Share

5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-02 20:45:36

หนึ่งเค่อต่อมา

สุวิมลหรือซูวี่ในยุคนี้กลับมาถึงบ้านพักที่ทางร้านจัดหาเอาไว้ให้คนงานได้พักอาศัย 

“วันนี้เจ้ากลับดึกนะซูวี่”

“อือ ข้าไปหาซื้อยาให้ลี่ชุนแต่ร้านยาปิด ก็เลยซื้อโจ๊กมาให้นางแทน” เธอตอบเพื่อนร่วมงานที่พักอยู่ห้องติดกัน

“ตัวนางร้อนมาก ข้าเพิ่งไปช่วยเช็ดตัวให้นางมา”

“ขอบใจนะ” ซูวี่กล่าวอย่างซาบซึ้งน้ำใจแล้วเดินเข้าห้องพัก “ข้ากลับมาแล้วลี่ชุน”

“กลับมาแล้ว.. ปากเจ้าไปโดนอะไรมาซูวี่!” ลี่ชุนพยายามประคองตัวเองจากที่นอน

“ไม่ต้องลุก นอนพักไป” ซูวี่รีบวางของแล้วประคองให้หญิงสาวนอนลง

“หน้าเจ้าไปโดนอะไรมา”

“ข้าแค่ซุ่มซ่ามนิดหน่อย” นางตอบแล้วแตะมือกับหน้าผากของลี่ชุนด้วยความเป็นห่วง “ตัวเจ้าร้อนมากเลย มีอาการอื่นด้วยไหม” 

หญิงสาวใบหน้าซีดเซียวคลี่ยิ้มเนือย ๆ นางรู้สึกเวียนหัว เริ่มปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งร้อนบางครั้งหนาวสั่น แต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นต้องวิตกกังวล

“ข้าไม่เป็นไร”

“แน่ใจนะ”

ลี่ชุนจับมือของสตรีที่นางเคยให้ความช่วยเหลือเอาไว้เพียงเล็กน้อย แต่นางกลับตอบแทนบุญคุณมาให้จนรู้สึกว่ามันมากเกินไป 

“ไม่ต้องห่วงข้านักหรอก ข้ารู้จักร่างกายของข้าดีกว่าเจ้านะพี่สาว”

“ถ้ารู้สึกไม่ดีก็รีบบอกข้านะ”

“อือ”

“กินข้าวก่อนเถอะ เจ้าคงจะหิวแล้วสิ”

“ไม่หิวหรอก ข้ารู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา”

“ทำไมถึงอิ่มล่ะ หรือว่าหลิวหลิวแบ่งข้าวมาให้เจ้าด้วย” นางหมายถึงเพื่อนข้างห้องที่มาช่วยดูแลนาง

“เสี่ยวหมานน่ะ เขาแวะมาเยี่ยมข้าตั้งแต่ตอนหัวค่ำ”

“เสี่ยวหมาน” ซูวี่ถามเสียงสูง ชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจ “มิน่าถึงรีบออกจากร้าน” หลังจากที่ฝ่ายนั้นหาเรื่องนางแล้วก็คงแล่นมาที่นี่เลยสินะ หน้าด้านเสียจริง! 

“เจ้าทะเลาะกับเขาอีกแล้วใช่ไหม” ลี่ชุนเดาจากสีหน้าท่าทางของอีกฝ่าย ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“เปล่าหรอก ข้าก็แค่โมโหเขาที่ทิ้งงานไว้ให้พวกข้าแล้วมาเสนอหน้าเยี่ยมเจ้า”

คนป่วยที่ใบหน้าซีดเซียวคลี่ยิ้มด้วยความขบขัน “จริง ๆ แล้วเสี่ยวหมานเขาไม่มีอะไรหรอก ถ้าเจ้าเปิดใจให้เขาสักนิดเจ้าจะรู้ว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่งเลยทีเดียว”

ซูวี่ถอนหายใจแรง ๆ ด้วยความขัดเคืองใจอย่างที่สุด คงมีแค่นางคนเดียวที่มองว่าไอ้ยักษ์ปักหลั่นนั่นเป็นคนดี และคงมีนางแค่คนเดียวอีกเหมือนกันที่มันทำดีด้วย

“นอนพักเถอะ ข้าจะไปอาบน้ำก่อน”

“ข้าต้มน้ำให้ไหม”

“ลี่ชุน”

“หือ” 

“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดีมีน้ำใจ แต่เจ้าควรดูสังขารตัวเองด้วยนะ” ซูวี่ตำหนิเด็กสาววัยสิบแปดปี นางมีอายุน้อยกว่าเธอถึงเจ็ดปี แต่เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นกรำงานหนักจนมือเท้าแตกด้าน ถ้าเทียบกับวัยเดียวกันในยุคที่เธอเคยอยู่ ส่วนใหญ่ยังเกาะพ่อเกาะแม่กิน มีหน้าที่เรียนอย่างเดียวเท่านั้น “นอนซะ ถ้าข้าเห็นเจ้ายังลืมตาอยู่ ข้าจะโกรธ”

“นอนก็ได้” อีกฝ่ายฝืนยิ้มสู้กับอาการปวดศีรษะที่พุ่งปรี๊ดเข้ามาอย่างไร้เหตุผล รีบพลิกตัวเข้าหาผนังแล้วเม้มปากข่มกลั้นความเจ็บปวด ไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็นเพราะกลัวจะเป็นห่วง….

กลางดึกขณะที่ซูวี่กำลังนอนหลับอยู่นั้น หูของเธอก็แว่วได้ยินเสียงครางกระสับกระส่าย เธอลืมตาแล้วตั้งใจฟังก่อนจะรีบลุกขึ้นไปดูคนที่นอนห่างออกไปไม่ถึงวา.. วางมือทาบกับหน้าผากที่ร้อนระอุของนางแล้วก็รีบปลุกให้รู้สึกตัว หยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้

“เป็นอย่างไรบ้าง” 

“หนาวแล้วก็ปวดหัวปวดตัวมากเลย”

“เจ้าเป็นไข้หวัดใหญ่แน่ ๆ” ซูวี่คาดเดาอาการป่วยเริ่มต้นของหญิงสาวขณะหยิบผ้าห่มที่มีอยู่ทั้งหมดห่มให้นาง เอาผ้าชุบน้ำวางที่หน้าผาก

“ไข้หวัดใหญ่คืออะไร ข้าไม่เคยได้ยินเลย”

“ก็เป็นไข้นี่แหละ เจ้าควรรักษาตัวให้ดีก่อนที่อาการมันจะหนักกว่านี้ ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ ดื่มน้ำอุ่นเยอะ ๆ แล้วก็ต้องกินยาให้ตรงเวลา แต่ถ้าตัวร้อนก็ต้องเช็ดตัวบ่อย ๆ จนตัวเริ่มเย็น มันจะทำให้ไข้ลดและหายไข้เร็วขึ้น” แต่ปัญหาตอนนี้คือไม่มียาให้นางกินสักอย่างเดียว อาการของนางก็ดูหนักมากเสียด้วยสิ “นอนพักซะ” 

ซูวี่เฝ้าดูอาการของหญิงสาวอย่างใกล้ชิด แต่ยิ่งเห็นก็ยิ่งหนักใจ เพราะนางเอาแต่นอนกระสับกระส่าย ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนา ฟันกระทบกันดังกึก ๆ ตลอดเวลา

แล้วอยู่ ๆ ก็นึกถึงชายหนุ่มรูปงามที่เธอรู้เพียงว่าเขาคือท่านชายกับผู้ติดตามที่ชื่ออวี่กง เธออยากเจอเขาตอนนี้แล้วถามว่าพอจะมียาที่รักษาลี่ชุนบ้างไหม 

เพราะเมื่อตอนบ่ายที่เจอกัน เขาสังเกตเห็นมือที่เป็นแผลพองจากการโดนกระทะของเธอ แล้วก็ขอยาจากคนที่ชื่ออวี่กงมาให้ พร้อมกับบอกสรรพคุณว่าดีเลิศที่สุดเท่าที่มีในลั่วอาน แค่ทาครั้งเดียวก็รู้สึกดีขึ้น 

และมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาว่า อาการพองน้ำยุบแห้งหลังจากทาได้ไม่ถึงชั่วโมง อาการปวดแสบปวดร้อนก็ทุเลาเบาบางลงแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว พอตกเย็นก็แทบไม่เหลืออาการใด ๆ นอกจากรอยบาดแผลแดงจาง ๆ

บางทีเขาอาจจะเป็นหมอเทวดาก็เป็นได้ นางอยากเจอเขาเพื่อขอซื้อยามารักษาให้ลี่ชุน.. แต่ตอนนี้สิ่งที่นางทำได้ไม่ใช่มานั่งคิดถึงเขา แต่ต้องรีบไปเคาะประตูร้านขายยาเพื่อขอซื้อยาถึงจะถูก

“ลี่ชุน อดทนหน่อยนะ” เธอกระซิบบอกหญิงสาวที่เอาแต่ครางฮือ กระสับกระส่ายไปมา แล้วรีบออกไปจากห้องพัก ไปเคาะเรียกหลิวหลิวที่อยู่ห้องติดกัน และฝากฝังให้นางช่วยดูแลลี่ชุนแทนสักพัก

“รีบไปเถอะ ข้าจะช่วยดูแลนางให้เอง”

“ขอบคุณมากนะหลิวหลิว ขอโทษอาจางด้วยนะที่รบกวน” ซูวี่กล่าวกับหญิงสาวและสามีของนาง

“ไม่เป็นไรหรอก ให้ข้าไปซื้อยาให้ก็ได้นะ” อาจางรับอาสาด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“ไม่เป็นไร แค่ช่วยดูแลลี่ชุนให้ข้าก็พอ” นางไม่อยากให้ใครไปแทนเพราะกลัวจะบอกอาการไม่ถูกและได้ยาที่ไม่ตรงกับโรคมา “ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

แค่เที่ยงคืนกว่า ๆ ที่นี่ก็เงียบกริบไร้ผู้คนเดินสวนกัน ความมืดบวกกับความวังเวงทำให้นางกลัวจนขนหัวลุก รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อไปถึงร้านขายยาให้เร็วที่สุด

“ใครน่ะ!” 

เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากด้านข้างทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว แต่ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นเป็นทหารยามสองคน 

“ดึกดื่นป่านนี้ออกมาทำอะไรเพียงลำพัง ไม่รู้หรือว่ามันอันตราย” 

“น้องสาวของข้าป่วยหนัก ข้ากำลังจะไปซื้อยาให้นาง” 

“เจ้ามาจากไหน” 

“ข้ามาจากท้ายตรอกไหมทอง”

“น้องสาวเจ้าอาการหนักมากเลยเหรอ”

“ใช่ นางมีอาการหนาวสั่นและเพ้อตลอดเวลา”

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะเดินไปเป็นเพื่อนเจ้า เพราะตอนนี้ที่นี่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ามันจะลำบากต่อการทำงานของพวกเรา”

“ขอบคุณท่านทั้งสองมาก” หญิงสาวกล่าวอย่างซาบซึ้ง

“แต่เรากำลังอยู่ในหน้าที่นะอาสวง” ทหารอีกนายหนึ่งที่มาด้วยกันติงอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก “เอาอย่างนี้ดีกว่าไหม ส่งนางกลับไปก่อนแล้วเราค่อยไปรายงานต่อหัวหน้า ขอยาจากท่านแล้วเอาไปให้นางที่บ้านจะดีกว่านะ เพราะอีกไม่นานเราก็จะเปลี่ยนเวรแล้ว”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เจ้าสาวมังกร   12

    “พี่ซูวี่” นางจับมือนุ่มมาบีบ “ข้าซาบซึ้งใจมากนะที่พี่เป็นห่วงเป็นใยข้าแบบนี้ แต่ข้าโตจนออกเรือนได้แล้ว เชื่อเถอะว่าข้าดูแลตัวเองได้ และข้าก็ไม่อยากออกจากงานด้วย.. ตั้งแต่พ่อแม่ข้าตายข้าก็ทำงานที่ร้านอาหารไหมทองมาตลอด ตอนนั้นข้ายังเด็กนัก แต่หลงจู๊ก็ใจดีรับข้าเอาไว้ ตลอดเวลาหกปีมานี้เขาเมตตาข้ามากเหลือเกิน ข้าจึงอยากทำงานอยู่กับเขามากกว่า พี่เข้าใจข้าใช่ไหม”“อือ ตามใจเจ้าก็แล้วกัน ถ้าเจ้าอยู่แล้วมีความสุขข้าก็ไม่ขัด”“ขอบคุณที่เข้าใจ”“แต่คืนนี้เจ้าต้องนอนที่นี่ก่อนนะ รอข้าหายดีแล้วค่อยย้ายกลับไป”“อือ”วันต่อมาที่ร้านอาหารไหมทอง“หลงจู๊”“มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ”“เจ้าค่ะ”หลงจู๊หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเก็บบัญชีที่กำลังตรวจทานใส่ลิ้นชัก แล้วเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับหญิงสาวที่สั่งให้เสี่ยวเอ้อร์ไปตามตัวมาพบ“อาการของซูวี่เป็นอย่างไรบ้าง”“ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ”“

  • เจ้าสาวมังกร   11

    “ข้าไม่มีเงินมากมายพอจะใช้หนี้ท่านชายได้หรอก” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายาที่นำมารักษาเธอนั้นดีเพียงใด รวมถึงที่อยู่อาศัยอันโอ่อ่านี่อีกล่ะ ถ้าเป็นยุคสองพันที่เธอจากมาก็เปรียบเสมือนห้องพักในโรงแรมระดับห้าดาวเลยแหละ “แต่ถ้าท่านชายยอมให้ข้าไปทำงานก่อนแล้วมาผ่อนใช้ให้ทีหลัง ข้าก็ยินดีจะผ่อนใช้ให้จนครบทุกตำลึง”“เงินข้ามีเยอะแล้ว ข้าไม่อยากได้หรอก”“แล้วท่านชายอยากได้อะไรเจ้าคะ”“อยากได้เจ้า”“หา!” หญิงสาวตาเหลือกโต สองมือกอดตัวเองไว้แน่น มองไปที่บานประตูที่ปิดสนิทด้วยใจที่เต้นรัวด้วยความหวาดกลัวเห็นอาการของนางเขาก็หัวเราะเสียงดังด้วยความขบขัน อยากจะแกล้งแต่ก็กลัวทำให้นางลนลานจนไม่กล้าไว้ใจเขา“เจ้ากำลังคิดไปไกลมากนะแม่นาง”สุวิมลเห็นเขาหัวเราะก็ค่อยคลายใจ กลับมาทำตัวปกติ“คราวหน้าท่านก็ควรพูดให้กระจ่างกว่านี้” นางพูดกระอ้อมกระแอ้ม รู้สึกอายกับความคิดที่เลยไปไกลของตนเอง“ข้ายังพูดไม่ทันจบเจ้าก็โวยวายขึ้นมาก่อน” เขาแกล้งโยนควา

  • เจ้าสาวมังกร   10

    “เรื่องนี้ข้าขอไม่ตอบ เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าแม้แต่น้อย” หมอหลวงเลี่ยงที่จะตอบ คิดว่าคงต้องระวังสตรีผู้นี้เอาไว้ให้มากขึ้น“เกี่ยวสิ ในเมื่อคนที่เจ้าไปพบคือคู่หมั้นคู่หมายของข้า”“เอาไว้แม่นางเถียนเถียนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระคู่หมั้นแล้วข้าจะตอบคำถามของเจ้าทุกคำถาม แต่ตอนนี้ข้าขอยืนยันคำเดิม ข้าต้องไปทำงานแล้ว” หมอหลวงหญิงโค้งศีรษะให้สตรีตรงหน้าเล็กน้อยก่อนเดินจาก“เจ้าก็เป็นได้แค่หมอหญิงเท่านั้นแหละ ตำแหน่งอื่นที่สูงกว่านั้นอย่าได้หวังว่าจะข้ามหัวข้าไปได้”จิงเจ๋อร์หยุดเดินแล้วหันไปมองหญิงสาวทางด้านหลัง โค้งศีรษะลงเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไรแม้จะถูกเข้าใจผิด อยากจะบอกกับนางเหมือนกันว่าตำแหน่งนั้นไม่เคยคิดอาจเอื้อม และมั่นใจว่านางก็ไม่มีสิทธิ์ได้แตะเช่นกัน แต่จะพูดไปทำไมให้เปลืองน้ำลาย สู้เก็บเอาไว้หัวเราะทีหลังสะใจกว่าร้านอาหารไหมทอง“อาจาง” เสี่ยวหมานเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนร่วมงานที่กำลังกินข้าวกลางวันอยู่กับภรรยา“มีอะไรเหรอเสี่ยวหมาน”

  • เจ้าสาวมังกร   9

    ณ ด้านหนึ่งของคฤหาสน์ชิวเทียนในยามวิกาล“ข้าไม่เข้าใจองค์รัชทายาทเลย ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น”“มันเป็นความต้องการของพระองค์ เราก็แค่ทำตาม”“แต่มันไม่ถูกต้องนะจี้เฟิง”“แล้วมันผิดตรงไหนล่ะอวี่กง” องครักษ์มาดเข้มถามเพื่อนที่โตมาด้วยกัน“เจ้าเข้าข้างองค์รัชทายาทเกินไปแล้วนะจี้เฟิง” ขันทีหนุ่มแสดงความหงุดหงิด“หรือจะให้ข้าเข้าข้างเจ้าล่ะ ข้าไม่โง่หรอกนะ” จี้เฟิงโต้เสียงเรียบ มุมปากแสยะยิ้มพร้อมกับสายตายียวนแบบที่คนอื่น ๆ ไม่มีโอกาสได้เห็น“ใช่สิ ข้ามันไม่สำคัญพอเท่าองค์รัชทายาทหรอก”“หึ” องครักษ์มาดเข้มอมยิ้มละมุน “ความสำคัญต้องไล่ตามลำดับสิ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเจ้ากับแม่นางผู้นั้น.. ข้าก็คงเลือกนางก่อนเจ้าอยู่ดี”อาการอมยิ้มพิมพ์ใจขององครักษ์หนุ่มทำให้ขันทีหน้ามนไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่“เจ้าเป็นเพื่อนข้านะจี้เฟิง เห็นนางสำคัญกว่าข้าได้อย่างไร”“เพราะเป็นเพื่อนไงถึงได้รู้ว่าเพื่อนข้าพอมีวิ

  • เจ้าสาวมังกร   8

    สามวันต่อมาร้านอาหารไหมทอง“คารวะท่านชาย” หลงจู๊กล่าวต้อนรับลูกค้าคนสำคัญอย่างนอบน้อม “วันนี้มาคนเดียวเหรอขอรับ”“อือ วันนี้ดูวุ่นวายนะ” ต้าเสินชวนหลงจู๊สนทนาขณะกวาดสายตามองลูกค้าที่ค่อนข้างแน่นร้าน“ขอรับ ช่วงนี้จะมีเรือขนส่งสินค้าจากต่างแดนมาเทียบท่าค่อนข้างเยอะ ร้านของเราก็เลยคึกคักเป็นพิเศษ”“กิจการดีแบบนี้น่าชื่นใจแทนเจ้าของนะ”“ขอรับ” หลงจู๊รับคำพร้อมรอยยิ้มที่มีเพียงเขาที่เข้าใจ “วันนี้ท่านชายต้องการนั่งที่ไหนดีขอรับ ชั้นล่างหรือชั้นบน”“ที่นั่งเดิมยังว่างหรือไม่”“ต้องขออภัยขอรับ วันนี้ลูกค้าของเราเยอะมาก ที่นั่งก็เหลือน้อยเต็มที”“ถ้าอย่างนั้นข้านั่งข้างล่างก็ได้”“เชิญท่านชายทางนี้ขอรับ” หลงจู๊ผายมือเชื้อเชิญและเดินนำเขาไปด้วยตนเองจนกระทั่งถึงโต๊ะนั่งในมุมที่ค่อนข้างสงบ “อีกสักครู่ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อร์มารับรายการอาหารนะขอรับ”“เจ้ารับไปเลยก็ได้ ข้าต้

  • เจ้าสาวมังกร   7

    เสียงแหบพร่าของคนป่วยขัดการสนทนา เขามองหญิงสาวที่รีบเข้าไปดูแลคนป่วยมาอยู่ได้แค่สามเดือนยังพูดภาษาท้องถิ่นเก่ง เขียนอักษรได้งดงามมีเอกลักษณ์ ทำอาหารก็อร่อย แล้วยังปรนนิบัติพัดวีคนป่วยได้อย่างดีเยี่ยมอีก สตรีจากดินแดนแห่งนี้ช่างน่าพิสมัยนัก“ท่านชาย ได้โปรดออกไปก่อนนะเจ้าคะ นางตัวร้อนมาก ข้าต้องเช็ดตัวให้นาง”เขาได้สติจากเสียงของนาง รีบพยักหน้ารับอย่างเก้อเขินเพราะมัวแต่มองนางเพลินจนทำตัวเสียมารยาท“อาลั่ว”“พ่ะย่ะค่ะ” อาลั่วขานรับเสียงเบาอย่างหวาด ๆ“บอกเพื่อนของเจ้าปิดปากเรื่องนี้ให้สนิท เข้าใจไหม”“องค์รัชทายาท” อาลั่วชักสีหน้าเป็นกังวล“อยากถูกตัดคอเหรอ”“ไม่ขอรับท่านชาย”ยิ้มอย่างพอใจเมื่อคำขู่ใช้ได้ผล “ดีมาก จำไว้ว่าข้าคือต้าเสิน” แล้วมองไปตามถนน “ทำไมอาสวงถึงช้านักนะ”ร้านอาหารไหมทอง“หลงจู๊”“ว่าอย่างไร”“วันนี้ซูวี่ไม่มาทำงานขอรับ”“เมื่อคืนลี่ชุนเพ้อเพราะพิษไข้ต้องดูแลกันทั้งคืน วันนี้จึงขอลาหยุดเพื่อดูแลนาง” หลงจู๊บอกกับหัวหน้าคนครัวที่ดูจากท่าทางแล้วเหมือนจะมาหาเรื่องหญิงสาวมากกว่ามารายงาน และเขาก็รู้ว่าจุดอ่อนของผู้นี้คือลี่ชุน “ข้าเลยอนุญาตให้นางหยุดงานดูแลลี่ชุนสามวัน ช

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status