Share

Chapter 5

last update Last Updated: 2025-08-19 02:04:45

Chapter 5

ณ ผับเทอมินอล

            ผับเทอมินอลเป็นผับหรูระดับเฟิร์สคลาส ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่ต้องเสียรายปีๆ สามหมื่นห้าพันบาทสำหรับสามชิกระดับโกล์ดคลาส ส่วนสมาชิกทั่วไปเสียรายปีๆ ละหนึ่งหมื่นบาท

ผับแห่งนี้แบ่งเป็นหลายส่วน จำแนกตามระดับของสมาชิก หากเป็นสมาชิกทั่วไปจะใช้บริการได้เพียงส่วนของผับ จะให้ความบันเทิงเสมือนผับทั่วๆ ไป สมาชิกระดับโกล์ดคลาสจะใช้บริการได้ทุกส่วน  ส่วนที่สองจะเป็นห้องรับรองส่วนตัวขนาดห้องก็แตกต่างกันไป ห้องละห้าคนบ้าง สิบคนบ้าง ยี่สิบคนบ้างตามแต่สมาชิกคนนั้นๆ  ส่วนที่สามคือวีไอพีที่มีความพรั่งพร้อมครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมเล็กๆ ห้องปาร์ตี้ขนาดบรรจุคนได้ราวสามสิบคนและห้องนอนไว้พักผ่อน

            ในส่วนของผับค่ำคืนนี้คนค่อนข้างหนาตา อาจเป็นเพราะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เจ้าของธุรกิจรวมทั้งสมาชิกทั่วไปต่างมาผ่อนคลายความตึงเครียดจากงานที่โหมหนักมาทั้งสัปดาห์ หรือจากชีวิตส่วนตัวที่รุมเร้า ต้องการพักให้หายเครียด

หนึ่งในจำนวนคนเป็นร้อยที่มาใช้บริการคือดารานักแสดงชื่อดังของเมืองไทย เธอเลือกที่จะนั่งโต๊ะริมในสุดของผับ ใช้แอลกอฮอล์ดับความเสียใจที่ตนเองได้รับ

“พี่ทัช ทำไม ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย ฮือ”

นิสารัตน์รำพึงรำพันความเสียใจออกมาเป็นคำพูดและน้ำตา พร้อมกับกระดกดื่มบรั่นดีที่เหลือจนหมดแก้ว จากนั้นก็เทน้ำสีอำพันลงไปในแก้วเกือบครึ่งแก้ว กระดกดื่มรวดเดียวจนหมด หวังจะให้เครื่องดื่มดีกรีแรงดับความทุกข์ ความเสียใจและการอกหักของตน

วันนี้คือวันแต่งงานของกรกวินทร์อดีตคนรักของตน เขาเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวที่บิดาเลือกให้ เธอยังจำได้อย่างแม่นยำในวันที่เขาบอกเลิกเธอ จำได้ดีไม่มีวันลืมและนับตั้งแต่วันนั้น เธอก็หาความสุขทางใจไม่ได้เลย เธอจมอยู่กับกองทุกข์กองใหญ่ที่ฝังแน่นลึกในจิตใจ ใครจะลืมความเจ็บปวดได้เล่า ในเมื่อกรกวินทร์คือรักแรกของนิสารัตน์ วันที่เขาบอกเธอว่าจะแต่งงาน เป็นวันที่จิตใจสาวมืดมน

“เราเลิกกันนะฟ้า” คำพูดไม่กี่คำเรียกความตกใจระคนอึ้งให้กับคนที่ได้ยินทันที

“พี่ทัชพูดว่าอะไรนะคะ” เธอถามเสียงสั่น ย้ำถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเธอคิดว่าเธออาจจะหูฟาดหรือไม่เขาก็อำเธอเล่น

คนถูกถามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับเรียกพลังฮึดที่หลบซ่อนในใจ “พี่กำลังจะแต่งงาน พี่จึงคิดว่า เราสมควรจะเลิกกัน”

คราวนี้นิสารัตน์อ้าปากค้าง ดวงตาตื่นตกใจ หัวใจที่กำลังเต้นเจ็บปวดราวกับมีมีดมากรีด น้ำตาล่วงผล็อยตามความรู้สึกที่ได้รับ ความฝัน สิ่งที่คาดหวังไว้พังทลายลงมาในพริบตา

กรกวินทร์กำลังจะแต่งงาน แต่งงานอย่างนั้นหรือ เขาจะแต่งกับใครได้เล่าถ้าไม่ใช่เธอ นิสารัตน์ทั้งงงและสับสนไปหมด จับต้นชนปลายไม่ถูก เธอไม่เข้าใจเลยว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อยู่ๆ เขาจะแต่งงานกับหญิงอื่นได้อย่างไรกัน

“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะพี่ทัช มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะ” นิสารัตน์ถามเสียงเครือสั่น น้ำตาหยดไหลเป็นทาง ความเสียใจพลุ่งพล่านในอก

“มันไม่ใช่ความต้องการของพี่ คุณพ่อบังคับให้พี่แต่งงานกับผู้หญิงที่พี่ไม่รู้จัก ตอนแรกพี่ไม่ยอมแต่คุณแม่ขอร้องพี่ พี่ทนเห็นคุณแม่ร้องไห้ไม่ได้ พี่ขอโทษนะฟ้า พี่เสียใจ”

ไม่ใช่เพียงแค่นิสารัตน์เท่านั้นที่เสียใจ กรกวินทร์เองก็ได้รับรู้ซึ้งถึงความรู้สึกนั้นเช่นกัน มองหน้านิสารัตน์ที่ปล่อยโฮออกมาด้วยความสงสาร แม้จะรู้ดีว่า การที่เขาบอกความจริงจะทำให้คนรักเสียใจ แต่เขาด็คิดว่าทางนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว หากเขาไม่พูด ไม่บอกเธอตรงๆ ปล่อยให้เธอรู้เอง ความรู้สึกที่นิสารัตน์ได้รับคงจะแย่กว่านี้ อีกทั้งคงจะเสียความรู้สึกด้วย

            “พี่ทัช ฮือ” นิสารัตน์จมอยู่กับความทุกข์โศกเสียใจอยู่นานเป็นสัปดาห์นับตั้งแต่วันที่เธอรู้เรื่อง และยิ่งสื่อสิ่งพิมพ์ประโคมข่าวกันคึกโครม ความเสียใจเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า ซ้ำร้ายเธอยังถูกนักข่าวรุมล้อมขอสัมภาษณ์เรื่องคนรักของเธอที่วิวาห์ฟ้าแลบกับหญิงอื่น นิสารัตน์ต้องทนเผชิญกับความชอกช้ำระกำทรวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า คืนนี้เธอจึงมาระบายความรู้สึกทั้งหลายในผับแห่งนี้ ผับที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่มีใครมาปักหมุดความเสียใจ

            ดัตถพงศ์เดินเข้าในผับเทอมินอลตามเวลานัดหมายกับเพื่อนรุ่นเดียวกันตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย นัดหมายในคืนนี้เขาบอกเพื่อนๆ ไว้แล้วว่า จะมาช้าเนื่องจากต้องไปงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของเพื่อนสนิทก่อน พอมาถึงเขาก็เดินตรงไปยังโต๊ะของเพื่อนกลุ่มนั้นทันที

            ระหว่างที่ดัตถพงศ์กับเพื่อนกำลังสังสรรค์กันอยู่ เสียงของพิเชษฐ์ ชายหนุ่มจอมเจ้าชู้ก็เอ่ยถึงใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงมุมของผับ

            “เฮ้ย! อิฐ นายลองดูสิว่า ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโต๊ะหัวมุมใช่ฟ้า ดาราที่เพื่อนนายหักอกหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นรึเปล่า”

พิเชษฐ์เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจว่าจะใช่นิสารัตน์หรือไม่ เพราะท่าทางของเธอคนนั้นเหมือนกับกำลังเมา นั่งคอพับคออ่อน แล้วที่เขาถามดัตถพงศ์เป็นเพราะผู้ชายที่วิวาห์ฟ้าแลบกับหญิงอื่นคือเพื่อนสนิทของคนที่ถูกถาม ซึ่งน่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด

            ดัตถพงศ์หันไปมองตามนิ้วของพิเชษฐ์ที่ชี้ไปยังโต๊ะตัวดังกล่าว เขาเพ่งสายตาฝ่าความมืดสลัวภายในผับไปยังใบหน้าของหญิงสาวรายนั้น เพียงแค่เขามองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าคือใคร

            “ใช่ฟ้าจริงๆ ด้วย”

            “สงสัยมานั่งย้อมใจแน่ๆ ดูสิเมาหัวทิ่มเลย” พิเชษฐ์สันนิษฐานตามที่เห็น

            “มันก็น่านั่งดื่มย้อมใจอยู่หรอก จะมีใครบ้างที่ไม่เสียใจที่อยู่ๆ แฟนของตัวเองไปแต่งงานกับคนอื่น แถมเป็นข่าวคึกโครม ออกงานที่ไหนมีนักข่าวรุมล้อมขอสัมภาษณ์ที่นั่น เท่ากับว่าตอกย้ำความเจ็บปวดชัดๆ เฮ้อ! เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้”

            ศราวุฒิเพื่อนอีกคนหนึ่งพูดขึ้น สายตาจับจ้องไปยังร่างของนิสารัตน์ที่ดูเหมือนว่าจะควบคุมสติไม่อยู่ นั่งคอพับคออ่อน กระดกดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่อง ราวกับว่าจะให้เครื่องดื่มในมือดับความทุกข์ในจิตใจ

            “ว่าแต่เพื่อนของนายทำไมอยู่ๆ ถึงได้แต่งงานกับคนอื่นล่ะ” พิเชษฐ์เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ เอ่ยถามให้ตนคลายความสงสัยนั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 8

    Chapter 8แต่พอเขาเดินเข้ามาในห้องน้ำ ดัตถพงศ์ได้กลิ่นอาเจียนที่ติดเสื้อของตน เขาจึงถอดเสื้อออกรวมทั้งเสื้อกล้าม ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่อยู่ตรงชั้นมาชุบน้ำพอหมาด จากนั้นก็เดินกลับออกไป“เฮ้ย! ฟ้า ทำอะไร” เขาอุทานเสียงดังลั่นเมื่อเห็นนิสารัตน์ที่เวลานี้ลุกขึ้นนั่ง และเธอก็กำลังจะถอดเสื้อของตัวเองออก ดัตถพงศ์รีบถลาไปยังร่างสาวทันที“อย่าถอดฟ้า อย่าถอด” เขาร้องห้าม จับมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น“ปล่อยฟ้านะ ปล่อย ฟ้าจะถอดเสื้อ ฟ้าเหม็น ใครมาอ้วกใส่เสื้อฟ้าเนี่ย” คนที่ร้องโวยวายยังไม่รู้ตัวว่า คนที่อาเจียนนั้นก็คือตัวเธอ“เดี๋ยวฉันเช็ดให้ อยู่เฉยๆ”เขาดุใส่ เธอมีอาการสงบลงเมื่อได้เยินเสียงเข้มๆ ของใครคนหนึ่งที่น้ำเสียงคุ้นๆ หู แต่เนื่องจากความเมาทำให้เธอไม่มีสติพอที่จะนึกว่าเป็นเสียงของใคร อีกทั้งไม่ได้นึกเอะใจเลยสักนิดว่า ตัวเองอยู่ในที่ใด แล้วเหตุใดจึงมีเสียงผู้ชายอยู่ดังใกล้ตัวดัตถพงศ์ใช้โอกาสนี้เช็ดหน้าเช็ดตาให้นิสารัตน์ ลดมือต่ำลงมาเช็ดคราบอาเจียนตามเสื้อผ้าของเธออย่างไม่รังเกียจ เขาจะรังเกียจคนที่ตนเองรักได้อย่างไร ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสภาพแบบไหนเขาก็ไม่มีวันรังเกียจดัตถพงศ

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 7

    Chapter 7เจ้าของรถสปอร์ตเหยียบเบรกรถเมื่อเดินทางมาถึงหน้าบ้านของนิสารัตน์ ไฟในบ้านของเธอมืดสนิท ไม่มีแม้แต่แสงไฟตรงริมรั้วบ้าน มือใหญ่เปิดประตูรถก่อนจะก้าวลงไป ก่อนจะเดินไปกดกริ่งหวังจะเรียกคนในบ้านให้มาเปิดประตู ทว่าเขากดไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะออกมาสักคน เขาคงไม่รู้ว่าปิ่นกับปักสองพี่น้องคนรับใช้ประจำบ้านของนิสารัตน์ ลากลับบ้านกว่าจะกลับมาก็วันมะรืนนี้ ดัตถพงศ์จึงเดินกลับมาที่รถ เดินไปยังประตูฝั่งด้านข้างคนขับ“ฟ้า ฟ้า ตื่นสิ ฟ้า” เขาส่งเสียงเรียกดาราสาวที่ยังหลับสนิท กลิ่นแอลกอฮอล์หึ่งรถ“หลับเป็นตายเลย” เขาบ่นอุบเมื่อเห็นร่างเล็กไม่มีทีท่าว่าจะตื่น “กุญแจบ้านอยู่ไหนฟ้า ตื่นสิตื่น”ดัตถพงศ์ใช้ฝ่ามือตบใบหน้าของเธอเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่ดูเหมือนหว่านิสารัตน์จะไม่มีสติเอาเสียเลย เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เขาจึงถือวิสาสะคว้ากระเป๋าสะพายที่คล้องอยู่บนบ่าของเธอมารื้อค้นหากุญแจบ้าน ทว่าเขารื้อค้นจนทั่วก็ไม่เห็นกุญแจสักดอก“หรือว่าจะทำตกที่ผับ” ชายหนุ่มคิดในใจ และคาดว่าเป็นตามที่ตนคิด “เอาไงดีวะเนี่ย เข้าบ้านก็ไม่ได้ จะปล่อยให้นอนตากยุงอยู่หน้าบ้านก็ไม่ได้ จะทำยังไงดีวะ”ด

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 6

    Chapter 6 “ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากหรอก รู้แค่ว่าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจัดการ”แท้จริงแล้วดัตถพงศ์รู้ดีทุกอย่าง เนื่องจากกรกวินทร์มานั่งปรับทุกข์ในเรื่องนี้กับตน แต่เขาก็เลือกตอบประหนึ่งว่าไม่รู้เรื่องรู้ราว“สมัยนี้ยังมีคลุมถุงชนอีกเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ” พิเชษฐ์เปรย“มันก็เหมือนกับเรือล่มในหนองทองจะไปไหนรึเปล่า การแต่งงานเพื่อธุรกิจมีเยอะแยะไป”ศราวุฒิไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลก เพราะหลายคนที่เขารู้จักก็แต่งงานเพื่อธุรกิจอยู่หลายคู่ ต่อยอดความร่ำรวย เงินทองไม่รั่วไหล“เฮ้ยๆ ฟ้าลุกขึ้นแล้ววะ สงสัยจะกลับแล้ว แต่ว่าจะกลับยังไงเนี่ยเมาเป๋ซะขนาดนี้”พิเชษฐ์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่า นิสารัตน์กำลังลุกขึ้นยืน แล้วกำลังเดินห่างโต๊ะ แต่ทว่าด้วยสภาพเมาจนประคองตัวเองไม่อยู่ ทำให้ร่างระหงเซไปเซมา จนต้องใช้มือจับโต๊ะเอาไว้กันล้ม จากสภาพที่เห็นเธอไม่น่าจะกลับเองได้“ฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันนะ”ดัตถพงศ์เห็นสภาพของนิสารัตน์แล้วเกิดเป็นห่วงขึ้นมา หากปล่อยเธอ กลับบ้านเองมีหวังไม่ถึงที่แน่ อาจจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง หรือไม่ก็โดนฉุดไปทำมิดีไม่ร้ายกับคนที่ไม่หวังดี“อะไรวะ มาไม่ถึงชั่วโมงก็จะกลับแล

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 5

    Chapter 5ณ ผับเทอมินอล ผับเทอมินอลเป็นผับหรูระดับเฟิร์สคลาส ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่ต้องเสียรายปีๆ สามหมื่นห้าพันบาทสำหรับสามชิกระดับโกล์ดคลาส ส่วนสมาชิกทั่วไปเสียรายปีๆ ละหนึ่งหมื่นบาทผับแห่งนี้แบ่งเป็นหลายส่วน จำแนกตามระดับของสมาชิก หากเป็นสมาชิกทั่วไปจะใช้บริการได้เพียงส่วนของผับ จะให้ความบันเทิงเสมือนผับทั่วๆ ไป สมาชิกระดับโกล์ดคลาสจะใช้บริการได้ทุกส่วน ส่วนที่สองจะเป็นห้องรับรองส่วนตัวขนาดห้องก็แตกต่างกันไป ห้องละห้าคนบ้าง สิบคนบ้าง ยี่สิบคนบ้างตามแต่สมาชิกคนนั้นๆ ส่วนที่สามคือวีไอพีที่มีความพรั่งพร้อมครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมเล็กๆ ห้องปาร์ตี้ขนาดบรรจุคนได้ราวสามสิบคนและห้องนอนไว้พักผ่อน ในส่วนของผับค่ำคืนนี้คนค่อนข้างหนาตา อาจเป็นเพราะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เจ้าของธุรกิจรวมทั้งสมาชิกทั่วไปต่างมาผ่อนคลายความตึงเครียดจากงานที่โหมหนักมาทั้งสัปดาห์ หรือจากชีวิตส่วนตัวที่รุมเร้า ต้องการพักให้หายเครียดหนึ่งในจำนวนคนเป็นร้อยที่มาใช้บริการคือดารานักแสดงชื่อดังของเมืองไทย เธอเลือกที่จะนั่งโต๊ะริมในสุดของผับ ใช้แอลกอฮอล์ดับความเสียใจ

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 4

    Chapter 4งานเลี้ยงช่วงค่ำ ห้องแกรนบอลลูนของโรงแรมฟลุทาวน์ดูเล็กไปถนัดตา เมื่อจำนวนคนที่อยู่ในห้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองมลคลสมรสในขณะนี้นับคร่าวๆ ทางสายตาก็ร่วมแปดร้อยคน และท่าว่าแขกจะไม่หยุดที่จำนวนนี้ นอกจากจะเป็นญาติสนิทจากทั้งสองฝ่าย แขกที่มาร่วมงานยังมีหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง บุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคม นักธุรกิจหลายแขนง รวมทั้งเพื่อนฝูงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวและที่ขาดไม่ได้เลยคือนักข่าวที่แชะบรรยากาศของงานแทบไม่ทัน ดัตถพงศ์นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงด้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านคือหนึ่งเพื่อนสนิทของกรกวินทร์ที่มาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ซึ่งเขาก็รู้ดีว่า เจ้าบ่าวไม่เต็มใจที่จะร่วมงานวิวาห์ แต่ที่ยอมเพราะขัดบิดาและคำขอร้องของมารดาไม่ได้ เขาเดินมาหาคู่บ่าวสาวที่ยืนอยู่ตรงซุ้มดอกไม้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามในมือถือกล่องของขวัญที่ตั้งใจนำมาให้ทั้งคู่ “ดีใจด้วยนะทัช”ดัตถพงศ์แม้จะรู้ว่า เจ้าบ่าวไม่เต็มใจแต่งงาน ทว่าตามมารยาทเขาจำเป็นต้องพูดประโยคนี้“ขอบใจเพื่อน” กรกวินทร์รับน้ำใจจากเพื่อนสนิท “แต่ฉันไม่เห็นจะด

  • เจ้าสาวมัจจุราช   Chapter 3

    Chapter 3“พี่แพรวคะ แม่รักพี่แพรวนะคะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้พี่แต่งงานกับพี่ทัชหรอกค่ะ แม่อยากให้พี่แพรวสบาย พี่แพรวเข้าใจแม่นะคะ”เดือนดาราที่ไม่รู้เหตุผลแท้จริงในงานวิวาห์ของพี่สาว จึงพูดปลุกปลอบให้แพรงพรรณรายไม่ต้องคิดมาก และคิดว่ามารดาไม่รัก แต่แท้จริงแล้ว แพรวพรรณรายรู้เหตุผลทุกอย่าง รู้ทุกเรื่องที่เดือนดาราไม่รู้ แม้กระทั่งเรื่องความลับของกรกวินทร์“ออกไปกันเถอะ พี่ไม่อยากถูกแม่ดุเรื่องที่ออกไปช้า”แพรวพรรณรายพูดตัดบท เธอไม่อาจเปิดเผยหรือแพร่งพรายความลับที่เธอรู้ให้ใครได้รับฟังได้ แท้แต่เดือนดารา สองพี่น้องจึงเดินออกจากห้องแต่งตัว เดินเข้าไปในงานสมรสที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการทุกคนที่อยู่ภายในห้องจัดเลี้ยงต่างมองมายังร่างของเจ้าสาวที่เดินเคียงคู่มากับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มีความงามไม่แพ้กัน ทุกสายตาต่างชื่นชมกับความสวยของแพรวพรรณราย แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองข้ามความสวยของเธอไป แม้ว่าเขาอดจะตะลึงกับความงดงามของเธอไม่ได้ แต่มันแค่เพียงชั่ววินาทีความงามขอแพรวพรรณรายโดดเด่นมาก ดวงหน้าหวานถูกแต่งแต้มพองาม ไม่มากเกินและไม่น้อยเกินไป อาจเป็นเพราะเธอเป็นคนสวยอยู่แล้วจึงไม่ต้องพึ่ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status