Beranda / รักโบราณ / เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว / ๔ ของฝากที่ข้าไม่ต้องการ

Share

๔ ของฝากที่ข้าไม่ต้องการ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-26 15:18:39

ของฝากที่ข้าไม่ต้องการ

ณ หน้าห้องรับแขกของพรรคมารป๋ายหลงในเช้าวันต่อมา ลี่จูเอ่ยเสียงเย็นเมื่อเห็นของขวัญที่หลางยีบอกว่าจะมอบให้นาง

“เจี่ยเจียรู้แล้ว เหตุใดของชิ้นนี้ถึงฝากมากับเจี่ยเจียไม่ได้ รั้นจะต้องให้ในวันนี้เท่านั้น”

เมื่อวานนี้ก่อนกลับพรรคมารป๋ายหลง หลางยีบอกข้าว่ามีของฝากจะมอบให้ท่านพ่อ แต่ของฝากที่ว่าจะเดินทางมาถึงอีกทีวันพรุ่งนี้

น้ำเสียง สีหน้า แววตาของเขาทำให้ข้าต้องห้ามความสงสัยของตัวเองเอาไว้

เมื่อคืนก็คิด คาดเดาไปว่าเขาจะมอบสิ่งใดให้จนเหนื่อยคิดแล้วนอนหลับไปเอง

ไม่คิดว่าเมื่อตื่นนอนตอนเช้ามาแล้วจะเห็นของขวัญชิ้นนั้นมานั่งอยู่ต่อหน้า

“เพราะว่าเป็นสตรีใช่หรือไม่ขอรับ”

“ใช่! ถ้าฝากมาตั้งแต่เมื่อวานนี้…” ข้าก็คงปฏิเสธที่จะรับ พร้อมสะกัดทุกช่องทางไปแล้ว

ข้าระบายความโกรธด้วยการกำผ้าเช็ดหน้าในมือไว้แน่น ลี่หลานเห็นเช่นนั้นก็ยื่นมือมาจับมือข้าเอาไว้

หนึ่งเพื่อห้ามไม่ให้ข้าประทุษร้ายผ้าเช็ดหน้าจนตัวเองเจ็บมือ สองให้ข้าทำใจเย็น ๆ ไม่ให้เดือดดาลในการกระทำของหลางยีจนคุมตัวเองไม่ได้ เช่น เดินเข้าไปในห้องรับแขกแล้วดึงของฝากออกมาจากนอกห้อง

“เจี่ยเจียนิ่งไว้นะขอรับ แอบมองอยู่ตรงนี้ไปก่อนขอรับ ใจเย็น ๆ”

ใช่! เราสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในห้องรับแขกจึงได้แอบมองอยู่ตรงนี้

“เจี่ยเจียจะพยายาม”

ลี่หลานลอบถอนหายใจ เพราะแบบนั้นข้าจึงทราบว่าเขาก็กลัวใจข้าเช่นกัน

“แม่นางคือญาติของหลางยีเช่นนั้นหรือ”

ท่านพ่อมองหน้าสาวงามที่ดูแล้วอายุมากกว่าข้าหลายปีด้วยสีหน้าไม่บอกอารมณ์ว่าชอบหรือไม่ชอบ

ที่ข้ากำหนดคำว่า ‘ชอบหรือไม่ชอบ’ เพราะตั้งแต่ที่ ‘ของฝาก’ ก้าวเข้ามาในห้องรับแขก นางก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มาเยือนให้ข้ารู้

‘ข้าคือของฝากที่หลางยีตี้ตี่ตั้งใจมอบให้ท่านประมุขลี่หลง ต่อจากนี้ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณหนูแล้ว’

เพียงแค่นึกถึงคำพูดของนางก่อนหน้านี้ ข้าก็แทบอยากจะฉีกผ้าเช็ดหน้าในมือให้ขาดเป็นชิ้น ๆ

อีกอย่างนางเอาอะไรมามั่นหน้ามั่นโหนกกล่าวทำนองว่าท่านพ่อจะแต่งนางเข้าจวนแน่ ๆ ถ้าฝันกลางวันอยู่ ข้าจะทำให้ฝันกลางคืนด้วย

ท่านแม่ข้าเพิ่งตายไปหกเดือนเท่านั้น คนอื่นอย่าได้หวังมาแทนที่ท่านแม่ในเร็ววัน

“ใช่เจ้าค่ะท่านประมุข นับกันตามศักดิ์แล้วข้าคืออาของเขา แต่เรียกกันพี่สาวน้องชาย ตอนนี้ข้าไร้พันธะหมั้นหมายกับชายใด พร้อมเป็นเจ้าสาวเจ้าค่ะ”

ช่างเป็นสาวเทื้อที่ขายตัวเองเก่งเหลือเกิน ไม่หมายปองหนุ่มบ้านอื่นแต่หมายปองท่านพ่อ

“อ้อ เป็นเช่นนี้”

ข้ามุ่นคิ้วให้กับคำพูดของท่านพ่อ เผลอยื่นมือไปบีบแขนน้องชายพร้อมจิกเล็บลงไปด้วย

“เสี่ยวตี้ เหตุใดท่านพ่อตอบรับแบบนี้ เหตุใดท่านพ่อไม่ไล่นางกลับไป”

“เจี่ยเจีย ใจเย็น ๆ ขอรับ”

ลี่หลานยอมให้ข้าจิกเล็บลงบนแขนของเขาเพราะเขารู้ดีว่าจุดเดือดของข้าอยู่ที่ท่านพ่อ

“ให้เย็นไหวหรือ คนหนึ่งไม่ปฏิเสธอีกคนก็เต็มใจ”

“รอดูก่อนขอรับ ท่านพ่อแค่อยากรักษาหน้านางเท่านั้น อย่างไรก็มาจากพรรคมารเฮยหลาง”

ข้าค่อย ๆ พรูลมจากปากเพราะหวังว่าการทำเช่นนี้จะช่วยลดความร้อนรุ่มในใจได้บ้าง ไม่อยากเป็นสตรีที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ต่อหน้าน้องชาย

“เจี่ยเจียไม่ดูแล้ว เสี่ยวตี้เฝ้าไว้ หากนางทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ควรต้องเข้าไปยับยั้ง เข้าใจหรือไม่”

“ขอรับเจี่ยเจีย”

ฝากฝังน้องชายเสร็จข้าก็เดินจากไป ขืนอยู่ต่อได้กลายเป็นนางมารร้ายต่อหน้าท่านพ่อแน่

ณ ศาลบรรพชนตระกูลลี่

“ท่านแม่เจ้าคะ วันนี้คนที่ลูกไปดูตัวมาด้วยฝากของที่ลูกไม่อยากได้เข้าพรรคเรามาเจ้าค่ะ ท่านแม่จะให้ลูกจัดการนางอย่างไรดีเจ้าคะ วางแผนทำให้นางผูกคอตาย แล้วเชิญดวงวิญญาณมารับใช้ท่านแม่ดีหรือไม่”

“คุณหนู!”

อาชิ่งสาวใช้คนสนิทปรามข้าเสียงเบาแต่เน้นเสียง นางคงกลัววาจาของข้าจะไปเข้าหูสาวใช้คนอื่นกระมัง

“ใครได้ยินแล้วอย่างไร เจ้าอย่าทำให้ข้าอารมณ์เสียเพิ่มด้วยอีกคน”

ก่อนหน้านี้ข้าบอกว่าเป็นคนที่หมดแพชชั่นการใช้ชีวิต ชอบนอนเฉย ๆ และเหนื่อยง่าย

แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าเป็นคนใจเย็น!

“อาชิ่งแค่อยากให้คุณหนูเบาเสียงลงเท่านั้นเจ้าค่ะ เดี๋ยวอาชิ่งจุดธูปให้นะเจ้าคะ”

พอโดนข้าเสียงดังใส่เข้าหน่อย สาวใช้ร่างนุ่มนิ่มก็รีบกุลีกุจอไปจุดธูปให้ข้าในทันที

จากตอนแรกเพียงจะมาระบายให้ท่านแม่ฟังผ่านป้ายวิญญาณเท่านั้น ไม่ได้หวังจะจุดธูป แต่ตอนนี้พอได้ควันธูปส่งสาร

ท่านแม่คงได้ยินแล้วกระมัง!

“สมเป็นสาวใช้ของข้าจริง ๆ จุดมาทั้งกำนั่นแหละ ท่านแม่จะได้ยินเสียงข้าทุกคำ!”

ช่วงหัวค่ำ…

พ่อบ้านเหมาที่ดูแลศาลบรรพชนเข้ามาเห็นก็ตกใจ หลงคิดไปว่ามีใครมาขโมยธูป

แต่พอเห็นว่าธูปจำนวนมากถูกปักอยู่ที่กระถางธูปหน้าป้ายวิญญาณฮูหยินหมดแล้ว เขาจึงพอปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้

“คุณหนูมีเรื่องให้หัวร้อนแล้ว”

ชัดนะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น!

ตอนฮูหยินยังมีชีวิตอยู่ก็มีคนมาเสนอบุตรหลานให้เป็นฮูหยินรองประมุขลี่หลงอยู่ทุกเช้าค่ำ

ยิ่งตอนนี้ไร้ฮูหยินแล้ว พอจินตนาการได้ใช่หรือไม่ว่าลี่จูจะหัวร้อนเพราะคนที่พร้อมมาแทนที่มารดาตนบ่อยแค่ไหน

พ่อบ้านได้แต่เอาใจช่วยทุกฝ่ายแล้ว!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 10 (จบบริบูรณ์)

    ๑๐เจ้าไม่ได้สิ้นรักข้า “ฮูหยิน เจ้าไม่ได้สิ้นรักข้า!”นี่คือประโยคแรกที่ข้ากล่าวหลังจากที่ถลันกายเข้าไปในห้องนอนรอยยิ้มบนใบหน้าข้าหายไปทันทีเมื่อเห็นสภาพนางที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเตียง พอเห็นหน้าข้านางก็รีบหันหน้าไปทางอื่น ยกมือขึ้นปาดน้ำตาความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อครู่หายไปแทนที่ด้วยความเจ็บปวด เหตุใดนางจึงร้องไห้น้ำตาอาบหน้าเช่นนี้“ฮูหยิน…”อาชิ่งรู้งานรีบเดินออกไปจากเรือนนอนปล่อยให้เราสองคนอยู่ในห้องด้วยกันเพียงลำพัง“ฟูจวินอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ไม่ต้องเข้ามา”ข้าชะงักเท้าตามที่นางสั่ง แม้จะทราบว่านางเป็นเช่นนี้เพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่ข้าก็ไม่อาจห้ามความเศร้าที่กอบกุมจิตใจได้“ฮูหยินร้องไห้ด้วยเหตุใด บอกฟูจวินได้หรือไม่”“ไม่บอกเจ้าค่ะ อยากร้องไห้ต้องมีสาเหตุด้วยหรือ” ปลายเสียงนางสะบัดแต่สะอื้นฮัก ๆ เพราะร้องไห้เห็นร่างบางที่หันหลังใส่ตัวสั่นเช่นนี้ข้าก็ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว เดินไปนั่งด้านหลังนางแล้วสวมกอดร่างบางเอาไว้จากด้านหลัง“ฮูหยิน อยากร้องก็ร้อง แต่อย่าห้ามฟูจวินให้กอดเจ้าเลย ในเวลานี้เจ้าไม่ควรให้ตัวเองอยู่คนเดียว”นางเห็นหน้าข้าแล้วอาจหงุดหงิด แต่ทำแบบนี้ย่อมดีเสียกว่าทิ้ง

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 9

    ๙เบื่อหน้าเขานัก บุตรสาวข้าเลี้ยงง่ายยิ่งนัก! ท่านพ่อของข้ากล่าวว่าตอนเด็กนางเหมือนข้าไม่มีผิด เวลาใครอุ้มก็จะมองหน้าคนนั้น มองนิ่ง ๆ ด้วยสายตาสำรวจ นอกจากครั้งแรกที่ร้องไฮ้ตอนเป็นทารกแล้ว ข้าก็ไม่ได้ร้องไห้อีก หลางลู่หลินก็เช่นกัน! สิ่งนี้ทำให้ข้าเริ่มสงสัยว่านางเป็นแบบข้าหรือไม่ มีความทรงจำของชาติภพปัจจุบันติดมาด้วยหรือเปล่า มีวันหนึ่งข้าลองทดสอบดู พูดเป็นภาษาอังกฤษภาษาสากล แต่นางเพียงมองหน้าข้าด้วยสายตาว่างเปล่า ชัดเจนว่าไม่เข้าใจ คิดได้สองแง่ หนึ่งนางแค่ไม่ชอบร้องไฮ้ มีความเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เกิด สองนางอาจมากันคนละยุคกับข้า การทดสอบของข้าดำเนินการมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งนางอายุเข้าสามหนาวข้าก็หยุดทดสอบ คิดได้ว่า… ไม่ว่าใครจะมาเกิดนางก็ตาม อย่างไรนางก็คือบุตรสาวของข้า ใช้ชีวิตเป็นมารดาของหลางลู่หลินโดยไม่ตั้งคำถามกับตนเองในใจอีก เข้าปีที่สามของการใช้ชีวิตเป็นมารดา ปีนี้ลู่หลินพูดได้เยอะขึ้น วิ่งเล่นได้เร็วขึ้น ดูสดใสตามวัยโดยเฉพาะยามที่ได้เล่นกับบิดาและน้าชาย กอปรกับข้าตั้งครรภ์อ่อน ๆ หน

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 8

    ๘ผู้ซึ่งสมหวังที่สุดข้าเรียนรู้วิธีการกรี๊ดแล้ว!“กรี๊ด~เจ็บ!”ที่ผ่านมาข้าคิดว่าตนเองกรี๊ดไม่เป็นจนกระทั่งวันนี้ เจ้าตัวน้อยของแม่มอบบทเรียนให้กันตั้งแต่วันแรกที่กำลังลืมตาดูโลกเลย “ฮูหยิน เบ่งเจ้าค่ะ…อื้อ~” “อื้อ~”ข้าออกแรงเบ่งพร้อมเปล่งเสียงตามท่านหมอหญิง แต่เจ้าตัวน้อยของข้าก็ไม่ยอมออกเสียที“เบ่งอีกเจ้าค่ะฮูหยินน้อย เอาให้สุดแรงครั้งนี้ออกแน่เจ้าค่ะ”อีกครั้งเดียวแน่หรือ!“ฮูหยินน้อย อาชิ่งช่วยเบ่งเจ้าค่ะ”สาวใช้คนสนิทใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ข้า น้ำเสียงสั่นเครือบ่งบอกสภาพจิตใจในตอนนี้“เอาล่ะเจ้าค่ะ เบ่งเจ้าค่ะ”“อีกทีใช่หรือไม่…อื้อ~” ข้าพยายามเบ่งอีกครั้ง แต่ผลก็เหมือนเดิมคือยังไม่ออกมีหลายเสียงบอกว่าข้าจะได้บุตรชาย แต่ก็มีหลายเสียงบอกว่าข้าจะได้บุตรสาวสุดท้ายข้าเลือกเชื่อว่าเป็นบุตรสาวเพราะสามีกระซิบกับท้องข้าเบา ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสเช่น…‘พ่อไปเรียนทำผมมาแล้ว จะถักเปียให้เจ้าทุกวันดีหรือไม่ลูกสาว’ไม่ก็กล่าวกับอาไท่ว่า…‘ทำชิงช้าน้อยใต้ต้นไม้ให้บุตรสาวข้าหน่อย’เป็นเช่นนี้ตลอด! นานวันเข้าข้าก็คาดหวังว่าตัวเองจะได้บุตรสาวเช่นเดียวกับฟูจวิน“ท่านหมอ ไม่ออก…ฮึก”เมื่อค

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 7

    ๗นางอาจจะมาแล้ว“เกิดอันใดขึ้นกับนาง!”“ฮูหยินเป็นลมขอรับ”ข้าบีบมือตนเองแน่น ต่อให้นางจะเป็นลมข้าก็ไม่วางใจ ถามเขาถึงสถานที่ที่นางอยู่่ในตอนนี้“ฮูหยินอยู่ที่ใด”“เรือนนอนขอรับ”เมื่อทราบสถานที่ที่นางอยู่แล้วข้าก็ไม่รีรอ ใช้พลังภายในที่มีทั้งหมดเร่งความเร็วมาที่เรือนหอ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้องนอนที่ได้ยินเสียงสนทนาของหลางผิงและท่านหมอประจำจวนข้าถลันกายเข้าในด้านในโดยไม่สนหน้าใครทั้งสิ้น“ฮูหยิน!”ใบหน้านางซีดมากจนข้าหายใจไม่ออก มารู้ว่าตนมือสั่นก็ตอนที่เอื้อมมือไปจับมือบาง“ฟูจวิน ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะ ทำใจดี ๆ”ทำใจดี ๆ เช่นนั้นหรือ กล่าวเช่นนี้แล้วข้าจะยังใจเย็นได้ไหวหรือ นางเป็นอันใดถึงต้องกล่าวให้ข้าทำใจดี ๆ“ฮะ ฮูหยิน พูดแบบนี้ข้าใจไม่ดีเลย”ข้าเริ่มกล่าวเสียงตะกุกตะกักแล้ว ในตอนนั้นเองที่หมอประจำจวนเรียกความสนใจจากข้า“ท่านประมุขน้อย ฮูหยินไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายขอรับ แต่เป็นข่าวดี”ข่าวดี!“บอกเขาเถิดเจ้าค่ะท่านหมอ”เสี่ยวกูกู่เอ่ยขึ้น แววตาของนางฉายความขบขันจนข้าวางใจว่าภรรยาไม่ได้ป่วยเป็นอันใดจริง ๆ“ยินดีกับท่านประมุขน้อยด้วยขอรับ ฮูหยินตั้งครรภ์แล้วขอรับ”ตะ ตั้งครรภ์หรือ!“ฮูห

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 7

    ๖ฮูหยินเป็นอันใดลี่จู…กลับไปเยี่ยมบ้านเจ้าสาวครั้งนี้ข้ารู้สึกเบาใจขึ้นกว่าเดิมโดยไม่แน่ใจถึงสาเหตุหรือเป็นเพราะเห็นทุกคนต่างพยายามปรับตัวเข้าหากันรวมถึงปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ข้าจึงเบาใจว่าจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวหลังกลับจากพรรคมารป๋ายหลงเมื่อวาน ข้าคิดจะนอนหลับพักผ่อน แต่ไม่วายโดนฟูจวินลากไปห้องหนังสือให้ช่วยฝนหมึกให้ในตอนนั้นเองที่ข้าทราบว่าเขาไม่ได้ต้องการคนฝนหมึก เขาแค่อยากให้ข้านั่งอยู่ใกล้ ๆช่วงค่ำพวกเราทานอาหารกับประมุขเฮยหลางที่ข้าเปลี่ยนมาเรียกท่านพ่อแล้วท่านพ่อกล่าวว่าพอได้ทานอาหารร่วมกันสามคน ความรู้สึกของการเป็นครอบครัวกลับมาอีกครั้ง สีหน้าแช่มชื่นของท่านเป็นตัวแสดงความสุขได้อย่างชัดเจนเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน…ข้าปรับตัวกับที่นี่ได้แล้ว!ฟูจวินทราบว่าข้าชอบดอกไม้จึงลงมือปลูกดอกไม้ให้ข้าด้วยตนเองดอกไม้ที่ลงมือปลูกโดยเขาแม้จะไม่งามเท่าคนสวนปลูก แต่ข้าเห็นถึงความตั้งใจนั้นและรักเขาเพิ่มอีกนิดหนึ่งวันหนึ่งข้ากำลังนั่งเย็บรองเท้าคู่ใหม่ให้ฟูจวินกับอาชิ่ง สาวใช้ประจำพรรคก็เดินเข้ามาในศาลา“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ”ข้าพยักหน้าให้นางรายงานได้“หลางผิงกูเหนียงมา ใ

  • เจี่ยเจียเหนื่อยแล้ว   ตอนพิเศษที่ 5

    ๕ต่างคนต่างตามใจกันข้าจำคำพูดที่ฟูจวินกล่าวไว้วันแต่งงานได้ เขาบอกว่าสาบานเป็นพี่น้องกับลี่หลานแล้วตอนนั้นข้ารู้สึกทะแม่ง คิดอยู่นานว่าลี่หลานหรือจะยอมญาติดีกับเขาโดยง่ายแล้ววันนี้ข้อสงสัยของข้าก็ได้รับการพิสูจน์!ลี่หลานยังคงมองฟูจวินเป็นศัตรูที่แย่งความรักกับพี่สาวเขาไม่เสื่อมคลาย เพียงแต่ไม่มีสิทธิ์ห้ามฟูจวินเข้าใกล้ข้าอย่างกาลก่อน“...เจี่ยเจีย อาเตียนั่งรอที่โต๊ะอาหารแล้วขอรับ”ลี่หลานผายมือเชิญข้าไปยังห้องรับประทานอาหารในเรือนรับแขก เขาชายตามองฟูจวินเพียงครู่เท่านั้นก็ตวัดสายตามามองข้าไม่มองฟูจวินอีกเลย!“เชิญเจี่ยเจียอย่างเดียวหรือ ไม่เชิญเจี่ยฟุหรือ”ฟูจวินถามลี่หลานยิ้ม ๆ ก่อนที่จะยื่นมือมาสอดเอวข้าแล้วดึงเข้าใกล้กว่าเดิมลี่หลานแสดงท่าทางหวงผ่านแววตา ไม่ได้แสดงท่าทางต่อต้านเป็นเด็ก ๆ เช่นเคยเห็นเขาควบคุมตัวเองได้ดีแบบนี้ข้าก็ดีใจ!“เชิญเจี่ยฟุทางนี้”ข้าส่งยิ้มให้ลี่หลานทันทีเมื่อเขาเรียกฟูจวินเช่นนี้คำกล่าวเมื่อครู่ลี่หลานย่อมฝืนใจ แต่เมื่อเห็นข้าส่งยิ้มดีใจให้ ที่กล่าวไปเมื่อครู่ก็ไม่ดูฝืนอีกต่อไป“ไปทานข้าวกันขอรับเจี่ยเจี่ย เจี่ยฟุ”“ไป”ถือเป็นก้าวที่ดี ลี่หลานรั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status