบหน้าซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา เขื่อนก้มลงมองเสี้ยวหน้าคนรักก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบา เขาแต่งตัวเรียบร้อยและเดินออกจากห้องไปยังห้องรับรองเพื่อประชุมกับเพื่อน วันนี้ เพื่อนสนิททั้งสามคน — เจริญชัย ทิวา และศักดิ์ รวมถึงแม็กซ์ มารออยู่แล้ว เอกสารสัมปทานรังนกที่เตรียมไว้ถูกวางกระจายเต็มโต๊ะ เงื่อนไขใหม่จากกรมทรัพยากรธรรมชาติที่เพิ่งส่งมายังเกาะเมื่อคืนนี้ ถูกเปิดอ่านอย่างเคร่งเครียด “เขื่อน เอกสารนี้มันไม่ชอบมาพากลว่ะ” ศักดิ์พูดเสียงเข้ม เขาผลักแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเพื่อน เขื่อนเลื่อนเอกสารมาตรวจดูอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “สัมปทานชุดใหม่นี้เพิ่มข้อบังคับเรื่องเขตกันชนจากฝั่งเกาะ 15 กิโล ถ้าเรายอมเซ็น… พื้นที่รังนกเราจะหายไปครึ่งหนึ่ง” เจริญชัยอธิบายต่อ น้ำเสียงจริงจัง “มันจงใจบีบเรา” ทิวาเสริม “พวกมันรู้ว่าเราถือหุ้นใหญ่ที่สุด ถ้าถูกบีบแบบนี้ อีกไม่นานราคาสัมปทานจะตก แล้วพวกมันจะย

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 9

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันมานั่งที่โซฟาเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ยามนี้จะดึกมากเพียงใดก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้า ก่อนที่เขื่อนจะออกไปข้างนอก เขาโทรนัดเพื่อนให้มาที่เกาะเพื่อคุยเรื่องสัมปทาน แม้เพื่อนของเขาจะไม่ได้ทำธุรกิจนี้โดยตรง แต่พวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกับเขาอยู่ โชคยังดีที่พวกเขามาทันเวลา หากมาไม่ทัน ร่างขาวตรงหน้าเขาอาจถูกจับตัวไปแล้วก็เป็นได้ เขื่อนหันไปมองคนข้างกายที่ตาปรือเต็มทนแต่ยังไม่ยอมไปนอน มือของทั้งคู่ยังคงประสานกันแน่น สหัสวรรษได้สายตาล้อเลียนจากทิวา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก “ตรวจหน่อยไหม” แม็กซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานโพล่งขึ้นมา เสียงของเขาทำให้เจริญชัย ทิวา ศักดิ์ และเขื่อนหันไปมอง “ตรวจอะไร ร่องรอยลายนิ้วมือพวกมันหรือไง?” ทิวาเอ่ยขึ้น พลางยกน้ำดื่มขึ้นจิบแก้กระหาย แม็กซ์จ้องไปที่ท้องของคนรักเพื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มีเพียงสายตาของเขื่อนที่เริ่มสงสัยและเหลือบมองไปยังท้องของร่างบาง ทว่าก่อนจะทันได้เอ่ยปากถาม ลูกน้องคนสนิทสองคน ชัยและหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนกจนคนเป็นนายรอฟังคำตอบแทบไม่ไหว “นายครับ” ชัยพูดขึ้นพลางหอบห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status