หลังจากทานอาหารเสร็จ ธาวินทร์และวาสินีก็เดินทางมาที่ไร่แสงตะวัน เพื่อน ๆ มารอเขาอยู่ก่อนแล้ว เรื่องที่ธงชัยได้ประกันตัวไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทุกคนรู้ดีว่า ผลจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ สิ่งที่ทำได้ก็คือจับมือและให้กำลังใจกันและกัน ถึงจะมีบทบาทใหม่เพิ่มเข้ามาในชีวิต แต่ความดีที่ถูกสั่งสอนให้ปฏิบัติมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่เคยถูกลืมเลือน คุณพ่อลูกห้าอย่างสินธรพร้อมที่จะต่อกรกับคนเลว ในขณะที่บอดีการ์ดอย่างคุณพ่อลูกแฝดก็ไม่เคยวางมือจากคนชั่ว เผ่าเพชรและอาคมคอยระวังหลังให้เพื่อนเสมอ ทุกคนพร้อมสู้กับความอยุติธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ตำรวจอย่างเขามีหน้าที่ปกป้องประชาชน จะปล่อยให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นได้อย่างไร ทุกคนเป็นเสาหลักของบ้าน ต่างก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล คำว่าเด็กกำพร้าจะต้องสิ้นสุดลงที่รุ่นเขา ทุกคนสูญเสียพ่อแม่และคนที่ตัวเองรัก เพียงเพราะไปขวางทางคนชั่ว คนที่จะจบปัญหาทุกอย่างได้คือตัวเขา ถ้าไม่มีธงชัยเพื่อน ๆ และชาวบ้านก็จะไม่เดือดร้อน หลาน ๆ ของเขาไม่เสี่ยงกับคำว่าเด็กกำพร้า เขาต้องหยุดธงชัยก่อนที่มันจะออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ทุกคน
“ไม่ต้องคิดมากนะวิน มึงทำดีที่สุดแล้ว” เผ่าเพชรปลอบใจ เพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก เขาและทุกคนรู้ว่าธงชัยไม่มีวันติดคุก เพราะมีคนที่มีอิทธิพลหนุนหลัง ถ้าเปรียบธงชัยเป็นหมากบนกระดาน ก็เป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังตากหากคือของจริง
“กูจะสู้กับมัน” ธาวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้จะยังมองไม่เห็นทาง แต่เขาก็จะสู้จนสุดกำลัง
“ให้มันออกมาเถอะ กูจะยิงกบาลมันเอง” สินธรพูดขึ้น ความแค้นที่มีต่อธงชัยมากมายยิ่งนัก ธงชัยพรากแม่ไปจากเขา ทำให้แม่มีชีวิตไม่ต่างจากคนที่ตายทั้งเป็น ถึงเขาจะได้แม่คืนมา แต่บาดแผลที่อยู่ในใจแม่ ก็ยากที่จะลบเลือน แม่ยังฝันร้ายทุกคืน
“วินอย่าเสี่ยงอีกเลยนะ วิวอยากเห็นวินมีความสุข ไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึงหมอวาบ้าง หมอวาคงอยากให้วินวางมือ” ภัทรทิราพูดขึ้น เพราะสงสารวาสินี ผู้หญิงทุกคนฝันอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น เธออยากเห็นวาสินีมีความสุข ถึงวาสินีจะไม่พูด แต่ผู้หญิงด้วยกันดูออก
“ผมเห็นด้วยกับนายหญิงนะครับ สารวัตรวางมือเถอะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ถ้าไอ้ธงชัยมันยังไม่หยุด ผมจะส่งมันเข้าโลงเอง” เข้มพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด รอยกระสุนที่หลังของเขา เปรียบเสมือนเครื่องเตือนความจำ ให้เขาคิดถึงมันทุกคืนวัน
“มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะรับมือกับมันยังไง” เผ่าเพชรที่ดูมีสติที่สุดพูดขึ้น เมื่อเพื่อน ๆ เริ่มวางแผนกำจัดธงชัย แผลเป็นบนหน้าเขาเป็นเครื่องช่วยยืนยันว่าเขาจะไม่มีวันลืมธงชัยแน่นอน
“เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกูเถอะ กูจะจัดการมันเอง กูจะทำให้มันตายทั้งเป็น!” ธาวินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“มึงจะทำยังไง/มึงจะทำยังไง/จะทำยังไงครับ” ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นถามขึ้นมาพร้อมกัน
“กูจะเล่นงานจุดอ่อนของมัน”
“จุดอ่อน!” ทุกคนประสานเสียงพร้อมกันอีกครั้ง
“ใช่!”
“อย่าบอกนะว่าจุดอ่อนที่มึงพูดถึงคือนวลแพร” เผ่าเพชรถาม
“ใช่!” ธาวินทร์รับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สิ้นเสียงสายตาทุกคู่ต่างก็มองไปที่วาสินีที่นั่งเล่นกับน้ำผึ้งและแสงเหนือเป็นตาเดียวกัน เพราะต่างก็เดาได้ว่าวิธีการที่ธาวินทร์จะเอามาเล่นงานธงชัยคืออะไร
“อย่าแม้แต่จะคิด คนอย่างไอ้ธงชัยมันไม่มีหัวใจหรอก ต่อให้มึงฆ่านวลแพร คนอย่างมันก็ไม่มีทางสำนึก คนที่จะเจ็บปวดคือมึงกับหมอวาต่างหาก หมอวาคงเสียใจถ้ารู้ว่ามึงจะทำอะไรนวลแพร” เผ่าเพชรเตือนด้วยความหวังดี
“วิวเห็นด้วยกับเผ่านะวิน วินอย่าทำแบบนั้นเลยนะ วิวสงสารน้องวา อีกอย่างคุณแพรเธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย เธอไม่รู้ว่าพ่อทำอะไรไว้บ้าง”
“แพรดูแลแม่กูอย่างดี กูว่าแพรเป็นคนดี” สินธรพูดขึ้น แม่เขาเลี้ยงนวลแพรมาตั้งแต่เกิด ความผูกพันที่มีต่อกันไม่ต่างจากลูกในไส้ ถ้าแม่รู้ว่านวลแพรถูกทำร้าย คงเสียใจไม่น้อย
“ถ้าจะต้องทำแบบนั้นจริง ๆ ผมอาสาลงมือเองครับ” เข้มอาสา
“แผลเดิมหายดีแล้วเหรอวะ แค่พูดขาซ้ายมึงก็ก้าวเข้าโลงไปแล้ว” สินธรเอ่ยแซวเรียกเสียงหัวเราะได้ชุดใหญ่ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเข้มกลัวเมียที่สุด เขมจิราเป็นคนใจดีก็จริง แต่เวลาลงมือก็ไม่ไว้หน้าใครเช่นกัน
“กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ ทานกันเลยไหมคะ” เสียงที่ดังมาจากหน้าประตูครัวทำให้เผ่าเพชรมองบน เขาใช้ให้เมียไปทำกับแกล้ม ไงได้กับข้าวมาแทน ลลนาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า
“ล้อเล่นค่ะ ปอให้เด็กตั้งโต๊ะในสวนหลังบ้าน เชิญทุกคนที่นั่นดีกว่าค่ะ เครื่องดื่มและกับแกล้มพร้อมแล้วค่ะ”
“น่ารักที่สุด” เผ่าเพชรชมภรรยาต่อหน้าทุกคน ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ลลนาและภรรยาของทุกคนคือกำลังใจที่ดีที่สุดเสมอ
“คิดใหม่เถอะวิน วิธีนี้กูไม่เห็นด้วย” เผ่าเพชรห้ามเพื่อนอีกครั้ง
“ทำไปแล้วก็ใช่ว่าไอ้ธงชัยจะเจ็บปวด ลูกมันไม่ได้มีนวลแพรคนเดียวเมื่อไหร่” เป็นที่รู้กันว่าพ่อเลี้ยงธงชัยมีลูกทั่วบ้าน เพราะสมัยหนุ่ม ๆ ไข่ทิ้งไปทั่ว นวลแพรเป็นลูกเมียแต่งจึงได้ออกหน้าออกตา แม่ของนวลแพรทิ้งไปตั้งแต่คลอดนวลแพรจึงได้รับความรักและความใส่ใจจากธงชัยมากกว่าลูกคนอื่น ๆ แต่ก็ใช่ว่าธงชัยจะรักมากมาย
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าทำให้นวลแพรยิ้มออกมา ธาวินทร์ที่กอดอยู่ด้านหลังกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น “ที่นี่สวยมากเลยค่ะ วินรู้จักที่นี่ได้ยังไงคะ” ตายาวรีมองไปยังภูเขาสูงที่มีทะเลหมอกรายล้อมเบื้องหน้า ที่นี่สวยมากถึงจะสวยไม่เท่าเชียงรายจังหวัดบ้านเกิดก็ตาม แต่ที่นี่ก็สวยและทำให้คนท้องสดชื่นมาก ๆ เช่นกัน “ตอนย้ายมาก็ไม่คิดว่าจะเจอสถานที่ที่สวยแบบนี้ครับ” ตอนนั้นเขาคิดแค่ต้องมาให้ไกลจากเธอให้มากที่สุด “ตอนนั้นคิดแค่ว่า หนีแพรให้พ้นใช่ไหมคะ” “ใช่ครับ ตอนนั้นคิดได้แค่นี้จริง ๆ” “แพรมีความสุขมากเลยค่ะ ที่ได้เจอวินอีกครั้ง” “ผมก็มีความสุข ที่ได้อยู่กับคุณอยู่กับลูกของเรา” ธาวินทร์บอกกับหญิงสาว แล้วฝังจมูกลงมาบนซอกคอขาวเนียน “เหมือนฝันเลยนะคะ แพรไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวของเราจะมาลงเอยแบบนี้” “ใช่ครับเหมือนกับความฝัน แต่เป็นฝันที่มีอยู่จริง” “ผ่านอะไรกันมาตั้งมากมาย แล้วเรารักกันไหมคะ” “อย่าถามหาความรักจากผู้ชายอย่างผมเลยครับ ขอให้แพรรู้ว่าทุกคำพูดทุกการกระทำของผมมันคือเรื่องจริง ผ
ธาวินทร์นั่งมองดาวบนท้องฟ้า ดาวที่อับแสงไม่ต่างจากชีวิตเขา ที่มืดม่นจนมองไม่เห็นทางออก “แพรคุณเป็นอย่างไรบ้าง ผมขอให้คุณปลอดภัยทุกช่วงเวลาของชีวิตนะครับ” คนเลวอย่างเขาทำได้แค่อวยพรให้เธอผ่านสายลมนั้น “หมอวาครับพี่ขอโทษนะครับ” ความรักที่เขามีให้วาสินีคือเรื่องจริง เขารักและอยากใช้ชีวิตคู่กับเธอ แต่การกระทำอันสิ้นคิดของเขาทำให้สร้างเรื่องที่ผิดมหันต์จนต้องพาตัวเองมาหลบซ่อนอยู่ที่นี่ “ผมขอโทษ” พูดแล้วหงายหลังลงกับแคร่ไม้ไผ่จ่าอำนาจส่ายศีรษะให้กับภาพตรงหน้า คืนนี้ก็เหมือนเดิม ธาวินทร์ยังนั่งอยู่ที่เดิม ดื่มเหล้าและพูดประโยคเดิม ๆ ไม่ได้หวังให้เจ้านายหายเศร้า แต่อยากให้ดีขึ้นกว่านี้สักนิด นอกจากจะไม่มีความสุขแล้ว สุขภาพร่างกายก็เสียไปด้วย “เมาก็นอนเถอะครับนาย” จ่าอำนาจเข้ามาประคองเจ้านายเข้าห้องนอน เหมือนอย่างเช่นทุกคืนเช้านี้ธาวินทร์ตื่นพร้อมเสียงไก่ขัน ชีวิตที่นี่ก็แค่นี้ ลืมตาตื่น อาบน้ำ กินข้าว เข้าโรงพัก วนอยู่แบบนี้ทุกวัน วันนี้ก็เช่นกันธาวินทร์เข้าโรงพักทำงานตามปรกติ ที่ไม่ปรกติก็คือแขกที่ลูกน้องมารายงานว่ามีคนมาหา คิ้วเข้มขมวดเข้า
ทุกคนปรับความเข้าใจกัน รามชวนม่านไหมกับวาสินีค้างคืนที่บ้าน เพราะอยากให้นวลแพรอยู่กับแม่ ม่านไหมปฏิเสธ เพราะไม่เหมาะสมถึงจะไม่ได้คิดอะไรกับรามแล้ว และมากับลูกแต่เธอก็คิดว่าไม่เหมาะสม “ถ้าไม่สะดวกใจพักที่บ้าน ออกไปพักรีสอร์ทก็ได้นะครับไหม” รามบอกกับม่านไหม “ไม่เป็นไรค่ะราม ฉันกลับดีกว่าค่ะ” ม่านไหมบอกกับคนที่ยืนมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม “หนูวาน่ารักมากเลยนะครับ ยินดีกับคุณด้วยที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ต้องห่วงแพรนะไหมผมสัญญาว่าผมจะดูแลลูกให้ดีที่สุด” รามบอกกับม่านไหมด้วยความจริงใจ “รามคะ ชีวิตแต่งงานของฉันกับพ่อเลี้ยงธงชัย ไม่ได้มีความสุขอย่างที่คุณและใคร ๆ คิดหรอกนะคะ ฉันก็แค่เมียขัดดอก” “นี่คงเป็นเหตุผลที่คุณหนีไปใช่ไหม ม่านไหม ทำไมคุณไม่กลับมาหาผม” รามถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “อำนาจของพ่อเลี้ยงธงชัย จะทำให้ทุกคนเดือดร้อน โดยเฉพาะคุณกับคนพ่อ” รามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ที่ม่านไหมพูดมาก็ถูกทั้งหมด ตอนนั้นเขาเป็นแค่คนงานในไร่ จะเอาอะไรไปสู้กับอำนาจของคนเหล่านั้น ขนาดเมียกับลูกยังรักษาไว้ไม่ได้เลย
“ฉันขอตัวนะคะ” นวลแพรเอ่ยขอตัว เธออยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “แพรลูกมาหาแม่นะลูก แม่อยู่นี่แล้ว” ม่านไหมเดินมาหา แต่นวลแพรถอยหลังหนี “หนูแพร ผม...” ดีใจจนพูดไม่ออก คำพูดทั้งหมดพากันมาจุกอยู่ที่คอหอย “คุณแม่คะ วางงไปหมดแล้ว คุณแม่ช่วยอธิบายให้ฟังนะคะ” “วาลูกแม่ขอโทษ” ม่านไหมบอกกับลูก “วาต้องการคำอธิบายค่ะ คุณแม่มีคำตอบให้วาไหมคะ” พูดไปแบบนั้น เพราะภายในใจสับสนไปหมอ “แพรแม่ขอโทษ ขอโทษที่แม่ทิ้งหนูไป แม่ขอโทษ” ม่านไหมล้มลงกับพื้น สัญชาติญาณและความรู้สึกที่อยู่ภายในหัวใจ ทำให้รามรีบรับเธอไว้ในอ้อมแขน “ยกโทษให้แม่ได้ไหมลูก” “อย่าพึ่งพูดอะไรเลยนะคะ ตอนนี้ฉันสับสนไปหมดแล้ว” นวลแพรบอกกับคน แล้วถอยหลังอยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด “อย่าหันหลังให้แม่ได้ไหมลูก” ม่านไหมร้องห้ามเธอไม่อยากให้นวลแพรไปจากตรงนี้ เพราะกลัวลูกจะหันหลังให้เธอตลอดไป “คุณแพรฟังแม่ก่อนนะคะ อย่าหันหลังให้แม่เลยนะคะ” วาสินีขอร้อง อยากให้นวลแพรเข้าใจแม่ แม่คงมีเหตุผลถึงตัดสิน
หลังรับประทานอาหารเย็นรามกับนวลแพรนั่งคุยกันต่อ หลัก ๆแล้วจะเป็นเรื่องผลไม้ในสวน จนกระทั่งเวลาลวงเลยมานาน รามจึงตั้งคำถาม “เรื่องแต่งงาน ไม่ทราบว่าหนูว่าไงครับ” คำถามของรามทำให้มือที่กำลังเอื้อมไปจับผลส้ม ชะงักไปนิด ตายาวรีมองหน้าเขา ในที่สุดคำถามที่ทำให้เธอลำบากใจก็มาถึง “ถ้ายังไม่ได้ตัดสินใจ ไว้ค่อยตอบผมวันหลังก็ได้ครับ” รามถามเขาไม่ใช่คนแก่ตัณหากลับ แต่คิดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยเหลือเธอกับลูกในท้อง “เด็กต้องมีพ่อ ผมไม่ได้เอาเรื่องนี้มาบีบบังคับหนู แต่คิดว่าหนูคงเข้าใจ” “เออ...คือว่า อย่างนี้นะคะ...” นวลแพรมีบางอย่างจะบอกกับเขา แต่ต้องหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อรามขัดขึ้น “ถ้าหนูยังไม่พร้อม ยังไม่ต้องตอบผมตอนนี้ก็ได้นะครับ” “คือ...ฉันมีบางอย่างจะบอกกับคุณราม เกี่ยวกับเรื่องเด็กนะคะ” “หืม...เรื่องเด็กมีอะไรเหรอครับ” รามถามพร้อมกับรอฟังคำตอบ แต่เด็กรับใช้ก็เข้ามาขัดเสียก่อน “มีแขกมาหาคุณรามค่ะ” รามฟังเด็กรับใช้รายงาน พร้อมกับดูนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง นวลแพรโล่งใจนึกขอบคุณเด็กรับใช้
นวลแพรมองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข เกือบเดือนแล้วที่เธอตามรามมาอยู่ที่นี่ ที่ที่ทำให้เธอเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในดินแดนของเทพนิยาย บรรยากาศที่นี่สวยมากสวยจนเธอคิดว่าเป็นภาพวาด สวนส้มที่ล้อมไปด้วยขุนเขาและต้นไม้ใหญ่ตามธรรมชาติ ตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยว ส้มผลสีเหลืองทองดกจนเต็มต้น คนงานบางคนเก็บง่วนอยู่ต้นสองต้นก็หมดเวลาเป็นชั่วโมงแล้ว “มานั่งทำอะไรตรงนี้ครับ” คำถามที่ดังมาจากด้านหลังของคนมาใหม่ทำให้ นวลแพรต้องหันไปมอง ใบหน้าสวยคมตาชั้นเดียวเปิดยิ้มกว้างให้เขา “คุณราม แพรมาดูคนงานเก็บส้มค่ะ” นวลแพรตอบคำถาม ร่างสูงคุ้นตาเดินเข้ามาหา แล้ววางผ้าคลุมไหลผืนหาลงบนไหล่บอบบาง “อาการหนาวเดี๋ยวเป็นหวัด ” รามบอกแล้วหย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ว่างใกล้ ๆ เธอ “ขอบคุณค่ะ” เอ่ยขอบคุณแล้วลงมือเทชาร้อนในกาลงแก้วให้เขา “คุณรามดื่มชาสิคะ” “ขอบคุณครับ” รามขอบคุณ แล้วยกถ้วยชาในมือขึ้นดื่มอากาศเย็นทำให้ชาอุ่นพอดี จึงดื่มรวดเดียวหมดถ้วย “คุณรามกลับมาแล้วเหรอคะ” “ไร่ฝั่งใต้คนงานเก็บเสร็จแล้ว ผมว