“อ้า ขา ออก”
เสียงเอ่ยสั่งดังขึ้นอีกครั้งเมื่อทิพากรยังไม่ยอมขยับขาทั้งสองข้างออกจากกัน แต่เดิมแล้วอติกานต์ไม่ใช่คนอ่อนโยนนัก แต่ไม่ใช่ว่าเขาอ่อนโยนไม่เป็น หากแต่เขายังไม่อยากหยิบเอาความอ่อนโยนนั้นมาใช้กับคนเดิมเป็นครั้งที่สอง หลังจากมันถูกปัดตกไปอย่างง่ายดาย
เสียงเข้มที่เอ่ยสั่งเมื่อสักครู่ก็เพียงพอแล้วที่ทิพากรจะละทิ้งความอายของตัวเองเพื่อทำตามคำบอก ยังไม่ทันได้ขยับขาทิพากรก็ต้องสะดุ้งตกใจอีกครั้ง เมื่อฝ่ามือใหญ่สอดเข้ามาระหว่างหัวเข่าทั้งสองข้าง
เพราะตกใจจึงเผลอขัดขืนตามสัญชาตญาณ อีกฝ่ายไม่ได้ทำรุนแรงกับเขาเพียงแค่ไล้ฝ่ามือไปตามช่องว่างระหว่างหัวเข่า นิ้วหัวแม่มือกดน้ำหนักลูบวนที่ขอบระบายของปลายถุงน่องซึ่งอยู่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อย ๆ เลื่อนฝ่ามือขึ้นสูงไปที่หว่างขาของคนใต้ร่างอย่างเชื่องช้าและใจเย็น
เปี๊ยะ
สายรัดยางยืดแต่งลายลูกไม้สีขาวเข้ากับลายของถุงน่องถูกนิ้วยาวของชายแปลกหน้าเกี่ยวขึ้นสูง ก่อนที่จะปล่อยสายรัดนั้นดีดลงที่ผิวเนื้ออ่อนที่ต้นขาของทิพากร
มันไม่ได้ทำให้เจ็บปวดเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับทำให้ทิพากรรู้สึกความโหยหาบางอย่างของตนเองกำลังถูกเติมเต็มเสียด้วยซ้ำ หัวใจของหนุ่มออฟฟิศเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกับประสบการณ์ที่เขาเองได้แต่คิดจินตนาการในหัว และมันถูกแสดงออกผ่านเสียงครางบางเบาที่หลุดรอดออกมาทุกครั้งที่โดนทำแบบนั้น
ใช้เวลาเพียงไม่นานการต่อต้านตามสัญชาตญาณของทิพากรก็ถูกพังทลายลง ขาทั้งสองข้างไม่ได้หนีบชิดปกปิดส่วนสวยงามอีกแล้ว อติกานต์ไม่รู้ว่าทิพากรรู้ตัวหรือเปล่าว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในท่าทางแบบไหน
ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าร่างกายกำลังถูกสัมผัสจากคนแปลกหน้า แต่เรียวขาสวยทั้งสองข้างกลับกำลังแยกออกจากกันกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเขาสัมผัสผิวขาวผ่านเนื้อผ้าโปร่งบางของถุงน่องที่อีกฝ่ายสวมใส่ ทิพากรก็ยิ่งแสดงออกว่าชอบผ่านร่างกายที่บิดเร่า
อติกานต์จับขาทั้งสองข้างของทิพากรเข้ามาพาดเกี่ยวไว้ที่เอวของเขา ขยับตัวเข้าไปนั่งแทรกกลางระหว่างขา ผิวเนียนละเอียดเสียดสีกับกางเกงของเขาไปมา
อติกานต์ยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด
และก็ดูเหมือนว่าทิพากรจะชอบที่เป็นแบบนั้นมากเสียด้วย
เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งเมื่ออยู่ ๆ ฝ่ามือที่มอบความเคลิบเคลิ้มให้หายไป ทิพากรขยับสะโพกไปมาราวกับจะใช้มันค้นหาสัมผัสที่จากหาย เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวบางอย่างของเจ้าของเอวสอบที่เขาเกี่ยวคล้องเอาไว้
ความสงสัยไม่อยู่กับทิพากรนานนัก ทันทีที่ความเย็นสัมผัสไปที่ส่วนหัวของแก่นกายทิพากรก็ส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
เพราะมีความชอบในผิวสัมผัสของผ้าเป็นพิเศษ ทิพากรจึงสามารถแยกได้ทันทีว่ารอบกายเขามีผ้าชนิดใดอยู่บ้างแม้ว่าจะถูกปิดตาเอาไว้ เพียงแต่สิ่งที่กำลังสัมผัสส่วนสงวนของเขากับแข็งเกินกว่าจะเป็นผ้า แต่ก็ทำให้ทิพากรรู้สึกดีเช่นกัน
“น...หนัง”
อติกานต์ยกยิ้มเมื่อดวงอาทิตย์ดวงน้อยของเขาช่างเก่งกาจเหลือเกิน ในเมื่อตอบถูกก็ต้องได้รางวัล อติกานต์ไล้ฝ่ามือและปลายนิ้วภายใต้ถุงมือหนังไปสัมผัสทุกซอกมุมของทิพากร กดย้ำวนรอบรอยจีบจนคนด้านล่างยกสะโพกขึ้นสูงได้อย่างน่ามองทีเดียว
“ค้างไว้ อย่าเอาลง”
ทิพากรพยักหน้าอย่างว่าง่ายทั้งยังเชื่อฟังคำสั่งราวกับหมาน้อยแสนเชื่องที่ฝึกมาแล้วหลายปีทั้งที่ความจริงนี่เป็นการขึ้นเตียงระหว่างเขาทั้งสองเพียงครั้งแรก
อติกานต์ถอดถุงมือหนังอย่างดีที่ชุ่มไปด้วยของเหลวที่ปริ่มออกมาจากส่วนปลายของทิพากร ก่อนที่จะหยิบเอาซองถุงยางนิ้วที่โยนเอาไว้ข้างตัวทิพากรในตอนที่เขาเดินสำรวจความสวยงามของเหยื่อไปรอบ ๆ
ซองพลาสติกถูกฉีกออกอย่างไม่ไยดีก่อนที่ถุงยางจะถูกสวมลงบนนิ้วอย่างพิถีพิถัน ถึงความชอบของทิพากรจะไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปคุ้นชิน หรือบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องประหลาดเสียด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่เขาจะทำอย่างไรกับทิพากรก็ได้
เรื่องเซ็กซ์ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้สะอาดและปลอดภัยเอาไว้ก่อน
ของที่เราอยากจะใช้งานมันบ่อย ๆ เราก็ควรจะต้องถนอมมันไว้ไม่ให้พังเสียหาย
“อย่าเอาลง”
น้ำเสียงเดิมเอ่ยขึ้นเมื่อทิพากรเริ่มหย่อนสะโพกลงไปเล็กน้อย ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามคำนั้นทันที แม้ว่าจะมีอาการสั่นเล็กน้อยก็ยังไม่เอ่ยปากร้องขอ อติกานต์บีบเจลหล่อลื่นลงชโลมนิ้วมือทุกนิ้วที่สวมถุงยางนิ้วเอาไว้ ก่อนจะขยับนิ้วมือเหล่านั้นถูไถกันไปมาเล่นกับความหนืดเหนียวจนเกิดเสียงลามก
มือข้างหนึ่งของอติกานต์อ้อมไปช้อนรองไว้ที่ใต้สะโพกสั่น ก่อนมืออีกข้างที่สวมถุงยางนิ้วไว้เตรียมพร้อมทั้งสามนิ้วจะเริ่มสัมผัสกับแก่นกายของทิพากรอีกครั้ง
“อือ...”
ทิพากรส่งเสียงครางกระเส่าออกมาเมื่อถูกสัมผัสกระตุ้นความต้องการอีกครั้ง เสียดเสียวจนแทบจะยกสะโพกไว้ไม่ไหว แต่ไม่รู้ทำไมจิตใต้สำนึกเขายังคงสั่งให้เขาทนอยู่แบบนั้นต่อไป เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ชายแปลกหน้าผู้ซึ่งกำลังมอบประสบการณ์ที่เขาเองยังจินตนาการไม่ถึง
“คุณต้องออกกำลังกายแกนกลางลำตัวเพิ่มอีกเยอะ ถ้ายกสะโพกแค่นี้ยังสั่น คุณไม่มีทางไปถึงความสุขมากกว่านี้ที่ผมจะให้คุณได้แน่”
อติกานต์ค่อย ๆ กดน้ำหนักฝ่ามือเพื่อบอกเป็นนัยให้ทิพากรวางสะโพกลงได้
“ช่วงขายาวสวยดีแล้ว แต่ก็ยังไม่แข็งแรง”
คนพูดช้อนมือไว้ใต้เข่าทั้งสองข้าง จากนั้นขาของทิพากรก็ถูกยกขึ้นสูงอีกครั้ง
“จับเข่าเอาไว้”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นทิพากรนิ่งไปชั่วครู่ มีคำถามเกิดขึ้นในหัวเพียงชั่วเสี้ยวนาทีเท่านั้น เพราะไม่นานทิพากรก็ได้คำตอบให้ตัวเอง
ชายแปลกหน้าไม่ได้มัดข้อมือเขาไว้แน่นตั้งแต่แรก นั่นทำให้ตอนนี้เขาไม่ได้มีพันธนาการใดมาผูกมัด และที่ผ่านมาไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เขาชูแขนไขว้ไว้ที่เหนือหัวด้วยตัวเองทั้งนั้นเพราะปมที่มัดไว้กับเสาหัวเตียงคลายออกไปนานแล้ว
“สูงอีก ยกไปชิดหน้าอกเลยยิ่งดี ทำได้ไหม”
ทิพากรไม่ได้ตอบคำถาม เขาเพียงทำตามแทนคำตอบ สุดท้ายเข่าทั้งสองข้างก็ถูกยกขึ้นมากอดไว้แนบอก
“เก่งมาก เด็กดี”
คำชมโง่ ๆ จากใครก็ไม่รู้สร้างความอุ่นซ่านให้กับใจของทิพากร ทั้งที่ร่างกายกำลังโดนกระทำ โดนสัมผัส แต่เขากับดีใจกับคำชมนั้นราวกับเด็กเล็ก ๆ ที่ได้รางวัลจากใครสักคน
“อ๊ะ”
อติกานต์ยกสะโพกของทิพากรขึ้นจากฟูกเล็กน้อยโดยใช้มือเพียงข้างเดียวก่อนที่จะหนุนหมอนรองไว้ให้ช่องทางด้านหลังถูกยกขึ้นมาเพื่อสามารถมองเห็นได้สะดวกขึ้น
“อย่าปล่อยมือออกเด็ดขาด อยู่เฉย ๆ ตอบคำถามทีละข้อ ห้ามโกหก เพราะถ้าคำพูดของคุณไม่จริง คุณอาจจะโดนโทษหนัก”
ทิพากรไม่เข้าใจอะไรที่ผู้ชายคนนี้พูดเอาเสียเลย และยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ที่ตัวเขาเองก็พยักหน้าตอบกลับไปทั้งที่ไม่เข้าใจอยู่แบบนั้น
“อ๊ะ...อือ”
ปลายนิ้วเย็นลื่นค่อย ๆ สอดแทรกเข้าไปในรอยจีบ และเริ่มขยับจากเนิบช้าก่อนจะเร่งจังหวะและผ่อนลงมาอีกรอบ เขาทำแบบนั้นกับทิพากรวนซ้ำไปซ้ำมา ทิพากรได้แต่ร้องครวญครางระบายความรู้สึกออกไป
หลายคำถามที่คนแปลกหน้าถามขึ้นระหว่างที่ยังไม่ละเว้นการกระทำต่อช่วงล่างของเขาทำให้ทิพากรตอบไปเพียงคำสั้น ๆ ซึ่งทิพากรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟังรู้เรื่องหรือเปล่า บางคำถามเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าถูกถามว่าอะไร และเขาตอบไปว่าอย่างไร แค่การเอ่ยออกมาเป็นคำสั้น ๆ ได้ เขาก็อยากจะลุกขึ้นไปปรบมือให้ตัวเองแล้ว
ทิพากรถูกจับพลิกตัวให้อยู่ในท่าต่าง ๆ และร่างกายยังคงถูกมอบความหรรษาด้วยนิ้วมือชำนาญการและริมฝีปากที่เชี่ยวชาญไม่แพ้กัน
จำไม่ได้แล้วว่าร่างกายนี้กระตุกเกร็งไปกี่รอบ
จำไม่ได้ว่าคนคนนั้นพูดอะไรกับเขาหลังการปลดปล่อยครั้งสุดท้าย ก่อนส่งเขาเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยจูบหอมหวาน
ทิพากรจำได้เพียงความรู้สึกสุขล้นของเซ็กซ์ที่ชายแปลกหน้ามอบให้ ทั้งที่ไม่มีการสอดใส่ตัวตนเข้ามาจริง ๆ เป็นเพียงการถูกรุกรานรังแกด้วยนิ้วมือชำนาญการ แต่ภายในใจเขาเหมือนถูกเติมเต็มความต้องการที่ไม่เคยมีใครพาเขาไปถึงมาก่อนแม้แต่ตัวของเขาเอง
ภายในเพนต์เฮาส์สุดหรูชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้า บรรยากาศเงียบสงัดเมื่อแม่บ้านเก่าแก่ถูกขอให้ลงไปที่ชั้นล่างก่อนถึงเวลาพัก ชายหนุ่มผิวขาวก้าวเท้าเปลือยเปล่าลงมานั่งคุกเข่ารอเจ้าของบ้านอยู่ที่หน้าลิฟต์ทิพากรสวมชุดนอนสายเดี่ยวสั้นสีขาวสะอาด เช่นเดียวกับถุงน่องตาข่ายที่สวมขึ้นมาถึงต้นขา ชั้นในเล็กจิ๋วเนื้อบางทำหน้าที่โอบอุ้มส่วนอ่อนไหวเอาไว้ราวกับขนนกบนรังที่รายล้อมไข่ใบเล็กของแม่นกอย่างนุ่มนวลมือเรียวสวยสวมถุงมือโปร่งสีขาวแต่งระบายลูกไม้และโบเล็ก ๆ น่าทะนุถนอม ที่คอยังใส่ปลอกคอกระดิ่งเสียงใส รอคอยให้เจ้านายกลับมาใส่สายจูง ได้จิมอบชุดนี้ให้เขาในตอนที่ขับรถมาส่งเขาที่นี่ ก่อนที่จะขับจากไป ทิพากรก้มมองของอีกสองอย่างที่มาพร้อมกับชุดซึ่งเขายังไม่ได้สวมใส่ให้ครบบัตต์ปลั๊กหางกลมขนฟูนิ่มสีขาว เหมือนของบันนี่เพื่อนที่ชวนเขาไปงานปาร์ตี้ไม่ผิดเพี้ยน มันมาคู่กับคาดผมหูกระต่ายเข้าคู่กัน ทิพากรเขินตัวเองเล็กน้อยเมื่อต้องสวมคาดผมหูกระต่ายนี้ไว้บนหัว มือเล็กจับปลายหางนุ่มฟูอ้อมไปจ่อไว้ที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งรอที่ตรงนี้เขาได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นช่อ
ทิพากรลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่พบใครอยู่ในห้องแล้ว บนโซฟาตัวยาวหน้าห้องมีเสื้อผ้าชุดใหม่พับวางเอาไว้ให้ เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบมาเปลี่ยน ไซซ์พอดีจนน่าเหลือเชื่อ ดวงตากลมมองสำรวจไปรอบห้อง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอติกานต์เมื่อคืนก็พานให้ใจสั่นไหว ไม่รู้ทำไมความสัมพันธ์เขาถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนี้ สายตาก็เหลือบไปเห็นซองกระดาษสีแดงที่ข้างหมอน เขาจำได้ว่าอติกานต์เป็นคนวางซองนี้เอาไว้ก่อนที่จะเดินจากเขาไป ทิพากรหยิบมันขึ้นมาดู ทำใจอยู่สักพักจึงเปิดซองดึงการ์ดขึ้นมาอ่านสายตาไล่ไปตามตัวอักษรทีละบรรทัด แล้วความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ใจของคนอ่านเต้นแรงเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาฟูมฟายไปเป็นอาทิตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เขาปรุงแต่งขึ้นมาเอง ตัดสินอีกฝ่ายโดยที่ไม่ซักถามความสงสัย“คุณทิ ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปดูชายหนุ่มร่างสูงเพรียวที่เขาเคยเห็นก่อนจะหลับไปปรากฏขึ้นที่ประตูหน้าห้อง ทิพากรเคยเห็นเขาคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้วกับอติกานต์ที่ร้านประจำของเขาเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ร
ร่างสูงเพรียวยืนพิงหลังกับผนังหน้าประตูห้องรับรองของลูกค้า VIP ข้างกายมีเด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมเพียงกางเกงชั้นในหนังสีน้ำตาลนั่งหมอบอยู่แทบเท้า ที่คอมีปลอกคอหนังสีเดียวกับชั้นในสวมใส่อยู่ซึ่งมันถูกโซ่สีเงินวาวคล้องเอาไว้ โดยที่ปลายของมันอยู่ในมือของคนที่ยืนมองบานประตูด้วยใบหน้าเคร่งเครียดสุนัขหนุ่มคลอเคลียใบหน้ากับหน้าแข้งเรียวภายใต้กางเกงเนื้อผ้านิ่มราคาแพงของเจ้าของบาร์แห่งนี้อย่างเอาใจ เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่เจ้านายของเขายืนมองบานประตูฟังเสียงร้องครวญครางที่เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า คนด้านในกำลังสุขสมหรือเจ็บปวดไดจิยืนกอดอกครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับดวงใจของเพื่อนสนิทที่เจ้าตัวละทิ้งไว้ในห้องรับรองภายในบาร์ตนเอง ก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ นานแล้วที่อติกานต์เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงประโยคสั้น ๆ กับเขาแค่ว่า…“ฝากดูแลทิด้วย เขาอยากได้อะไรก็หาให้ด้วย ค่าใช้จ่ายมาคิดที่กู”ไดจิคลายมือออกลดมือลงไปลูบหัวสุนัขตัวโปรด จากนั้นจึงกระตุกโซ่จูงหนึ่งครั้งก่อนจะก้าวขาเดินไปยังบานประตู
ภาพเบื้องหน้าของผู้ต้องหาคือฉากเซ็กซ์อันเร่าร้อนของกระต่ายน้อยกับเหยี่ยวหนุ่ม ซึ่งกำลังใช้เข็มขัดฟาดลงที่ก้นงอนงามหลายต่อหลายทีอยู่ที่กลางเวทียกสูง ช่างดูสวยงามและกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนภายในงานเป็นอย่างยิ่งหากทิพากรได้เป็นผู้ชมอยู่ในปาร์ตี้ข้างล่าง เขาก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่ต่างจากผู้คนมากมายที่รายล้อมเวทีกลมนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่กำลังจะถูกตัดสินเสียงโซ่ดังทุกครั้งที่ร่างกายเขาไหวสะท้านกับแส้หนังที่อติกานต์ฟาดลงมาทั่วทั้งตัว มันไม่ได้เจ็บมาก แต่เมื่อโดนฟาดซ้ำที่เดิมอยู่บ่อยครั้งก็ทิ้งความแสบร้อนและรอยแดงที่ผิวได้เช่นกัน น้ำลายสายเล็กไหลย้อยออกมาจากช่องว่างระหว่างลูกบอลที่ปิดปากเขาไว้ หยดลงที่พื้นพรมสีแดงเบอร์กันดีนุ่มเท้าจนขึ้นเป็นวงสีเข้มทุกครั้งที่เส้นหนังฟาดลงมาที่ผิวเนื้อ มันทั้งสร้างความเจ็บปวดและกระตุ้นความต้องการบางอย่างให้ก่อเกิด ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่ร่างกายของทิพากรกลับตอบสนองตรงกันข้ามความเจ็บที่เกิดขึ้นที่ผิวเนื้อจึงย้ายเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจดวงเล็กของเขาแทน แล้วปล่อยให้อวัยวะ
ไวน์ ค็อกเทล วิสกี้ และเครื่องดื่มอีกมากมายมีสำหรับบริการให้ผู้ร่วมงานซึ่งซื้อบัตรเข้างานมาในราคาแพงอย่างไม่อั้น จะสั่งกี่อย่างหรือกี่แก้วก็ได้ ทุกอย่างถูกบริการเพื่อเสริมสร้างความมอมเมาเท่าที่แขกผู้มีเกียรติต้องการปกติทิพากรไม่ค่อยได้ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้บ่อยนัก จึงไม่ค่อยรู้ว่าเครื่องดื่มแบบไหนเป็นอย่างไรบ้าง เขาเลือกหยิบจากบริกรมาหนึ่งแก้วที่มองดูแล้วสีถูกใจเขาที่สุด หลังจากจิบไปเพียงอึกแรก ตั้งแต่ลำคอลงไปถึงท้องเขาก็ร้อนวูบวาบ ทิพากรวางแก้วทรงแปดเหลี่ยมนั้นลงไม่ได้กินต่ออีก มันคงแรงไปสำหรับเขา แต่หากคิดอีกแง่ ก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยความร้อนของมันก็คลายความหนาวจากการสวมใส่เสื้อผ้าเพียงน้อยชิ้นได้ใต้แสงไฟสะท้อนจากลูกบอลดิสโก้ขนาดใหญ่เหนือฟลอร์เต้นรำ กระต่ายขาว นายพรานหนุ่ม และเหยี่ยวดำหลายคนกำลังกอดรัดกันนัวเนียอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศ ความตื่นเต้น หรือเพราะเครื่องดื่มที่เพิ่งดื่มไปที่ทำให้ทิพากรรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมาจึงถึงกกหูเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เมื่อวางมันลงบนโต๊ะ ขนนกสีเทาปนน้ำตาลอันหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรง
Bunny Night Partyค่ำคืนของกระต่ายป่า นั่นเป็นชื่อปาร์ตี้ของคนที่มีรสนิยมคล้ายกันจะมารวมตัว ค่ำคืนที่เหล่าผู้กระหายอยากสัมผัสและอยากถูกสัมผัสได้มาพบปะกันอย่างอิสระ ปาร์ตี้ที่นาน ๆ ทีจะจัดขึ้นสักครั้ง และทิพากรเคยใฝ่ฝันว่าจะได้มาร่วมงานนี้สักหน เพียงแต่เขาไม่เคยกล้าพอ จนกระทั่งงานนี้หายเงียบไปในวงการ BDSM ต่างรู้กันดีว่าบาร์ของคุณไดจิเป็นอันดับหนึ่งสำหรับคนในวงการเสมอ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าบาร์นี้จะจัดกิจกรรมด้านนั้นอย่างเป็นปกติและเปิดเผย ค่ำคืนแห่งกระต่ายป่าจึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนที่มีความชอบแบบเดียวกันต่างรอคอยโดยปกติแล้วจะจัดเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่กลางปีก่อนกิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไป การกลับมาจัดใหม่ในรอบเกือบปีจึงเป็นที่พูดถึงกันมาก ทิพากรเคยคิดว่าหากได้เข้าร่วมงานนี้พร้อมกับคนรักก็คงจะดี ไม่คิดว่าพอถึงเวลาได้มาจริง ๆ เขาจะไม่มีใครคนนั้นยืนข้างกาย“คุณซันใช่ไหมครับ”เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปมอง เขายืนอยู่ที่ข้างบาร์หรูสาขาใหญ่สุด ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของเมืองหลวง สวมเสื้อ