ตาคู่คมมองตัวหนังสือที่อยู่ในแผ่นกระดาษไม่ถึงครึ่งนาที ก่อนจะกวาดทุกอย่างบนโต๊ะลงพื้นด้วยความโมโห กรามแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน เพราะเก็บความโมโหเอาไว้ไม่อยู่ ข้อความไม่กี่บรรทัดที่อยู่ในหน้ากระดาษ ไม่ต่างอะไรกับไม้หน้าสาม ที่กระหน่ำฟาดลงมาบนศีรษะอย่างแรง
เพล้ง
ถ้วยกาแฟใบโปรดถูกเหวี่ยงเข้าผนังห้องอย่างแรง เศษแก้วกระจายเต็มพื้น เมื่อเจ้าของยังควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เวลาพักผ่อนของ พ.ต.ท.ธาวินทร์ เศรษฐพงษ์ ถูกรับกวนด้วยข้อความเพียงไม่กี่บรรทัด แต่มีอนุภาพมากพอจนทำให้ข้าราชการมือสะอาดอย่างเขาควบคุมตัวเองไม่อยู่
หลายปีมานี้เขาทำงานหนัก ตามสืบจนสามารถจับตัวการใหญ่ได้ แต่ผู้ต้องหากำลังจะถูกปล่อยตัวชั่วคราว นั่นเท่ากับว่าสิ่งที่เขาทุ่มเทมาทั้งหมด ไม่มีความหมายเลยสักนิด เมื่อความถูกต้องถูกบดบังด้วยอำนาจเงิน ชาวบ้านและเพื่อนของเขาเสี่ยงชีวิตปกป้องผืนป่า เขาที่เป็นตัวแทนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทำงานเต็มกำลัง ได้ใบประกาศนียบัตรยกย่องคุณงามความดี แผ่นกระดาษที่รอวันที่ถูกลืม ในขณะที่คนชั่วกำลังจะลอยนวล
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่วิน” วาสินีถาม วันนี้เป็นวันหยุด คุณหมอสาวถือโอกาสมาหาคนรักและอยู่ทำอาหารกลางวันให้เขากิน หญิงสาวรีบละมือจากงานที่ทำ เมื่อได้ยินเสียงแก้วแตกดังมาจากห้องทำงานของแฟนหนุ่ม มือบางยกขึ้นทาบอก เมื่อเห็นสภาพของห้องทำงาน ตากลมโตสลับมองไปมา ระหว่างคนรักกับกองเอกสารที่กระจายเต็มพื้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่ยืนหันหลังอยู่ตรงมุมห้อง ใบหน้าสวยซบลงบนแผ่นหลังกว้าง แล้วสวมกอดคนรักจากทางด้านหลัง
“เกิดอะไรขึ้นคะ อะไรอยู่ในซอง จ่านาจเอาอะไรมาให้คะ” ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง อำนาจเข้ามาหาพร้อมกับซองเอกสาร หลังจากนั้นธาวินทร์ก็อาละวาด จึงเดาได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ธาวินทร์คลุ้มคลั่ง มาจากเอกสารที่อยู่ในซองนั้น
“ไม่มีอะไรครับ” ธาวินทร์หลับตาลง เมื่อรู้ว่าทำอะไรลงไป ร่างสูงหันกลับมาแล้วกอดคนที่กอดเขาเอาไว้
“ไม่ไว้ใจวาแล้วเหรอคะ” คำตัดพ้อของคุณหมอสาว เรียกรอยยิ้มบนมุมปากหยัก ธาวินทร์รู้ดีว่าที่คนรักพูดแบบนี้ เพราะอยากให้เขาระบายความในใจออกมา หลายปีมานี้เขามีเธอข้างกาย ผ่านปัญหาใหญ่น้อยมาด้วยกัน มีหรือที่เขาจะไม่ไว้ใจเธอ
“ไอ้ธงชัยได้ประกันตัว ต่อไปนี้วาต้องระวังตัวนะ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอย่ามาหาพี่ พี่ไม่อยากให้มันรู้ว่าเราคบกัน” ความปลอดภัยของคนรัก คือสิ่งที่ธาวินทร์กังวลมาตลอด ถ้าศัตรูรู้ว่าวาสินีคือคนรักของเขา เธอจะไม่ปลอดภัย หมาลอบกัดอย่างพ่อเลี้ยงธงชัย ทำได้ทุกอย่างเพื่อแก้แค้นเขา
“วาเข้าใจแล้วค่ะ พี่วินไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ วาดูแลตัวเองได้” ไม่ต้องรอให้คนรักอธิบาย วาสินีก็เข้าใจทุกอย่าง เหตุผลที่ธาวินทร์ไม่เปิดตัว ไม่ขอเธอแต่งงานก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ ถึงกระนั้นวาสินีก็ยินดีที่จะคบกับเขา ข้าราชการที่ทำงานจนไม่มีเวลา ยกให้งานเป็นเจ้าชีวิต คบหากับผู้ชายที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ต่อให้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต
“ไม่ครับ พี่ไม่อยากให้วามาเสี่ยงชีวิตเพราะพี่อีกแล้ว ชีวิตของวามีความหมายกับใครอีกหลาย ๆ คน อย่าเอามาทิ้งกับคนที่ไม่มีอนาคตอย่างพี่เลยนะครับ” วาสินีมีครอบครัว มีคนที่รักและเป็นห่วงเธออีกมากมาย คนที่ไร้อนาคตอย่างเขาไม่ควรฉุดรั้งเธอให้ตกต่ำ ตำแหน่งสารวัตรของเขาได้มาจากความรู้และความสามารถ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นหุ่นเชิดให้ใคร หน้าที่การงานของเขาไม่ก้าวหน้า คงเป็นเพราะความตงฉิน ไม่เอื้อและไม่รับผลประโยชน์จากใคร
“เลิกคิดแบบนี้ได้แล้วนะคะ ชีวิตวาเป็นของพี่ จะมีประโยชน์อะไรถ้าวาต้องอยู่โดยที่ไม่มีพี่ วารักพี่วินนะคะ รักมากกว่าชีวิตของวาอีก พี่วินอย่าคิดหรือตัดสินใจแทนวาอีกนะคะ รู้แค่ว่าวามีความสุขที่ได้อยู่กับพี่ก็พอ” ใบหน้าสวยซุกลงกับอกกว้าง หลังจากพูดจบประโยค แขนเรียวกอดกระชับช่วงเอวสอบ ยืนยันให้ธาวินทร์มั่นใจว่า คำพูดของเธอออกมาจากใจจริง ไม่ได้ปรุงแต่งเพื่อให้เขาสบายใจ
“วา...” ธาวินทร์ครางชื่อคนรักในลำคอ พรมจูบลงบนศีรษะทุยสวยอย่างแสนรัก หัวใจที่แห้งแล้งเหมือนต้นไม้ที่ขาดน้ำของเขา ชุ่มชื่นขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินประโยคนี้ของเธอ เขาก็รักเธอไม่ต่างจากที่เธอรักเขา ที่ทำเย็นชาและไม่สนใจ เพราะไม่อยากให้เธอเอาชีวิตมาทิ้งไว้กับเขา
“พี่วินไปล้างมือเถอะค่ะ จะได้ลงไปทานข้าวกัน วาทำแกงส้มดอกแคของโปรดพี่วินด้วย คุณปอฝากปลาเค็มมาให้ ทอดกรอบ ๆ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ แกงส้มวาน่าจะเป็นหมัน” เป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนว่า ปลาเค็มที่มาจากไร่แสงตะวันอร่อยที่สุดในสามโลก เพราะทำมาจากปลาแม่น้ำ คนงานในไร่ของเผ่าเพชรหาปลาเก่ง และมีฝีมือเรื่องทำปลาเค็ม ลลนาช่วยรับซื้อ แล้วเอามาแบ่งบันในหมู่เพื่อนฝูง สร้างรายได้เสริมให้คนงานเหล่านั้น
“ใครบอก แกงส้มของวาอร่อยที่สุด และไม่มีอะไรมาแทนที่ได้ อยู่กับพี่แบบนี้ตลอดไปนะครับ วันหยุดเราจะช่วยกันทำกับข้าว ให้ลูก ๆ ของเรากินนะครับ”
“พี่วิน...” หัวใจดวงน้อยเต้นคร่อมจังหวะ เมื่อได้ยินคำว่าลูกจากปากของเขา วาสินีฝันมาตลอดว่าอยากสร้างครอบครัว และมีลูกเหมือนกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม เผ่าเพชรกับลลนามีลูกสองคน สินธรภัทรทิรามีลูกห้าคน เข้มกับอาคมก็ไม่น้อยหน้า ต่างก็มีลูกฝาแฝดคนละคู่ ในขณะที่เธอกับธาวินทร์ แม้แต่งานแต่งก็ไม่ได้จัดเหมือนกับคนอื่น ๆ เธอเข้าใจเจตนาของธาวินทร์ทุกอย่าง ผู้หญิงทุกคนฝันถึงงานแต่งงาน ถึงจะข้ามขั้นตอน แต่ถ้าเขาพูดมาขนาดนี้ ขอฝันถึงลูก ๆ วัยน่ารักสักสองคนเลยจะได้ไหม มีลูกก่อนแต่งก็น่ารักดี
“พี่วินลงไปก่อนนะคะ วาจะเก็บห้องให้” วาสินีอาสา เมื่อเห็นเอกสารทางราชการหลายอย่างกองรวมกันอยู่บนพื้น
“ไม่เอาพี่ไม่อยากรับกวนวา” บอกอย่างเกรงใจ เมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
“เดี๋ยววาเก็บให้ดีกว่าค่ะ” วาสินียังขันอาสา
“งั้นทานข้าวก่อนนะครับ ค่อยขึ้นมาช่วยกันเก็บ ขอโทษนะครับที่พี่เพิ่มงานให้วา”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่วินอย่าลืมสิคะว่าพี่วินไม่ได้อยู่คนเดียว พี่วินยังมีวากับเพื่อน ๆ นะคะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”
“ทานข้าวเสร็จแล้ว ไปไร่แสงตะวันกันนะครับ” นอกจากเพื่อน ๆ แล้ว ไร่แสงตะวันยังเป็นเสมือนบ้านของเขา ทุกครั้งที่มีปัญหา ธาวินทร์ก็จะกลับไปที่นั่น ปู่เผ่าทองเป็นแสงสว่างเดียวในชีวิตของเขา ถ้าไม่มีท่านก็คงไม่มีสารวัตรธาวินทร์ในวันนี้ ถึงท่านจะจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังระลึกถึงท่านเสมอ สำนึกในบุญคุณที่ท่านเลี้ยงดูมา จนทำให้เขามีวันนี้ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องนายน้อยเผ่าเพชรและครอบครัว ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟเขาก็ทำ
...............................................................................................................
ฝากเจ้าสาวของธาวินทร์ด้วยนะคะ ซรี่ส์เล่มจบหนุ่มบ้านไร่
ที่ประกอบไปด้วยนิยาย 5 เรื่องดังนี้ 1.พ่ายรักเมียสวมรอย(เผ่าเพชร ลลนา) 2.สินธรภัทรทิรา(พ่อหมอก แม่วิว) 3.กรงรักพันะะเถื่อน(พี่เข้ม น้องขิม) 4.ฉุดลากกระชากรัก(อาคม ลัลลดา) 5.เจ้าสาวของธาวินทร์(ธาวินทร์ นวลแพร) ฝากด้วยนะคะภาพที่อยู่เบื้องหน้าทำให้นวลแพรยิ้มออกมา ธาวินทร์ที่กอดอยู่ด้านหลังกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น “ที่นี่สวยมากเลยค่ะ วินรู้จักที่นี่ได้ยังไงคะ” ตายาวรีมองไปยังภูเขาสูงที่มีทะเลหมอกรายล้อมเบื้องหน้า ที่นี่สวยมากถึงจะสวยไม่เท่าเชียงรายจังหวัดบ้านเกิดก็ตาม แต่ที่นี่ก็สวยและทำให้คนท้องสดชื่นมาก ๆ เช่นกัน “ตอนย้ายมาก็ไม่คิดว่าจะเจอสถานที่ที่สวยแบบนี้ครับ” ตอนนั้นเขาคิดแค่ต้องมาให้ไกลจากเธอให้มากที่สุด “ตอนนั้นคิดแค่ว่า หนีแพรให้พ้นใช่ไหมคะ” “ใช่ครับ ตอนนั้นคิดได้แค่นี้จริง ๆ” “แพรมีความสุขมากเลยค่ะ ที่ได้เจอวินอีกครั้ง” “ผมก็มีความสุข ที่ได้อยู่กับคุณอยู่กับลูกของเรา” ธาวินทร์บอกกับหญิงสาว แล้วฝังจมูกลงมาบนซอกคอขาวเนียน “เหมือนฝันเลยนะคะ แพรไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวของเราจะมาลงเอยแบบนี้” “ใช่ครับเหมือนกับความฝัน แต่เป็นฝันที่มีอยู่จริง” “ผ่านอะไรกันมาตั้งมากมาย แล้วเรารักกันไหมคะ” “อย่าถามหาความรักจากผู้ชายอย่างผมเลยครับ ขอให้แพรรู้ว่าทุกคำพูดทุกการกระทำของผมมันคือเรื่องจริง ผ
ธาวินทร์นั่งมองดาวบนท้องฟ้า ดาวที่อับแสงไม่ต่างจากชีวิตเขา ที่มืดม่นจนมองไม่เห็นทางออก “แพรคุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมขอให้คุณปลอดภัยทุกช่วงเวลาของชีวิตนะครับ” คนเลวอย่างเขาทำได้แค่อวยพรให้เธอผ่านสายลมนั้น “หมอวาครับพี่ขอโทษนะครับ” ความรักที่เขามีให้วาสินีคือเรื่องจริง เขารักและอยากใช้ชีวิตคู่กับเธอ แต่การกระทำอันสิ้นคิดของเขาทำให้สร้างเรื่องที่ผิดมหันต์จนต้องพาตัวเองมาหลบซ่อนอยู่ที่นี่ “ผมขอโทษ” พูดแล้วหงายหลังลงกับแคร่ไม้ไผ่จ่าอำนาจส่ายศีรษะให้กับภาพตรงหน้า คืนนี้ก็เหมือนเดิม ธาวินทร์ยังนั่งอยู่ที่เดิม ดื่มเหล้าและพูดประโยคเดิม ๆ ไม่ได้หวังให้เจ้านายหายเศร้า แต่อยากให้ดีขึ้นกว่านี้สักนิด นอกจากจะไม่มีความสุขแล้ว สุขภาพร่างกายก็เสียไปด้วย “เมาก็นอนเถอะครับนาย” จ่าอำนาจเข้ามาประคองเจ้านายเข้าห้องนอน เหมือนอย่างเช่นทุกคืนเช้านี้ธาวินทร์ตื่นพร้อมเสียงไก่ขัน ชีวิตที่นี่ก็แค่นี้ ลืมตาตื่น อาบน้ำ กินข้าว เข้าโรงพัก วนอยู่แบบนี้ทุกวัน วันนี้ก็เช่นกันธาวินทร์เข้าโรงพักทำงานตามปรกติ ที่ไม่ปรกติก็คือแขกที่ลูกน้องมารายงานว่ามีคนมาหา คิ้วเข้มขมวดเข้า
ทุกคนปรับความเข้าใจกัน รามชวนม่านไหมกับวาสินีค้างคืนที่บ้าน เพราะอยากให้นวลแพรอยู่กับแม่ ม่านไหมปฏิเสธ เพราะไม่เหมาะสมถึงจะไม่ได้คิดอะไรกับรามแล้ว และมากับลูกแต่เธอก็คิดว่าไม่เหมาะสม “ถ้าไม่สะดวกใจพักที่บ้าน ออกไปพักรีสอร์ทก็ได้นะครับไหม” รามบอกกับม่านไหม “ไม่เป็นไรค่ะราม ฉันกลับดีกว่าค่ะ” ม่านไหมบอกกับคนที่ยืนมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม “หนูวาน่ารักมากเลยนะครับ ยินดีกับคุณด้วยที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ต้องห่วงแพรนะไหมผมสัญญาว่าผมจะดูแลลูกให้ดีที่สุด” รามบอกกับม่านไหมด้วยความจริงใจ “รามคะ ชีวิตแต่งงานของฉันกับพ่อเลี้ยงธงชัย ไม่ได้มีความสุขอย่างที่คุณและใคร ๆ คิดหรอกนะคะ ฉันก็แค่เมียขัดดอก” “นี่คงเป็นเหตุผลที่คุณหนีไปใช่ไหม ม่านไหม ทำไมคุณไม่กลับมาหาผม” รามถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “อำนาจของพ่อเลี้ยงธงชัย จะทำให้ทุกคนเดือดร้อน โดยเฉพาะคุณกับคนพ่อ” รามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ที่ม่านไหมพูดมาก็ถูกทั้งหมด ตอนนั้นเขาเป็นแค่คนงานในไร่ จะเอาอะไรไปสู้กับอำนาจของคนเหล่านั้น ขนาดเมียกับลูกยังรักษาไว้ไม่ได้เลย
“ฉันขอตัวนะคะ” นวลแพรเอ่ยขอตัว เธออยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “แพรลูกมาหาแม่นะลูก แม่อยู่นี่แล้ว” ม่านไหมเดินมาหา แต่นวลแพรถอยหลังหนี “หนูแพร ผม...” ดีใจจนพูดไม่ออก คำพูดทั้งหมดพากันมาจุกอยู่ที่คอหอย “คุณแม่คะ วางงไปหมดแล้ว คุณแม่ช่วยอธิบายให้ฟังนะคะ” “วาลูกแม่ขอโทษ” ม่านไหมบอกกับลูก “วาต้องการคำอธิบายค่ะ คุณแม่มีคำตอบให้วาไหมคะ” พูดไปแบบนั้น เพราะภายในใจสับสนไปหมอ “แพรแม่ขอโทษ ขอโทษที่แม่ทิ้งหนูไป แม่ขอโทษ” ม่านไหมล้มลงกับพื้น สัญชาติญาณและความรู้สึกที่อยู่ภายในหัวใจ ทำให้รามรีบรับเธอไว้ในอ้อมแขน “ยกโทษให้แม่ได้ไหมลูก” “อย่าพึ่งพูดอะไรเลยนะคะ ตอนนี้ฉันสับสนไปหมดแล้ว” นวลแพรบอกกับคน แล้วถอยหลังอยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด “อย่าหันหลังให้แม่ได้ไหมลูก” ม่านไหมร้องห้ามเธอไม่อยากให้นวลแพรไปจากตรงนี้ เพราะกลัวลูกจะหันหลังให้เธอตลอดไป “คุณแพรฟังแม่ก่อนนะคะ อย่าหันหลังให้แม่เลยนะคะ” วาสินีขอร้อง อยากให้นวลแพรเข้าใจแม่ แม่คงมีเหตุผลถึงตัดสิน
หลังรับประทานอาหารเย็นรามกับนวลแพรนั่งคุยกันต่อ หลัก ๆแล้วจะเป็นเรื่องผลไม้ในสวน จนกระทั่งเวลาลวงเลยมานาน รามจึงตั้งคำถาม “เรื่องแต่งงาน ไม่ทราบว่าหนูว่าไงครับ” คำถามของรามทำให้มือที่กำลังเอื้อมไปจับผลส้ม ชะงักไปนิด ตายาวรีมองหน้าเขา ในที่สุดคำถามที่ทำให้เธอลำบากใจก็มาถึง “ถ้ายังไม่ได้ตัดสินใจ ไว้ค่อยตอบผมวันหลังก็ได้ครับ” รามถามเขาไม่ใช่คนแก่ตัณหากลับ แต่คิดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยเหลือเธอกับลูกในท้อง “เด็กต้องมีพ่อ ผมไม่ได้เอาเรื่องนี้มาบีบบังคับหนู แต่คิดว่าหนูคงเข้าใจ” “เออ...คือว่า อย่างนี้นะคะ...” นวลแพรมีบางอย่างจะบอกกับเขา แต่ต้องหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อรามขัดขึ้น “ถ้าหนูยังไม่พร้อม ยังไม่ต้องตอบผมตอนนี้ก็ได้นะครับ” “คือ...ฉันมีบางอย่างจะบอกกับคุณราม เกี่ยวกับเรื่องเด็กนะคะ” “หืม...เรื่องเด็กมีอะไรเหรอครับ” รามถามพร้อมกับรอฟังคำตอบ แต่เด็กรับใช้ก็เข้ามาขัดเสียก่อน “มีแขกมาหาคุณรามค่ะ” รามฟังเด็กรับใช้รายงาน พร้อมกับดูนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง นวลแพรโล่งใจนึกขอบคุณเด็กรับใช้
นวลแพรมองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข เกือบเดือนแล้วที่เธอตามรามมาอยู่ที่นี่ ที่ที่ทำให้เธอเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในดินแดนของเทพนิยาย บรรยากาศที่นี่สวยมากสวยจนเธอคิดว่าเป็นภาพวาด สวนส้มที่ล้อมไปด้วยขุนเขาและต้นไม้ใหญ่ตามธรรมชาติ ตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยว ส้มผลสีเหลืองทองดกจนเต็มต้น คนงานบางคนเก็บง่วนอยู่ต้นสองต้นก็หมดเวลาเป็นชั่วโมงแล้ว “มานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ” คำถามที่ดังมาจากด้านหลังของคนมาใหม่ทำให้ นวลแพรต้องหันไปมอง ใบหน้าสวยคมตาชั้นเดียวเปิดยิ้มกว้างให้เขา “คุณราม แพรมาดูคนงานเก็บส้มค่ะ” นวลแพรตอบคำถาม ร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาหา แล้ววางผ้าคลุมไหลผืนหาลงบนไหล่บอบบาง “อาการหนาวเดี๋ยวเป็นหวัด ” รามบอกแล้วหย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ว่างใกล้ ๆ เธอ “ขอบคุณค่ะ” เอ่ยขอบคุณแล้วลงมือเทชาร้อนในกาลงแก้วให้เขา “คุณรามดื่มชาสิคะ” “ขอบคุณครับ” รามขอบคุณ แล้วยกถ้วยชาในมือขึ้นดื่มอากาศเย็นทำให้ชาอุ่นพอดี จึงดื่มรวดเดียวหมดถ้วย “คุณรามกลับมาแล้วเหรอคะ” “ไร่ฝั่งใต้คนงานเก็บเสร็จแล้ว ผมว