ホーム / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 25

共有

เขื่อนขุนเขา 25

作者: Meithimm
last update 最終更新日: 2025-06-03 23:48:40

โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างห้อง ICU, เวลา 10:15 น.

เสียงสายลมเบาๆ พัดผ่านม่านสีขาวสะอาด ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟานุ่มริมหน้าต่าง แสงแดดยามสายตกต้องบนใบหน้าที่ซีดเซียวแต่ยังคงความอ่อนโยน ร่างเล็กที่พึ่งผ่านการคลอดไม่กี่วัน อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบอก เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูจ้องตาแม่ไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาเหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง

“หนูดูพ่อสิลูก ขี้เซามาก ไม่ยอมตื่นมาเล่นกับเราเลย…”

เสียงอ่อนโยนของขุนเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดพูดไปเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเปล่งออกมาเป็นเสียงอ้อแอ้

“แอ๊ะ… แอ๊ะ…”

ขุนเขาหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอหน่วย เอียงหน้ามาแตะหน้าผากลูกอย่างแผ่วเบา

“ไว้พ่อฟื้น แม่จะพาหนูมาใหม่นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง…”

เขายกมือขึ้นลูบผมนิ่มๆ ของลูก แล้วเงยหน้ามองเตียงคนไข้เบื้องหน้า…

เขื่อน นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องช่วยหายใจยังคงทำงานช้าๆ สม่ำเสมอ สายรัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังพันเต็มร่างกาย สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ก็ยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

ขุนเขากัดปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้

“ด…เดี๋ยวพ่อก็ฟื้น… พ่อจะต้องฟื้น…”

เสียงสั่นเครือเอ่ยออกมาเบาๆ เหมือนสวดมนต์ปลอบใจตนเอง มือเรียวลูบแก้มลูกแล้วกุมมือของเขื่อนเบาๆ

“เราจะรอพ่อนะครับ…”

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 วันก่อน

ภายในห้องพัก ขุนเขานั่งร้องไห้แทบขาดใจบนเตียงหลังจากรู้ความจริงว่าเขื่อนประสบอุบัติเหตุ

“ทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรก! ทำไมพี่ต้องปิดด้วย!”

“ขุนเขา…พี่แค่อยากให้เราพักก่อน เราเพิ่งคลอดนะ พี่กลัว…”

เสียงขุนแผนเจือความสำนึกและห่วงใยน้องชาย แต่ขุนเขากลับสะอื้นจนพูดแทบไม่ได้

“เขื่อน… เขื่อนเคยสัญญาว่าจะจับมือเราตอนคลอด…เขาอยู่ไหน…”

“อยู่ห้องข้างๆ” ขุนแผนยื่นมือไปแตะไหล่น้อง “ถ้าอยากเจอพี่จะพาไป…แต่ต้องอุ้มลูกก่อนนะ เราไม่ยอมอุ้มลูกเลย”

ขุนเขาสะอื้นอีกระลอก ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมไปรับลูกจากแม่บ้าน แล้วเดินตามพี่ชายออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกที่ปะปน ทั้งเจ็บ ทั้งกลัว และเต็มไปด้วยคำถาม

ปัจจุบัน

ขุนแผนเปิดประตูเข้ามา เห็นขุนเขานั่งน้ำตาคลออยู่ปลายเตียงก็ถอนหายใจเงียบๆ ก่อนจะเดินมาแตะไหล่เบาๆ

“ได้เวลาแล้วครับ เราต้องกลับไปพักนะ”

ขุนเขาหันมามองพี่ชายแล้วพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นอุ้มลูกชายไว้แนบอก มองหน้าคนรักเป็นครั้งสุดท้ายในวันนั้น

“เขื่อน…ได้ยินไหม… ลูกเราน่ารักมากเลยนะครับ…”

เสียงเบาราวกระซิบ ก่อนที่ขุนเขาจะเดินออกจากห้องไปอย่างอ่อนแรง แต่ในหัวใจยังมีไฟแห่งความหวังที่ไม่เคยดับลง

โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ, เวลา 09:38 น.

แสงแดดยามเช้าสาดลอดม่านบางๆ เข้ามาในห้องพักผู้ป่วยอย่างอ่อนโยน กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือเบาในอากาศ ขุนเขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ อุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยกำลังหลับปุ๋ย แก้มอิ่มแดงน่าหอม ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาๆ ราวกับฝันดี

ขุนเขาจ้องหน้าคนรักที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง ร่างสูงที่เขาจำได้แม่นยำทุกสัดส่วน แม้จะมีสายและอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมายห้อยรอบตัว แต่สำหรับขุนเขา…นี่คือคนที่เขารักที่สุด

“หนู… พ่อยังไม่ตื่นเลยเนอะ”

“แต่แม่เชื่อ ว่าวันนี้… พ่อจะตื่นแน่ ๆ…”

เขาเอ่ยเสียงเบา ยิ้มทั้งน้ำตา มือเรียวค่อยๆ ลูบหลังมือล่ำของเขื่อนอย่างอ่อนโยน

จังหวะนั้นเอง…

ปลายนิ้วของเขื่อนกระตุกเบาๆ

ดวงตาที่ปิดแน่นมาทั้งสัปดาห์ ค่อยๆ กระพริบขึ้นอย่างช้า ๆ

เสียงเครื่องวัดชีพจรเริ่มดังแหลมขึ้นเล็กน้อยตามจังหวะที่เปลี่ยนไป

ขุนเขาชะงัก หยุดหายใจชั่วขณะเมื่อเห็นเปลือกตาของเขื่อนไหว

“เขื่อน…!” เสียงหลุดออกมาจากลำคอทันที

“เขื่อน! ได้ยินเรามั้ย!?”

เขื่อนค่อยๆ ลืมตา ดวงตาคมที่เคยอบอุ่นยังดูพร่าเบลอ เขากระพริบตาช้าๆ ก่อนจะมองเห็นภาพตรงหน้า

ขุนเขา—นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง ในอ้อมแขนมีทารกตัวเล็กๆ ที่กำลังหลับอย่างสบาย

เขื่อนพยายามขยับปาก และแม้จะไม่มีเสียงออกมาแต่ริมฝีปากของเขาก็ขยับเบาๆ เป็นคำว่า…

“ขุน…เขา…”

ขุนเขาร้องไห้ทันที ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน น้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด

เขารีบยกมืออีกข้างมากุมมือของเขื่อนแน่น ราวกับจะไม่ยอมปล่อยอีกแล้ว

“เขื่อน!! ฮึก… เขื่อนฟื้นแล้วจริง ๆ ฮึก… ขอบคุณนะ… ขอบคุณที่ไม่ทิ้งเราไป…”

เสียงสะอื้นแทบขาดใจของคนเป็นแม่ดังสะท้อนอยู่ในห้องอย่างชัดเจน เขื่อนยังคงกระพริบตาช้าๆ ใช้แรงทั้งหมดพยายามจับมือขุนเขาคืน

เด็กน้อยในอ้อมแขนพลันกระดิกตัวเล็กน้อย ส่งเสียง “แอะ” ออกมาเบาๆ

ขุนเขาเช็ดน้ำตา พลิกตัวลูกให้หันหน้าหาพ่อ

“นี่ลูกเรานะ… ลูกที่พ่อสัญญาว่าจะจับมือตอนแม่คลอด… ฮึก… แม้พ่อจะมาไม่ทัน…แต่ลูกก็รอพ่อฟื้นนะ…”

เขื่อนน้ำตาคลอ ดวงตาที่พร่ามัวของเขาค่อยๆ โฟกัสภาพเบื้องหน้า—คนรัก และลูกชายคนแรกของเขา

ริมฝีปากที่แห้งผากค่อยๆ ขยับยิ้มเบาๆ

แม้จะอ่อนแรง แต่ก็อ่อนโยน…

เหมือนจะบอกว่า “พ่อกลับมาแล้วนะครับ…”

สายลมเย็นพัดอ่อนๆ ผ่านสวนหย่อมหน้าบ้าน เสียงน้ำหยดจากปลายชายคาเป็นจังหวะ แดดอ่อนสาดลงบนระเบียงที่ปูด้วยไม้เก่า ร่างสูงของเขื่อนนั่งพิงเบาะอย่างสบาย มือข้างหนึ่งอุ้มลูกชายตัวน้อยในผ้าห่มลายหมี อีกข้างหนึ่งกำลังใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่พวงแก้มอิ่มของลูกที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนอกพ่อ

เด็กชายอ้อมกอด—ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมใสเริ่มปรือมองโลกด้วยความอยากรู้อยากเห็น จมูกโด่งเล็กคล้ายพ่อแต่โครงหน้ากลมมนแบบแม่ ใครเห็นก็ต้องหลุดยิ้ม

“ลูกเราน่ารักที่สุดเลยเนอะ…”

เขื่อนพูดกับตัวเองเสียงเบา รอยยิ้มเต็มไปด้วยความรักฉายชัดบนใบหน้า

หลังออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เขื่อนเลือกพักฟื้นอยู่ที่บ้านขุนแผน ไม่ใช่แค่เพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงดี…แต่เพราะข้าวของของลูกชาย รวมถึงห้องเลี้ยงเด็กก็อยู่ที่นี่หมดแล้ว

“ไม่อยากให้ลูกไปรื้อบ้านตอนนี้หรอก รอหนูโตกว่านี้ก่อนนะอ้อมกอด…” เขื่อนกระซิบกับลูกเบาๆ

แสงแดดยามเช้าทอดผ่านผ้าม่านสีอ่อน ลูบไล้ลงบนเปลเด็กที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่าง เด็กชายตัวน้อยในวัยสองเดือนนอนขยับแขนขา ดวงตากลมโตกะพริบมองเพดาน ก่อนจะส่งเสียง “อือ อือ” อย่างอารมณ์ดี

บนโซฟา เขื่อนกำลังนั่งพิงหมอน อ้อมแขนประคองลูกชายตัวน้อยแนบอก กลิ่นแป้งเด็กและความอบอุ่นจากตัวลูกทำให้เขายิ้มอย่างเป็นสุข ข้างกายคือขุนเขา ที่ในที่สุดก็กลับมายิ้มได้อีกครั้งหลังผ่านเหตุการณ์มากมาย

“ดูสิ ขากระดิกใหญ่เลย นี่หนูอยากเตะบอลรึเปล่าอ้อมกอด”

เขื่อนพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ พลางหอมแก้มลูกชายซ้ายขวา

ขุนเขานั่งมองภาพตรงหน้า ทั้งหัวใจอ่อนละมุน

“ลูกเราน่ารักจังเลยเนอะ”

เสียงหวานของขุนเขาเอ่ยขึ้น ริมฝีปากแตะเบาๆ ที่หน้าผากลูกชาย

เด็กชายอ้อมกอดเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นตามวัย มือเล็กเริ่มคว้าสิ่งของง่ายๆ ดวงตาเริ่มจับจ้องผู้คน เขายิ้มบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเสียงของพ่อแม่

แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า…

ใต้ความสุขสงบนั้น เคยมีเงาอันตรายมาเยือนถึงหน้าประตู

สองสัปดาห์ก่อน – เวลาตีสอง

ชายในชุดดำลอบย่องเข้ามาทางด้านหลังของบ้าน ราวกับเคยสำรวจเส้นทางมาแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะก้าวถึงบันไดห้องพักของเขื่อน เสียงกระชากสั้นๆ ดังขึ้น

“หยุดตรงนั้น!”

ไฟฉายแรงสูงส่องหน้าคนร้าย พร้อมเสียงฝีเท้าเร่งเข้ามา ชายชุดดำพยายามหนีแต่ไม่พ้น ถูกทีมคุ้มกันของขุนแผนรวบตัวได้ทันควัน

ขุนแผนที่เฝ้าระวังอยู่ไม่ไกลเดินเข้ามาช้าๆ ใบหน้าเย็นเยียบและนิ่งสนิท

“พูดมา…ใครส่งแกมา ถ้าไม่อยากตายเงียบๆ คืนนี้”

คนร้ายกัดฟันแน่น แต่สุดท้ายก็เผยชื่อของนายใหญ่ผู้บงการ—ศัตรูเก่าของขุนแผน ที่หมายจะ “เล่นงานคนสำคัญ” ให้เจ็บแสบที่สุด

หลังจากรวบรวมหลักฐานและขุดประวัติ พบว่าอีกฝ่ายพัวพันกับคดีลักพาตัว ค้าอาวุธ และการฆาตกรรมมานับไม่ถ้วน สุดท้ายตำรวจลงโทษสูงสุด — ประหารชีวิต

ปัจจุบัน

แม้จะอยากบอก แต่ขุนแผนและเขื่อนเลือกที่จะปิดบัง เพื่อไม่ให้ขุนเขาต้องเผชิญความกลัวใดๆ อีก ทั้งคู่เห็นตรงกันว่า…

“ความสงบในครอบครัวสำคัญที่สุด”

ขุนแผนพูดกับเขื่อนในเช้าวันหนึ่ง ขณะยืนมองหลานชายยิ้มเล่นอยู่ในเปล

“ขอบคุณนะ… ถ้าไม่มีคุณ ผมกับลูกอาจไม่รอด”

เขื่อนตอบเบาๆ

“นายมีครอบครัวแล้ว นายต้องอยู่ให้ได้ ฉันจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องนายกับหลานเด็ดขาด”

ขุนแผนตอบเสียงหนักแน่น

เสียงหัวเราะแผ่วๆ ดังขึ้นอีกครั้งในห้องนั่งเล่น ขุนเขาอุ้มลูกไปจุ๊บหน้าผากเบาๆ ขณะที่เขื่อนยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพความทรงจำแสนอบอุ่นเก็บไว้

“เราจะมีรูปเยอะๆ ให้หนูดูตอนโตนะอ้อมกอด”

สวนหลังบ้าน – เวลาบ่ายสามโมงของฤดูใบไม้ผลิ

แดดยามบ่ายลอดผ่านกิ่งไม้สูง ส่องแสงกระทบสนามหญ้าเขียวขจี กลิ่นดินชื้นอ่อนๆ ผสมกลิ่นดอกไม้ที่ปลูกเรียงรายรอบรั้วบ้านสีขาวสองชั้นหลังใหม่—บ้านที่เขื่อนซื้อไว้หลังจากลูกชายครบหนึ่งขวบ เพื่อเริ่มต้นชีวิตในฐานะ “ครอบครัว” อย่างแท้จริง

เสียงหัวเราะสดใสลอยมากับลม

“พ่อ! จับหนูสิ จับหนูสิ!”

เสียงเล็กแหลมร้องลั่นสวนข้างบ้าน ขณะที่เด็กชายอ้อมกอดในวัยสามขวบกำลังวิ่งหนีจากเขื่อนผู้เป็นพ่อที่ไล่ตามอย่างแกล้งๆ

เขื่อนหัวเราะเสียงดัง แสร้งทำเสียง “แฮ่!” ไล่ลูก

ขุนเขานั่งอยู่ไม่ไกล บนผ้าปูปิกนิก เขากำลังทาแยมสตรอว์เบอร์รีลงบนขนมปังช้าๆ สีหน้าผ่อนคลาย ยิ้มกว้างทุกครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะของลูกชายและสามี

“มีความสุขจังเลย…” ขุนเขาคิดในใจขณะมองทั้งสอง

ราวกับเวลาหยุดลงในช่วงวินาทีแห่งความสุขนี้

แต่เพียงชั่วพริบตา…

เสียงหัวเราะนั้นก็สะดุดลง

ตุบ!

เสียงเด็กตัวน้อยล้มลงบนสนามหญ้า เงียบกริบในทันที

ขุนเขาชะงัก เขื่อนหยุดเดิน

ใจทั้งคู่เหมือนหยุดเต้นชั่วขณะ

เด็กชายอ้อมกอดนั่งนิ่ง น้ำตาเริ่มคลอ ดวงหน้ากลมๆ แดงเพราะตกใจ ขาข้างหนึ่งถลอกเล็กน้อย

ขุนเขารีบวางขนมปัง ลุกขึ้นเดินเร็วๆ ไปนั่งยองๆ ข้างเขื่อน ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่ขุนเขาจะยื่นแขนออกและเรียกลูกด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“มานี่สิลูก มาหาแม่กับพ่อมา… ไม่เป็นไรแล้วนะคนเก่ง”

เด็กชายอ้อมกอดเม้มปากแน่นเล็กน้อย ดวงตากลมๆ เริ่มคลอด้วยน้ำตา แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ตะโกนเสียงใส

“พ่อ! แม่!”

เสียงนั้นดังกังวานในสวนเงียบๆ

เป็นครั้งแรก ที่อ้อมกอดพูดคำว่า “พ่อแม่” อย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับวิ่งเข้าหาทั้งสองอย่างสุดแรง

ฟึ่บ!

เด็กชายตัวน้อยพุ่งเข้าสู่อ้อมแขนอุ่นของพ่อและแม่ ขุนเขากับเขื่อนโอบกอดลูกพร้อมกัน มือหนึ่งลูบศีรษะ อีกมือเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่ม

“แม่อยู่นี่นะลูก ไม่เจ็บแล้วนะ”

ขุนเขาพูดเสียงแผ่วพลางหอมหน้าผากลูก

“เก่งมากลูก พ่อภูมิใจในตัวหนูที่สุดเลย”

เขื่อนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งที่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

เด็กชายอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมองพ่อแม่ ยิ้มทั้งน้ำตา

“อ้อมกอดไม่ร้องไห้แล้วครับ! อ้อมกอดมีพ่อกับแม่!”

เขื่อนกับขุนเขากอดลูกแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย

ทั้งสวนอบอวลไปด้วยไออุ่นของความรัก — ความรักที่ไม่ต้องพูดมาก แต่สัมผัสได้ในทุกการกระทำ ทุกอ้อมกอด และทุกคำว่า “ครอบครัว”

เสียงหัวเราะกลับมาดังอีกครั้งในบ่ายวันนั้น

พ่อแม่ลูกนั่งล้อมกันอยู่บนผ้าปิกนิก ขุนเขาป้อนขนมปัง เขื่อนเทน้ำผลไม้ใส่แก้วเล็ก ส่วนอ้อมกอดก็เอาหัวซบไหล่แม่ ยิ้มตาหยีอย่างเป็นสุข

บ้านหลังนี้ สวนแห่งนี้ และช่วงเวลานี้—

จะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

และจะเป็นรากฐานของครอบครัวที่แข็งแรง…จากหัวใจของทุกคนที่รักกันจริง

ปิดจบความรักที่สมบูรณ์ของครอบครัวสหัสวรรษ และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปชั่วนิจนิรันดร์ อ้อมกอดเขื่อนขุนเขา♥️

The novel never ends —by Meithimm

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 25

    โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างห้อง ICU, เวลา 10:15 น. เสียงสายลมเบาๆ พัดผ่านม่านสีขาวสะอาด ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟานุ่มริมหน้าต่าง แสงแดดยามสายตกต้องบนใบหน้าที่ซีดเซียวแต่ยังคงความอ่อนโยน ร่างเล็กที่พึ่งผ่านการคลอดไม่กี่วัน อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบอก เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูจ้องตาแม่ไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาเหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง “หนูดูพ่อสิลูก ขี้เซามาก ไม่ยอมตื่นมาเล่นกับเราเลย…” เสียงอ่อนโยนของขุนเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดพูดไปเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเปล่งออกมาเป็นเสียงอ้อแอ้ “แอ๊ะ… แอ๊ะ…” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอหน่วย เอียงหน้ามาแตะหน้าผากลูกอย่างแผ่วเบา “ไว้พ่อฟื้น แม่จะพาหนูมาใหม่นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง…” เขายกมือขึ้นลูบผมนิ่มๆ ของลูก แล้วเงยหน้ามองเตียงคนไข้เบื้องหน้า… เขื่อน นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องช่วยหายใจยังคงทำงานช้าๆ สม่ำเสมอ สายรัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังพันเต็มร่างกาย สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ก็ยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ขุนเขากัดปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ “ด…เดี๋ยวพ่อก็ฟื้น… พ่อจะต้องฟื้น…” เสียงสั่นเค

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 24

    เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถตำรวจดังแหวกอากาศมาแต่ไกลแสงไฟวูบวาบตัดกับท้องฟ้ายามบ่ายแก่ที่เริ่มขมุกขมัว ผู้คนมุงดูอยู่ริมถนนสายหลักที่ทอดผ่านเขตชานเมือง ตรงบริเวณโค้งลงเขาซึ่งขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งรถ SUV สีดำขลับ พังยับเยินจนเกือบจำเค้าเดิมไม่ได้ ฝากระโปรงยุบย่นกระแทกเข้าไปถึงที่นั่งคนขับ กระจกหน้าแตกละเอียดกระจายเต็มพื้นถนน ล้อหน้าข้างหนึ่งหลุดกลิ้งออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุ กลิ่นน้ำมันและเขม่าควันโชยตลบอบอวลเสียงหวอของเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสานกับเสียงวิทยุสื่อสารตลอดเวลา“เราพบผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถคนเดียวครับ เป็นชาย… อายุประมาณสามสิบต้นๆ หมดสติ มีเลือดออกจากศีรษะและอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง!”เจ้าหน้าที่รีบใช้เครื่องตัดถ่างแงะประตูด้านคนขับที่บิดเบี้ยวอย่างหนัก เสียงเหล็กเสียดสีกันแหลมคมสะท้านเข้าไปถึงหัวใจภาพของเขื่อน—ร่างกายแน่นิ่งคาอยู่กับพวงมาลัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและเศษกระจกเสื้อเชิ้ตสีขาวมีเลือดเปรอะเปื้อน ส่วนอกด้านซ้ายบุบยุบจนน่ากลัว กระจกแตกทิ่มเข้าเนื้อและแขนจนเห็นเนื้อแดงฉาน“ได้ตัวแล้วครับ! เตรียมเปลนิ่มเร็ว!”เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ดังแทรก“ชีพจรยังมี แต่อ่อ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 23

    ย้อนกลับไปในค่ำคืนนั้นที่งานเปิดตัวโรงแรมของเครือขุนเขาเป็นไปด้วยความหรูหรา แขกมากหน้าหลายตาเข้าร่วมงาน ทั้งนักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงดนตรี และแสงแฟลชจากกล้องมากมายขุนเขาในชุดเรียบหรูแบบคนมีฐานะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขื่อนเองก็ไม่ได้แนะนำออกไมโครโฟนอย่างเป็นทางการทว่าทุกคนกลับรู้สึกได้ว่า คนคนนี้พิเศษกับเขื่อน มากและนั่น… คือสิ่งที่สายตาหนึ่งจับจ้องอย่างสนใจจากชั้นสองของโถงจัดงาน มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเข้ม ยืนพิงราวบันไดมองลงมาด้านล่าง ดวงตาคมเฉียบเต็มไปด้วยแววรังสีที่คล้ายกับงูเห่าเมื่อจับเหยื่อไว้ในสายตา“หึ…หน้าคุ้นแปลก ๆ นะ…”“หน้าตาแบบนี้…เหมือนใครบางคนที่กูเคยเห็น…”เขาหยิบมือถือขึ้นมา แอบถ่ายภาพของขุนเขาอย่างแนบเนียน ก่อนจะส่งไปยังเครือข่ายของตนให้สืบข้อมูลทันทีชายคนนั้น หรือที่ผู้คนในวงการใต้ดินรู้จักในนาม “อาคิระ”ชายสัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งในศัตรูเก่าแก่ที่มีคดีขัดผลประโยชน์กับขุนแผนมานานหลายปี เปิดแฟ้มข้อมูลที่เพิ่งได้รับจากสายข่าวภาพใบหน้าของขุนเขาปรากฏชัดเจน พร้อมชื่อเดิม สถานที่เคยอยู่ และ…“…ลูกของไอชา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 22

    ยามค่ำคืนในเพ้นต์เฮ้าส์เงียบสงบ แสงไฟสีอุ่นจากโคมตั้งพื้นทาบทาลงบนโซฟาและพื้นไม้ ขุนเขานั่งพิงอกเขื่อนอยู่บนเตียงกว้าง กลิ่นสบู่จาง ๆ จากร่างกายสะอาดของกันและกันยังลอยอ้อยอิ่งในอากาศ พวกเขานอนคุยกันเรื่อยเปื่อย หัวเราะบ้าง ล้อเล่นกันบ้าง ก่อนที่ความเงียบจะค่อย ๆ ปกคลุมลงทีละน้อย เสียงของเขื่อนดังขึ้นเบา ๆ ราวกลัวจะรบกวนช่วงเวลาสงบตรงหน้า “ขุนเขา… ถ้าวันหนึ่งเราลืมกันไป… ขุนเขาจะยังจำความรู้สึกนี้ได้ไหมครับ” ขุนเขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขื่อน ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก ราวกับว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว “จำได้สิครับ… มันดีมากเลยนะในตอนนี้” เสียงของขุนเขานุ่มนวลแต่หนักแน่น แฝงความมั่นคงอย่างไม่ต้องอธิบาย พูดจบ ขุนเขาก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ ใช้สองแขนโอบกอดเขื่อนเอาไว้แน่นอย่างที่ใจต้องการ หน้าแนบอกอีกฝ่าย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคง เขื่อนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองคนในอ้อมแขน ก่อนจะโน้มตัวลงจูบเบา ๆ บนหน้าผาก สัมผัสนั้นอ่อนโยนนัก เหมือนสัญญา เขื่อนกระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ถ้าไม่เป็นการรบกวน… ถ้าพี่อยากจะขอดูแลขุนเขานับต่อจากนี้… ขุนเขาจะว่าอะไรไหมครับ” ขุนเขาส่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 21

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอุ่นยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล ขุนเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองข้างกาย ที่ตรงนั้น… เขื่อนยังนอนอยู่บนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อดูสงบและผ่อนคลายเหมือนเด็กชายในยามหลับ ขุนเขามองนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว หลังจากลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ขุนเขาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น และพบว่าเขื่อนตื่นแล้ว แถมยังเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย “ตื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเขาทักเสียงเบา “ครับ วันนี้หน้าคุณดูสดใสดีนะ” เขื่อนยิ้มพลางยื่นขนมปังปิ้งให้ “รับรองว่าไม่ไหม้แน่ครับ เพราะผมตั้งใจเฝ้าเตาอย่างดี” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ รับขนมปังมาถือไว้ “ขอบคุณนะครับ” หลังจากนั่งกินข้าวกันอยู่สักพัก ในจังหวะที่บรรยากาศเงียบสงบ เขื่อนก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณขุนเขาครับ…” “ครับ?” “ไปเที่ยวทะเลกับผมไหมครับ?” ขุนเขาชะงักนิดหน่อย มองเขื่อนนิ่งด้วยแววตาแปลกใจ “ผมหมายถึง…แค่สองวันหนึ่งคืนก็ได้ครับ ผมเห็นคุณอยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล คงเบื่อแย่ อยากให้คุณได้ออกไปเจอลม เจอคลื่น เจอท้องฟ้า…ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่ามันไม่สะดวก” ขุนเขานิ่งคิด แต

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 20

    หลังจากที่ทั้งคู่ เขื่อนและขุนเขาไปมาหาสู่กันก็เข้าสัปดาห์ที่3ที่ในชีวิตของขุนเขามีเขื่อนอยู่ด้วย เขาเคยแกล้งถามว่ามาหาตนทุกวันอย่างนี้แล้วงานล่ะใครจะทำ เขื่อนก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็บอกว่ามีคนดูอยู่ ขุนเขาเลยไม่ตื้อไม่อะไร และเดือนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนที่6ของการตั้งครรภ์แล้ว ขุนเขาเริ่มจะทำอะไรไม่สะดวก ไม่ค่อยออกไปไหนเพราะกลัวจะลำบากและรบกวนขุนแผน ภายในบ้านยามบ่าย แดดลอดผ่านผ้าม่านบางเบา ขุนเขานั่งพิงหมอนใบใหญ่บนโซฟา มือหนึ่งลูบท้องกลมเบาๆ อีกข้างถือโทรศัพท์เลื่อนดูรูปอาหารที่อยากกิน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเสียงกริ่งประตูดัง “มาอีกแล้วเหรอครับ” เสียงพูดเหมือนจะบ่น แต่รอยยิ้มกลับแต้มขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เห็นว่าเป็นเขื่อน “ก็คิดถึงนี่ครับ” เขื่อนพูดหยอกล้อและยกถุงขนมและของโปรดของขุนเขาเข้ามา พร้อมกับน้ำผลไม้เย็นจัดในมือ “วันนี้ไม่ต้องมาก็ได้ครับ ผมไม่เป็นไร” ขุนเขาวางโทรศัพท์ลง “ไม่มาไม่ได้ครับ เดี๋ยวลูกงอน” เขื่อนพูดขำๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงข้างๆ อย่างไม่เร่งรัด “จะลูกใครก็ยังไม่รู้เลยนะครับ” ขุนเขาว่าทั้งที่ไม่ได้โกรธ สีหน้ายังมีรอยยิ้มเจือจางอยู่ “ผมไม่ซีเรียสครับ ไม

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status