Share

บทที่ 2

Author: บัว
คืนนั้นตอนที่ฉันกำลังจะเข้านอน ก็ได้ยินเสียงกลอนประตูดัง “แกร๊ก” เบาๆ

ลอเรนโซกลับมาแล้วงั้นเหรอ?

ฉันยืนอยู่ที่ประตูห้องนอน เงี่ยหูฟังเสียงเบาๆ ที่ดังมาจากในห้องครัว

พักหลังมานี้เขามักจะเป็นแบบนี้ จู่ๆ ก็กลับมาที่บ้าน แอบเข้าไปทำอะไรในครัวอยู่สักพัก แล้วก็รีบออกไปพร้อมกับของที่ทำเสร็จ

มีครั้งหนึ่ง ฉันได้กลิ่นหอมลอยออกมาจากเตาอบ นึกว่าเขาเตรียมเซอร์ไพรส์ฉัน

“ทำอะไรอยู่เหรอ?” ฉันเดินเข้าไปถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองฉันเลย แค่รีบแพ็คขนมทาร์ตเลมอนที่เพิ่งอบเสร็จใส่กล่อง “เคียร่าบอกว่าอยากกินอันนี้น่ะ”

เขาห่อมันอย่างพิถีพิถัน ยังผูกโบว์ริบบิ้นอย่างสวยด้วย

“ฉันหิว” ฉันมองทาร์ตสีทองนวลนั้น แล้วกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ

มือของเขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าฉันเองก็ชอบทาร์ตเลมอนเหมือนกัน “ให้แอนนาทำอะไรให้เธอกินไหม? หรือสั่งอาหารเดลิเวอรี่มาดีล่ะ?”

วันนั้น หลังจากเขาออกไปแล้ว แอนนาก็แค่ต้มบะหมี่ให้ฉันหนึ่งชาม เค็มจนขมในลำคอ

ตอนนี้ฉันไม่อยากรู้แล้วว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ และไม่สนใจด้วยว่าจะทำให้ใคร

คอเริ่มแห้งเล็กน้อย ฉันลุกขึ้นเดินไปที่ครัว แค่อยากจะรินน้ำดื่มสักแก้ว

กลิ่นหอมเข้มข้นของกาแฟ ผงโกโก้ และชีสมาสคาร์โปนลอยอบอวลไปทั่วห้องครัว

เขากำลังทำทีรามิสุ

ชั้นแรกบิสกิต อีกชั้นก็ครีมชีสที่ผสมเหล้ากาแฟ โรยด้วยผงโกโก้หนาๆ เขาจดจ่อจนไม่รู้เลยว่าฉันยืนอยู่ตรงประตู จนกระทั่งฉันหยิบแก้วขึ้นมาแล้วรินน้ำใส่แก้ว

“วิกกี้?” เขาหันกลับมาแทบจะทันที เอาตัวบังโต๊ะไว้โดยสัญชาตญาณ “เธอยังไม่นอนอีกเหรอ?”

“หิวน้ำ” ฉันตอบอย่างเรียบเฉย

“อันนี้…” เขาเห็นสายตาฉันเหลือบไปที่ทีรามิสุ จึงรีบพูดขึ้นทันที ราวกับกลัวว่าฉันจะเข้าไปแย่งมากิน “อันนี้เธอกินไม่ได้นะ! ข้างในมีเหล้ากาแฟแล้วก็ไข่แดงดิบ มันไม่ดีต่อคนท้อง!”

ฉันมองเขาที่กำลังลนลานก็อดขำไม่ได้ สามเดือนก่อน ตอนที่ฉันแพ้ท้องอย่างหนัก เขาไม่แม้แต่จะรินน้ำอุ่นให้ฉันสักแก้ว แต่ตอนนี้กลับระมัดระวังอย่างมากเพียงเพราะทำขนมให้เคียร่า

“ไม่ต้องห่วงหรอก” ฉันเช็ดหยดน้ำบนมือ “ฉันไม่ได้สนใจของหวานของพวกคุณหรอก”

เขาอ้าปากเหมือนอยากอธิบาย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชื่อของ “เคียร่า” สว่างวาบอยู่บนหน้าจอ

“พี่คะ…” เสียงอ่อนแรงดังลอดออกมาจากปลายสาย “ฉันเหมือนจะมีไข้…”

สีหน้าของลอเรนโซเปลี่ยนไปทันที ขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ แต่แววตากลับอ่อนโยนลง “กินยามั่วอีกแล้วใช่ไหม? รอก่อน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เขาวางสาย รีบวางทีรามิสุใส่กล่องอย่างคล่องแคล่ว ตอนผูกริบบิ้นก็ยังไม่ลืมปรับโบว์ให้ได้องศาสวยงามพอดี

“เธอยังจำได้ไหมว่าวันนี้ควรเป็นคืนเข้าหอของเรา?” ฉันพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ด้วยความหวังที่เหลืออยู่อันน้อยนิด

“อย่าเป็นแบบนี้สิ” เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง “เคียร่าต้องการคนอยู่ฉลองวันเกิดด้วยนะ”

“ครั้งที่สิบเจ็ดแล้วนะ” ฉันได้ยินเสียงของตัวเองกำลังสั่นเล็กน้อย

เขาเงยหน้ามองขึ้นมามองฉัน ดวงตาเต็มไปด้วยความลังเลอย่างที่ฉันคุ้นเคย “วิกกี้ อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ เธอก็รู้ว่าลุงมาร์ค…”

“ฝากลูกสาวไว้ก่อนตาย” ฉันพูดแทนเขา แล้วยิ้ม “ไปเถอะ อย่าให้เคียร่ารอนาน”

เสียงเครื่องยนต์หายไป ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เคียร่าเพิ่งโพสต์โซเซียลมีเดียเมื่อห้านาทีที่แล้ว

“มีไข้ 39 องศาแน่ะ~ แต่พี่บอกว่าจะมีเซอร์ไพรส์ให้ฉัน”

รูปที่แนบคือปรอทดิจิทัลที่โชว์ตัวเลข 36.7 องศา

ฉันวางโทรศัพท์ลง แล้วจู่ๆ แล้วก็หวนนึกถึงวันที่ฉันได้พบกับลอเรนโซครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน

ตอนนั้น แก๊งมาเฟียอิตาลีตอนเหนือและอิตาลีตอนใต้กำลังเจรจากันที่มิลาน ฉันในฐานะที่ปรึกษาการเงินของฝ่ายเหนือเข้าร่วมประชุมด้วย ตอนที่ลอเรนโซนำคนของฝ่ายใต้บุกเข้ามาในห้องประชุม บอดี้การ์ดทุกคนชักปืนออกมาในทันที

แต่เขากลับเดินตรงมาหาฉัน คุกเข่าข้างหนึ่งท่ามกลางสายตาทุกคู่ แล้ววางปืนพกสีทองลงบนฝ่ามือฉัน

“วิกตอเรีย เดอลูก้า” เขาเงยหน้ามองฉัน ดวงตาสีมรกตนั้นสะท้อนประกายวาบของรักแรกพบ “ในนี้มีกระสุนหนึ่งนัด ถ้าฉันทรยศเธอ เธอสามารถเหนี่ยวไกได้ทุกเมื่อ”

ทั่วทั้งห้องถึงกับตะลึง พ่อของฉันโกรธจนปาแก้วไวน์ทิ้ง ส่วนผู้อาวุโสฝ่ายใต้ก็พากันด่าว่าเขาบ้า

แต่ฉันรู้ดีว่าการกระทำของเขานั้นมันหมายถึงอะไร เขามอบชีวิตของเจ้าพ่อฝ่ายใต้ของเขาไว้ในมือศัตรูอย่างฉัน

ภายหลังเขาเล่าให้ฟังว่า ลุงมาร์คโกรธจนแทบคลั่ง บอกว่าเขาได้เอาสัญลักษณ์แห่งอำนาจของฝ่ายใต้ไปมอบให้กับทายาทของฝ่ายเหนือที่เป็นศัตรูโดยตรง

แต่ลอเรนโซกลับแค่ยักไหล่อย่างไม่แยแส “ยังไงเราก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ดี”

ตอนนั้นเขารำคาญเคียร่าจริงๆ ทุกครั้งที่พูดถึงเธอ น้ำเสียงของเขามักจะหงุดหงิดเสมอ

“ลูกสาวของลุงมาร์คเหมือนภาระที่สลัดไม่หลุดเลย”

ครั้งแรกที่ฉันเจอเคียร่าคือในงานหมั้นของเรา เธอสวมชุดชีฟองสีขาว ยืนอยู่ในมุมห้อง หน้าซีดเซียวไม่พูดไม่จา

“นั่นคือเคียร่าเหรอ?” ฉันกระทุ้งศอกถามลอเรนโซ

เขาไม่แม้แต่จะหันไปมอง “อืม ไม่ค่อยแข็งแรงแล้วยังจะมาอีก น่ารำคาญชะมัด”

แต่พอพูดจบ เขากลับเรียกบริกรมา “เอาผ้าห่มให้คุณผู้หญิงที่อยู่ตรงมุมนั้นที แล้วเอานมร้อนให้เธออีกแก้วด้วย”

หลังจากนั้นฉันถึงได้รู้ พฤติกรรมที่ย้อนแย้งแบบนี้กลายเป็นลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเคียร่า

“เคียร่าพึ่งพาคนอื่นมากเกินไป” เขาบ่นแต่ก็จำได้ทุกอย่างที่เธอแพ้ได้

“ยัยนั่นน่ารำคาญจะตายไป” แต่ทุกครั้งที่เธอเข้าโรงพยาบาล เขากลับเป็นคนแรกที่ไปถึง

“เธอช่วยพึ่งพาตัวเองหน่อยได้ไหม? เห็นใจคนอื่นสักนิดได้หรือเปล่า?” ประโยคนี้มักมาพร้อมกับภาพที่เขาที่เดินออกจากพิธีแต่งงานของเรากลางคัน เพื่อรีบไปหาเธอ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดึงฉันออกจากห้วงความคิด

เป็นสายของโซเฟีย เพื่อนสนิทไม่กี่คนที่รู้เรื่องทั้งหมดของฉัน คุณหนูจากตระกูลใหญ่ฝ่ายเหนือ

“วิกกี้! เธอเห็นโพสต์ใหม่ของยัยเคียร่าหรือยัง?” เสียงของโซเฟียร้อนรนมาก “แล้วทำไมลอเรนโซถึงไปอยู่ที่นั่น? วันนี้วันแต่งงานของพวกเธอไม่ใช่เหรอ? คืนเข้าหอแท้ๆ แทนที่จะอยู่กับเจ้าสาว เขากลับไปจัดงานวันเกิดให้ยัยขี้โรคนั่น? แถมลงมือทำทีรามิสุให้เองด้วย! เขาเคยทำอะไรให้เธอสักครั้งไหม!”

ฉันเงียบ ปลายนิ้วเย็นเฉียบ

“วิกตอเรีย? ตอบฉันสิ!” โซเฟียเริ่มเสียงสั่น “อย่าบอกนะว่าเธอจะทนอีกแล้วน่ะ?”

“ไม่มีคืนเข้าหอหรอก โซเฟีย” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “งานแต่งถูกยกเลิกแล้ว”

ปลายสายเงียบไปสองวินาที อารมณ์ของโซเฟียเหมือนถูกกลืนลงคอไป หลังจากเงียบไปหลายวินาที เธอก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เขา…เขาทำอีกแล้วเหรอ... ตอนที่กำลังกล่าวคำปฏิญาณ?”

“อืม”

เสียงของโซเฟียเดือดดาล เต็มไปด้วยความโมโหและไม่อยากจะเชื่อ “ครั้งที่สิบเจ็ด! ครั้งที่สิบเจ็ดแล้วนะวิกตอเรีย! ทั้งที่เธอกำลังท้องอยู่! ลอเรนโซ รุสโซเขาคิดจะทำอะไรของเขา! เคียร่าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาหรือยังไง?”

“ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ หรอก” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เธอเป็นลูกสาวของมาร์ค รอสซี”

“ไอ้เจ้าบ้ามาร์ค รอสซี!” โซเฟียด่าสบถ “หนี้บุญคุณของพ่อเขาต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเธอหรือยังไง! วิกตอเรีย เธอเป็นลูกสาวของตระกูลเดอลูก้านะ! เธอกลายเป็นคนที่อดทนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!”

“ฉันจะไม่ทนอีกแล้วล่ะ” ฉันมองใบหน้าที่ซีดเซียวของตัวเองในกระจก “โซเฟีย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”

“เรื่องอะไร?”

“ช่วยติดต่อโรงพยาบาลสูตินรีเวชให้หน่อย” น้ำเสียงของฉันนิ่งมาก “หลังจากทำแท้งแล้ว ฉันจะกลับมิลาน”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เจ้าพ่อยกเลิกงานแต่งสิบเจ็ดครั้งฉันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย   บทที่ 8

    หลายปีต่อมา ในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเยาวชนระดับนานาชาติแองเจโลสวมสูทตัวเล็กยืนอยู่บนเวทีรับรางวัล เมื่อเขารับถ้วยรางวัลทองคำมา เสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มไปทั่ว“คุณเดอลูก้า” พิธีกรยิ้มแล้วยื่นไมโครโฟนให้ “ช่วยกล่าวความรู้สึกหลังได้รับรางวัลหน่อยได้ไหมคะ?”แองเจโลรับไมค์มา น้ำเสียงใสแต่หนักแน่น “ผมขอขอบคุณแม่ของผมครับ เธอคือแบบอย่างของผม”ฉันยิ้มพลางปรบมือให้ลูกชาย สายตาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ที่การแจ้งเตือนข่าวเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของฉัน[ตระกูลรุสโซแห่งอิตาลีตอนใต้หนี้สินกองพะเนิน ธุรกิจหลักทยอยถูกขายทอดตลาด เจ้าพ่อลอเรนโซ รุสโซ มีข่าวลือว่าชีวิตคู่ร้าวฉาน มีปากเสียงกันไม่หยุด]รูปภาพประกอบคือภาพแอบถ่าย ลอเรนโซไว้หนวดเครารกรุงรัง ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและว่างเปล่า ส่วนเคียร่าก็อยู่ในชุดยาวเปรอะเปื้อนที่สกปรก ทรุดโทรม และกำลังตะโกนใส่เขาอย่างบ้าคลั่งฉันมองข่าวนั้นด้วยความเยือกเย็น ก่อนจะปัดหน้าจอทิ้งอย่างไม่ใส่ใจหลังพิธีมอบรางวัลจบลง แองเจโลวิ่งมาหาฉันพร้อมถ้วยรางวัลในมือ “แม่ครับ! ผมชนะแล้ว!”“ลูกคือความภาคภูมิใจของแม่เสมอ”

  • เจ้าพ่อยกเลิกงานแต่งสิบเจ็ดครั้งฉันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย   บทที่ 7

    เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นดึงดูดสายตาของแขกทั่วทั้งงานสีหน้าของลอเรนโซซีดเผือด ปากสั่นเครือ ราวกับยังอยากแก้ตัวอะไรบางอย่าง แต่ในเวลานี้เอง...“พี่คะ!”เคียร่าโผเข้ามาทันที มือข้างหนึ่งที่ประคองท้องที่ใหญ่ยื่น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งคว้าแขนของลอเรนโซไว้แน่น“ลอเรนโซ… เมื่อครู่นี้คุณพูดว่าจะกลับไปเริ่มต้นใหม่กับเธอเหรอ?” เสียงของเธอสั่นเครือ เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “คุณจะรับลูกของเธอ? แล้วลูกของเราล่ะ?!”เสียงฮือฮาดังก้องไปทั่วทั้งงาน ฉันมองภาพเหตุการณ์วุ่นวายนั้นด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยัน มันเป็นภาพที่ตลกร้ายที่น่าสมเพชที่สุดในค่ำคืนนี้สีหน้าของลอเรนโซซีดสลับอึมครึม เขาพยายามสะบัดมือออก “เคียร่า! ปล่อย ฉันแค่...”“แค่ อะไร?!” น้ำตาของเคียร่าไหลพราก จนเครื่องสำอางเปื้อนเลอะ เผยให้เห็นใบหน้าซีดโทรม “ลูกในท้องฉันต่างหากที่เป็นลูกของคุณ เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลรุสโซ!”เธอกุมมือของลอเรนโซแปะลงบนหน้าท้องของตัวเองเธอเงยหน้าขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความคับแค้นใจ “คุณเคยสัญญากับพ่อฉันว่าจะดูแลฉันตลอดชีวิต! คุณพูดเองว่าจะให้ฉันกับลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วคุณกล้า... กล้าทำแบบนี้ต่อหน

  • เจ้าพ่อยกเลิกงานแต่งสิบเจ็ดครั้งฉันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย   บทที่ 6

    เจ็ดปีต่อมา ศูนย์การเงินนานาชาติเมืองมิลานฉันคล้องแขนพ่อเดินเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยง ตอนนี้ฉันคือผู้นำสูงสุดของอิตาลีแดนเหนืออย่างไร้ข้อกังขา“นายหญิงเดอลูก้า” ตอนนี้พวกเขาเรียกฉันแบบนั้นมือขวาของฉันกุมมือเล็กๆ ของแองเจโล เขาใช้ปลายนิ้วจิ้มฝ่ามือฉันเบาๆ ฉันยิ้ม แล้วลูบศีรษะลูกชายอย่างอ่อนโยน “มีอะไรเหรอจ๊ะ เทวดาน้อยของแม่?”“แม่ครับ ผู้ชายคนนั้นมองแม่อยู่ตลอดเลย” แองเจโลพูดเสียงแผ่วเบา สายตาเฉียบแหลมมองไปยังมุมมืดของห้องจัดเลี้ยงลอเรนโซ รุสโซเขาดูโทรมมาก หมดสิ้นราศีและความองอาจในอดีต ส่วนเคียร่ายืนติดข้างกายเขา สายตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงแล้วมองมาที่ฉันฉันละสายตากลับมาไม่ได้สนใจ “ไม่ต้องสนใจ”แต่ลอเรนโซกลับเดินเข้ามาหา เขาผลักเคียร่าที่พยายามจะขวางออก เดินโซเซเข้ามา กลิ่นแอลกอฮอล์แรงฉุนตีขึ้นมาในอากาศทันที“วิกตอเรีย…” เสียงของเขาสั่นด้วยความตื่นเต้นและอดกลั้นมานาน “เจ็ดปีแล้ว…”ฉันมองเขาอย่างเย็นยะเยือก ไม่ได้พูดอะไร“กลับไปกับฉันเถอะ” เขาเอื้อมมือมาอย่างร้อนรนหมายจะคว้ามือฉัน “เราเริ่มต้นใหม่กันนะ! ครั้งนี้ ฉันจะไม่...”ฉันถอยหนึ่งก้าว เบี่ยงมือออกจากการสัมผัสนั้น สายตา

  • เจ้าพ่อยกเลิกงานแต่งสิบเจ็ดครั้งฉันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย   บทที่ 5

    มิลาน ห้องจัดเลี้ยงในคฤหาสน์เดอลูก้าสว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าผู้อาวุโสของมาเฟียอิตาลีตอนเหนือรวมตัวพร้อมหน้า เพื่อฉลองการกลับมาของฉัน“วิกตอเรีย” พ่อของฉันยกแก้วขึ้นก่อนใคร แล้วพูดอย่างทรงอำนาจว่า “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”ฉันยกแก้วคริสตัลขึ้น กวาดสายตาไปรอบห้อง บางคนคืออดีตลูกน้องคนสนิทของพ่อ บางคนเป็นเลือดใหม่ที่เพิ่งผงาดขึ้นมา และบางคนคือคนที่เคยดูถูกคุณหนูเดอลูก้าผู้ทรยศ “หนี” ไปอยู่กับมาเฟียอิตาลีตอนใต้“ขอบคุณทุกท่านค่ะ” ฉันยิ้ม เสียงเรียบสงบ “ตลอดหลายปีที่อยู่อิตาลีตอนใต้ ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย”“เช่นอะไร?” ชายคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสนใจ“เช่นว่า…” ฉันวางแก้วลงเบาๆ “ธุรกิจท่าเรือของพวกเขาอยู่ได้ด้วยการติดสินบนเจ้าหน้าที่ศุลกากร รายชื่อทั้งหมดอยู่ในมือฉันแล้ว”“ช่องทางค้าอาวุธของพวกเขา พึ่งคนกลางสามคน คนหนึ่งฉันดึงตัวมาแล้ว”“กระแสเงินสดจากบ่อนคาสิโนของพวกเขา สองในสามไม่เคยยื่นภาษีอย่างถูกต้อง หนังสือสอบสวนจากกรมสรรพากร จะถูกส่งถึงโต๊ะทำงานของตระกูลรุสโซในวันพรุ่งนี้”ทั่วทั้งห้องเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะระเบิดเป็นเสียงปรบมือและคำชื่นชมดังกึกก้อง“สมแล้วที่เป็นลูกสาวเดอลูก้

  • เจ้าพ่อยกเลิกงานแต่งสิบเจ็ดครั้งฉันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย   บทที่ 4

    “แกว่าอะไรนะ? เธอไปทำอะไรที่นั่น?!”ความไม่สบายใจก่อตัวขึ้นในใจของลอเรนโซอย่างรุนแรง เขาแทบหายใจไม่ออกวินาทีต่อมา โทรศัพท์ของเขาก็สั่นอย่างบ้าคลั่งเขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างลนลาน ในใจยังคงแอบมีความหวังเล็กๆอาจจะเป็น... วิกตอเรีย?แต่กลับเป็นเคียร่าทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เวลาเห็นชื่อของเธอเขามักจะรู้สึกเหนื่อยใจและสงสาร แต่ตอนนี้กลับมีแต่ความหงุดหงิดและอ้างว้าง“พี่คะ…” น้ำเสียงของเคียร่าดูเหมือนจะดีใจอย่างมาก “ฉันได้ยินมาว่าเกิดปัญหาในงานแต่งงาน…”ขมับของลอเรนโซเต้นตุบๆ เขากวาดตามองไปรอบโบสถ์ เห็นแขกทุกคนทำสีหน้าอยากรู้อยากเห็น“เคียร่า ตอนนี้พี่ไม่ว่าง…”“ฉันช่วยได้นะ!” เคียร่าพูดแทรกด้วยความตื่นเต้น “ฉันอยู่ที่หน้าประตูโบสถ์แล้ว ตระกูลรุสโซต้องมีเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ไม่ได้ ฉัน...”“แกร๊ก!”ลอเรนโซกดตัดสายไปเลยเขาเข้าใจทันทีว่าวิกตอเรียรู้สึกอย่างไรทุกครั้งที่เธอต้องยืนอยู่หน้าแท่นบูชาที่แท้นี่ก็คือรสชาติของคนที่ถูกทอดทิ้ง“อันโตนิโอ!” เขาตวาดจนคนสนิทสะดุ้งเฮือก “ยกเลิกงานแต่ง!”“อะไรนะครับ?” อันโตนิโอตกใจ “แต่ลูกพี่ แขกยัง...”“ฉันบอกให้ยกเลิก!” เขาตะคอกเสียงดังแล

  • เจ้าพ่อยกเลิกงานแต่งสิบเจ็ดครั้งฉันกลายเป็นเจ้าแม่มาเฟีย   บทที่ 3

    แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องครัว ฉันฮัมเพลงพื้นบ้านของอิตาลีตอนเหนือเบาๆ ค่อยๆ ทอดเบคอนกับไข่ดาวด้านเดียวอย่างไม่เร่งรีบนี่คือมื้ออำลาที่ฉันตั้งใจเตรียมไว้ให้ตัวเองฉันดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง ส้อมเพิ่งจะแตะของไข่แดงเยิ้มๆ“แกร๊ก”ประตูเปิดออกลอเรนโซเดินเข้ามา พร้อมกลิ่นน้ำหอมของเคียร่าที่ติดตัวมา เขายังถือช่อดอกไม้มาด้วยช่อดอกไม้ใหญ่เกินงาม เป็นดอกเบิร์ดออฟพาราไดซ์สีเหลืองทองปนส้ม ลำต้นตั้งแข็งตรงฉันเกลียดดอกไม้พวกนี้ พวกมันเหมือนฝูงไก่งวงที่ถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องเกินเหตุ เทอะทะและไร้รสนิยมแต่เคียร่าชอบมาก เธอบอกว่าดอกไม้พวกนี้มีพลังชีวิตแข็งแกร่ง เป็นในแบบที่เธอนั้นคาดหวังที่จะเป็น“อรุณสวัสดิ์ วิกกี้” เสียงเขาแหบพร่าเล็กน้อยจากการอดนอน แต่ดูเหมือนจะอารมณ์ดี เขาวางช่อดอกไม้ที่เกะกะนั่นไว้ที่ปลายโต๊ะ แล้วนั่งลงตรงข้ามฉัน“เมื่อคืนเคียร่าก็เรื่องวุ่นวายอีกแล้ว” เขาพูดเหมือนบ่น แต่ก็เหมือนพยายามอธิบาย “บอกว่าเปลี่ยนยาแก้ปวดยี่ห้อใหม่ไม่ดีเหมือนยี่ห้อเก่า ร่างกายของเธอเนี่ยนะ… อะไรนิดอะไรหน่อยก็ทนไม่ไหวแล้ว”ระหว่างที่พูด เขาก็เอื้อมมือมาหยิบขนมปังของฉันด้วยความเคยชิน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status