Share

บทที่ 9 เจ้าไม่มีวันเข้าใจ

last update Last Updated: 2025-05-17 11:26:05

หุบเขาจอมมาร…

“พี่มู่หลิน!” เสียงใสของไป๋เยี่ยนดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มดีใจ เมื่อเห็นสหายที่คุ้นเคย

“ไป๋เยี่ยน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง มาที่นี่นานแล้วหรือยัง?”

มู่หลินถามพลางจับไหล่นางเบาๆ

ไป๋เยี่ยนถอนหายใจแล้วเล่าเสียงแผ่ว

“ข้ากำลังจะไปแจ้งข่าวกับอาจารย์ของท่าน แต่ระหว่างทางเจอโจรป่า ดีที่องครักษ์ของพี่ใหญ่ช่วยไว้ แต่ว่า...พวกเขากลับจับข้ามาที่นี่แทน”

มู่หลินขมวดคิ้วแน่น ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้น

“ป่านนี้อาจารย์และศิษย์พี่ทั้งหลายต้องเป็นห่วงข้าแล้ว”

สายตาของนางตวัดไปมองไป๋เทียนหลงที่ยืนสงบนิ่งอยู่มุมห้อง ราวกับไร้ความรู้สึก

“ท่านจอมมาร! ท่านจับน้องสาวตนเองมาทำไม? นี่หรือคือหัวใจของพี่ชาย ช่างอำมหิตนัก!”

น้ำเสียงของนางแข็งกร้าว ขณะที่ไป๋เยี่ยนรีบสะกิดแขนมู่หลินเป็นเชิงปราม

ไป๋เทียนหลงมองนางนิ่ง ก่อนจะกล่าวเรียบ ๆ

“ที่ข้าพาเจ้ามารักษาที่นี่ เจ้ากลับว่าข้าอำมหิตหรือ?”

“ใช่! ต่อให้ท่านช่วย แต่ไม่ยอมให้คนติดต่ออาจารย์ข้า ป่านนี้อาจารย์ของข้าต้องตามหาข้าทั่วแล้ว”

มู่หลินกล่าว

ไป๋เทียนหลงแค่นเสียงเย็นชา

“ไม่ต้องห่วง ข้าให้คนไปส่งพวกเจ้าพรุ่งนี้”

ไป๋เยี่ยนลังเลก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา

“พี่ใหญ่... ท่านพ่อสำนึกผิดแล้ว ท่านให้อภัยท่านพ่อได้หรือไม่?”

ไป๋เทียนหลงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนมองไป๋เยี่ยนด้วยสายตาเยือกเย็น มู่หลินสังเกตเห็นว่าภายใต้แววตานั้นแฝงไว้ด้วยความปวดร้าว

“เจ้าไม่เป็นข้า เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจ” เสียงของเขาเย็นเฉียบ ราวกับมีดที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจไป๋เยี่ยน

“และต่อไป อย่าเรียกข้าว่าพี่ใหญ่อีก ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋อีกแล้ว”

ไป๋เยี่ยนตัวสั่น น้ำตาเอ่อคลอ นางพยายามฝืนใจไม่ให้เสียงสั่นไหว

“ไม่เกี่ยวข้อง? แต่ท่านยังใช้ชื่อไป๋เทียนหลง! นี่เรียกว่าตัดขาดแล้วจริงหรือ?”

ไป๋เทียนหลงหลับตาลงเล็กน้อย ก่อนเปิดออกอีกครั้งราวกับตัดสินใจแน่วแน่

“ไป๋เทียนหลง... เป็นชื่อที่ท่านแม่ตั้งให้ เป็นสิ่งเดียวที่ข้าจะรักษาไว้”

“พี่ใหญ่...”

ไป๋เยี่ยนเอื้อมมือไปหาเขา แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงแผ่นหลังที่หันเดินจากไปอย่างเย็นชา

มู่หลินเห็นไป๋เยี่ยนยืนกำมือแน่น น้ำตาร่วงเงียบๆ นางจึงก้าวเข้ามาลูบไหล่ปลอบเบาๆ

“ไป๋เยี่ยน... พอเถอะ ไว้ค่อยเป็นค่อยไป”

ไป๋เทียนหลงไม่หันกลับมาอีกเลย ร่างสูงเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบงัน ทิ้งไว้เพียงความเย็นเยียบของความสัมพันธ์ที่แตกสลาย...

“ไว้เราออกจากที่นี่ได้เมื่อไร เราค่อยมาหาทางแก้ไขเรื่องนี้ไปด้วยกันนะ”

มู่หลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ไป๋เยี่ยนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ

“พี่มู่หลิน… ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าพี่ชายข้าจะกลายเป็นจอมมารอย่างเต็มตัว…จนไม่เหลือความเป็นคน”

มู่หลินยกมือแตะไหล่ของไป๋เยี่ยนเบาๆ ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

“ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อฉุดรั้งพี่ชายของเจ้าไว้ ข้าจะไม่ยอมให้เขาตกสู่ความมืดมิดโดยเด็ดขาด”

ไป๋เยี่ยนเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ท่านกับพี่ชายข้า…รู้จักกันมานานแล้วหรือ”

มู่หลินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มจางๆ ดวงตาของนางฉายแววคิดถึง

“เราเคยพบกันเพียงไม่กี่ครั้ง… แต่ข้ากลับรู้สึกเหมือนผูกพันกับเขาอย่างประหลาดมากเสียจนบางครั้งข้าคิดว่า…เขาอาจเป็นคนรักของข้าในชาติก่อน”

ไป๋เยี่ยนเบิกตากว้าง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ข้าว่า…บางที่นี่อาจเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต ที่ทำให้พี่ทั้งสองได้มาพบกัน…และครองรักกัน”

“ข้าหวังว่าจะช่วยไม่ให้เขาเป็นจอมมารได้สำเร็จ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นโลกนี้ต้องเดือดร้อนเป็นแน่”

เมื่อรุ่งสาง..

"ท่านจอมมารให้ข้ามาพาพวกเจ้าออกจากที่นี่" เฮยเฟิงกล่าวตามคำสั่ง

มู่หลินขมวดคิ้ว นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจ

"แล้วทำไมเขาไม่มาบอกข้าด้วยตนเอง?"

"ท่านจอมมารติดภารกิจ ไม่สามารถมาได้" เ

ฮยเฟิงตอบเรียบๆ ก่อนผายมือเชื้อเชิญ

"พวกเจ้าตามข้ามาเถิด"

มู่หลินเม้มริมฝีปาก ก่อนพึมพำเบาๆ

"ขี้ขลาด... แค่จะมาส่งยังไม่กล้าเลย"

แม้นางจะบ่น แต่นางก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี

ที่มุมหนึ่งของหุบเขา ไป๋เทียนหลงยืนมองเงาร่างของมู่หลินที่ค่อย ๆ ห่างออกไป ลึกลงไปในใจ เขารู้สึกใจหาย แต่นั่นจะสำคัญอันใด?

ระหว่างเขากับนาง… คงเป็นเพียงผลประโยชน์ คนเช่นเขาจะใครจะรักได้อีกเล่า? นอกจากมารดาของเขาที่ไม่อยู่บนโลกใบนี้ สุดท้าย… ปล่อยให้ชะตากำหนดทุกสิ่งก็พอแล้ว

วังจ้าวแห่งจอมมาร...

“จอมมาร ที่พ่อเรียกเจ้ามาเพื่อจะคุยเรื่องนางผู้นั้น ข้าสัมผัสได้ถึงมุกพลังจันทราของนาง”

จ้าวแห่งจอมมารตรัสอย่างสนใจ

“จากที่ข้าสัมผัสได้ นางน่าจะมี มุกพลังจันทรา จริง แต่การจะช่วงชิงมา เกรงว่าจะไม่ง่าย”

จ้าวแห่งจอมมารแสยะยิ้ม นัยน์ตาสีโลหิตเปล่งประกายเย็นเยียบ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงเล่ห์กล

“มุกพลังจันทราไม่ใช่สิ่งที่ใครจะแย่งชิงได้ง่ายๆ เว้นเสียแต่ว่า... เจ้าของจะเต็มใจมอบให้ด้วยความยินดี”

เขาหยุดสายตาไว้ที่ไป๋เทียนหลง มองลึกลงไปในดวงตาของบุตรบุญธรรมราวกับจะมองทะลุถึงหัวใจ

“ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไร?” ไป๋เทียนหลงขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยความสงสัย

จ้าวแห่งจอมมารหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวเสียงเรียบแต่แฝงอำนาจ

“ตัวเจ้าก็มีเสน่ห์ไม่น้อย หากเจ้าทำให้นาง รัก เจ้าแล้วมอบมุกพลังจันทราด้วยความเต็มใจ ก็มิต้องเสียแรงแย่งชิง... เจ้าพร้อมจะร่วมมือกับข้าหรือไม่?”

ไป๋เทียนหลงเม้มปากแน่น ลังเลเพียงครู่เดียว ก่อนจะเอ่ยเสียงหนัก

“ท่านพ่อ... ข้า...”

“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องสมรสกับธิดามาร ข้าสามารถเลื่อนออกไปได้”

จ้าวแห่งจอมมารกล่าวเสียงเย็น

“แต่มีเงื่อนไขสำคัญ เจ้าต้องห้ามหลงรักแม่นางผู้นั้นเป็นอันขาด!”

ไป๋เทียนหลงกำหมัดแน่น ดวงตาแข็งกร้าว

“ไม่มีทางที่ข้าจะมีใจให้ผู้ใด ในชีวิตนี้ ข้าจะไม่มีรัก!”

“ดีมาก”

จ้าวแห่งจอมมารพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยต่อ

“แต่อย่างไรเสีย เจ้าก็ต้องแต่งงานกับธิดามาร เพื่อให้กำเนิดทายาทแห่งมาร เวลาของข้าเหลือไม่มาก... ข้าต้องมั่นใจว่ามารรุ่นต่อไปจะแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้ใด”

ไป๋เทียนหลงก้มศีรษะต่ำ

“ข้าจะพยายาม ท่านพ่อ”

จ้าวแห่งจอมมารยิ้มมุมปาก ก่อนทอดเสียงเรียบ

“นอกจาก มุกพลังจันทรา ที่สามารถทำให้มารเป็นอมตะ ยังมี หอกสวรรค์จันทรา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ ที่จะทำให้ไม่มีเทพหรือมนุษย์หน้าไหนสังหารเจ้าได้”

ไป๋เทียนหลงเงยหน้าขึ้นทันที

“แล้วมันอยู่ที่ใด ท่านพ่อ?”

“หุบเขากระดูกขาว” จ้าวแห่งจอมมารตอบ

“แต่เจ้าต้องพาแม่นางผู้นั้นไปด้วย นางจะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดผนึกหอกสวรรค์จันทรา”

ไป๋เทียนหลงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงของจ้าวแห่งจอมมารจะกดต่ำลง

“...แต่หากเจ้าขัดคำสั่งข้า เจ้ารู้ดีว่าข้าจะทำเยี่ยงไรกับคนทรยศ”

ร่างสูงชะงักงัน ก่อนกล่าวเสียงหนักแน่น

“ข้าไม่มีวันทรยศท่าน! ท่านเป็นผู้ให้ชีวิตแก่ข้า!”

รอยยิ้มพึงพอใจแต้มบนใบหน้าของจ้าวแห่งจอมมาร เขากวักมือเรียก

“มาใกล้พ่อสิ... จอมมารของพ่อ”

ไป๋เทียนหลงก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล จ้าวแห่งจอมมารเสก ยาโอสถสีชาดขึ้นมา ก่อนยื่นให้

“ยาบำรุงพลัง จงกินเสีย”

ไป๋เทียนหลงรับมาอย่างเชื่อฟัง ดื่มลงไปในคราเดียว

เขาไม่เคยสงสัยในตัวจ้าวแห่งจอมมาร เพราะนอกจากแม่ของเขาแล้ว ก็มีเพียงบุรุษตรงหน้าเท่านั้นที่รักและเลี้ยงดูเขามาแต่เด็ก

...แต่หารู้ไม่ว่า ยาที่เขากลืนลงไปนั้นคือ พิษกลืนวิญญาณ

พิษร้ายที่มัดขังดวงจิตของผู้ที่กินเข้าไป หากฝืนคำสั่ง เจ้าของพิษสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะสับสน หลงลืมตัวตน... และสุดท้าย กลายเป็นเพียง หุ่นเชิด ที่ไร้จิตวิญญาณ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 15 พิษร้ายพิษรัก (NC20+)

    ไป๋เทียนหลงพยายามเรียกมู่หลินให้ได้สติ แต่ร่างของนางกลับแน่นิ่ง ดวงตาปิดสนิท ร่างกายเย็นเฉียบ เขาก้มลงมองแผลที่ถูกพิษจากปีศาจงู รอยแผลแดงก่ำและรอบๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้ คือการขับพิษออกไปแต่ที่แห่งนี้... กลับเป็นจุดที่เขาไม่สามารถใช้พลังภายในได้ และไม่มีสมุนไพรใดจะช่วยขับพิษได้เลย สิ่งเดียวที่พอจะเป็นไปได้คืออาศัยพลังหยินหยางเพื่อช่วยนาง"มู่หลิน! เจ้าฟังข้าไหม? ตอบข้าสิ!"ไป๋เทียนหลงเรียกอย่างร้อนรน จนในที่สุดเปลือกตาของนางก็ขยับเล็กน้อย นางฝืนลืมตาขึ้น มองหน้าเขาด้วยสายตาพร่ามัว"ข้ารู้สึกตัว... แต่ข้าเจ็บเหลือเกิน... ทรมานเหลือเกิน..."เสียงของนางแผ่วเบาราวสายลม นางหอบหายใจถี่ร่างกายสั่นสะท้านจากพิษที่กัดกินเข้าไปในกระแสเลือด"อดทนไว้! ข้าจะช่วยเจ้า อย่ากลัว ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย!""ที่นี่ใช้พลังปราณไม่ได้... ไม่มียาถอนพิษ... แล้วเจ้าจะช่วยข้าได้อย่างไร?"มู่หลินเอ่ยด้วยความอ่อนแรง แววตาของนางสะท้อนความสิ้นหวัง"ข้าไม่รอดแล้ว ไป๋เทียนหลง... เจ้าทิ้งข้าไว้ที่นี่เถอะ ปล่อยข้าไป""หยุดพูด! ข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า!"ไป๋เทียนหลงตวาดเสียงเข้ม ดวงตาของเขาสั

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 14 อย่าแตะต้องผู้ชายของข้า

    หุบเขาอสรพิษเต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ทั้งพืชมีพิษและไม่มีพิษ แต่ที่น่าหวาดหวั่นที่สุดคือเถาวัลย์กินคน หากมันพันร่างเหยื่อเมื่อใด มันจะค่อยๆ เลื้อยเข้าไปในปาก แล้วดูดกลืนพลังชีวิต สูบฉีดเอาหัวใจของเหยื่อเป็นอาหาร ทว่าโชคดี... คืนนี้พวกเขาทุกคนรอดพ้นมาได้รุ่งอรุณมาเยือน ทุกคนตื่นเตรียมพร้อมออกเดินทาง กว่าพวกเขาจะพ้นจากหุบเขานี้ได้ ต้องใช้เวลาอีกสองวัน เส้นทางข้างหน้าผ่านถ้ำคับแคบ เต็มไปด้วยอันตรายมู่หลินปรายตามองไป๋เทียนหลงก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“ท่านเคยคิดไหม ว่าวันหนึ่งจอมมารเช่นท่านจะต้องมาใช้ชีวิตอย่างคนไร้พลังเวทเช่นนี้”ไป๋เทียนหลงหัวเราะเบาๆ ดวงตาคมลึกจับจ้อง มู่หลินอย่างมีนัย“ข้าไม่เคยนึกเลย ว่าวันหนึ่งจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้… แต่ข้ากลับรู้สึกดีที่มีเจ้าร่วมเดินเคียงข้าง”คำพูดนั้นทำเอาหัวใจของมู่หลินสะดุดไปชั่วขณะ นางหลบตาก่อนจะเอ่ยเสียงขุ่นกลบเกลื่อนความรู้สึกที่ตีรวนในอก“นี่ท่านกำลังจะเกี้ยวข้าใช่หรือไม่?”ไป๋เทียนหลงเลิกคิ้วเล็กน้อย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายบนริมฝีปาก“ถ้าข้าบอกว่าใช่... เจ้าจะว่ายังไง?”มู่หลินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง “รีบเดินเถอะ ศิษ

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 13 ด่านหุบเขาอสรพิษ

    เหล่าบุรุษขะมักเขม้นกับการนำท่อนไม้มาผูกด้วยเถาวัลย์ เสียงเชือกเสียดสีกันดังเป็นจังหวะเมื่อพวกเขาโยงมันเข้าด้วยกันเพื่อสร้างแพข้ามแม่น้ำอันกว้างใหญ่ทุกคนต่างรู้ดีว่าเมื่อข้ามแม่น้ำไปยัง "หุบเขาอสรพิษ" แล้วจะไม่สามารถใช้พลังใด ๆ ได้ การอยู่รอดที่นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถเพียงอย่างเดียว“ข้าคิดว่าแข็งแรงพอแล้ว เชิญทุกคนขึ้นแพได้”เซียวหานเอื้อมมือออกไปให้ทุกคนจับเพื่อขึ้นแพด้วยท่าทีสุภาพและอบอุ่น“ขอบคุณเจ้าค่ะศิษย์พี่” เหล่าสตรีๆ กล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้มบาง ก่อนก้าวขึ้นไปอย่างระมัดระวังแต่เมื่อเซียวหานลืมตัว ยื่นมือให้ไป๋เทียนหลงตามมารยาท กลับถูกเมินราวกับอากาศ ไป๋เทียนหลงก้าวขึ้นแพโดยไม่แม้แต่จะหันมามองเขา สายตาของทั้งสองเย็นชาต่อกันเหล่าสตรี ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่“พร้อมเดินทาง ทุกคนระวังตัวด้วย”เซียวหานกล่าวเตือนก่อนโอบไหล่ซิวเหยาเบาๆ ราวกับให้กำลังใจทั้งสองสบตากันเพียงชั่วขณะ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา แต่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่ามีใจให้กัน เพียงแค่ยังไม่มีใครกล้าสารภาพ“พี่ใหญ่ ข้างหน้าเราจะเจออะไรบ้าง ข้าไม่เคยออกเดินทางแบบนี้”ไป๋เยี่ยนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนหว

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 12 เจ้าคิดว่าข้าชอบเจ้า

    ท่ามกลางป่าใหญ่ในหุบเขาหมอกมายา หลังจากที่ทุกคนเพิ่งเผชิญหน้ากับความเป็นความตายมาแล้ว บัดนี้ทุกอย่างสงบลง แต่ละคนต่างเลือกที่พักเพื่อเตรียมออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น"เมื่อครู่เจ้ากลัวหรือไม่...มู่หลิน?"ไป๋เทียนหลงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความห่วงใย สายตาคมลึกมองนางอย่างต้องการคำตอบจากใจจริง"ข้าไม่กลัวหรอก ข้ารู้ว่าท่านจัดการได้"นางตอบกลับอย่างมั่นใจ ดวงตาเปล่งประกายศรัทธาในตัวเขาไป๋เทียนหลงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย"ทำไมเจ้าถึงอยากช่วยข้า?""ข้ารู้สึกว่าท่านเป็นเพียงมนุษย์ผู้หนึ่งที่ถูกจ้าวแห่งมารหลอกใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อเป็นตัวแทนขึ้นครองบัลลังก์มาร "ไป๋เทียนหลงหัวเราะเบา ๆ แววตาฉายความซับซ้อนบางอย่าง"ข้าอาจจะอยากเป็นจอมมาร มีพลังอำนาจเหนือสิ่งใดก็ได้""ข้าว่าท่านคงไม่ทำเช่นนั้นหรอก ข้ารู้ดี"นางยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเขาไป๋เทียนหลงพยักหน้าเบา ๆ แต่ในแววตาคล้ายมีบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่เปิดเผย เขาเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่อยู่ข้างหลังนาง"เจ้าอย่าขยับ!" เขาสั่งเสียงเข้ม ก่อนพุ่งเข้ามาบังนางจากบางสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 11 หุบเขาหมอกมายา

    การเดินทางสู่หุบเขากระดูกขาวเริ่มต้นขึ้น ทันทีที่ทั้งสี่คนลงมาถึงตีนเขา มู่หลินมองไปยังเส้นทางข้างหน้าก่อนเอ่ยเตือนทุกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง“การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย เราจะต้องผ่านด่านมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ด่านหุบหมอกมายา ด่านหุบเขาอสรพิษ ด่านหุบเขาเทพ และผ่านอีกหลายด่านกว่าจะถึง หุบเขากระดูกขาว ทุกเส้นทางล้วนท้าทายมีบททนสอบและเสี่ยงตาย ขอให้ทุกคนระวังตัวให้ดี”“เข้าใจแล้ว ข้าจะระวังตัว”เสียงตอบรับดังขึ้นอย่างมั่นใจ แต่นั่นกลับเป็นเสียงของบุรุษที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกเขามู่หลินเบิกตากว้าง หันขวับไปมองต้นเสียง เช่นเดียวกับเซียวหานและซิวเหยาที่เตรียมชักกระบี่ออกมา“ไป๋เทียนหลง!?”ดวงตาของมู่หลินฉายแววประหลาดใจ ก่อนเปลี่ยนเป็นความยินดีอย่างเห็นได้ชัด“ท่านมาได้อย่างไร?”นางทักทายเขาพร้อมกับแนะนำเขาให้ศิษย์พี่ของนางได้รู้จัก“ศิษย์พี่ทั้งสอง นี่คือไป๋เทียนหลงที่ข้าเคยเล่าให้ฟัง”เซียวหานยังคงจ้องเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ส่วนซิวเหยานั้นแทบจะพุ่งเข้าหาด้วยความเข้าใจผิด หากมู่หลินไม่เอ่ยเตือนเสียก่อนไป๋เทียนหลงพยักหน้าทักทายพวกเขา ก่อนเอ่ยแนะนำชายร่างสูงในอาภรณ์สีดำที่ยืนอยู่ข้างหลัง“

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 10 ภารกิจที่ยิ่งใหญ่

    ณ เขาไท่ซวน...ทุกคนร้อนใจถึงการหายตัวไปของมู่หลิน จึงกระจายกำลังกันค้นหาอย่างเร่งรีบ ทว่า..."อาจารย์ ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ!"เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ทำให้ทุกคนชะงักหันไปมองนักพรตอี้เซียนหันขวับ สีหน้าเคร่งเครียดทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง"มู่หลิน! เจ้าไปที่ใดมา?! ทำไม...!"สีหน้าของนักพรตเปลี่ยนไปทันที ดวงตาเฉียบคมจับจ้องมู่หลินอย่างไม่ละสายตา พลังอันดำมืดบางอย่างแผ่ซ่านออกมาจากตัวศิษย์หญิงของเขามู่หลินชะงักไปเล็กน้อย มองอาจารย์ด้วยความสงสัย"อาจารย์ อะไรกันหรือเจ้าคะ?""กลิ่นอายมาร... ทำไมทั่วทั้งตัวเจ้าถึงมีพลังมารที่รุนแรงเช่นนี้?! เจ้าไปที่ใดมา?! ตอบข้าบัดเดี๋ยวนี้!!" นักพรตอี้เซียนเสียงเข้มกว่าปกติมู่หลินกัดริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะตอบ"ข้าถูกจอมมารจับตัวไป... ที่หุบเขาจอมมาร..."บรรยากาศเงียบงันลงทันที"เจ้าว่าอะไรนะ?!"แววตาของนักพรตฉายความตกใจปนระแวดระวัง เขาจ้องมองศิษย์ของตนราวกับกำลังมองหาความผิดปกติบางอย่าง"นี่เป็นเรื่องใหญ่! ทำไมพวกเขาถึงปล่อยเจ้ากลับมา?!"มู่หลินเม้มริมฝีปาก นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ "ข้า... ข้าเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ"นักพรตอี้เซียนสูดหายใจลึก สี

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 9 เจ้าไม่มีวันเข้าใจ

    หุบเขาจอมมาร…“พี่มู่หลิน!” เสียงใสของไป๋เยี่ยนดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มดีใจ เมื่อเห็นสหายที่คุ้นเคย“ไป๋เยี่ยน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง มาที่นี่นานแล้วหรือยัง?”มู่หลินถามพลางจับไหล่นางเบาๆไป๋เยี่ยนถอนหายใจแล้วเล่าเสียงแผ่ว“ข้ากำลังจะไปแจ้งข่าวกับอาจารย์ของท่าน แต่ระหว่างทางเจอโจรป่า ดีที่องครักษ์ของพี่ใหญ่ช่วยไว้ แต่ว่า...พวกเขากลับจับข้ามาที่นี่แทน”มู่หลินขมวดคิ้วแน่น ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้น“ป่านนี้อาจารย์และศิษย์พี่ทั้งหลายต้องเป็นห่วงข้าแล้ว”สายตาของนางตวัดไปมองไป๋เทียนหลงที่ยืนสงบนิ่งอยู่มุมห้อง ราวกับไร้ความรู้สึก“ท่านจอมมาร! ท่านจับน้องสาวตนเองมาทำไม? นี่หรือคือหัวใจของพี่ชาย ช่างอำมหิตนัก!”น้ำเสียงของนางแข็งกร้าว ขณะที่ไป๋เยี่ยนรีบสะกิดแขนมู่หลินเป็นเชิงปรามไป๋เทียนหลงมองนางนิ่ง ก่อนจะกล่าวเรียบ ๆ“ที่ข้าพาเจ้ามารักษาที่นี่ เจ้ากลับว่าข้าอำมหิตหรือ?”“ใช่! ต่อให้ท่านช่วย แต่ไม่ยอมให้คนติดต่ออาจารย์ข้า ป่านนี้อาจารย์ของข้าต้องตามหาข้าทั่วแล้ว”มู่หลินกล่าวไป๋เทียนหลงแค่นเสียงเย็นชา“ไม่ต้องห่วง ข้าให้คนไปส่งพวกเจ้าพรุ่งนี้”ไป๋เยี่ยนลังเลก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา“พี่ใหญ่... ท่านพ่

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 8 เจ้าหึงข้ารึ..

    หุบเขาจอมมาร…“นี่ท่านจับข้ามาขังไว้ที่นี่เป็นเวลาสามวันแล้วนะ! ถ้าพี่ใหญ่ข้ารู้เรื่องนี้ ท่านจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่!” ไป๋เยี่ยนจ้องเขม็งไปยังบุรุษชุดดำตรงหน้าเฮยเฟิง องครักษ์ผู้ภักดีแห่งจอมมาร กลับยิ้มมุมปากอย่างใจเย็น เขาชื่นชมหญิงสาวตรงหน้าที่โกรธจนแก้มแดงเรื่อ ทว่ายิ่งเธอขัดขืน ความน่าเอ็นดูก็ยิ่งเพิ่มขึ้น“นี่เจ้ายังไม่รู้หรือ ว่าข้าได้แจ้งเรื่องนี้กับท่านจอมมารแล้ว และท่านจอมมารเองก็สั่งให้ข้าจัดการกับเจ้าเช่นนี้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“อย่าให้ข้าออกไปได้เชียว! ข้าจะไปฟ้องพี่มู่หลินให้มาจัดการเจ้า!” ไป๋เยี่ยนกัดฟันกล่าวอย่างขุ่นเคือง ดวงตาเป็นประกายโกรธจัดเฮยเฟิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเธอ“พี่มู่หลินของเจ้า ป่านนี้... ท่านจอมมารของข้าคงกำลังทำให้เขามีความสุขไปแล้ว....คงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้แล้ว”ไป๋เยี่ยนชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?! ข้าจะไปหาพี่มู่หลิน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ องครักษ์บ้า!”เฮยเฟิงยืนกอดอก มองหญิงสาวที่ดิ้นรนอย่างขบขัน“ท่านจอมมารมอบหมายให้ข้าดูแลเจ้า หากขัดใจข้า ข้าสามารถ 'จัดการ' ได้ทันที” เขาเน้นคำสุดท้ายชัดถ้อย

  • เงารักแห่งจันทรา: สักวันข้าจะกลับมารักท่าน   บทที่ 7 อย่าคิดล่วงเกินข้า

    หุบเขาจอมมาร…ม่านหมอกจางลอยเหนือหุบเขาจอมมาร ฟ้าถูกบดบังด้วยเงาเมฆครึ้ม แสงจันทร์ส่องประกายลงมายังกลางหุบเขา ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงสตรีร่างบางระหงนอนอยู่บนแท่นบรรทมของจอมมาร แก้มขาวซีดของนางดูอ่อนแรง แต่ยังคงความมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างประหลาดไป๋เทียนหลงนั่งมองนางนิ่งนาน แววตาคมกริบของเขาฉายแววสับสน เหตุใดกัน…เหตุใดเขาจึงรู้สึกผูกพันกับนางลึกล้ำถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากเห็นนางเจ็บปวดทันใดนั้น มู่หลินกระอักเลือดออกมา สีแดงเข้มไหลเปรอะริมฝีปาก“มู่หลิน เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง เจ็บตรงไหน บอกข้า” น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“เจ้าช่วยข้าไว้ทำไม…” นางเอ่ยเสียงแผ่ว“…ใยไม่ฆ่าข้าให้ตายเสียตั้งแต่ที่จวนนั้นเลย พาข้ามาที่นี่ทำไม”ไป๋เทียนหลงนิ่ง ดวงตาฉายแววสำนึกผิด เขาเอื้อมมือไปหมายจะเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของนาง แต่มู่หลินเบือนหน้าหนี“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเจ้า ข้าขอโทษ”“จอมมารเช่นเจ้ามีคำขอโทษด้วยรึ ข้าขันนัก”นางแค่นหัวเราะแม้ร่างกายจะอ่อนแรงเขาถอนหายใจแผ่วเบา“ข้าไม่อยากทะเลาะกับเจ้า หายดีเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน เจ้ากินยาก่อน”ไป๋เทียนหลงยื่นยาถ้วยหนึ่งให้นาง แต่มู่หลินสะบั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status