Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 21

Share

เขื่อนขุนเขา 21

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-30 21:58:30

เช้าวันต่อมา แสงแดดอุ่นยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล ขุนเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองข้างกาย ที่ตรงนั้น… เขื่อนยังนอนอยู่บนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อดูสงบและผ่อนคลายเหมือนเด็กชายในยามหลับ ขุนเขามองนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

หลังจากลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ขุนเขาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น และพบว่าเขื่อนตื่นแล้ว แถมยังเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย

“ตื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเขาทักเสียงเบา

“ครับ วันนี้หน้าคุณดูสดใสดีนะ” เขื่อนยิ้มพลางยื่นขนมปังปิ้งให้ “รับรองว่าไม่ไหม้แน่ครับ เพราะผมตั้งใจเฝ้าเตาอย่างดี”

ขุนเขาหัวเราะเบาๆ รับขนมปังมาถือไว้ “ขอบคุณนะครับ”

หลังจากนั่งกินข้าวกันอยู่สักพัก ในจังหวะที่บรรยากาศเงียบสงบ เขื่อนก็เอ่ยขึ้นเบาๆ

“คุณขุนเขาครับ…”

“ครับ?”

“ไปเที่ยวทะเลกับผมไหมครับ?”

ขุนเขาชะงักนิดหน่อย มองเขื่อนนิ่งด้วยแววตาแปลกใจ

“ผมหมายถึง…แค่สองวันหนึ่งคืนก็ได้ครับ ผมเห็นคุณอยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล คงเบื่อแย่ อยากให้คุณได้ออกไปเจอลม เจอคลื่น เจอท้องฟ้า…ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่ามันไม่สะดวก”

ขุนเขานิ่งคิด แต่แววตาเริ่มมีแสงประกายอย่างสนใจ

“อืม… จริงๆ ก็อยากไปเหมือนกันครับ ก่อนที่ท้องจะโตจนไปไหนลำบากกว่านี้” เขายิ้มบางๆ ก่อนถามเบาๆ “แต่ต้องขอพี่แผนก่อนนะครับ”

“เรื่องนั้นผมจัดการเองครับ” เขื่อนรีบพูด ก่อนยกมือขึ้นอย่างมั่นใจ “ผมจะไปคุยกับพี่ชายคุณเอง แล้วจะทำให้เขาไว้ใจว่าผมดูแลคุณได้”

ขุนเขายิ้มขำๆ กับท่าทางมั่นอกมั่นใจของเขื่อน

—––

และในบ่ายวันนั้น ที่ห้องทำงานของขุนแผน

“ขอพาขุนเขาไปเที่ยวทะเลสองวันครับ” เขื่อนพูดตรงไปตรงมาพร้อมน้ำเสียงหนักแน่น

ขุนแผนที่นั่งไขว้ขาพลิกเอกสารในมือช้าๆ “เที่ยว? ตอนนี้เหรอ?”

“ครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลเขาอย่างดี ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง ผมจะไม่พาไปไหนลำบาก ไม่ให้เหนื่อยเกินไปแน่นอน”

ขุนแผนวางเอกสารลงและมองเขื่อนนิ่งนานพอควร ราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่างในใจลึกๆ

“นายชอบน้องฉันเหรอ? และที่ไปเพราะอยากให้เขาจำอะไรเกี่ยวกับนาย?”

คำถามนั้นทำเอาเขื่อนนิ่งไปวูบหนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับโดยไม่ลังเล

“ครับ ผมรักเขา และอยากดูแลเขาในทุกช่วงเวลาที่เหลืออยู่”

“ส่วนเรื่องความทรงจำผมไม่ได้จะกระตุ้นให้เขาจำได้ ผมแค่อยากพาเขาไปผ่อนคลายแค่นั้นเอง”

ขุนแผนถอนหายใจเบาๆ พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วพยักหน้าช้าๆ

“…งั้นไปก็ไป ดูแลดีๆ ล่ะ อย่าให้ฉันได้ยินว่าเขาเหนื่อยหรือเป็นอะไร”

“ขอบคุณมากครับ” เขื่อนยิ้มกว้าง รู้สึกเหมือนได้รับพรจากผู้ปกครองหัวใจขุนเขาโดยไม่ต้องร้องขอ

รถยนต์คันสีเข้มเคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านด้วยความเร็วคงที่ เขื่อนเป็นคนขับโดยมีขุนเขานั่งอยู่เบาะข้าง รัดเข็มขัดเรียบร้อยและสวมหมวกกันแดดใบเล็กบนศีรษะ แว่นกันแดดทรงกลมประดับกรอบหน้าหวานยิ่งทำให้ดูน่ารักขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

“ถ้าเหนื่อยเมื่อไรก็บอกนะครับ เดี๋ยวจอดพักให้” เขื่อนเอ่ยขึ้นพลางหันไปมองนิดหนึ่ง

“ครับ… ขอบคุณนะครับที่พามา” ขุนเขาตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ มือกอดหมอนรองคอไว้บนตัก

รถอีกคันของลูกน้องขุนแผนแล่นตามหลังมาในระยะพอดี ไม่ใกล้เกินไป แต่ก็ไม่ห่างมากพอจะทำให้รู้สึกไม่อุ่นใจ — เขื่อนเองก็เข้าใจดีว่าเขาไม่ได้ไว้ใจได้เต็มร้อยจากขุนแผน แต่ก็ไม่ถือสา เพราะตนเข้าใจหัวอกพี่ชายที่ห่วงน้อง

ระหว่างทางทั้งคู่แวะที่ร้านสะดวกซื้อ เขื่อนลงไปซื้อของว่างกลับมาหลายถุง ขุนเขาหยิบขนมปังรสนมขึ้นมากัดคำเล็กๆ ก่อนยิ้ม

“ของโปรดผมเลยนะครับเนี่ย” เขาว่าพลางยื่นให้เขื่อน “คุณลองไหม”

เขื่อนรับมาชิมคำหนึ่งแล้วพยักหน้า “อร่อยครับ หวานแบบพอดีเลย”

ระหว่างทางยังมีเสียงเพลงคลอเบาๆ ในรถ บางครั้งก็มีบทสนทนาเกี่ยวกับเพลง หนัง หรือเรื่องตลกเล็กน้อยที่เขื่อนแกล้งพูดเพื่อให้ขุนเขาหัวเราะ และมันได้ผลเสมอ

เมื่อถึงจุดพักรถ เขื่อนพาขุนเขาไปเดินยืดเส้นเล็กน้อย ซื้อน้ำเย็นมาให้ดื่ม แล้วพาไปนั่งในจุดที่มีร่มไม้ ทะนุถนอมราวกับปกป้องกลีบกล้วยไม้ที่แสนบอบบาง ขุนเขาเองก็เริ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้นทุกนาที

“ขับต่อไหวไหมครับ?” ขุนเขาถามขณะกำลังหยิบน้ำผลไม้กล่องยื่นให้

“แค่คุณนั่งข้าง ๆ ผมก็ไม่เหนื่อยแล้วครับ” เขื่อนพูดยิ้มๆ ทำเอาขุนเขาอมยิ้มแก้มขึ้นสีเล็กน้อย

หลังจากพักพอหอมปากหอมคอ ทั้งคู่ก็กลับขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมาย — ทะเลที่พวกเขาวางแผนกันไว้

บรรยากาศบนถนนเริ่มเปลี่ยนเป็นต้นไม้ที่เอนไหวตามแรงลม ราวกับกำลังบอกทางไปสู่ความทรงจำใหม่ๆ ที่จะถูกสร้างร่วมกัน

กลิ่นของไอทะเลเริ่มโชยมาแตะปลายจมูกเมื่อล้อรถใกล้แตะขอบชายฝั่ง…

รถยนต์ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ลานจอดของรีสอร์ตริมทะเลชื่อดังแห่งใหม่ “Auralia Breeze” โรงแรมของ ทิวา ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ต้นมะพร้าวเรียงรายรับลมทะเล เสียงคลื่นกระทบฝั่งแผ่วเบาดังลอดมาจากระยะไม่ไกล

เขื่อนดับเครื่องแล้วลงไปเปิดประตูให้ขุนเขาอย่างรู้งาน มือขาวลูบหน้าท้องที่เริ่มกลมขึ้นด้วยความระมัดระวัง ก่อนก้าวลงจากรถช้า ๆ ดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ

“ว้าว… ที่นี่สวยจังครับ” เสียงอุทานของขุนเขาแผ่วเบาแต่เปี่ยมด้วยความรู้สึก

“ชอบไหมครับ? นี่โรงแรมของทิวา เขาเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ผมเลยพาคุณมาอุดหนุนเพื่อนด้วย” เขื่อนพูดยิ้ม ๆ ขณะช่วยหยิบกระเป๋าเดินทาง

“ดีจังครับ… บรรยากาศแบบนี้ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังเลย”

เขื่อนหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดู ก่อนจะพาขุนเขาเข้าไปในล็อบบี้

ล็อบบี้ของโรงแรมตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลโมเดิร์น ผนังไม้โปร่งสีอ่อนรับกับกระจกบานใหญ่ที่เปิดมุมมองให้เห็นทะเลกว้าง ผ้าม่านสีขาวพลิ้วตามแรงลมอ่อน ๆ กลิ่นหอมของดอกไม้สดลอยอบอวลในอากาศ พนักงานรีบเข้ามาต้อนรับอย่างนอบน้อม

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อย พนักงานก็พาทั้งสองไปยังวิลล่าหลังหนึ่งซึ่งอยู่ติดชายหาด

ประตูไม้ถูกเปิดออกเผยให้เห็นห้องพักโปร่งโล่ง พร้อมเตียงใหญ่สีขาวสะอาดที่มองตรงออกไปเห็นทะเลสีคราม ขุนเขาแทบจะเดินไปตรงระเบียงในทันที

“ตรงนี้วิวดีมากเลยครับคุณเขื่อน!” เขาอุทาน ยืนยิ้มอยู่ตรงระเบียงด้วยแววตาเปล่งประกาย “ผมอยากไปเดินเล่นตรงหาดเลยครับ ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึงได้ไหมครับ?”

เขื่อนมองคนตรงหน้าด้วยแววตาอบอุ่น แล้วพยักหน้าช้า ๆ “ได้เลยครับ ผมรออยู่ตรงนี้นะ”

ขุนเขารีบหายเข้าไปในห้องน้ำเล็ก ๆ พร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่เล็ดลอดออกมา เขื่อนมองภาพตรงหน้าแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่า… แค่เห็นขุนเขามีความสุขแบบนี้ หัวใจของเขาก็อุ่นวาบจนแทบล้น

แสงอาทิตย์ยามเย็นทอดเงายาวลงบนผิวน้ำ สีทองอมส้มของท้องฟ้าสะท้อนกับคลื่นทะเลที่ซัดเบา ๆ บนพื้นทราย ขุนเขาเดินเคียงข้างเขื่อนอย่างเงียบ ๆ เท้าเปล่าสัมผัสเม็ดทรายละเอียดทุกก้าว ลมเย็นพัดเส้นผมของเขาให้ปลิวเล็กน้อย มือเรียวจับชายกระโปรงยาวคลุมท้องไว้เบา ๆ

“อากาศดีจังเลยนะครับ” ขุนเขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ แหงนหน้ารับลมทะเลอย่างอารมณ์ดี

เขื่อนพยักหน้า หันไปมองคนข้างกายด้วยสายตาอ่อนโยน “อากาศดี… แล้วก็คนข้าง ๆ ก็น่ารักด้วยครับ”

ขุนเขาหัวเราะเบา ๆ แก้มแดงขึ้นเล็กน้อย “คุณนี่… ปากหวานเกินไปแล้วนะครับ”

ทั้งสองเดินเคียงกันไปเรื่อย ๆ จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เหลือเพียงแสงจันทร์และดวงดาวที่ส่องประกายเหนือน่านน้ำกว้างใหญ่

เมื่อแสงทไวไลต์จางลง เขื่อนจึงพาขุนเขามายังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตกแต่งด้วยโคมไฟลอยฟ้าและโต๊ะไม้เรียงรายไปตามแนวชายหาด บรรยากาศสบาย ๆ และเป็นส่วนตัว

โต๊ะของทั้งคู่ตั้งอยู่ใกล้ริมหาดที่สุด แทบจะสัมผัสคลื่นทะเลได้หากเดินอีกไม่กี่ก้าว ขณะที่ลูกน้องของขุนแผนและเขื่อนนั่งอยู่ที่โต๊ะห่างออกไปเล็กน้อย คอยมองดูจากระยะไกลอย่างเงียบ ๆ

แต่ถึงอย่างนั้น… เขื่อนก็แทบลืมไปเลยว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย

เพราะสายตาของเขา มีเพียงคนที่นั่งตรงข้ามเท่านั้น

ขุนเขา… ยามต้องแสงจันทร์ ดูงดงามจนเขื่อนละสายตาไม่ได้เลยจริง ๆ

ขุนเขายิ้มละมุน พลางยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นจิบช้า ๆ ดวงตาใสช้อนมองเขื่อนก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ร้านนี้โรแมนติกจังนะครับ…”

“คุณกำลังทำให้มันโรแมนติกมากขึ้นอีกครับ” เขื่อนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ขุนเขาหลบตา พลางหัวเราะเบา ๆ เขื่อนรู้ตัวดีว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ กับทุกท่าทางของคนตรงหน้า บางที… การได้ใช้เวลาร่วมกันแบบนี้ อาจจะทำให้ระยะห่างในใจของขุนเขาละลายลงทีละน้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 25 end

    โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างห้อง ICU, เวลา 10:15 น. เสียงสายลมเบาๆ พัดผ่านม่านสีขาวสะอาด ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟานุ่มริมหน้าต่าง แสงแดดยามสายตกต้องบนใบหน้าที่ซีดเซียวแต่ยังคงความอ่อนโยน ร่างเล็กที่พึ่งผ่านการคลอดไม่กี่วัน อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบอก เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูจ้องตาแม่ไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาเหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง “หนูดูพ่อสิลูก ขี้เซามาก ไม่ยอมตื่นมาเล่นกับเราเลย…” เสียงอ่อนโยนของขุนเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดพูดไปเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเปล่งออกมาเป็นเสียงอ้อแอ้ “แอ๊ะ… แอ๊ะ…” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอหน่วย เอียงหน้ามาแตะหน้าผากลูกอย่างแผ่วเบา “ไว้พ่อฟื้น แม่จะพาหนูมาใหม่นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง…” เขายกมือขึ้นลูบผมนิ่มๆ ของลูก แล้วเงยหน้ามองเตียงคนไข้เบื้องหน้า… เขื่อน นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องช่วยหายใจยังคงทำงานช้าๆ สม่ำเสมอ สายรัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังพันเต็มร่างกาย สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ก็ยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ขุนเขากัดปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ “ด…เดี๋ยวพ่อก็ฟื้น… พ่อจะต้องฟื้น…” เสียงสั่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 24

    เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถตำรวจดังแหวกอากาศมาแต่ไกลแสงไฟวูบวาบตัดกับท้องฟ้ายามบ่ายแก่ที่เริ่มขมุกขมัว ผู้คนมุงดูอยู่ริมถนนสายหลักที่ทอดผ่านเขตชานเมือง ตรงบริเวณโค้งลงเขาซึ่งขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งรถ SUV สีดำขลับ พังยับเยินจนเกือบจำเค้าเดิมไม่ได้ ฝากระโปรงยุบย่นกระแทกเข้าไปถึงที่นั่งคนขับ กระจกหน้าแตกละเอียดกระจายเต็มพื้นถนน ล้อหน้าข้างหนึ่งหลุดกลิ้งออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุ กลิ่นน้ำมันและเขม่าควันโชยตลบอบอวลเสียงหวอของเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสานกับเสียงวิทยุสื่อสารตลอดเวลา“เราพบผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถคนเดียวครับ เป็นชาย… อายุประมาณสามสิบต้นๆ หมดสติ มีเลือดออกจากศีรษะและอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง!”เจ้าหน้าที่รีบใช้เครื่องตัดถ่างแงะประตูด้านคนขับที่บิดเบี้ยวอย่างหนัก เสียงเหล็กเสียดสีกันแหลมคมสะท้านเข้าไปถึงหัวใจภาพของเขื่อน—ร่างกายแน่นิ่งคาอยู่กับพวงมาลัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและเศษกระจกเสื้อเชิ้ตสีขาวมีเลือดเปรอะเปื้อน ส่วนอกด้านซ้ายบุบยุบจนน่ากลัว กระจกแตกทิ่มเข้าเนื้อและแขนจนเห็นเนื้อแดงฉาน“ได้ตัวแล้วครับ! เตรียมเปลนิ่มเร็ว!”เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ดังแทรก“ชีพจรยังมี แต่อ่อ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 23

    ย้อนกลับไปในค่ำคืนนั้นที่งานเปิดตัวโรงแรมของเครือขุนเขาเป็นไปด้วยความหรูหรา แขกมากหน้าหลายตาเข้าร่วมงาน ทั้งนักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงดนตรี และแสงแฟลชจากกล้องมากมายขุนเขาในชุดเรียบหรูแบบคนมีฐานะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขื่อนเองก็ไม่ได้แนะนำออกไมโครโฟนอย่างเป็นทางการทว่าทุกคนกลับรู้สึกได้ว่า คนคนนี้พิเศษกับเขื่อน มากและนั่น… คือสิ่งที่สายตาหนึ่งจับจ้องอย่างสนใจจากชั้นสองของโถงจัดงาน มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเข้ม ยืนพิงราวบันไดมองลงมาด้านล่าง ดวงตาคมเฉียบเต็มไปด้วยแววรังสีที่คล้ายกับงูเห่าเมื่อจับเหยื่อไว้ในสายตา“หึ…หน้าคุ้นแปลก ๆ นะ…”“หน้าตาแบบนี้…เหมือนใครบางคนที่กูเคยเห็น…”เขาหยิบมือถือขึ้นมา แอบถ่ายภาพของขุนเขาอย่างแนบเนียน ก่อนจะส่งไปยังเครือข่ายของตนให้สืบข้อมูลทันทีชายคนนั้น หรือที่ผู้คนในวงการใต้ดินรู้จักในนาม “อาคิระ”ชายสัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งในศัตรูเก่าแก่ที่มีคดีขัดผลประโยชน์กับขุนแผนมานานหลายปี เปิดแฟ้มข้อมูลที่เพิ่งได้รับจากสายข่าวภาพใบหน้าของขุนเขาปรากฏชัดเจน พร้อมชื่อเดิม สถานที่เคยอยู่ และ…“…ลูกของไอชา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 22

    ยามค่ำคืนในเพ้นต์เฮ้าส์เงียบสงบ แสงไฟสีอุ่นจากโคมตั้งพื้นทาบทาลงบนโซฟาและพื้นไม้ ขุนเขานั่งพิงอกเขื่อนอยู่บนเตียงกว้าง กลิ่นสบู่จาง ๆ จากร่างกายสะอาดของกันและกันยังลอยอ้อยอิ่งในอากาศ พวกเขานอนคุยกันเรื่อยเปื่อย หัวเราะบ้าง ล้อเล่นกันบ้าง ก่อนที่ความเงียบจะค่อย ๆ ปกคลุมลงทีละน้อย เสียงของเขื่อนดังขึ้นเบา ๆ ราวกลัวจะรบกวนช่วงเวลาสงบตรงหน้า “ขุนเขา… ถ้าวันหนึ่งเราลืมกันไป… ขุนเขาจะยังจำความรู้สึกนี้ได้ไหมครับ” ขุนเขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขื่อน ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก ราวกับว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว “จำได้สิครับ… มันดีมากเลยนะในตอนนี้” เสียงของขุนเขานุ่มนวลแต่หนักแน่น แฝงความมั่นคงอย่างไม่ต้องอธิบาย พูดจบ ขุนเขาก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ ใช้สองแขนโอบกอดเขื่อนเอาไว้แน่นอย่างที่ใจต้องการ หน้าแนบอกอีกฝ่าย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคง เขื่อนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองคนในอ้อมแขน ก่อนจะโน้มตัวลงจูบเบา ๆ บนหน้าผาก สัมผัสนั้นอ่อนโยนนัก เหมือนสัญญา เขื่อนกระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ถ้าไม่เป็นการรบกวน… ถ้าพี่อยากจะขอดูแลขุนเขานับต่อจากนี้… ขุนเขาจะว่าอะไรไหมครับ” ขุนเขาส่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 21

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอุ่นยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล ขุนเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองข้างกาย ที่ตรงนั้น… เขื่อนยังนอนอยู่บนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อดูสงบและผ่อนคลายเหมือนเด็กชายในยามหลับ ขุนเขามองนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว หลังจากลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ขุนเขาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น และพบว่าเขื่อนตื่นแล้ว แถมยังเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย “ตื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเขาทักเสียงเบา “ครับ วันนี้หน้าคุณดูสดใสดีนะ” เขื่อนยิ้มพลางยื่นขนมปังปิ้งให้ “รับรองว่าไม่ไหม้แน่ครับ เพราะผมตั้งใจเฝ้าเตาอย่างดี” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ รับขนมปังมาถือไว้ “ขอบคุณนะครับ” หลังจากนั่งกินข้าวกันอยู่สักพัก ในจังหวะที่บรรยากาศเงียบสงบ เขื่อนก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณขุนเขาครับ…” “ครับ?” “ไปเที่ยวทะเลกับผมไหมครับ?” ขุนเขาชะงักนิดหน่อย มองเขื่อนนิ่งด้วยแววตาแปลกใจ “ผมหมายถึง…แค่สองวันหนึ่งคืนก็ได้ครับ ผมเห็นคุณอยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล คงเบื่อแย่ อยากให้คุณได้ออกไปเจอลม เจอคลื่น เจอท้องฟ้า…ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่ามันไม่สะดวก” ขุนเขานิ่งคิด แต

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 20

    หลังจากที่ทั้งคู่ เขื่อนและขุนเขาไปมาหาสู่กันก็เข้าสัปดาห์ที่3ที่ในชีวิตของขุนเขามีเขื่อนอยู่ด้วย เขาเคยแกล้งถามว่ามาหาตนทุกวันอย่างนี้แล้วงานล่ะใครจะทำ เขื่อนก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็บอกว่ามีคนดูอยู่ ขุนเขาเลยไม่ตื้อไม่อะไร และเดือนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนที่6ของการตั้งครรภ์แล้ว ขุนเขาเริ่มจะทำอะไรไม่สะดวก ไม่ค่อยออกไปไหนเพราะกลัวจะลำบากและรบกวนขุนแผน ภายในบ้านยามบ่าย แดดลอดผ่านผ้าม่านบางเบา ขุนเขานั่งพิงหมอนใบใหญ่บนโซฟา มือหนึ่งลูบท้องกลมเบาๆ อีกข้างถือโทรศัพท์เลื่อนดูรูปอาหารที่อยากกิน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเสียงกริ่งประตูดัง “มาอีกแล้วเหรอครับ” เสียงพูดเหมือนจะบ่น แต่รอยยิ้มกลับแต้มขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เห็นว่าเป็นเขื่อน “ก็คิดถึงนี่ครับ” เขื่อนพูดหยอกล้อและยกถุงขนมและของโปรดของขุนเขาเข้ามา พร้อมกับน้ำผลไม้เย็นจัดในมือ “วันนี้ไม่ต้องมาก็ได้ครับ ผมไม่เป็นไร” ขุนเขาวางโทรศัพท์ลง “ไม่มาไม่ได้ครับ เดี๋ยวลูกงอน” เขื่อนพูดขำๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงข้างๆ อย่างไม่เร่งรัด “จะลูกใครก็ยังไม่รู้เลยนะครับ” ขุนเขาว่าทั้งที่ไม่ได้โกรธ สีหน้ายังมีรอยยิ้มเจือจางอยู่ “ผมไม่ซีเรียสครับ ไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status