ตอนที่ 2 ทำความรู้จัก

งานรื่นเริงยามค่ำคืนดำเนินมาถึงเวลาอันสมควร ญาติสนิทมิตรสหายของทศพลต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือเพียงเหล่าชายหนุ่มวัยกลัดมันที่ดื่มแอลกอฮอล์ติดลมจนลืมเวลา ดูท่าแล้วคงเมามายแทบเดินไม่ไหว ป้ารำไพจึงจัดการไปเรียกบรรดาเมียๆ ของแต่ละคนมา เหล่าหญิงสาวพากันบ่นพึมพำยกใหญ่ พวกเธอหิ้วปีกสามีกลับบ้านไปอย่างทุลักทุเล เมื่อเหตุการณ์วุ่นวายเงียบสงบลง แม่สามีอย่างป้ารำไพจึงหันมาพูดคุยกับช่อม่วงบ้าง

“แม่จะพาพ่อกลับบ้านแล้วนะ ช่อดูแลตาทศดีๆ หล่ะ อย่าปล่อยให้มันออกไปเถลไถลที่ไหน ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว ปิดประตูหน้าต่างลงกลอนดีๆ” ป้ารำไพเอ่ยเตือนลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง บ้านปูนชั้นเดียวหลังนี้ถูกปลูกขึ้นมาท้ายไร่ จึงอยู่ห่างไกลจากชุมชนพอสมควร

“ไม่ต้องเป็นห่วงจ้ะ ฉันจะดูแลตัวเองและพี่ทศอย่างดี ป้ารำไพรีบกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวฉันประคองลุงสุนทรขึ้นรถช่วย” ช่อม่วงรับปากแข็งขัน เธอช่วยแม่สามีประคองชายชราที่นั่งเมาแอ๋ขึ้นรถกระบะสภาพกลางเก่ากลางใหม่กลับบ้านดิบดี

“เฮ้อ พ่อลูกคู่นี้ เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ ป้าไปก่อนนะ ช่อเองก็รีบเข้าบ้านหล่ะ” หญิงชราบ่นพึมพำอีกเล็กน้อยก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์รถกระบะขับออกไป

บ้านปูนชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดจึงเหลือเพียงคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันสองคน ช่อม่วงรีบเข้าไปเขย่าตัวทศพลเพื่อปลุกเขา แต่ชายหนุ่มกลับนิ่งสนิทเสียจนเธอรู้สึกไม่สบายใจ สาวน้อยแตะนิ้วชี้บริเวณปลายจมูกเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ พอรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ก็พ่นลมหายใจยืดยาวออกมา

“เฮ้อ นึกว่าตายซะแล้ว พี่ทศตื่นๆๆ ช่อจะพาเข้าบ้าน” ร่างบางพยายามปลุกชายหนุ่มอีกครั้ง

“เอามือออกไป อย่ามายุ่ง เกะกะ” คนเมาฟาดงวงฟาดงาใส่เธอไม่พัก

“อยากนอนตากยุงอยู่ข้างนอกหรือไง ลุกขึ้น ช่อจะประคองเข้าบ้าน” ฝ่ามือเรียวเล็กฟาดหัวไหล่ชายหนุ่มสุดแรง ทำให้ทศพลงัวเงียมีสติขึ้นมา

“ตีฉันทำไม ยัยเด็กแก่แดด”

“ตีให้พี่ทศตื่น จะได้ลุกขึ้นเดินเข้าบ้าน” ช่อม่วงไม่ได้สนใจฟังเขา เธอรีบดันหลังชายหนุ่มให้ก้าวเท้าออกเดินอย่างเชื่องช้า ทศพลเดินเซซ้ายเซขวาอยู่พักใหญ่กว่าจะถึงจุดหมาย เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วผล็อยหลับไปเพียงลำพัง

“ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบดื่มเหล้าจนเมามายไม่ได้สติกันนะ” ร่างบางพึมพำถามตัวเองด้วยความสงสัย เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้ว่าผู้ชายควรมีนิสัยแบบไหน ชีวิตประจำวันเจอแต่หนุ่มๆ ไทบ้านไม่เป็นโล้เป็นพาย แตกต่างจากพวกพระเอกในละครหลังข่าวลิบลับ

ช่อม่วงจัดการลงกลอนประตูหน้าต่างรอบบ้านเสร็จก็มาเตรียมตัวอาบน้ำ เธอก้มๆ เงยๆ หาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ทั่วกระเป๋าแล้วแต่ไม่พบ จึงต้องใช้ผ้าเช็ดตัวผืนบางที่มีอยู่ทดแทนก่อน บ้านปูนชั้นเดียวหลังนี้มีหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องโถง และหนึ่งห้องน้ำ ส่วนห้องครัวเป็นครัวแบบเตาถ่านจึงตั้งอยู่นอกบ้านตามปกติทั่วไป ช่อม่วงรู้สึกดีใจมากที่มีห้องน้ำอยู่ในตัวบ้าน เพราะเธอไม่ต้องออกไปทำธุระข้างนอกดึกๆ ดื่นๆ เหมือนวันวานอีกแล้ว บ้านของตากับยายห้องน้ำอยู่ข้างนอก เวลาจะออกมาทำธุระทีต้องปลุกน้องสาวหรือน้องชายมาเป็นเพื่อนทุกครั้ง

ร่างบางจัดการอาบน้ำฟอกสบู่อย่างอารมณ์ดี หากถามว่ามีความสุขไหมคงตอบไม่ได้ แต่เธอไม่เคยคิดเสียดายเลยที่เลือกเส้นทางนี้ บ้านหลังซอมซ่อผุพังกำลังจะมีเงินไปซ่อมแซมแล้ว แค่คิดว่าทุกคนได้กินอิ่มนอนหลับก็รู้สึกดีตาเป็นประกาย

“เฮ้ย ใครอยู่ในห้องน้ำ เปิดๆๆๆ ปวดฉี่” ทศพลยืนหน้าบิดเบี้ยวเคาะประตูเสียงดัง

“ปะ แป๊บหนึ่ง เดี๋ยวช่อเปิดให้” ช่อม่วงรีบความผ้าขนหนูผืนบางมาพันตัวไว้ก่อนเปิดประตูให้เขา หญิงสาวกลัวว่าชายหนุ่มจะทุบประตูห้องน้ำจนพังคามือขึ้นมาจริงๆ เขารีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วปลดซิปกางเกงยืนฉี่โดยไม่หันมองเธอแม้เพียงหางตา

ร่างบางรีบย่องออกมาด้วยความตกใจ สัญลักษณ์ความเป็นชายของทศพลยังเด่นหราติดตา สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาหายใจติดขัดขึ้นมาชั่วขณะ อาการเห่อร้อนไปทั้งตัวพวกนี้คืออะไรกัน เธอกำลังเขินอาย ตื่นเต้น หวาดกลัว หรืออยากรู้อยากเห็นให้มากกว่านี้กันแน่นะ ช่อม่วงสะบัดศีรษะเต็มแรงเพื่อลบภาพเหล่านั้นออกไป เธอพยายามตั้งสติแล้วเคลื่อนกายหาเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างทุลักทุเล โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนยืนแอบมองอยู่ไม่ห่าง

ทศพลแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากครั้งแล้วครั้งเล่า เขากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากร่างกายผุดผ่องของช่อม่วงปลุกสัญชาตญาณความเป็นชายให้เดือดพล่านแทบคลั่ง ร่างสูงสาวเท้าเข้าหาร่างบางอย่างเงียบเชียบ ก่อนฝ่ามือใหญ่จะยกขึ้นโอบรอบตัวเธอจากทางด้านหลัง ส่วนปลายจมูกคมก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวทันควัน โดยไม่เว้นช่องว่างให้เธอขัดขืนได้

“อ๊ะ พะ พี่ทศ อื้ม” ช่องม่วงอุทานเสียงสั่น เธอย่นคอหนีจมูกคมและปลายคางสากพัลวัน

“อืม อย่าดื้อ หน้าที่เธอคือเป็นเมียฉัน” ร่างสูงกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น เขาเริ่มสูดดมกลิ่นกายสาวตั้งแต่หัวไหล่ ไล่ลงมาถึงกลางหลัง ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ ทำเอาร่างบางยืนแข็งทื่อขนลุกชูชัน ความรู้สึกวาบหวามกำลังเล่นงานเธอจนไม่สามารถต่อกรกับเขาได้

ฝ่ามือหยาบกระด้างลูบไล้ลำแขนเรียวแผ่วเบา ทศพลล่อลวงเด็กสาวด้วยประสบการณ์ที่เหนือกว่า ร่างสูงพลิกกายช่อม่วงให้หันมาสบตาเขา ริมฝีปากหนาประทับรอยจูบลงบนริมฝีบางแผ่วเบา เขาไม่ทิ้งช่วงให้เธอได้โต้ตอบหรือทัดทาน ปลายลิ้นร้อนชอนไชเข้าไปในโพรงปากนุ่มหยุ่น ก่อนเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อด้วยความเอาแต่ใจ ฝ่ามือหยาบกระด้างลูบไล้ปทุมถันคู่งามของเธออย่างถือวิสาสะ นิ้วเรียวสะกิดปมผ้าขนหนูให้คลายออก ก่อนก้มหน้าลงซุกไซร้ยอดอกอวบอย่างเมามัน

“พะ พี่ทศ ช่อ”

“อืม เรามาทำความรู้จักกันให้ลึกซึ้งทุกซอกทุกมุมดีกว่า” ร่างสูงพึมพำบอกเธอเสียงหวาน เขาประคองช่อม่วงนอนลงบนเตียงอย่างง่ายดาย ใบหน้าคมคายหยอกเย้าสะดือบุ๋มเล็กน้อย ก่อนเคลื่อนที่ต่ำลงมายังเป้าหมายสำคัญ

“ชะ ช่อไม่เคย ยะ อย่า” ช่อม่วงรีบหุบขาสองข้างเข้าหากัน เธอเขินอายเหลือเกิน ลำพังเปลือยกายต่อหน้าเขาก็แทบอยากมุดแผ่นดินหนีให้พ้นๆ

“อืม อย่าดื้อสิช่อ พี่จะพาขึ้นสวรรค์” ทศพลแหวกขาสองข้างของเธอออกจากกันสุดแรง เขาแนบใบหน้าลงบนกลีบกุหลาบงามอย่างไม่นึกรังเกียจแต่อย่างใด ปลายลิ้นร้อนชอนไชหาน้ำหวานดื่มดับกระหายอย่างตะกละตะกลาม ร่างกายขาวผ่องดิ้นพล่านเมื่อพบพานกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยสัมผัส

“อะ อ๊า พี่ทศ ช่อ ช่อรู้สึก อืม อ๊า” ช่องม่วงครวญครางไม่เป็นภาษาเมื่อถูกเขารุกรานกึ่งกลางกาย ปลายนิ้วเรียวสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักของเธอไม่หยุดหย่อน เขาขยับเข้าออกรัวเร็วจนหญิงสาวหายใจไม่ทัน ร่างบางบิดตัวเป็นสะพานโค้งเพื่อระบายความเสียดเสียวที่ทะลักทลายออกมา น้ำหวานขาวขุ่นไหลเยิ้มเต็มหว่างขาจนชายหนุ่มต้องยกนิ้วขึ้นมาเลียอย่างอดใจไม่ไหว

“ต่อไปนี้จะเป็นสวรรค์ของจริงแล้วนะ” ทศพลแสยะยิ้มร้าย เขาขึ้นคร่อมร่างกายอ่อนนุ่มก่อนจุมพิตล่อลวงเธออีกครั้ง มังกรตัวเขื่องเริ่มถูไถรอบหว่างขาหญิงสาวไปมา ฝ่ามือหยาบกร้านประคองมังกรที่เขาภูมิใจหนักหนาให้จดจ่ออยู่ปากถ้ำ หลังจากนั้นก็ทะลุทะลวงฝ่ากำแพงแต่ละชั้นเข้าไป

“โอ๊ย เจ็บ เจ็บ พี่ทศ ช่อเจ็บ” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นดุนดันหน้าอกแกร่งเอาไว้ ช่อม่วงรู้สึกว่าร่างกายของเธอกำลังจะปริแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำตาเม็ดโตหลั่งรินออกมาไม่หยุด ปฏิกิริยาต่อต้านของเธอกำลังบอกเขาว่าเจ็บปวดมากเพียงใด

“ชู่ววว ผ่อนคลายหน่อยสิ อีกเดี๋ยวพี่จะพาเธอขึ้นสวรรค์” ถ้อยคำหวานหูถูกพ่นออกมาล่อลวงร่างบางไม่หยุดหย่อน เธอหลับตาลงและพยายามผ่อนคลายตามคำสั่งของทศพลอย่างว่าง่าย

ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เมื่อรู้สึกว่าช่อม่วงเริ่มคลายตัวจากการบีบรัดเขา สะโพกสอบขยับเข้าออกเบาๆ เพื่อไม่ให้สาวน้อยตื่นตกใจ เขาเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นตามอารมณ์คุกรุ่นอย่างลื่นไหล โดยที่ร่างบางไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด เผลอแป๊บเดียวจังหวะการรุกรานก็ถี่ยิบจนสายตาพร่ามัว

“อ๊า ซี๊ดดด อื้ออออ โอ๊ยยย พะ พี่ทศ ชะ ช่อเสียว” ร่างบางอุทานเสียงดัง ใบหน้านวลบิดเบี้ยวตามจังหวะการกระแทกกระทั้นของเขา ทศพลหัวเราะเบาๆ อย่างพึงพอใจ ชายหนุ่มเร่งเครื่องสะโพกสอบสุดแรงเพราะช่องทางรักของช่อม่วงกำลังตอดรัดเขาถี่ระรัวเช่นกัน

“อืม อ่าาาา แน่นสุดๆ จะทนไม่ไหวแล้วโว๊ย” ทศพลกัดฟันขบกรามแน่น กายแกร่งกำลังเผชิญกับความเสียวซ่านที่ยากจะทนไหว

“พะ พี่ทศ ช่อ ช่อ อื้ออออ อ๊าาาาาาา อ๊ายยยยยยย” ช่อม่วงเรียกชื่อสามีแผ่วเบา เธอกระตุกเกร็งดิ้นเร่าๆ อย่างทรมาน ความรู้สึกแปลกประหลาดถาโถมเข้าหาร่างบางไม่หยุดหย่อน ตอนแรกเหมือนกำลังจะขาดใจ แต่ต่อมาเธอกลับรู้สึกว่าเนื้อตัวเบาสบายและสมองปลอดโปร่งมาก

“ถึงตาพี่บ้างนะ” ร่างสูงไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบกระแทกตัวตนเข้าออกช่องทางรักสุดกำลัง ผ่านไปไม่นานทศพลก็คำรามดังลั่น ก่อนซบหน้าลงบนหน้าอกนุ่มหยุ่นเพราะไม่เหลือเรี่ยวแรง

ชายหนุ่มพลิกตัวนอนข้างกายช่อม่วงได้สักพักก็เผลอหลับไป สาวน้อยจ้องมองใบหน้าคมคายของสามีหมาดๆ ก่อนยิ้มออกมา เวลาทศพลนอนหลับเขาดูหล่อเหลามาก ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มจะกลายเป็นคนเสเพลได้ พิษภัยจากความรักช่างอันตรายเสียจริง เมื่อก่อนทศพลเป็นถึงหนุ่มหล่อประจำหมู่บ้าน เขาสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังทางภาคอีสานได้ และมีหวานใจคนสวยเป็นถึงลูกสาวกำนัน แต่เข้าเรียนได้ไม่นานชายหนุ่มก็หอบเสื้อผ้าซมซานกลับบ้าน เขาเอาแต่ขังตัวอยู่ในห้องนอนไม่ยอมออกมาพบปะผู้คนเป็นเดือนๆ

จนกระทั่งมีข่าวลือหนาหูว่าลูกสาวคนสวยของลุงกำนันท้องไม่มีพ่อ ชายหนุ่มรุ่นใหญ่จึงถ่อมาหาทศพลที่บ้าน เขายืนยันเสียงแข็งว่าไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องคนนั้น ชายหนุ่มรุ่นเก๋าจึงต้องหอบหิ้วความอับอายกลับบ้านอย่างฉุนเฉียว เขาคาดคั้นลูกสาวตนเองอยู่นานกว่าจะรู้ว่าพ่อเด็กเป็นใคร ลูกชายข้าราชการครูคนหนึ่งในหมู่บ้านยอมจำนนด้วยหลักฐาน หนุ่มน้อยวัยละอ่อนจึงจำใจแต่งงานและรับเป็นพ่อเด็กตามกฎหมาย

หลังจากเหตุการณ์อื้อฉาวผ่านไป ทศพลก็กลายเป็นผู้ชายเสเพลไม่เอาถ่าน เขาแบมือขอเงินแม่ใช้ไปวันๆ อย่างไร้จุดหมาย

ช่อม่วงอยากรู้เหลือเกินว่าการถูกหักหลังหรือการถูกนอกใจ สามารถแปรเปลี่ยนคนดีคนหนึ่งให้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ได้เลยหรือ ทำไมทศพลไม่คิดถึงอนาคตของตัวเองบ้าง เขามีพ่อแม่คอยสนับสนุนทุกอย่าง แตกต่างจากเธอลิบลับ ถ้าเธอมีโอกาสเหมือนเขาสักครั้ง สัญญาเลยว่าจะไม่ทอดทิ้งโอกาสดีๆ แบบนั้นเด็ดขาด