LOGINภูดินหนุ่มหล่อรวย มาดนิ่ง บ้างาน ผู้ถูกขนานนามว่าเป็นคนไม่มีหัวใจ เพราะไม่เคยมองหญิงคนไหนเลยแม้ว่าจะมีสาวสวยน้อยใหญ่ โปรไฟล์ดีแวะเวียนมาขายขนมจีบไม่ขาดสาย แต่กลับมาตกหลุมรักหญิงสาวธรรมดา แต่มีความพิเศษบางอย่างผ่านใบหน้าและแววตาของเธอ ที่ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ จนต้องพยายามทำทุกทางเพื่อให้เธอเข้ามาอยู่ในชีวิตตนเอง
View Moreภูดินหนุ่มหล่อ หุ่นดีสูง 180 เซ็นติเมตร จมูกโด่ง หน้าคม คิ้วเข้ม วัยสามสิบปีเจ้าของภูดินฟาร์ม ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ไร่ชาและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่งเป็นหนุ่มโสด ขยันบ้างาน และเป็นที่หมายปองของสาวๆมากมาย มีหญิงสาวน้อยใหญ่แวะเวียนมาขายขนมจีบไม่ขาด ทว่าเขาไม่เคยสนใจใครเลยซักคน
….โรงเรียนแสนรัก….
วันนี้ภูดินและกลุ่มเพื่อนมีโอกาสมาบริจาคสิ่งของและเลี้ยงอาหารให้กับเด็กๆที่โรงเรียนแสนรัก โรงเรียนบนเขาที่ห่างไกลความเจริญ เป็นโรงเรียนที่เขาและเพื่อนๆบริจาคเงินสนับสนุนด้านการศึกษาให้เด็กๆมาโดยตลอดหลายปีติดต่อกัน แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะแปลกไปกว่าทุกครั้ง เพราะขณะที่เขากำลังเดินไปพบปะกับคณะครูและเด็กๆสายตาของเขาบังเอิญพบเจอกับครูสาวแสนสวยคนนึงที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกับบรรดาเด็กตัวน้อยๆอยู่ ภูดินสะดุดตาหญิงสาวตั้งแต่แรกเจอ เพราะเธอมีใบหน้าที่สวยละมุน น่ารัก ผิวขาว ผมยาวสีน้ำตาล และมีรอยยิ้มที่ดูสดใสและแววตาที่เป็นประกายเปี่ยมด้วยความสุข จนทำให้ภูดินเผลอมองเธออยู่นาน
“เฮ้ย ดินมองอะไรอยู่วะ รีบมาทางนี้เร็วงานกำลังจะเริ่มแล้วจะได้มอบของให้เด็กๆ” เสียงตะโกนเรียกจากเอกเพื่อนสนิทดังขึ้น ทำให้ภูดินจำต้องละสายตาจากหญิงสาว และเดินไปสมทบกับกลุ่มเพื่อน
“เออ มาแล้วๆช้านิดช้าหน่อยทำเป็นเรียก” ภูดินบ่นเพื่อนรัก
“ก็เห็นแกมองสาวน้อยตาไม่กระพริบกลัวน้ำลายจะหกเอาอายเด็กๆ ไอ้นี่แปลกคนปกติมีสาวๆมารุมล้อมไม่เห็นสนใจ ที่แท้ก็แพ้ทางคนน่ารักนี่นา”เอกกระเซ้าเพื่อน
“ไอ้เอก แกนี่นะ เดี๋ยวเหอะฝากไว้ก่อน ถ้าไม่เห็นว่าที่นี่เป็นโรงเรียนนะแกได้โดนบาทาข้าแน่”ภูดินดุเพื่อนที่แอบรู้ทัน
“ไปรีบไปมอบของให้เด็กๆกัน” เขาพูดพลางรีบดันหลังเอกผู้เป็นเพื่อนรักให้เดินเข้าไปในอาคารเรียน เป็นเวลาเดียวกันกับที่ครูสาวที่เขายืนมองเมื่อครู่พาเด็กๆเข้าในอาคารเรียนเช่นเดียวกัน เมื่อเด็กๆทุกคนมาพร้อมเพรียงกันแล้วครูใหญ่ก็เริ่มจัดกิจกรรม ตลอดช่วงเวลาที่เด็กๆและกลุ่มผู้มาเยือนทำกิจกรรมด้วยกัน สายตาของภูดินก็แอบมองครูสาวอยู่ตลอดเวลา ทุกอิริยาบทของเธออยู่ภายใต้สายตาขของเขาตลอด สายตา รอยยิ้ม ท่าทางล้วนดึงดูดความสนใจของเขาทั้งสิ้น จนภูดินเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่เป็นแบบนี้ อะไรที่ทำให้เขาถูกใจหรือถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเจอทั้งๆที่ผ่านมาก็มีคนสวยเข้าหาตลอดแต่เขาก็ไม่เคยมองใครเลย กิจกรรมดำเนินผ่านเวลามาราวๆสองชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย จนถึงเวลาที่ผู้มาเยือนทั้งหลายต้องเดินทางกลับ
“ขอบคุณคุณภูและเพื่อนๆมากๆนะครับที่มาบริจาคสิ่งของและทุนสนับสนุนการศึกษาสำหรับเด็กๆ พวกเราทั้งครู นักเรียนและชาวบ้านที่นี่ซาบซึ้งใจมากครับ ไม่มีอะไรจะตอบแทนนอกจากคำว่าขอบคุณครับ”ครูใหญ่กล่าวขอบคุณภูดินและเพื่อนๆ
“ไม่ต้องขอบคุณพวกเราหรอกครับ เราต่างหากที่ต้องขอบคุณครูที่เสียสละดูแลเด็กๆที่นี่ มีอะไรขาดเหลือ
บอกผมได้ตลอดเลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันมาช่วยดูแลเด็กๆไปด้วยกันนะครับ ว่าแต่เมื่อเช้าผมเห็นเหมือนมีครูย้ายมาใหม่หรอครับไม่คุ้นหน้าเลย” ภูดินถามถึงหญิงสาวที่ตนแอบมองตลอดทั้งเช้า
“อ้อ หนูเพียงดาว ไม่ได้เป็นครูใหม่หรอกครับเพียงแต่ช่วงนี้เธอว่างเห็นว่าพึ่งลาออกจากงานก็เลยมาช่วยดูแลและสอนหนังสือเด็กๆครับ ปกติเธอจะแวะเวียนเอาอุปกรณ์การเรียนมาบริจาคบ้าง ถ้ากลับมาเยี่ยมบ้านก็จะแวะมาทำกิจกรรมกับเด็กๆ เด็กๆติดเธอมากเลยนะครับ เก่ง ไหวพริบดี และเข้ากับเด็กๆได้ดีมากๆเลยครับ ช่วงนี้ว่างเลยมาอยู่ช่วยงานโรงเรียนนานเลยครับ ”พูดจบครูใหญ่ก็เรียกเพียงดาวให้มาทำความรู้จักกับภูดิน
“หนูเพียงดาวมาทางนี้หน่อยลูก”
“คะครูใหญ่”เพียงดาวขานรับพร้อมกับเดินละจากเด็กๆมาตามเสียงเรียก
“นี่คุณภูดินคนที่มาบริจาคอุปกรณ์การเรียนและทุนทรัพย์ให้กับโรงเรียนของเราทุกปี รู้จักกันไว้เผื่อวันข้างหน้าได้พึ่งพาอาศัยกันหรือเผื่อเจอกันที่อื่นจะได้คุ้นหน้าคุ้นตากัน”
”สวัสดีค่ะเพียงดาวนะคะเป็นครูอาสาค่ะ ดาวต้องขอบคุณที่คุณภูดินและเพื่อนๆเป็นส่วนนึงที่ช่วยดูแลเด็กมาโดยตลอดนะคะ”เพียงดาวสาวสวยในวัยยี่สิบหกปีกล่าวทักทายพร้อมกับขอบคุณเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“พวกเราเต็มใจช่วยครับ”ภูดินพูดพร้อมกับมองหญิงสาวตาไม่กระพริบ เขาได้แต่คิดในใจว่าคนอะไรยิ่งมองใกล้ๆยิ่งสวย ตาโตขนตางอน จมูกเข้ารูปรับกับใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากสีชมพู ยิ่งเวลาพูดยิ่งมีเสน่ห์น่ามอง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วดาวขอตัวไปดูเด็กๆก่อนนะคะ”
”อ้อ เชิญครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกนะครับคุณเพียงดาว มีอะไรให้ช่วยเหลือบอกได้ตลอดเลยนะครับ”
”ยินดีที่ดีรู้จักเช่นกันค่ะ ถ้าวันหน้ามีธุระไม่เกรงใจแล้วนะคะ”เธอพูดพลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับครู คุณเพียงดาว”ภูดินกล่าวลาครูใหญ่และหญิงสาวพร้อมกับเดินไปสมทบเพื่อนๆที่รออยู่ที่รถด้วยใบหน้าอมยิ้มและท่าทางมีความสุข
“เดินทางปลอดภัยนะครับ” “เดินทางปลอดภัยนะครับ/นะคะ ไว้มาเยี่ยมพวกเราอีกนะครับ/นะคะ”เสียงเด็กๆกล่าวอำลาผู้มาเยือนพร้อมโบกมือลา ตามหลังรถขณะที่รถของผู้มาเยือนกำลังเคลื่อนตัวออกจากโรงเรียน
“เฮ้ยไอ้ดิน มีเรื่องอะไรน่าสนใจวะทำไมถึงเดินยิ้มมา”วัชรเพื่อนรักอีกคนถามเขาด้วยความสงสัย
“………”
“มึงไม่รู้อะไรไอ้วัชร เมื่อเช้ากูเห็นมันมองครูสาวแสนสวยตาไม่กระพริบ”ภูดินไม่ตอบเพื่อนรักแต่เป็นเอกที่เล่าให้ฟังแทน
“สาวน้อยยิ้มหวานคนนั้นน่ะหรอ ตาถึงนี่หว่า”
“มึงก็ไปเชื่อมันไอ้เอกมันก็พูดไปเรื่อย”ภูดินตอบเพื่อน
“กูไม่ได้โกหกนะเว้ย กูเห็นจริงๆ สายตามันนะมองเธอแทบจะกลืนกินอยู่แล้ว”
“มึงก็อย่าไปแซวมันมาก ดีแล้วที่มันรู้จักมองสาวบ้าง วันๆทำแต่งานกลัวมันจะเป็นบ้าไปซะก่อน”วัชรปรามเอก
“ก็กูตื่นเต้นไม่เคยเห็นมันมองผู้หญิง ว่าแต่มึงได้ขอเบอร์เธอมารึป่าววะ”
“ป่าว ก็กูบอกว่าไม่มีอะไร แค่เห็นน่ารักดีก็มองเฉยๆ”
“มึงนี่นะ ไม่เอาไหนเลยคิดจะจีบสาวใจต้องกล้ากว่านี้”เอกบ่นเพื่อน
“ถ้ามีโอกาสก็คงได้เจอกันอีกเองแหละ”ภูดินตอบเพื่อน
“พี่ดินปล่อยดาวลงได้แล้วค่ะ เดี๋ยวตก”“ตัวเล็กแค่นี้พี่อุ้มทั้งวันก็ยังไหว ไม่เชื่อคืนนี้ลองดูมั้ยล่ะ”“คนทะลึ่ง ลูกสามขวบแล้วนะคะ”“ดีเลยน้องแดนโตแล้ว เลี้ยงน้องได้แล้ววันนี้พี่อยากได้ลูกเพิ่มอีกซักคน”“พี่ดิน!!!.”“ไม่ต้องพูดแล้วตั้งใจหน่อย”ภูดินวางเมียรักลงบนเตียงนอนและบรรจงจูบปิดปากเธออย่างดูดดื่ม ทำเอาเพียงดาวเคลิ้มกับรสจูบของสามีเผยอปากให้เขาเอาลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นของเธออย่างสะดวก เขาดูดกินเธอทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าและมาหยุดอยู่ที่หน้าอกทั้งสองข้างของเมียรักภูดินทั้งดูดกินและบีบคลึงจนเพียงดาวเสียวซ่านร้องครางออกมาไม่ขาดสาย ยิ่งได้ยินเสียงครางของเมียรักยิ่งทำให้ภูดินมีความสุข ปรนเปรอภรรยาสุดที่รักอย่างหนำใจ“เมียจ๋า คืนนี้ขอผัวกินเมียให้หนำใจเลยนะ อ่า” เขาไล่เลียทั่วร่างกายของเธอจนมาหยุดที่จุดสงวนใช้ลิ้นเลียไปรอบๆจุดสงวนก่อนจะแหวกลิ้นเข้าไปดูดกินกลีบกุหลาบงามอย่างหิวกระหาย“อ๊า ผัวขาเมียเสียว”เพียงดาวใช้สองมือดึงทึ้งผมของสามีด้วยความเสียว บางจังหวะก็เผลอกดหน้าเขาลงไปซุกไซร้ภายในกลีบกุหลาบงามให้ดูดกินน้ำหวานที่ไหลจากกายเธอด้วยความเสียว…จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ…“อ๊ะๆๆๆๆอ๊า อ๊า”เสียง
....เกือบสามปีผ่านไป....“แม่ค้าบคุณพ่อยังไม่กลับมาหรอค้าบ แล้วคุณแม่กำลังทำอะไรอยู่ค้าบ”น้องแดนลูกชายวัยย่างสามขวบถามเพียงดาวผู้เป็นแม่ที่กำลังง่วนกับการทำกับข้าวอยู่ในครัวกับพี่ๆแม่บ้าน“วันนี้พ่อมีประชุมกำลังกลับมาแล้วครับ น้องแดนไปเล่นกับคุณยายที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะ แม่กำลังช่วยพี่ๆเขาทำอาหารอยู่เดี๋ยวแม่ออกไปหานะครับ”เพียงดาวหันมาบอกลูกชายในวัยที่กำลังซนและอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง“ก็ได้ค้าบ แม่รีบออกมาหาน้องแดนนะค้าบ”“จ้า แป๊บเดียวเดี๋ยวแม่ออกไป”“นายน้อยพูดเก่งจังเลยนะคะ รู้เรื่องทุกอย่างเลย”พี่จันทร์ยิ้มเอ็นดูนายน้อยของตน“นั่นน่ะสิคะไม่รู้เหมือนใคร”“เหมือนคุณภูตอนเด็กเลยค่ะ”นมแย้มพูดเสริมด้วยสีหน้ามีความสุขวันนี้เพียงดาวเข้าครัวเองเพราะเชิญเพื่อนๆมาทานข้าวเย็นที่บ้านเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดอายุสามขวบของลูกชายสุดที่รักในวันพรุ่งนี้ ภูดินและเพียงดาวจึงเชิญญาติสนิทมิตรสหายมาทานข้าวที่บ้านก่อนจะพาลูกชายไปเที่ยวในวันเกิดของเขาพรุ่งนี้ เหล่าน้าๆอาๆเมื่อรู้ว่าเป็นวันเกิดหลานชายสุดที่รักก็ตื่นเต้นเตรียมของขวัญมาให้หลานรักชนิดไม่มีใครยอมใคร“คุณพ่อกลับมาแล้ว”แดนเด็กชายตัวน้อยรีบวิ
...แปดเดือนผ่านไป...“ลูกพ่อวันนี้เป็นยังไงบ้าง กวนแม่เค้ารึป่าว”ภูดินเอียงหูและแนบหน้าที่ท้องของเพียงดาวเพื่อคุยกับลูกหลังกลับจากทำงาน“หนูเป็นเด็กดีมากไม่กวนแม่เลย บอกพ่อเค้าไปสิลูก แต่ตอนนี้คุณพ่อไปอาบน้ำก่อนดีมั้ยคะ”“ก็ได้ครับ รอพ่อแป๊บเดียวนะเดี๋ยวกลับมาเล่นด้วยใหม่”ทุกวันหลังเลิกงานภูดินจะต้องมาทักทายลูกน้อยในท้องภรรยาสุดที่รักเสมอ ตั้งแต่เขาหายแพ้ท้องกลับไปทำงานได้ตามปกติก็ไม่ยอมให้เพียงดาวไปทำงานในฟาร์มเลย มีแต่เพียงดาวที่เบื่อขอไปช่วยงานเล็กๆน้อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ทำที่บ้าน ภูดินดูแลเอาใจใส่ภรรยาดีทุกอย่าง ดีจนบางครั้งเพียงดาวก็เพลียกับความเยอะของสามีตน“พี่ดินดาวปวดท้อง ไปตามคุณนมทีค่ะ”เพียงดาวร้องบอกสามีขณะที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง“ดาว ดาวเป็นอะไร”ภูดินที่นังทำงานอยู่รีบวิ่งมาดูอาการของภรรยาสุดที่รัก“เหมือนจะคลอด โอ๊ย!!พี่ดินดาวจะไม่ไหวแล้ว”“คลอดก่อนวันนัดหรอ รอพี่แป๊บเดียวนะที่รัก พี่จะพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ นม พี่จันทร์พี่จวง น้าเสริมออกรถเร็วดาวจะคลอดแล้ว”ทุกคนต่างวิ่งวุ่นลนลาน ตกใจระคนดีใจกันใหญ่จนทำตัวไม่ถูก มีเพียงนมแย้มที่มีสติคอยสั่งการทุกคนให้ทำตาม“เรากำลังถึ
“ที่รัก ขอยาดมหน่อยพี่เวียนหัวไม่ไหวแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ไปหาหมอดีมั้ยสีหน้าพี่ดินดูไม่ค่อยดีเลย”เพียงดาวเป็นห่วงสามีหลังเห็นเขาหน้ามืด เวียนหัว ทานข้าวไม่ได้ตั้งแต่เช้า ด้านนมแย้มที่เห็นอาการของภูดินก็นึกสงสัย อาการแบบนี้เหมือนกับ.................“หนูดาวนมขอถามอะไรซักหน่อยนะคะ”“คะนม”“ประจำเดือนไม่มานานแค่ไหนแล้วคะ”“ก็......เดือนกว่าแล้วค่ะ”“เดือนกว่า!!!”นมแย้มอุทานเสียงดังพร้อมยิ้มกว้าง“พาหนูดาวไปหาหมอเลยค่ะ”นมแย้มบอกทั้งคู่“นมคะคนที่ป่วยไม่ใช่ดาวนะคะ แต่เป็นพี่ภู”เพียงดาวบอกนมแย้มด้วยความงุนงง“นั่นน่ะสิครับนม ผมเวียนหัว อาเจียนจนไม่มีแรงแล้วนะครับ ยังจะให้ดาวไปหาหมออีก”ภูดินพูดเสียงอ่อยด้วยความน้อยใจผิดกับนมแย้มที่ยิ้มและหัวเราะด้วยท่าทางมีความสุขก่อนจะบอกคนทั้งคู่ที่นั่งทำหน้างงกันอยู่“ก็นมสงสัยว่าหนูดาวจะ....ท้อง”“ท้อง!!!!”ภูดินและเพียงดาวร้องพร้อมกัน“ไม่ต้องเสียงดังกันค่ะ นมสงสัยว่าคุณภูจะแพ้ท้องแทนภรรยาน่ะค่ะ”ทั้งคู่แต่งงานกันได้สามเดือนแล้ว ภูดินขยันทำการบ้านแทบทุกวันการมีเจ้าตัวน้อยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตหลังแต่งงานกับภรรยาสุดที่รัก เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็





