แม้จะอยู่ในบทบาทผู้บริหารระดับสูงและมีภาระหน้าที่ต่างกัน แต่ธาราและอิงดาวก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นไว้เสมอ พวกเขามักจะปรึกษาหารือกันในเรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ การบริหารจัดการบุคลากร หรือการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การพูดคุยเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างเป็นกันเองและเป็นธรรมชาติ ทั้งในเวลางานและนอกเวลางาน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อใจและการพึ่งพากันและกันในฐานะเพื่อนร่วมงานและลูกพี่ลูกน้อง
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของธาราดังขึ้น เขามองดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ: "อิงดาว" เขารับสายด้วยรอยยิ้ม
“ว่าไงอิงดาว มีอะไรเหรอ” ธาราถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“พี่ธาราคะ อิงดาวกำลังดูโครงการที่ดินแปลงใหม่ที่ภาคใต้ค่ะ พื้นที่สวยมากเลยนะคะ แต่การขออนุญาตค่อนข้างซับซ้อน อิงดาวอยากได้คำปรึกษาจากพี่ค่ะ” เสียงของอิงดาวฟังดูจริงจัง แต่ก็เจือด้วยความมั่นใจในตัวพี่ชาย
ธาราพยักหน้าแม้จะไม่มีใครเห็น “ได้สิครับ เดี๋ยวพี่จะลองดูข้อมูลให้ แล้วเรามาคุยรายละเอียดกันอีกทีไหมครับ”
“ดีเลยค่ะ อิงดาวกำลังคิดว่าถ้าพี่ว่างช่วงเย็นนี้ เราจะมาคุยกันที่ออฟฟิศพี่ หรือจะไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆ ก็ได้ค่ะ”
“ไปที่ร้านกาแฟก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่เคลียร์งานเสร็จแล้วจะไปหานะครับ” ธาราตอบตกลงทันที การปรึกษาหารือเรื่องงานกับอิงดาวเป็นสิ่งที่เขาชอบทำเสมอ เพราะอิงดาวมักจะมีมุมมองที่แตกต่างและน่าสนใจ
เย็นวันนั้น ณ ร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ ใกล้กับตึกสำนักงานของธารา อิงดาวมาถึงก่อนพร้อมกับแฟ้มเอกสารและแผนที่โครงการขนาดใหญ่ เธอจัดแจงวางเอกสารบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ เมื่อธารามาถึง เขาสั่งกาแฟลาเต้ร้อน แล้วนั่งลงตรงข้ามอิงดาว
“ไหนอิงดาว เล่ามาสิครับว่ามีอะไร” ธาราถามพลางจิบกาแฟ
อิงดาวเริ่มอธิบายถึงโครงการที่ดินแปลงใหม่ในภาคใต้ เธอชี้ให้ธาราดูแผนที่ และอธิบายถึงศักยภาพของพื้นที่ในแง่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว “ทำเลดีมากเลยนะคะพี่ธารา ใกล้ชายหาดสวยๆ แล้วก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ปัญหาคือเรื่องข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมค่ะ”
ธารารับฟังอย่างตั้งใจ เขานั่งดูเอกสารและตั้งคำถามอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่อิงดาวกำลังเผชิญ “ถ้าอย่างนั้นเราต้องหาที่ปรึกษาด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เชี่ยวชาญจริงๆ ครับ และอาจจะต้องหาทางร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ด้วย”
พวกเขาทั้งคู่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเข้มข้น ธาราให้คำแนะนำจากประสบการณ์ที่กว้างขวางในธุรกิจภาพรวม ในขณะที่อิงดาวก็ให้มุมมองที่ลึกซึ้งในรายละเอียดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เฉพาะทาง การพูดคุยดำเนินไปนานกว่าสองชั่วโมง ทั้งสองต่างเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้แก่กัน ทำให้ได้แนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากเรื่องการลงทุนและกลยุทธ์ทางธุรกิจแล้ว ธาราและอิงดาวยังมักจะปรึกษาหารือกันในเรื่อง การบริหารจัดการบุคลากร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญในการเป็นผู้บริหารระดับสูง
วันหนึ่ง ธาราโทรหาอิงดาวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเครียด
“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องหนักใจนิดหน่อย” ธาราเอ่ยขึ้น “พนักงานระดับหัวหน้างานคนหนึ่งของพี่ เขามีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานช่วงนี้ แล้วก็ดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับทีมงานด้วยครับ”
อิงดาวรับฟังอย่างใจเย็น “พี่ธาราลองคุยกับเขาแบบเปิดใจหรือยังคะ บางทีเขาอาจจะมีปัญหาอะไรส่วนตัวที่ส่งผลกระทบต่องานก็ได้ค่ะ”
ธาราถอนหายใจ “พี่ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี”
“อิงดาวเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันค่ะ ตอนนั้นอิงดาวลองใช้หลักที่ว่า ‘คนสำคัญกว่างาน’ ค่ะ” อิงดาวแชร์ประสบการณ์ “อิงดาวลองคุยกับพนักงานคนนั้นเป็นการส่วนตัวค่ะ ไม่ได้คุยเรื่องงาน แต่คุยเรื่องทั่วๆ ไป ให้เขารู้สึกว่าเราเป็นห่วงเขาจริงๆ”
ธาราเงียบไปครู่หนึ่ง “อืม น่าสนใจครับ พี่อาจจะมัวแต่โฟกัสกับเรื่องงานมากเกินไปจริงๆ”
“บางทีนะคะพี่ธารา ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน อาจจะไม่ได้มาจากความไม่ตั้งใจ แต่มาจากสาเหตุอื่นที่เราไม่รู้ก็ได้ค่ะ ถ้าเราเข้าใจเขา เราก็จะสามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างตรงจุดมากขึ้นค่ะ” อิงดาวให้คำแนะนำอย่างจริงใจ
คำแนะนำของอิงดาวทำให้ธาราได้มุมมองใหม่ๆ เขานัดพนักงานคนดังกล่าวมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวอย่างเปิดใจ และพบว่าพนักงานคนนั้นกำลังมีปัญหาเรื่องสุขภาพของคนในครอบครัว ทำให้เขาขาดสมาธิในการทำงาน ธาราตัดสินใจให้วันลาเพิ่มเติมแก่พนักงานคนนั้น และให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพ หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานคนนั้นก็กลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม ธารารู้สึกขอบคุณอิงดาวที่ช่วยให้เขามองเห็นปัญหาในมุมที่แตกต่างออกไป
นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ธาราและอิงดาวยังเป็นคู่คิดสำคัญในการ วางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในระยะยาว พวกเขามักจะนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ และท้าทายมุมมองของกันและกัน เพื่อให้ได้แผนงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ช่วงหนึ่งที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง ธารากำลังพิจารณาแผนการลดค่าใช้จ่ายในองค์กรอย่างเร่งด่วน เขาเสนอแนวคิดการปรับโครงสร้างองค์กรบางส่วนเพื่อลดต้นทุน
“อิงดาวครับ พี่คิดว่าเราคงต้องปรับลดงบประมาณในบางส่วนลงนะครับ เพื่อให้องค์กรสามารถประคองตัวในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีได้” ธาราพูดขึ้นในระหว่างที่พวกเขาทานอาหารกลางวันด้วยกัน
อิงดาวรับฟังอย่างตั้งใจ “อิงดาวเข้าใจค่ะพี่ธาราว่าการลดต้นทุนเป็นสิ่งจำเป็น แต่อิงดาวอยากให้พี่พิจารณาเรื่องการลงทุนใน R&D (Research & Development) ควบคู่ไปด้วยนะคะ แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่การลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ จะช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับองค์กรในระยะยาวค่ะ”
ธาราครุ่นคิด “นั่นก็จริงนะครับ แต่ช่วงนี้งบประมาณเราก็จำกัด”
“เราอาจจะพิจารณาการลงทุนใน R&D ในส่วนที่จำเป็นและสร้างผลตอบแทนได้เร็วค่ะ” อิงดาวเสนอแนะ “หรืออาจจะร่วมมือกับสถาบันวิจัยภายนอก เพื่อแบ่งเบาภาระงบประมาณก็ได้ค่ะ”
แนวคิดของอิงดาวทำให้ธาราได้มองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางวิกฤต เขาตัดสินใจปรับแผนการลดค่าใช้จ่าย โดยยังคงรักษางบประมาณบางส่วนไว้สำหรับการลงทุนในนวัตกรรม ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้บริษัทของเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
ความสัมพันธ์ระหว่างธาราและอิงดาวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องทำงาน พวกเขามักจะใช้เวลาว่างร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือทานอาหารกับครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำถึง ความเชื่อใจ และ ความผูกพัน ที่หยั่งรากลึกระหว่างพวกเขา
วันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง ธาราและอิงดาวนัดกันไปตีกอล์ฟที่สนามประจำ
“พี่ธาราคะ วันนี้อิงดาวขอเอาคืนที่พี่ชนะอิงดาวเมื่อครั้งที่แล้วนะคะ” อิงดาวกล่าวติดตลกขณะกำลังวอร์มอัพ
ธาราหัวเราะ “โอ้โห อิงดาวนี่ขี้แพ้ชวนตีจริงๆ นะครับ”
ตลอดการเล่นกอล์ฟ พวกเขาพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิตส่วนตัว และเรื่องความฝันในอนาคต ไม่มีกำแพงของความเป็นผู้บริหารระดับสูงมาขวางกั้น มีเพียงความเป็นพี่น้องที่รักและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง
หลังจากการออกกำลังกาย พวกเขานั่งพักเหนื่อยอยู่ที่คลับเฮาส์ อิงดาวหันไปมองธารา
“พี่ธาราคะ อิงดาวรู้สึกโชคดีจริงๆ นะคะที่มีพี่ธาราเป็นทั้งพี่ชาย เป็นทั้งที่ปรึกษา และเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานค่ะ” อิงดาวกล่าวด้วยรอยยิ้มจริงใจ
ธารายิ้มตอบ เขามองเข้าไปในดวงตาของอิงดาวที่เปล่งประกาย “พี่ก็เหมือนกันครับอิงดาว อิงดาวก็เป็นน้องสาวที่เก่งและน่ารักที่สุดของพี่”
คำพูดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง ความผูกพันที่แน่นแฟ้น และ ความเชื่อใจ ที่พวกเขามีให้กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตและบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าโลกธุรกิจจะมีความซับซ้อนและแข่งขันสูงเพียงใด แต่การมีกันและกันคอยสนับสนุนและพึ่งพากัน ย่อมเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงเสมอ
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่