ทิพากรตื่นขึ้นมากลางเตียงนุ่มหลังใหญ่ แสงแดดยามเช้าลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ความสว่างพาดทาบทับเปลือกตาของทิพากรพอดีจนต้องยกมือขึ้นมาปิดไว้ หลังจากปรับสายตาได้แล้ว ทิพากรก็รับรู้ถึงความปวดร้าวไปทั่วทั้งร่าง และอาการเมาค้างที่ยังหลงเหลืออยู่นิดหน่อย
เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าตัวเองนอนอยู่กลางเตียงหลังใหญ่ซึ่งมีผ้าห่มนุ่มคลุมร่างกึ่งเปลือยไว้ให้อย่างดี ฟูกและผ้าปูสะอาดเรียบร้อยราวกับเหตุการณ์เมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น แต่ทิพากรไม่คิดว่าตัวเองเมาจนเพ้อฝันคิดไปเอง เพราะความรู้สึกปวดร้าวที่ช่วงล่างเป็นหลักฐานยืนยันได้ดีว่า...
เรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องจริง
เพดานสูงสีเทาล้อมรอบด้วยผนังสีเดียวกัน เหนือศีรษะเขามีไฟหลายดวงที่เพดานซึ่งถูกปรับองศามายังกลางเตียงตรงจุดที่เขานอนอยู่ นั่นคงเป็นต้นกำเนิดแสงสว่างจ้าที่แยงตาเขาเมื่อคืนนี้ ทิพากรมองสำรวจไปโดยรอบก่อนจะยกมือขึ้นนวดขมับสองสามครั้ง แล้วค่อย ๆ ประคองตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่ม
บนตัวเขาสวมชุดนอนซาตินสายเดี่ยวสีแชมเปญแต่งระบายด้วยลูกไม้สีดำซึ่งมีความยาวเพียงแค่ปกปิดส่วนสงวนของเขาที่ไร้ชั้นในปกป้องเท่านั้น
มือเรียวลูบสัมผัสเนื้อผ้าลื่นเย็น รู้สึกผ่อนคลายราวกับได้รับคำปลอบโยนหลังผ่านค่ำคืนอันเละเทะของตัวเองมา ความชอบที่ถูกกระตุ้นด้วยเนื้อสัมผัสของผ้าชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะผ้าลูกไม้และผ้าซาตินของทิพากรถูกเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าชายคนเมื่อคืนจะดูเขาออกจนหมดเปลือก
ถึงจะมีความรู้สึกแย่กับตัวเองที่ปล่อยตัวเมามายจนโดนคนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้หิ้วมานอนด้วย แต่สิ่งที่ทิพากรไม่อาจปฏิเสธได้เลย คือ ความสัมพันธ์เมื่อคืนเป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยแตะถึง
เซ็กซ์ที่ไม่สามารถทำให้สุดได้ด้วยตัวคนเดียว
ชายคนนั้นกระตุ้นและตอบสนองความต้องการเขาได้ทั้งหมด แม้จะใช้เพียงแค่นิ้วมือก็ตาม
ทิพากรเดินสำรวจรอบห้อง พยายามฟังเสียงการเคลื่อนไหวของบุคคลปริศนาที่มอบความสุขให้เขาเมื่อคืนนี้ แต่ได้ยินเพียงความเงียบสงัด ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้นอกจากเขา ผ้าคาดตาลูกไม้สีขาวถูกพับอย่างเรียบร้อยวางไว้บนหมอนอีกใบข้างใบที่เขาเพิ่งลุกออกมาเมื่อสักครู่ เขาหยิบขึ้นมาถูไถสัมผัสนุ่มนิ่มนั้นกับใบหน้า เผลอสูดดมกลิ่นน้ำหอมที่เดาเอาเองว่าคงเป็นของชายคนนั้นซึ่งยังคงหลงเหลือกลิ่นจาง ๆ เอาไว้ติดเนื้อผ้า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทิพากรใจเต้นแรงไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นความรู้สึกแบบใด ระหว่างความรู้สึกกลัวกับความรู้สึกตื่นเต้นความรู้สึกไหนกันแน่ที่มากกว่า แต่ถึงแบบนั้นเขาก็เลือกที่จะก้าวเท้าเปลือยเปล่าไปบนพื้นเย็นเฉียบเข้าไปใกล้กับประตูห้องบานใหญ่ เอื้อมมือไปค่อย ๆ บิดลูกบิดแล้วเปิดแง้มเปิดประตูทีละนิด
“สวัสดีค่ะ”
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องไม่ใช่ชายคนเมื่อคืนตามที่ทิพากรคิดเอาไว้ แต่เป็นหญิงสาววัยกลางคนในชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านสีกรมท่าซึ่งยืนส่งยิ้มบางมาให้ ในมือเธอถือเสื้อผ้าชุดใหม่ซึ่งถูกแขวนไว้อย่างดีอยู่ในถุงใส ส่วนมืออีกข้างถือถาดกลมด้วยมือเดียวซึ่งบนถาดนั้นมีรองเท้าหนังขัดเงาพร้อมถุงเท้าสีเทาแต่งระบายลูกไม้เล็ก ๆ สีเดียวกันวางเอาไว้
“ชุดใหม่ของคุณค่ะ”
เธอพูดพร้อมกับแทรกตัวเดินเข้าไปในห้องแขวนชุดไว้กับตะขอเกี่ยวข้างกระจกบานใหญ่ในโซนแต่งตัวซึ่งอยู่ก่อนถึงห้องน้ำที่อยู่ลึกเข้าไปข้างใน และหยิบรองเท้าออกจากถาดถือวางลงบนพื้นใกล้กัน พาดถุงเท้าลงบนเก้าอี้สตูลตัวยาวสีดำด้านข้างกระจก
“คุณต้องการจะแช่น้ำอุ่นไหมคะ ดิฉันจะได้เตรียมน้ำไว้ให้”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ”
“อย่างนั้นถ้าคุณอาบเสร็จแล้วเรียกดิฉันได้เลยนะคะ ดิฉันจะรอช่วยคุณแต่งตัวอยู่ด้านนอกนี้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับคุณป้า เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเสร็จแล้วลงไปรับประทานอาหารเช้าด้านล่างได้เลยนะคะ คุณท่านให้ดิฉันเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ หรือต้องการอะไรเรียกดิฉันได้เลย จะกดรีโมตสีขาวเล็ก ๆ ตรงนั้นก็ได้ค่ะ”
เธอชี้ไปที่รีโมตเล็ก ๆ ที่วางไว้บนตู้ลิ้นชักเตี้ยข้างหัวเตียง ทิพากรพยักหน้ารับรู้ เขายืนนิ่งมาตั้งแต่หญิงสาวเดินเข้ามาในห้อง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหน นั่นก็เพราะรู้สึกอายขึ้นมาเมื่อถูกคนอื่นมองเห็นในตอนที่ตนเองสวมใส่ชุดอย่างนี้ อีกทั้งต้นขาของเขายังเต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบจากเจ้าของถุงยางนิ้วหลายอันในถังขณะใบเล็กที่มุมห้อง
“คุณป้าครับ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดินออกไปพ้นประตูห้อง ทิพากรจึงเอ่ยเรียกเธอไว้
“คะ?”
“คุณ...เอ่อ ที่นี่...คือ...คุณท่านเขาคือใครเหรอครับ ใช่...คนที่พาผมมาที่นี่เมื่อคืนหรือเปล่า แล้ว...ตอนนี้เขาอยู่ไหนครับ”
“คุณท่านไม่ได้บอกไว้ว่าดิฉันสามารถบอกคุณได้ค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณท่านฝากให้ดิฉันดูแลคุณให้ดีจนกว่าคุณจะมีความต้องการกลับที่พักค่ะ”
“แปลว่าเขาไม่อยู่แล้วเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ คุณท่านออกไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” ทิพากรหันไปมองหานาฬิกาสักเรือนในห้อง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อในห้องนี้ไม่มีสิ่งที่จะบอกเวลากับเขาได้เลย
“ตอนนี้สิบเอ็ดโมงค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบ เมื่อเธออ่านกิริยาของเขาออก เก่งกาจไม่ต่างจากผู้เป็นนาย
“ขอบคุณครับ”
ทิพากรตัดความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวตนของผู้ชายคนนั้นทิ้งไป อย่างไรเสียมันก็เป็นเพียงคืนที่เขาปล่อยตัวเละเทะอยู่ดี เขาโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่เจอกับคนไม่ดี (หมายถึงไม่ดีกว่าชายคนเมื่อคืนน่ะนะ) หิ้วเขาไปทำอย่างอื่นที่เลวร้ายกว่า
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ทิพากรจึงเปิดประตูออกเพื่อลงไปชั้นล่าง และเขาเพิ่งพบว่าสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้เป็นเพนต์เฮาส์หรูขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารใดสักอาคารหนึ่ง
เศรษฐีคนไหนกันที่หิ้วคนเมาหน้าตาธรรมดาอย่างเขามาทำเรื่องแบบนั้นโดยไม่นึกกลัว ทิพากรนึกถึงเครื่องประดับทั้งแหวน นาฬิกา และต่างหู ราคาแพงมากมายที่อยู่ในตู้กระจกในพื้นที่สำหรับแต่งตัวที่เจ้าของไม่สนใจแม้แต่จะล็อกกุญแจตู้นั้น
ทิพากรปฏิเสธการกินอาหารเช้าที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ เพราะไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่ตนไม่รู้จักนานนัก เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ดูจากที่พักและของตกแต่งในเพนต์เฮาส์นี้แล้ว เขามั่นใจว่าเจ้าของจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ การรีบเอาตัวออกมาให้ไกลน่าจะเป็นผลดีกับเขามากกว่า
อย่างไรก็คงไม่ได้เจอกันอีก
และเขาก็จะไม่ปล่อยตัวเองเมาไม่ได้สติแบบนี้อีกแล้ว
ตื้ด ๆ
เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของทิพากร เขาเกือบลืมไปแล้วว่ามีอะไรติดตัวมาบ้างเมื่อวานนี้ กว่าจะตั้งหลักความคิดได้เสียงสั่นก็เงียบลงไปแล้ว ทิพากรคลำหาตามเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ตัวเองสวมใส่ออกมาจากอาคารหรู
นอกจากจะเจอโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าด้านในของเสื้อสูทราคาแพงแล้ว เขายังพบกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตแบรนด์เนมไซซ์พอดีตัวจนน่าเหลือเชื่ออีกด้วย บนกระดาษโน้ตแผ่นนั้นเขียนด้วยลายมือสวยงามเป็นระเบียบ แต่ไม่ได้ลงชื่อของผู้เขียนเอาไว้
‘เมื่อคืนคุณทำให้ผมมีความสุขมาก หวังว่าคุณจะรับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ผมเตรียมไว้ให้แทนคำขอโทษที่ผมทำเสื้อผ้าและชั้นในของคุณขาดเสียหาย ขอโทษอีกครั้งครับ’
ทิพากรไม่รู้ว่าต้องรู้สึกแบบใดกับข้อความนั้น เขายิ้มเจื่อนก่อนจะยัดกระดาษนั้นเก็บลงในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตตามเดิม
เมื่อกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์ก็พบว่าเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นเบอร์ที่เขาไม่ได้บันทึกลงเครื่องเอาไว้ นั่นแปลว่าเบอร์นี้ไม่ใช่เบอร์ของคนที่เขารู้จักหรือสนิทสนม แต่ตัวเลข 10 ตัวที่โชว์อยู่นั้นเป็นตัวเลขที่คุ้นตาทิพากรมากทีเดียว
เบอร์คุณกานต์…
หลังจากเขาเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เบอร์อติกานต์ที่เคยบันทึกไว้ก็หายไปด้วย แต่มันไม่มีผลสำหรับคนที่เคยออกเดตกันมาเป็นเดือน ๆ เขายังจำเบอร์ของอีกฝ่ายได้ดีราวกับตัวเลขสิบตัวนั้นถูกตอกตรึงลงในหน่วยความจำของสมองเขาถาวรแล้ว
ทิพากรสูดลมหายใจเข้าลึก ตอนนี้เขาก้าวเข้ามานั่งในรถแท็กซี่แล้ว เพราะนี้เป็นวันหยุด เขาถึงได้กล้าเมามายเมื่อคืนนี้ และเขาคิดว่าต้องรีบกลับคอนโดไปพักผ่อนและเช็กร่างกายของตัวเองให้ละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ดวงตากลมมองเบอร์บนหน้าจออยู่พักใหญ่ เป็นเบอร์ของคุณกานต์แน่ ๆ เขามั่นใจ แม้จะพอเดาได้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายโทรหาเขาในวันหยุดอย่างนี้คงไม่พ้นเรื่องงาน แต่หัวใจของเขามันรู้สึกตื่นเต้นจนบีบตัวแรงอย่างช่วยไม่ได้
นิ้วเรียวกดโทรกลับ ไม่อยากอยู่กับความอยากรู้ของตัวเองนานนัก ช่วงนี้เขาเจอแต่เรื่องวุ่นวายและไร้คำตอบมามากพอแล้ว
(คุณทิ ขอโทษที่โทรหาวันหยุดแบบนี้ ผมได้เบอร์คุณมาจากเอกสารสัญญา)
(ครับ ไม่เป็นไรครับ คุณกานต์มีอะไรหรือเปล่าครับ)
(ระบบที่บริษัทมีปัญหาน่ะครับ ค่อนข้างเป็นปัญหาด่วน คุณทิสะดวกหรือเปล่า ถ้าผมจะขอรบกวนให้คุณทิเข้ามาช่วยดูระบบให้เลยวันนี้)
ภายในเพนต์เฮาส์สุดหรูชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้า บรรยากาศเงียบสงัดเมื่อแม่บ้านเก่าแก่ถูกขอให้ลงไปที่ชั้นล่างก่อนถึงเวลาพัก ชายหนุ่มผิวขาวก้าวเท้าเปลือยเปล่าลงมานั่งคุกเข่ารอเจ้าของบ้านอยู่ที่หน้าลิฟต์ทิพากรสวมชุดนอนสายเดี่ยวสั้นสีขาวสะอาด เช่นเดียวกับถุงน่องตาข่ายที่สวมขึ้นมาถึงต้นขา ชั้นในเล็กจิ๋วเนื้อบางทำหน้าที่โอบอุ้มส่วนอ่อนไหวเอาไว้ราวกับขนนกบนรังที่รายล้อมไข่ใบเล็กของแม่นกอย่างนุ่มนวลมือเรียวสวยสวมถุงมือโปร่งสีขาวแต่งระบายลูกไม้และโบเล็ก ๆ น่าทะนุถนอม ที่คอยังใส่ปลอกคอกระดิ่งเสียงใส รอคอยให้เจ้านายกลับมาใส่สายจูง ได้จิมอบชุดนี้ให้เขาในตอนที่ขับรถมาส่งเขาที่นี่ ก่อนที่จะขับจากไป ทิพากรก้มมองของอีกสองอย่างที่มาพร้อมกับชุดซึ่งเขายังไม่ได้สวมใส่ให้ครบบัตต์ปลั๊กหางกลมขนฟูนิ่มสีขาว เหมือนของบันนี่เพื่อนที่ชวนเขาไปงานปาร์ตี้ไม่ผิดเพี้ยน มันมาคู่กับคาดผมหูกระต่ายเข้าคู่กัน ทิพากรเขินตัวเองเล็กน้อยเมื่อต้องสวมคาดผมหูกระต่ายนี้ไว้บนหัว มือเล็กจับปลายหางนุ่มฟูอ้อมไปจ่อไว้ที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งรอที่ตรงนี้เขาได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นช่อ
ทิพากรลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่พบใครอยู่ในห้องแล้ว บนโซฟาตัวยาวหน้าห้องมีเสื้อผ้าชุดใหม่พับวางเอาไว้ให้ เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบมาเปลี่ยน ไซซ์พอดีจนน่าเหลือเชื่อ ดวงตากลมมองสำรวจไปรอบห้อง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอติกานต์เมื่อคืนก็พานให้ใจสั่นไหว ไม่รู้ทำไมความสัมพันธ์เขาถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนี้ สายตาก็เหลือบไปเห็นซองกระดาษสีแดงที่ข้างหมอน เขาจำได้ว่าอติกานต์เป็นคนวางซองนี้เอาไว้ก่อนที่จะเดินจากเขาไป ทิพากรหยิบมันขึ้นมาดู ทำใจอยู่สักพักจึงเปิดซองดึงการ์ดขึ้นมาอ่านสายตาไล่ไปตามตัวอักษรทีละบรรทัด แล้วความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ใจของคนอ่านเต้นแรงเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาฟูมฟายไปเป็นอาทิตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เขาปรุงแต่งขึ้นมาเอง ตัดสินอีกฝ่ายโดยที่ไม่ซักถามความสงสัย“คุณทิ ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปดูชายหนุ่มร่างสูงเพรียวที่เขาเคยเห็นก่อนจะหลับไปปรากฏขึ้นที่ประตูหน้าห้อง ทิพากรเคยเห็นเขาคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้วกับอติกานต์ที่ร้านประจำของเขาเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ร
ร่างสูงเพรียวยืนพิงหลังกับผนังหน้าประตูห้องรับรองของลูกค้า VIP ข้างกายมีเด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมเพียงกางเกงชั้นในหนังสีน้ำตาลนั่งหมอบอยู่แทบเท้า ที่คอมีปลอกคอหนังสีเดียวกับชั้นในสวมใส่อยู่ซึ่งมันถูกโซ่สีเงินวาวคล้องเอาไว้ โดยที่ปลายของมันอยู่ในมือของคนที่ยืนมองบานประตูด้วยใบหน้าเคร่งเครียดสุนัขหนุ่มคลอเคลียใบหน้ากับหน้าแข้งเรียวภายใต้กางเกงเนื้อผ้านิ่มราคาแพงของเจ้าของบาร์แห่งนี้อย่างเอาใจ เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่เจ้านายของเขายืนมองบานประตูฟังเสียงร้องครวญครางที่เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า คนด้านในกำลังสุขสมหรือเจ็บปวดไดจิยืนกอดอกครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับดวงใจของเพื่อนสนิทที่เจ้าตัวละทิ้งไว้ในห้องรับรองภายในบาร์ตนเอง ก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ นานแล้วที่อติกานต์เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงประโยคสั้น ๆ กับเขาแค่ว่า…“ฝากดูแลทิด้วย เขาอยากได้อะไรก็หาให้ด้วย ค่าใช้จ่ายมาคิดที่กู”ไดจิคลายมือออกลดมือลงไปลูบหัวสุนัขตัวโปรด จากนั้นจึงกระตุกโซ่จูงหนึ่งครั้งก่อนจะก้าวขาเดินไปยังบานประตู
ภาพเบื้องหน้าของผู้ต้องหาคือฉากเซ็กซ์อันเร่าร้อนของกระต่ายน้อยกับเหยี่ยวหนุ่ม ซึ่งกำลังใช้เข็มขัดฟาดลงที่ก้นงอนงามหลายต่อหลายทีอยู่ที่กลางเวทียกสูง ช่างดูสวยงามและกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนภายในงานเป็นอย่างยิ่งหากทิพากรได้เป็นผู้ชมอยู่ในปาร์ตี้ข้างล่าง เขาก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่ต่างจากผู้คนมากมายที่รายล้อมเวทีกลมนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่กำลังจะถูกตัดสินเสียงโซ่ดังทุกครั้งที่ร่างกายเขาไหวสะท้านกับแส้หนังที่อติกานต์ฟาดลงมาทั่วทั้งตัว มันไม่ได้เจ็บมาก แต่เมื่อโดนฟาดซ้ำที่เดิมอยู่บ่อยครั้งก็ทิ้งความแสบร้อนและรอยแดงที่ผิวได้เช่นกัน น้ำลายสายเล็กไหลย้อยออกมาจากช่องว่างระหว่างลูกบอลที่ปิดปากเขาไว้ หยดลงที่พื้นพรมสีแดงเบอร์กันดีนุ่มเท้าจนขึ้นเป็นวงสีเข้มทุกครั้งที่เส้นหนังฟาดลงมาที่ผิวเนื้อ มันทั้งสร้างความเจ็บปวดและกระตุ้นความต้องการบางอย่างให้ก่อเกิด ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่ร่างกายของทิพากรกลับตอบสนองตรงกันข้ามความเจ็บที่เกิดขึ้นที่ผิวเนื้อจึงย้ายเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจดวงเล็กของเขาแทน แล้วปล่อยให้อวัยวะ
ไวน์ ค็อกเทล วิสกี้ และเครื่องดื่มอีกมากมายมีสำหรับบริการให้ผู้ร่วมงานซึ่งซื้อบัตรเข้างานมาในราคาแพงอย่างไม่อั้น จะสั่งกี่อย่างหรือกี่แก้วก็ได้ ทุกอย่างถูกบริการเพื่อเสริมสร้างความมอมเมาเท่าที่แขกผู้มีเกียรติต้องการปกติทิพากรไม่ค่อยได้ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้บ่อยนัก จึงไม่ค่อยรู้ว่าเครื่องดื่มแบบไหนเป็นอย่างไรบ้าง เขาเลือกหยิบจากบริกรมาหนึ่งแก้วที่มองดูแล้วสีถูกใจเขาที่สุด หลังจากจิบไปเพียงอึกแรก ตั้งแต่ลำคอลงไปถึงท้องเขาก็ร้อนวูบวาบ ทิพากรวางแก้วทรงแปดเหลี่ยมนั้นลงไม่ได้กินต่ออีก มันคงแรงไปสำหรับเขา แต่หากคิดอีกแง่ ก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยความร้อนของมันก็คลายความหนาวจากการสวมใส่เสื้อผ้าเพียงน้อยชิ้นได้ใต้แสงไฟสะท้อนจากลูกบอลดิสโก้ขนาดใหญ่เหนือฟลอร์เต้นรำ กระต่ายขาว นายพรานหนุ่ม และเหยี่ยวดำหลายคนกำลังกอดรัดกันนัวเนียอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศ ความตื่นเต้น หรือเพราะเครื่องดื่มที่เพิ่งดื่มไปที่ทำให้ทิพากรรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมาจึงถึงกกหูเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เมื่อวางมันลงบนโต๊ะ ขนนกสีเทาปนน้ำตาลอันหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรง
Bunny Night Partyค่ำคืนของกระต่ายป่า นั่นเป็นชื่อปาร์ตี้ของคนที่มีรสนิยมคล้ายกันจะมารวมตัว ค่ำคืนที่เหล่าผู้กระหายอยากสัมผัสและอยากถูกสัมผัสได้มาพบปะกันอย่างอิสระ ปาร์ตี้ที่นาน ๆ ทีจะจัดขึ้นสักครั้ง และทิพากรเคยใฝ่ฝันว่าจะได้มาร่วมงานนี้สักหน เพียงแต่เขาไม่เคยกล้าพอ จนกระทั่งงานนี้หายเงียบไปในวงการ BDSM ต่างรู้กันดีว่าบาร์ของคุณไดจิเป็นอันดับหนึ่งสำหรับคนในวงการเสมอ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าบาร์นี้จะจัดกิจกรรมด้านนั้นอย่างเป็นปกติและเปิดเผย ค่ำคืนแห่งกระต่ายป่าจึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนที่มีความชอบแบบเดียวกันต่างรอคอยโดยปกติแล้วจะจัดเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่กลางปีก่อนกิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไป การกลับมาจัดใหม่ในรอบเกือบปีจึงเป็นที่พูดถึงกันมาก ทิพากรเคยคิดว่าหากได้เข้าร่วมงานนี้พร้อมกับคนรักก็คงจะดี ไม่คิดว่าพอถึงเวลาได้มาจริง ๆ เขาจะไม่มีใครคนนั้นยืนข้างกาย“คุณซันใช่ไหมครับ”เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปมอง เขายืนอยู่ที่ข้างบาร์หรูสาขาใหญ่สุด ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของเมืองหลวง สวมเสื้อ