Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 13

Share

เขื่อนขุนเขา 13

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-09 15:30:43

เขื่อนเดินลากเท้าช้า ๆ บนพื้นปูนเก่า ท่ามกลางแดดร้อนจัดของเมืองท่า กลิ่นทะเลเจือควันบุหรี่และน้ำมันเครื่องยังคงแตะจมูกไม่จาง มือหนากำแผ่นพับข้อมูลไว้แน่น ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความกังวล สามวันแล้ว…สามวันที่ขุนเขาหายไปไร้วี่แวว แม้จะส่งเพื่อนออกตามหาแทบพลิกเมือง แต่กลับได้แค่ข่าวร้ายว่า ‘ชัย’ คนที่พาขุนเขาไป ถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว

เขื่อนกัดกรามแน่น ใจเหมือนถูกกรีดซ้ำไปมา

ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล

ในห้องพักฟื้นกว้างขวาง ตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนสีขาวและเทา ร่างบางของขุนเขานอนสงบอยู่บนเตียงสีขาว ผ้าห่มปกคลุมถึงอก ผิวซีดขาวจนดูเปราะบาง

ชายรูปร่างสูงโปร่ง 193 เซนติเมตร นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง สูทสีดำสนิทแนบกายเผยเรือนร่างสมส่วน ผมสีเทาเงินเซ็ตเรียบร้อย ตาคมเข้มกริบใต้คิ้วหนา ริมฝีปากบางขยับน้อย ๆ อย่างคนที่มีความอดทนสูง

เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ

“นายครับ มีเอกสารที่ต้องเซ็นครับ” หนึ่งในลูกน้องในชุดดำเอ่ยขึ้นพลางยื่นแฟ้ม

ชายสูงใหญ่ปรายตาไปทางลูกน้อง เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบตอบกลับอย่างเฉียบคม

“แล้วมันด่วนไหม แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรือไง”

ลูกน้องก้มหน้ารับคำทันทีแล้วถอยออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ

เสียงหวานครางเบา ๆ ขัดขึ้นกลางความเงียบ

“อื้ออ…”

ขุนเขาขยับศีรษะอย่างเชื่องช้า เปลือกตาบางเปิดขึ้นเผยนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มพร่ามัว ร่างโปร่งกะพริบตาเพื่อปรับโฟกัส ก่อนจะสะดุดสายตาเข้ากับชายแปลกหน้า

เขารีบเอื้อมมือไปกดปุ่มเรียกพยาบาลด้วยสัญชาตญาณ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เสียงอุทานแผ่วเบาก็หลุดออกจากริมฝีปากซีด

“ล…ลูก…”

ขุนเขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าท้องของตัวเอง ดวงตาเบิกกว้าง น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่

ชายร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ เตียง เอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น

“ปลอดภัยครับ”

ขุนเขายกมือขึ้นปิดปาก สะอื้นออกมาอย่างคนที่แบกความกลัวมานานเกินทน ปลอดภัย…ลูกของเขาปลอดภัยแล้วจริง ๆ

ชายผมสีเทาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาที่หางตาขุนเขาเบา ๆ แววตาคมเข้มทอดมองอย่างใจเย็น

“คุณไม่ต้องกลัวอีกแล้ว ผมจะดูแลคุณกับลูกเอง”

ภายในห้องพักฟื้นแสนเงียบสงบ แสงแดดยามบ่ายส่องลอดม่านบางเข้ามาอบอุ่น

ขุนเขายกมือปาดน้ำตา สูดหายใจเข้าลึกอย่างรวบรวมสติ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น

“ขอบคุณนะครับ…ที่ช่วยผมไว้จากไอ้บ้านั่น” นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ ก่อนจะเบนมองไปทางชายร่างสูง “แต่ผมดูแลตัวเองได้นะครับ ไม่ต้องลำบากคุณหรอก”

ชายร่างสูงยืนสงบนิ่ง สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ดวงตาคมจ้องเขาไม่วาง

ขุนเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะถามอย่างระแวง “แล้ว…ทำไมผมถึงถูกมันจับตัวไป? มันเป็นใครกันแน่?”

สีหน้าชายสูงใหญ่นิ่งไปเสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะเดินไปกดเรียกพยาบาลเสียงเรียบ

“เรียกหมอมาคุยหน่อย คนไข้เพิ่งฟื้นแล้วมีอาการหลงลืมบางส่วน”

ไม่นาน หมอหนุ่มในชุดกราวน์ขาวก็เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มในมือ ใบหน้ายิ้มแย้มแต่แววตาจริงจัง

“สวัสดีครับ คุณขุนเขา ผมขอเช็กอาการกับอธิบายอะไรสักหน่อยนะครับ”

หมออธิบายว่า ขุนเขามีภาวะ ‘ความจำเสื่อมเฉพาะบางส่วน’ (Partial retrograde amnesia) อันเกิดจากความกระทบกระเทือนทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ก่อนจะถูกช่วยไว้ ขุนเขาจำไม่ได้เลย นอกจากเรื่องล่าสุดที่ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล

หมอพูดต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“คุณขุนเขาเสี่ยงแท้งหนักมากครับ แต่โชคดีมาก เด็กแข็งแรงมากที่ยังปลอดภัย ผมแนะนำให้นอนพักเยอะ ๆ และอย่าเคลื่อนไหวเยอะจนกว่าครบสามเดือน จะปลอดภัยทั้งแม่และลูก”

ขุนเขากำมือแน่น น้ำตาเอ่อขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้ารับคำเบา ๆ

หลังจากหมอลาออกจากห้องไป บรรยากาศกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ขุนเขาก็เงยหน้ามองชายร่างสูงด้วยแววตาสงสัยอีกครั้ง

“คุณ…เป็นใครกันแน่ครับ ทำไมคุณถึงช่วยผม?”

ชายผมสีเทายืนนิ่ง มองลึกลงไปในดวงตาขุนเขา ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินกลับมานั่งข้างเตียง มือใหญ่เอื้อมไปแตะหลังมือขุนเขาอย่างแผ่วเบา

“พี่ชื่อ ขุนแผน”

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียบง่าย แต่ทุ้มลึกอย่างมีความหมาย

“พี่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของน้อง”

ขุนเขาชะงัก ร่างบางแข็งทื่อ ตากลมเบิกกว้าง น้ำตารื้นขึ้นมาอีกระลอกโดยไม่รู้ตัว

ขุนแผนเล่าช้า ๆ ชัดเจน ทุกถ้อยคำมีน้ำหนักแน่นอน

“น้องโตมาในครอบครัวที่รักเรามาก พ่อแม่ของเราใจดีมาก รักลูกทั้งสองคน พี่ก็รักน้องมากเหมือนกัน…แต่ตอนน้องอายุสามขวบ น้องถูกคนใช้ในบ้านลักพาตัวไป”

เสียงของขุนแผนแผ่วลง

“เราไม่เคยเจอน้องอีกเลย เพราะคนพวกนั้นมีแบ็คใหญ่มาก พ่อกับแม่ตามหาน้องไม่เจอ…จนสองปีก่อน พวกท่านเสีย พี่อยู่คนเดียว พี่คิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีใครให้ตามหาอีกแล้ว”

ดวงตาคมเริ่มพร่าเลือน ริมฝีปากบางสั่นนิด ๆ แต่เขาก็ยิ้มจาง ๆ

“แต่เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา พี่สืบเรื่องแก๊งประจิมใหญ่ ซึ่งมันเกี่ยวพันกับ ‘ลุง’ แท้ ๆ ของเราเอง พี่บังเอิญเจอเบาะแสว่าน้องยังมีชีวิตอยู่ และเคลื่อนไหวในแวดวงนี้…พี่เลยตามหาน้องมาตลอด”

ขุนเขาสะอื้นออกมาอย่างไม่อาย น้ำตาไหลพราก ร่างบางยกแขนขึ้นช้า ๆ

“ขอ…กอดหน่อยได้ไหมครับพี่…”

ขุนแผนยิ้มอ่อน ใช้แขนแกร่งโอบกอดร่างบางอย่างทะนุถนอมที่สุด แม้ขุนเขาจะต้องนอนนิ่ง ๆ ไม่สามารถลุกขึ้นกอดได้เต็มที่ แต่แขนใหญ่ก็ประคองให้น้องรู้ว่าตนปลอดภัยแล้ว

ขุนแผนกระซิบข้างหูอย่างอ่อนโยน “พี่จะดูแลน้องเองต่อจากนี้ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วนะ…”

ขุนเขาพยักหน้าทั้งน้ำตา รอยยิ้มบางแต้มบนริมฝีปาก ร่างบางวางใจอย่างที่สุด

เขาไม่ได้ถามต่อว่าตนท้องกับใคร เขาจำอะไรไม่ได้…จำได้เพียงว่าตนมีลูก และบัดนี้ เขาได้ลืมผู้ชายที่ชื่อ ‘เขื่อน’ ไปหมดแล้ว…

ยามเย็น เมฆหม่นบดบังแสงอาทิตย์ สายลมเย็นจัดพัดผ่านถนนที่เงียบงันราวกับสะท้อนใจคน

เขื่อนเดินลัดเลาะไปตามตรอกซอยและสถานที่ที่เคยได้ยินเบาะแส ทั้งท่าเรือ โรงแรมร้าง ซ่องเก่า ไปจนถึงโกดังริมทางรถไฟ…แต่ทุกที่ล้วนว่างเปล่า ไม่แม้แต่เงาของคนรู้จัก

ยิ่งเวลาผ่านไป ข่าวที่กระพือออกมาก็ทำให้หัวใจเขื่อนหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม

“แก๊งประจิมถูกลอบสังหารยกแก๊ง ศพนับสิบถูกพบในโกดังร้าง สภาพเหี้ยมโหดจนแทบจำไม่ได้”

“หัวหน้าประจิมถูกตัดหัว ทิ้งซากไว้กลางลาน ร่องรอยบ่งชี้ว่าเป็นฝีมือมืออาชีพ และมีอำนาจเหนือกว่าแก๊งนี้หลายเท่า…”

เขื่อนยืนนิ่ง ใบหน้าคมคายซีดเผือด ดวงตาแข็งกร้าวแต่สั่นไหว

มีคนใหญ่กว่าประจิมที่เล่นงานพวกมันได้ขนาดนี้… แล้วขุนเขาล่ะ…? ถ้าเขาถูกพาตัวไปกับขบวนนี้?

ความคิดประดังประเดเข้ามาเหมือนพายุ

จะปลอดภัยไหม… จะเป็นยังไงบ้าง…

ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว ปล่อยกระดุมสองเม็ดบน เผยให้เห็นช่วงไหปลาร้าและแผงอกแน่น กางเกงผ้าทรงสวย รองเท้าหนังขัดมันสะอาด เรียกสายตาผู้คนบนทางเดินอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่สีหน้าเขื่อนที่เคร่งเครียด หน้านิ่งไม่รับแขก ดวงตาคมกริบไม่เหลียวแลใคร ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

เสียงฝีเท้าเร่งขึ้น เขื่อนเดินตรงไปยังบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ย่านธุรกิจ กลิ่นหอมของกาแฟและน้ำหอมผู้บริหารลอยปะทะจาง ๆ เมื่อเขาเดินผ่านโถงต้อนรับและพนักงานหลายคนที่เหลียวมองตาม

ทันทีที่มาถึงหน้าห้องกระจกบานใหญ่ เขื่อนเปิดประตูผลัวะเข้าไปโดยไม่เคาะ

แม็กซ์ เพื่อนสนิทที่นั่งอ่านแฟ้มอยู่ในห้อง เงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจยาว เขาเคยชินกับอาการของเพื่อนคนนี้อยู่แล้ว

“โธ่เว้ย เขื่อน…” แม็กซ์ส่ายหน้าอย่างระอา

เขื่อนปิดประตูแน่น ก่อนเดินตรงไปยังโต๊ะ เตรียมตัวระบายความเครียด เขาคว้าขวดวิสกี้สีน้ำผึ้ง เทเหล้าลงแก้วใส แล้วกระดกอึกใหญ่โดยไม่ลังเล

แม็กซ์มองเพื่อนอย่างเหนื่อยใจ แล้วเอ่ยแซวเสียงนิ่ง “ดื่มให้หมดขวด มึงก็หาไม่เจออยู่ดีนั่นแหละ”

มือที่ถือแก้วหยุดชะงัก นัยน์ตาคมหันขวับ

“หมายความว่าไงวะ แม็กซ์?” เสียงเขื่อนกดต่ำ เย็นจัด

แม็กซ์วางแฟ้มลงบนโต๊ะ เอามือประสานกันพาดโต๊ะแล้วมองหน้าเพื่อนจริงจัง

“แบ็คใหญ่ที่จับตัวขุนเขาไป…มันไม่ใช่พวกกระจอกแบบประจิมแล้วเว้ย”

เขาเว้นจังหวะให้อีกฝ่ายย่อยข้อมูล

“นี่มันคนที่อยู่เหนือกว่าพวกนั้นเยอะ เข้ามืออาชีพ ชัดเจน เป็นงาน สะอาดเรียบร้อย คนแบบนี้ต่อให้พวกเราตามหาทั่วเมือง ยังไงก็หาไม่เจอถ้าเขาไม่อยากให้เจอ”

เขื่อนนิ่งไป ใบหน้าขาวซีดเผือดกว่าเดิม นิ้วมือเรียวยาวที่จับแก้วแน่นจนเส้นเลือดปูด ตาคมเข้มหลุบต่ำ ปิดบังอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในอก

ขุนเขา…

ภาพใบหน้าหวานแสนอ่อนโยนของคนรักแวบเข้ามาในห้วงคิด

อยู่ที่ไหน… เป็นยังไงบ้าง… จะเจ็บไหม จะกลัวไหม…

หัวใจเขื่อนบีบรัดเจ็บแปลบ ริมฝีปากเม้มแน่น

แม็กซ์มองเพื่อนนิ่งก่อนถอนหายใจเบา ๆ

“ใจเย็นหน่อยเขื่อน ถ้าน้องมันยังมีชีวิตอยู่…เดี๋ยวมันต้องส่งสัญญาณมาเอง พวกใหญ่ ๆ พวกนี้ไม่ฆ่าคนทิ้งเปล่า ๆ หรอก” แม็กซ์พูดปลอบเบา ๆ แม้ในใจจะไม่มั่นใจเท่าไหร่

เขื่อนไม่พูดอะไรอีก เขากระดกเหล้าอีกอึกใหญ่ กลืนความเจ็บลงคออย่างทรมาน ดวงตาคมยังจ้องแก้วใสในมือ แต่ใจของเขา…ล่องลอยไปไกล ห่างจากที่นี่นัก

เขาคิดถึงขุนเขาแทบใจจะขาด… และไม่รู้ว่าคนรักอยู่ที่ไหนในโลกกว้างใบนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 17

    เดือนที่ผ่านมา ขุนเขาดูเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ผิวเนียนละเอียด ผ่องขึ้นเหมือนคนสุขภาพดี แววตาก็อ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มหวานแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก็ปรากฏให้คนรอบตัวได้เห็นบ่อยขึ้น ส่วนอาการแพ้ท้องที่เคยทรมานหนักในช่วงเดือนก่อนก็ค่อย ๆ เบาบางลง ขุนเขาดูสดใสและสบายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม่บ้านต่างรักและเอ็นดูดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งหาของเปรี้ยวของหวาน ทั้งพาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พี่ชายอย่างขุนแผนก็ใจเย็นและดูแลน้องเป็นพิเศษ ไม่เคยปล่อยให้น้องเหงาหรือทำอะไรหนักไปมากกว่ายกจานข้าว ดูสิว่าพี่ชายของขุนเขาเวอร์วังสักแค่ไหน สัปดาห์ก่อน ขุนแผนพาขุนเขาไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ที่สุสานประจำตระกูล สองพี่น้องยืนเงียบงันหน้าหลุมศพคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้ขาวสะอาด ขุนเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลง นั่งพับเพียบก้มกราบหลุมศพ น้ำตาเงียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อ…แม่…ผมกลับมาแล้วนะครับ” เสียงขุนเขาเบาแต่สั่น เขายกมือไหว้แนบอก ยังคงพูดกับแผ่นป้ายชื่อที่ตั้งนิ่งตรงหน้า “ผมขอโทษที่หายไปนาน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ผมจะดูแลตัวเอง นี่ลูกของผม เป็นเด็กผู้ชาย…” ร่างบางพูดพลางลูบท้องที่ยื่นออกมา “จะดูแลลูกให้ดี…ไม่ต้องห่ว

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 16

    หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน “ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา” เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม “มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุน

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 15

    — หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง “ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน” ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม “ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา” ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป เช้านั้น ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส “ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม” ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 14

    หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย “กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นท

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 13

    เขื่อนเดินลากเท้าช้า ๆ บนพื้นปูนเก่า ท่ามกลางแดดร้อนจัดของเมืองท่า กลิ่นทะเลเจือควันบุหรี่และน้ำมันเครื่องยังคงแตะจมูกไม่จาง มือหนากำแผ่นพับข้อมูลไว้แน่น ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความกังวล สามวันแล้ว…สามวันที่ขุนเขาหายไปไร้วี่แวว แม้จะส่งเพื่อนออกตามหาแทบพลิกเมือง แต่กลับได้แค่ข่าวร้ายว่า ‘ชัย’ คนที่พาขุนเขาไป ถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว เขื่อนกัดกรามแน่น ใจเหมือนถูกกรีดซ้ำไปมา ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล ในห้องพักฟื้นกว้างขวาง ตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนสีขาวและเทา ร่างบางของขุนเขานอนสงบอยู่บนเตียงสีขาว ผ้าห่มปกคลุมถึงอก ผิวซีดขาวจนดูเปราะบาง ชายรูปร่างสูงโปร่ง 193 เซนติเมตร นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง สูทสีดำสนิทแนบกายเผยเรือนร่างสมส่วน ผมสีเทาเงินเซ็ตเรียบร้อย ตาคมเข้มกริบใต้คิ้วหนา ริมฝีปากบางขยับน้อย ๆ อย่างคนที่มีความอดทนสูง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ “นายครับ มีเอกสารที่ต้องเซ็นครับ” หนึ่งในลูกน้องในชุดดำเอ่ยขึ้นพลางยื่นแฟ้ม ชายสูงใหญ่ปรายตาไปทางลูกน้อง เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบตอบกลับอย่างเฉียบคม “แล้วมันด่วนไหม แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรือไง” ลูกน้องก้มหน้ารับคำทันทีแล้วถอยออกจากห้องอย่า

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 12

    เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ รถตู้สีดำแล่นฉิวไปบนถนนใหญ่ ขุนเขานั่งเบียดชิดกระจก ร่างบางสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบคลอไปด้วยน้ำใส ริมฝีปากเม้มแน่นแต่เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ตึกรามสูงเสียดฟ้า รถราแน่นขนัด ผู้คนเดินขวักไขว่บนฟุตบาท…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะสังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกจับตัว มือแข็งแรงของชายชุดดำคนหนึ่งวางบนต้นแขนเขาแน่น “ร้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร!” เสียงเหี้ยมตวาดดังขึ้น ขุนเขาสะดุ้งสุดตัว ริมฝีปากเม้มแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงสะอื้นยังสะท้านในลำคอแต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ หัวใจบีบแน่น ร่างกายเย็นเฉียบ แม้เสื้อผ้าจะยังเปื้อนทรายและกลิ่นดินปืนจากการปะทะก่อนหน้า เวลาผ่านไป ถนนค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นเส้นทางโล่งและรกเรื้อ ต้นไม้หนาทึบ โอบล้อมถนนเล็กๆ ดั่งอุโมงค์เขียวครึ้ม เสียงนกร้องและแมลงหึ่งเบาๆ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 11

    เขื่อนก้มตัวหลบหลังแผงไม้ไผ่ เสียงกระสุนเฉียดผ่านหูวูบวาบ กลิ่นดินและควันปืนคละคลุ้งเต็มบรรยากาศ ลูกน้องของเขากระจายกำลังตามจุดที่เตรียมไว้ สาดกระสุนโต้กลับอย่างแม่นยำ เรือสปี๊ดโบ้ทของแก๊งประจิมจอดเทียบท่าเร็วราวสายฟ้า พวกมันสวมชุดดำสนิท ใบหน้าโหดเหี้ยมเต็มไปด้วยอาวุธหนัก “ยิง! อย่าให้มันขึ้นฝั่ง!” เขื่อนตะโกนสั่ง เสียงดังฝ่ากระสุน เขาไถลตัวออกจากที่กำบัง เปลี่ยนแม็กกระสุนอย่างรวดเร็ว ก่อนสาดกระสุนชุดใหญ่ใส่ศัตรูที่กำลังพยายามวิ่งขึ้นฝั่ง กระสุนปืนลูกซองจากพวกเขื่อนกระแทกเข้ากับเกราะกันกระสุนของฝ่ายตรงข้าม เสียงโลหะกระทบดังสนั่น เขื่อนกรามแน่น ใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าสถานการณ์นี้มันต้องเกิด แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งของเขื่อนพุ่งเข้ามา “เฮีย! ขุนเขาปลอดภัยครับ ชัยพาไปหลบหลังเกาะแล้ว!” เขื่อนพยักหน้าก่อนตะโกนสั่งเสียงแข็ง “จัดการให้จบเร็วที่สุด! มันจะต้องไม่เหยียบเข้ามาถึงบ้านเราเด็ดขาด!” เสียงปืนดังต่อเนื่อง กลิ่นดินปนควันปืนและไอเค็มของทะเลหลอมรวมเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ เขื่อนกราดสายตามองคู่ต่อสู้ ไม่มีความลังเลในแววตาแม

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 10

    เช้าวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วเบา เขื่อนลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า แขนยังโอบร่างบางของขุนเขาไว้แน่น คนในอ้อมแขนยังคงหลับสนิท ใบหน้าซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา เขื่อนก้มลงมองเสี้ยวหน้าคนรักก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบา เขาแต่งตัวเรียบร้อยและเดินออกจากห้องไปยังห้องรับรองเพื่อประชุมกับเพื่อน วันนี้ เพื่อนสนิททั้งสามคน — เจริญชัย ทิวา และศักดิ์ รวมถึงแม็กซ์ มารออยู่แล้ว เอกสารสัมปทานรังนกที่เตรียมไว้ถูกวางกระจายเต็มโต๊ะ เงื่อนไขใหม่จากกรมทรัพยากรธรรมชาติที่เพิ่งส่งมายังเกาะเมื่อคืนนี้ ถูกเปิดอ่านอย่างเคร่งเครียด “เขื่อน เอกสารนี้มันไม่ชอบมาพากลว่ะ” ศักดิ์พูดเสียงเข้ม เขาผลักแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเพื่อน เขื่อนเลื่อนเอกสารมาตรวจดูอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “สัมปทานชุดใหม่นี้เพิ่มข้อบังคับเรื่องเขตกันชนจากฝั่งเกาะ 15 กิโล ถ้าเรายอมเซ็น… พื้นที่รังนกเราจะหายไปครึ่งหนึ่ง” เจริญชัยอธิบายต่อ น้ำเสียงจริงจัง “มันจงใจบีบเรา” ทิวาเสริม “พวกมันรู้ว่าเราถือหุ้นใหญ่ที่สุด ถ้าถูกบีบแบบนี้ อีกไม่นานราคาสัมปทานจะตก แล้วพวกมันจะย

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 9

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันมานั่งที่โซฟาเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ยามนี้จะดึกมากเพียงใดก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้า ก่อนที่เขื่อนจะออกไปข้างนอก เขาโทรนัดเพื่อนให้มาที่เกาะเพื่อคุยเรื่องสัมปทาน แม้เพื่อนของเขาจะไม่ได้ทำธุรกิจนี้โดยตรง แต่พวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกับเขาอยู่ โชคยังดีที่พวกเขามาทันเวลา หากมาไม่ทัน ร่างขาวตรงหน้าเขาอาจถูกจับตัวไปแล้วก็เป็นได้ เขื่อนหันไปมองคนข้างกายที่ตาปรือเต็มทนแต่ยังไม่ยอมไปนอน มือของทั้งคู่ยังคงประสานกันแน่น สหัสวรรษได้สายตาล้อเลียนจากทิวา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก “ตรวจหน่อยไหม” แม็กซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานโพล่งขึ้นมา เสียงของเขาทำให้เจริญชัย ทิวา ศักดิ์ และเขื่อนหันไปมอง “ตรวจอะไร ร่องรอยลายนิ้วมือพวกมันหรือไง?” ทิวาเอ่ยขึ้น พลางยกน้ำดื่มขึ้นจิบแก้กระหาย แม็กซ์จ้องไปที่ท้องของคนรักเพื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มีเพียงสายตาของเขื่อนที่เริ่มสงสัยและเหลือบมองไปยังท้องของร่างบาง ทว่าก่อนจะทันได้เอ่ยปากถาม ลูกน้องคนสนิทสองคน ชัยและหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนกจนคนเป็นนายรอฟังคำตอบแทบไม่ไหว “นายครับ” ชัยพูดขึ้นพลางหอบห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status