เช้าวันจันทร์ที่สดใส ณ อาคารสำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทสินทรัพย์รุ่งเรือง ตึกสูงระฟ้าที่เคยเป็นอาณาจักรของคีรินทร์ บัดนี้ได้ส่งต่อการดูแลมายังธารา ลูกชายคนเดียวของเขา
ธาราในวัย 32 ปี เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยมาดผู้บริหารหนุ่มที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจและกระตือรือร้น เขาสวมชุดสูทสีเข้มที่ตัดเย็บอย่างประณีต เสริมให้บุคลิกที่สูงสง่าดูภูมิฐานยิ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่กระทบกับแววตาที่มุ่งมั่นของเขา เขานั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่ ตรวจดูตารางงานประจำวันบนหน้าจอแท็บเล็ต ซึ่งอัดแน่นไปด้วยการประชุมและนัดหมายสำคัญ
เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น เลขานุการของเขาแจ้งว่าทีมผู้บริหารระดับสูงรออยู่ในห้องประชุมแล้ว ธาราลุกขึ้นยืน จัดเนคไทให้เข้าที่ ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องทำงานด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องประชุม ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เขา
“สวัสดีครับทุกคน” ธาราเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและนุ่มทุ้ม “วันนี้เราจะมาสรุปผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา และวางแผนกลยุทธ์สำหรับโปรเจกต์ใหม่ในภาคเหนือนะครับ”
ตลอดการประชุมกว่าสามชั่วโมง ธาราแสดงให้เห็นถึง ความสามารถในการนำเสนอ ที่ชัดเจนและน่าสนใจ เขานำเสนอข้อมูลด้วยกราฟและสไลด์ที่เข้าใจง่าย พร้อมอธิบายรายละเอียดอย่างละเอียด การวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผลประกอบการ แนวโน้มตลาด หรือคู่แข่ง ล้วนถูกวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และ การตัดสินใจที่เด็ดขาด เมื่อเกิดข้อถกเถียงหรือปัญหา เขาจะสามารถประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีเหตุผล เขายังตอบคำถามและข้อสงสัยต่างๆ จากทีมงานได้อย่างฉะฉาน ทำให้ทุกคนในห้องประชุมต่างให้ความเคารพและยอมรับในความเป็นผู้นำของเขา แม้เขาจะยังอายุน้อย แต่ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการเรียนรู้จากคีรินทร์ผู้เป็นพ่อ ทำให้เขากลายเป็น ผู้นำที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ และความเฉียบคม
ในอีกมุมหนึ่งของเมือง ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ‘มั่งคั่งแลนด์’
อิงดาวในวัย 26 ปี กำลังนำเสนอแผนการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ให้กับคณะกรรมการบริหาร เธอสวมชุดเดรสทำงานสีครีมที่ดูเรียบหรูแต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างเป็นระเบียบ เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยคมและดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วย ความกระตือรือร้นและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ในการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร
“โครงการ ‘The Serenity Residence’ นี้ อิงดาวมองว่าจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและใกล้ชิดธรรมชาติค่ะ” อิงดาวอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบ วัสดุที่ใช้ และกลุ่มเป้าหมาย ด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉานและมั่นใจ เธอมีการใช้ภาพจำลองสามมิติ และคลิปวิดีโอประกอบการนำเสนอ ทำให้โครงการดูน่าสนใจและจับต้องได้มากขึ้น
“เราจะเน้นการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบโมเดิร์นกับความร่มรื่นของธรรมชาติ ทุกยูนิตจะมีพื้นที่สีเขียวส่วนตัว และเราจะใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ค่ะ” อิงดาวกล่าวเสริมพร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจ
ทุกคนในห้องประชุมต่างประทับใจใน ความสามารถในการนำเสนอ และ ความเฉียบแหลมทางธุรกิจ ของเธอ อิงดาวไม่ได้เป็นเพียงผู้บริหารที่สืบทอดกิจการ แต่เธอยังเป็น นักคิดค้นนวัตกรรม ที่พร้อมจะนำพาธุรกิจก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เธอเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
หลังจากการนำเสนอสิ้นสุดลง เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วห้อง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของอิงดาว
ทั้งธาราและอิงดาวไม่ได้เป็นเพียงผู้บริหารที่เก่งกาจ แต่พวกเขายังเป็น ภาพลักษณ์ ของคนรุ่นใหม่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น พวกเขามักจะเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม และให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน
เมื่อธารากลับมายังห้องทำงาน เขาได้รับสายจากผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
“คุณธาราคะ มีนิตยสารธุรกิจติดต่อมาขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการบริหารองค์กรค่ะ” เลขานุการแจ้ง
ธาราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับไป “ได้ครับ นัดเวลาให้ผมด้วยนะครับ ผมยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นใหม่ครับ”
เขามักจะให้ความสำคัญกับการสร้างแรงบันดาลใจ และเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้ความสำเร็จจะช่วยขับเคลื่อนสังคมให้พัฒนาไปข้างหน้าได้
ในอีกด้านหนึ่ง อิงดาวเองก็ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในงานสัมมนาสำหรับนักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์และผังเมือง เธอตัดสินใจตอบรับคำเชิญทันที เพราะเธอเชื่อว่าการให้ความรู้และประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่เป็นสิ่งสำคัญ
“อิงดาวอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากการทำงานให้น้องๆ ฟังค่ะ อยากให้พวกเขามีแรงบันดาลใจและกล้าที่จะทำตามความฝัน” อิงดาวกล่าวกับผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
ทั้งธาราและอิงดาวต่างเข้าใจดีว่าการเป็นทายาทของธุรกิจขนาดใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากกว่าแค่การทำกำไร พวกเขาตระหนักถึงบทบาทของตัวเองในการเป็น ผู้ขับเคลื่อนสังคม และ ผู้สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่
วันนั้นจบลงด้วยความสำเร็จของทั้งธาราและอิงดาว ธาราได้นำพาองค์กรไปสู่ทิศทางใหม่ที่น่าตื่นเต้น ส่วนอิงดาวก็ได้รับความเชื่อมั่นจากคณะกรรมการบริหารในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่
ในยามเย็น ธาราขับรถกลับบ้านพร้อมกับความรู้สึกพอใจในผลงานของตัวเอง เขาเปิดเพลงคลอเบาๆ และนึกถึงภาพของอิงดาวที่นำเสนอแผนงานได้อย่างฉะฉาน เขายอมรับในใจว่าน้องสาวคนนี้เก่งกาจไม่แพ้ใครจริงๆ
ในขณะเดียวกัน อิงดาวก็ขับรถกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เธอมองดูแสงไฟระยิบระยับของเมืองยามค่ำคืน นึกถึงความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า และความมุ่งมั่นที่จะนำพาธุรกิจของครอบครัวให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุด
ทั้งธาราและอิงดาวต่างเป็น ทายาทที่คู่ควร กับตำแหน่งที่ได้รับ พวกเขาไม่ได้ขึ้นมาในตำแหน่งนี้เพราะสายเลือดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะ ความรู้ความสามารถที่แท้จริง ความมุ่งมั่นตั้งใจ และ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
พวกเขาเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะก้าวเข้ามารับช่วงต่อจากคนรุ่นก่อน และนำพาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปในอนาคต ความภาคภูมิใจของตระกูลไม่ได้หยุดอยู่แค่รุ่นพ่อแม่ แต่ได้ส่งต่อมายังธาราและอิงดาว ที่จะสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับธุรกิจของครอบครัวอย่างแน่นอน
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่