 เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบหน้าจอแสดงรูปภาพโพรไฟล์กับข้อความพร้อมกัน เขาเอาไอดีฉันมาจากไหนเนี่ย
อาชา : เลิกยัง
ลินา : เลิกแล้ว ว่าแต่นายแอดมาได้ไง
อาชา : อย่ามาตั้งคำถาม
ลินา : ส่งสติ๊กเกอร์หน้าร้องไห้
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พิมอะไรมาอีกฉันจึงเลือกที่จะเดินกลับหอทันที แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงเรียบ ๆ ของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
“ ขึ้นรถ ”
อาชาพูดขึ้นขณะที่ลำตัวกำลังยืนพิงรถมือขวาถือบุหรี่สูบอยู่
“ ขึ้นทำไม หอเราอยู่แค่นี้เอง นายไม่ต้องไปส่งหรอก ”
ฉันพูดออกไปก่อนจะเดินห่างจากเขาเพราะเหม็นบุหรี่
“ อยากตาย ว่างั้น ”
เขาพูดขู่ก่อนจะโยนบุหรี่ทิ้งแล้วอ้อมไปเปิดประตูด้านคนขับ เฮอะ ฉันมีทางเลือกไม่ไปบ้างไหมเนี่ย สั่งอยู่นั่น พูดก็น้อยแต่สั่งเก่งเป็นที่สุด!
เขาขับรถออกไปจากตัวมหา’ลัยดีนะแถวนี้คนน้อยเลยไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเราเท่าไหร่ แต่เอ๊ะว่าแต่เขาจะพาฉันไปไหนเนี่ย
“ หอเราไม่ได้ไปทางนี้หนิ นายจะไปทำธุระก่อนเหรอ ”
ฉันถามเขาออกไปด้วยใบหน้างุนงงเล็กน้อย มีธุระก็ไม่บอกฉันจะได้ไม่ต้องขึ้นมาดีนะที่วันนี้วันหยุดงานพอดี
“ ... ”
เขาเงียบไม่ได้ตอบอะไรฉันก็เลยไม่ได้สนใจจะถามอะไรต่อ
เวลาผ่านไปสักพักถนนเส้นทางที่เขาขับพาฉันว่ามันเริ่มคุ้น ๆ เหมือนทางไปคอนโดเขา
“ นายพาเรามาที่นี่อีกทำไม ”
ฉันถามเขาไปตรง ๆ กลัวก็กลัวแต่ฉันง่วงนี่น่าจะพามาคอนโดเขาทำไมเนี่ย
“ ขึ้นไปเดี๋ยวก็รู้เอง ”
เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปในคอนโดฉันไม่มีทางเลือกจึงต้องเดินตามเขาเข้าไปก็เข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อทันที
“ นี่นาย ให้พวกเขาขนของฉันมาทำไมเนี่ย ”
ฉันพูดเสร็จก่อนจะวิ่งไปดูของตัวเองที่อยู่ในกล่อง
“ มาอยู่ที่นี่ ”
เขาพูดตอบฉันหน้าตาเฉยชาจนฉันเดาใจเขาไม่ออก อยู่? อยู่ที่นี่เนี่ยนะ บ้าไปแล้ว
“ นายจะให้เรามาอยู่กับนายได้ไงเกิดคนที่มหา’ลัยรู้เข้าจะทำยังไง ”
ฉันพูดออกไปแบบร้อนรนนี่เขาบ้าไปแล้วหรือไงคนที่ซวยมันเป็นฉันคนนี้ไงเล่าาา
“ ช่างแม่งพวกมันสิวะ ”
เขาพูดออกมาก่อนจะเดินหนีหายเข้าไปในห้อง เอาวะ ในเมื่อขัดใจไม่ได้อะไรก็ไม่ได้ก็ช่างมันตามที่เขาบอกละกันคงไม่โชคร้ายขนาดมีใครรู้ว่าฉันอยู่กับเขาหรอก
คิดในแง่ดีไว้ยัยลินา ฉันค่อย ๆ นำของออกมาเก็บเข้าที่ในเรียบร้อย
แล้วแบบนี้เจ้านีน่าของฉันจะเหงาไหมเนี่ย แต่คงไม่เหงาหรอกมั้งคนดูแลนางเยอะมากกกก >0<
1 อาทิตย์ ผ่านไป...
อาทิตย์กว่า ๆ ได้แล้วที่ฉันย้ายมาอยู่กับอาชาเอ๊ย! ใช้คำว่าย้ายไม่ได้สินายนั้นมัดมือชกฉันเลยมากกว่า เฮ้อฉันเข้ามาอยู่ในฐานะอะไรก็ยังไม่รู้เขาเองก็ไม่พูดไม่บอกอะไรพออยู่ไปด้วยนาน ๆ มันก็มีใจเต้นบ้างอะไรบ้าง
แต่เขานี่สิเฉยชาเหมือนเดิมเป๊ะฉันตื่นเช้ามืดเช่นเดิมทุกวันทำทุกอย่างเหมือนเดิมทุกวันคือตื่นอาบน้ำทำข้าวเช้าแล้วก็มาปลุกเขาไปมหา’ลัยพร้อมกัน
แต่ดีหน่อยที่ฉันดื้อดึงจนเขายอมให้ฉันลงก่อนถึงมหา’ลัยโดยฉันให้เหตุผลว่าไม่อยากเป็นข่าวต่าง ๆ นานาไป
เขาเองก็โอเค จะไม่โอเคได้ไงรายนั้นโลกส่วนตัวนี่สูงปรี๊ด
ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้หรอกว่าฉันอยู่กับเขานอกจากเพื่อน ๆ อีกสามคนของเขาเท่านั้นที่รู้ก็โดนแซว ๆ บ้างฉันนี่เขินไปหมด
แต่ดูเขาสินิ่งมาก เฮ้อ มีอารมณ์บ้างไหมเนี่ยยย ฉันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมยอมอยู่กับเขามาตั้งอาทิตย์กว่า ๆ
ตอนแรกยอมรับเลยว่ากลัวไม่กล้าหือกล้าอืออะไรกับเขาแต่พออยู่นานเข้ามันก็เหมือนความเคยชิน
ซึ่งเป็นความเคยชินที่ทำให้ใจฉันเต้นแรงเฉยเลยแต่เขาก็ไม่เคยทำไรล่วงเกินฉันเลยนะนอกจากกอด
ส่วนเรื่องงานเขาสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ฉันทำถ้ารู้ว่าฉันไปทำเขาจะสั่งปิดกิจการพวกนั้นทันทีแน่นอนโดนขู่แบบนี้ใครจะกล้าไปทำกัน
ฉันอยู่ว่าง ๆ แบบเบื่อมากถึงมากที่สุด จากคนทำงานมาตลอดตอนนี้ต้องมานั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ห้องเขาไปวัน ๆ ก็รู้สึกเบื่อแบบสุด ๆ
ฉันเอาแต่นั่งคิดนอนคิดทั้งวันว่าจะทำอะไรแก้เบื่อดี อยากขายของออนไลน์ก็ไม่รู้จะขายอะไรแถมก็ไม่มีต้นทุนอีกด้วย
“ เฮ้อออ~ ”
ฉันพ่นหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมทอดสายตามองไปยังอาชาที่กำลังนั่งแกะเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่เห็นว่าเขามีบริษัทเกี่ยวกับพวกคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ทีมโปรแกรมเมอร์ต่าง ๆ ด้วย
พอฉันลองเสิร์ชหาข้อมูลอ่านดูก็เห็นว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่และมีอิทธิพลโด่งดังสุด ๆ แต่เข้าดันไม่เปิดเผยตัวกับสื่อว่าเป็นเจ้าของบริษัทนะคงหวงความเป็นส่วนตัวตามเคยนั่นแหละ
และเบื้องหลังลึก ๆ เขาก็ยังผู้นำแก๊งมาเฟียอีกด้วย
“ เป็นอะไร ”
เขาถามฉันเสียงเรียบมือก็ยังยุ่งวุ่นวายอยู่กับคอมพิวเตอร์ของเขา
“ เบื่ออะนายไม่มีอะไรให้เราทำเลยเหรอ? ”
ฉันถามออกไปเผื่อเขาอาจมีอะไรให้ฉันช่วยแก้เบื่อได้บ้าง
“ ว่างมากก็ไปนอน ”
เขาพูดนอน! นอนอีกแล้ว ฉันละเบื่อคำนี้ของเขาจริง ๆ ทุกครั้งที่ฉันมักจะบ่นว่าเบื่อ เขาก็มักจะบอกให้ฉันไปนอนตลอด นอนมันแก้เบื่อได้หรือไงเล่าาา
“ ไม่เอา ไม่นอนแล้ว เราขอไปทำงานไม่ได้เหรอออ ~ ”
ฉันลองทำเสียงออดอ้อนดูบ้างเผื่อเขาจะยอม เขินก็เขินแต่ก็ต้องทำ เพราะด้านเบื่อของฉันในตอนนี้มีมากกว่าด้านอายเสียอีก
และมันก็ได้ผล! เขาหันกลับมามองฉันก่อนจะลุกขึ้นเดินมาทางฉัน เห็นดังนั้นก็ยิ้มจนปากจะฉีกเพื่อเขาจะยอมเห็นใจเข้าไปอีก
“ น่าาา นะ นะ นะ นะ ~ ”
พร้อมกับทำเสียงน่ารัก ๆ เหมือนเวลาฉันพูดกับแมว เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
อยู่ดี ๆ เขาก็โน้มตัวลงมา เอ๊ะ! ฉันว่ามันแปลก ๆ ละ
“ นะ...นายจะทำอะ- อื้อ! ”
ไวกว่าความคิดที่ฉันจะหลบ
เขาโน้มตัวลงมามือหนาใหญ่จับที่ท้ายทอยไม่ให้ฉันขยับหนีก่อนที่เขาจะประกบจูบตามลงมามันเนิ่นนานจนฉันต้องกำหมัดทุบอกเขาเบา ๆ เพื่อหวังจะให้เขาปล่อยฉันเป็นอิสระ
“ อย่าอ้อน ”
เขาพูดเสร็จก็เดินออกไปทิ้งฉันให้นั่งหน้าแดงอายพร้อมหอบหายใจเข้าออกอยู่บนโซฟา
“ บ้า ”
ฉันพูดกับตัวเองเบา ๆ มือซ้ายแตะไปที่ริมฝีปากตัวเองส่วนมือขวาก็ทาบไปที่หน้าอกตอนนี้มันเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาให้ได้

ตอนพิเศษ ๕หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป... หลังจากกลับมาจากทริปเที่ยวก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้ววันนี้เป็นวันที่พวกเขาและลูกอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลย เนื่องจากโรงเรียนของเจ้าแฝดหยุดส่วนสามีของเธอก็หยุดงานเช่นกัน “โหป๊าอะ! ยอมให้ผมหน่อยไม่ได้ไงครับ” หญิงสาวส่ายหน้าไปมากับภาพเด็กชายตรงหน้ากำลังโวยวายผู้เป็นพ่อ “ ช่วยไม่ได้ระดับฝีมือเรามันต่างกัน ” ส่วนคนเป็นพ่อก็ไม่น้อยหน้ากันเลย หญิงสาวไปแต่ยืนถอนหายใจไม่ใช่เพราะอะไรหรอกวันหยุดทั้งที แต่สองพ่อลูกกลับมานั่งเล่นเกมกันอย่างเมามัน “ อินทราพักก่อนไหมครับเดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก ” มีเพียงเด็กชายอีกคนที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะ โดยหนังสือที่เด็กชายอ่านนั้นเกี่ยวกันทางการแพทย์ทั้งนั้นเลย “ แฮะ ๆ ผมอ่านเพลินเลยครับ ” เด็กชายได้แต่นั่งยิ้มแห้งส่งมาให้ม๊าของเขา เด็กคนนี้มีความชอบความคิดที่ต่างจากผู้เป็นพี่อย่างอินทัชมากอินทราชอบทางด้านการแพทย์แถมยังชอบดูหนังที่ผ่าตัดร่างกายบ่อยจนผู้เป็นแม่อดห่วงไม่ได้ แต่เธอก็ทำได้เพียงมองดูลูกอยู่ห่าง ๆ เท่านั้นชีวิต
หลายชั่วโมงต่อมา...สถานที่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากเดินทางมาหลายชั่วโมงก็มาถึงสักทีเล่นเอาพวกเขาทั้งสองปวดเมื่อยตามตัวไปหมดเลย อายุก็เยอะขึ้นแล้วมานั่งนานแบบนี้ก็รู้สึกถึงฟีลแก่ขึ้นเลย “ นาว่าเราสองคนแก่ขึ้นมากแล้วนะคะ ฮ่า ๆ ” “ สำหรับพี่นาไม่เคยแก่เลยมีแต่น่ารักขึ้น ”ฟอด ฟอด ~ ชายหนุ่มก้มลงหอมหัวภรรยาอย่างเอ็นดูไม่แคร์สายตาผู้คนแถมนี้เลย แต่เอาตามตรงธรรมเนียมวัฒนธรรมของฝรั่งการทำแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเขาเลยไม่ได้สนใจอะไรกันเหมือนที่ประเทศไทย ทว่าหญิงสาวกลับไม่เคยชินนี่ สิไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนวัฒนธรรมแบบไหนการที่มายืนกอดหอมเธอกลางผู้คนแบบนี้ก็เล่นเอาซะเธอทำตัวไม่ถูกเลย “ คนบ้า >////” ประเทศที่พวกเขาเลือกมากันนั้นเป็นประเทศในฝันของใครหลายคนเลย เพราะว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติเป็นที่สุดไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์และสภาพอากาศที่หนาวกว่าเมืองไทยเป็นอย่างมากสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศขนาดเล็กติดกับประเทศเยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส ประเทศอิตาลี ประเทศออสเตรีย และประเทศลิกเตนสไตน
ตอนพิเศษ ๔ หญิงสาวร่างเล็กเอ่ยขึ้น ขนาดใช้ความคิดว่าควรถามลูกดีกว่าว่าพวกเขาอยากไปไหนกัน อย่างน้อยพวกลูกก็โตแล้วจะต้องมีสถานที่อยากไปแน่แต่เธอก็ต้องทำหน้างุนงงเมื่อสามีเธอเอ่ยบางคำออกมา “ พี่หมายถึงเราไปกันสองคนครับ ” “ สองคนเหรอคะ? แล้วลูกล่ะ จะอยู่กับใคร ” หญิงสาวมีสีหน้ากังวลขึ้นเล็กน้อยเมื่อจะต้องไปกันสองคนโดยไม่มีลูก “ อย่าลืมสิครับลูกเรายังมีปู่มีย่าอยู่นะฝากพวกท่านไว้ก่อนไง ” “ นาเกรงใจพวกท่านค่ะ ” “ มานี่ ” ชายหนุ่มพูดตัดบทคนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยเรียกเธอเสียงเรียบพร้อมกับตบหน้าตักแกร่ง หญิงสาวเดินเข้ามาหาชายหนุ่มอย่างไม่ลังเลเธอชินแล้ว เขาชอบทำแบบนี้ประจำเมื่อไม่ได้ดังใจ “ อื้อ ~ ” เมื่อหญิงสาวเดินลงไปหย่อนสะโพกเล็กบนหน้าตักแกร่งของเขา ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ประกบปากหนาร้อนลงบนริมฝีปากเล็กอย่างเนิ่นนานจนคนตัวเล็กแทบขาดอากาศหายใจ เขาถึงปล่อยเธอเป็นอิสระ “ อย่าดื้อ นาไม่อยากอยู่กับพี่สองคนเหรอ ” “ กลายเป็นคนขี้อ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ^^ ”
ตอนพิเศษ ๓เช้าวันต่อมา...ลินา Talkตอนนี้ฉันกำลังยืนส่งลูกเข้าโรงเรียนอยู่ค่ะทุกคน ^^’“ ม๊าเลิกมาส่งผมสักทีผมโตแล้วนะครับ ”อินทัชลูกคนโตของฉันพูดขึ้น แม่เสียใจ Y_Y“ พี่ทัชอย่าพูดทำร้ายจิตใจแม่สิ ”โอ๊ยอินทราลูกแม่ อ่อนโยนได้ฉันมาเต็ม ๆ หุหุ“ ม๊าเสียใจจังครับอินทรา พี่อินทัชไม่รักม๊าเลย ●︿● ”ฉันแกล้งตีหน้าเศร้าพูดกับอินทรา ฉันรู้ดีว่าอินทัชมีนิสัยยังไง เขาน่ะเหมือนพี่ชาเป๊ะ ๆ ต้องใช้ไม้นี้เท่านั้นจุ๊บ“ รักม๊านะครับ ผมไปละ ”อินทัชวิ่งเข้ามาหอมแก้มฉันก่อนจะรีบวิ่งเข้าโรงเรียนไป ไงล่ะ เดาผิดซะที่ไหนถอดแบบพ่อมาเป๊ะ ๆ ≧▽≦“ งั้นผมไปก่อนนะครับม๊า ”อินทราพูดจบก็เดินตามคนเป็นพี่เข้าไปลูกฉันสองคนหน้าตาเหมือนกันมาก ๆ ค่ะ แทบจะแยกกันไม่ออกเลยแต่ฉันเลี้ยงเขามาพวกเขามีหลายอย่างเลยที่แตกต่างกัน“ นายหญิงจะกลับบ้านเลยหรือไปหานายท่านก่อนครับ ”พี่นิคเอ่ยถามฉัน“ งั้นเดี๋ยวนาขอแวะไปหาพี่ชาแป๊บหนึ่งแล้วกันค่ะ ”สถานที่ บริษัทซอฟต์แวร์ของอาชาอาชา Talk “ เดี๋ยวคุณช่วยปรับแก้ตรงนี้ด้วยนะผมคิดว่ามันสามารถต่อยอดไปได้อีก ”ผมเอ่ยสั่งพนักงานในบริษัทตัวเองอย่างใจเย็น“ ครับท่านประธาน ”
ตอนพิเศษ ๒15 ปีผ่านไป...สถานที่ สนามยิงปืนของดีไวน์ปัง! ปัง! ปัง!“ เก่งมาก อินทัช อินทรา จำที่พ่อสอนไว้ให้ดี ”เสียงอาชาเอ่ยบอกลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนเสียงเรียบ“ ครับป๊า! / ครับป๊า! ”“ จำไว้ไม่พอใจใคร ก็ยิงแสกกระบาลมันซะ ”คนเป็นพ่อเอ่ยบอกลูกชายเขาสอนลูกชายให้จับปืนใช้มีดและศิลปะป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็กเป็นลูกชายมาเฟียต้องแกร่งและไม่อ่อนแอ นั้นคือสิ่งที่เขาพูดกับลูกชายเสมอ“ ครับ! / ครับ! ”เด็กทั้งสองตอบรับคนเป็นพ่ออย่างหนักแน่น“ ไอ้ฉิบหาย! สอนลูกแต่ละอย่าง กูละปวดหัวแทนยัยชี ”เคียร์พูดขึ้นเสียงดังพอให้อีกฝ่ายได้ยิน“ อย่าให้กูเห็นนะว่ามึงสอนลูกแบบมัน กูจะขำให้ไอสัส! ”เทนชิเอ่ยกัดเพื่อนรักอย่างเครียร์“ กัดกันเหมือนหมา ”คนที่กำลังเช็ดปืนลูกรักอยู่เอ่ยขึ้นเรียบๆ“ ไอ้ดีไวน์! / ไอ้ดีไวน์! ”เพื่อนรักทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ของผู้มาใหม่ก็ดึงความสนใจให้ทุกคนไม่น้อย“ พี่ชา!!! อีกแล้วนะสอนลูกแบบนี้อีกแล้ว ”หญิงสาวร่างเล็กเดินหงุดหงิดเข้าไปหาสามีตนเอง“ ว่าไงครับตัวเล็ก หืม? ”อาชาเอ่ยทักทายภรรยาตัวเองก่อนจะดึงเข้ามาหอมที่หัวอย่างไม่อายใคร เพราะเขารู้ว่าเธอกำล
ตอนพิเศษ ๑“ เร็ว ๆ สิวะไอ้เคียร์ ”เทนชิตะโกนเร่งเพื่อนของตัวเองหน้าห้องน้ำ“ โอ้โหไอ้ห่านี่ก็เร่งจัง! กูขี้อยู่ไอ้ฉิบหาย! ”เคียร์ตะโกนตอบเทนชิไปอย่างหงุดหงิด“ ห่าเอ้ย! จะสายอยู่ละ ไอ้นี่ก็นั่งเงียบ! ”เทนชิสบถกับตัวเองก่อนจะหันไปด่าเพื่อนอีกคนที่นั่งไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ“ มึงก็ไปตบหลังมันสิ จะได้ขี้ออกไว ๆ ”ดีไวน์พูดด้วยเสียงเรียบก่อนจะหันไปสนใจมือถือต่อ“ ไอ้เหี้ย! ขี้นะไม่ใช่อ้วก! ”Rrrr Rrrr rrrrก่อนที่จะทะเลาะกันไปมากกว่านี้เสียงมือถือของเทนชิก็ดังขึ้น เป็น อาชา เพื่อนรักอีกคนของพวกเขาโทรมานั่นเอง“ ไอ้เพื่อนรักครับ พวกมึงไปมุดหัวอยู่หลุมไหนกันวะ!! ”เสียงอาชาตะโกนผ่านมือถือถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ ไอ้สัส! คนนะไม่ใช่ตัวตุ่น! ”เทนชิยังพอมีเวลาตบมุกเพื่อนอยู่ =_=“ อยู่ไหนกันวะ งานจะเริ่มอยู่ละ ”“ รอไอ้เหี้ยเคียร์อยู่เนี่ย! แม่งขี้แตก! ”“ แล้วไอ้ดีไวน์ละ มันไม่ได้อยู่กับมึงไง? ”“ อยู่! มันนั่งอมเหรียญอยู่พูดไม่ได้ ”คนโดนพูดถึงปรายตามองเพื่อนนิดหน่อยแบบไม่ใส่ใจ“ เปิดลำโพงดิ ไอ้เทนชิ ”เทนชิทำตามที่อาชาบอกเพราะเขารู้ดีว่ามันจะทำอะไร ก่อนจะเอาไปแนบกับประตูห้องน้ำของเคียร








