บรรยากาศภายในงานเปิดตัวคอลเลกชันยังคงคึกคักไปด้วยผู้คนและเสียงดนตรี ทว่าความตึงเครียดบางอย่างได้ก่อตัวขึ้นระหว่างคีรินทร์และอลิสาอย่างเงียบๆ หลังจากการเผชิญหน้ากันเมื่อครู่
คีรินทร์พาตัวเองเดินออกมาจากอลิสาและธาม เขาเดินตรงไปที่ระเบียงด้านนอกของแกลเลอรีที่เงียบสงบกว่า ดวงตาคมกริบของเขายังคงฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน คีรินทร์ยืนพิงราวระเบียง มองออกไปยังแสงไฟระยิบระยับของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน แต่จิตใจของเขาไม่ได้อยู่ที่ทิวทัศน์ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
"ทำไมฉันต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วยวะ" คีรินทร์พึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาแหบพร่าจากความรู้สึกที่กำลังปั่นป่วนภายในใจ "แค่เห็นยัยอลิสาอยู่กับไอ้ธามทำไมมันต้องหงุดหงิดถึงขนาดนี้"
เขาใช้มืออีกข้างกำแน่นเป็นหมัด ความรู้สึกร้อนรุ่มที่แล่นขึ้นมาที่ใบหน้าเมื่อครู่ยังคงคุกรุ่นอยู่ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้แสดงท่าทีหึงหวงออกมาอย่างชัดเจนขนาดนั้น ทั้งที่เขาบอกกับตัวเองมาตลอดว่านี่เป็นเพียงแค่เกมเดิมพันเท่านั้น เป็นเกมที่เขาตั้งใจจะเล่นเพื่อพิสูจน์ศักดิ์ศรีของตัวเอง ในฐานะนักล่าหัวใจที่ไม่เคยพลาดเป้า
แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเกินกว่าคำว่า "เกม" ไปแล้ว ความรู้สึกที่ไม่พอใจที่เห็นอลิสายิ้มให้ผู้ชายคนอื่น ความรู้สึกที่อยากจะเข้าไปดึงเธอออกมาจากวงสนทนานั้น และความรู้สึกที่อยากจะครอบครองรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเธอไว้เพียงคนเดียว มันเริ่มกัดกินจิตใจของคีรินทร์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คีรินทร์หลับตาลง พยายามทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่คืนแรกที่เขาพบอลิสา การเดิมพันที่ไร้สาระ การหยั่งเชิงกันไปมาระหว่างเขากับเธอ และการปรากฏตัวของธาม ภูริช และแพรไหม ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกกำหนดมาให้เขาก้าวเข้ามาสู่สนามรบแห่งหัวใจนี้โดยไม่ทันตั้งตัว
"ฉันไม่ได้ชอบยัยอลิสาฉันไม่ได้ชอบยัยนี่" คีรินทร์พยายามย้ำกับตัวเองในใจ ทว่าคำพูดนั้นกลับไม่สามารถทำให้ความสับสนในใจของเขาลดลงได้เลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังติดกับดักบางอย่างที่มองไม่เห็น มันเป็นกับดักที่เขาสร้างขึ้นมาเองตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้เขากลับเป็นฝ่ายที่กำลังจะติดอยู่ในกับดักนั้นเสียเอง
ความรู้สึกที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ความหงุดหงิดที่เขาสัมผัสได้เมื่อเห็นอลิสาอยู่กับธามและภูริช มันเป็นเพียงแค่ความไม่พอใจที่เห็นเป้าหมายในเกมของเขาถูกผู้ชายคนอื่นเข้าใกล้ หรือมันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้นความรู้สึกที่เรียกว่า "หึงหวง" อย่างแท้จริง
คีรินทร์ส่ายหน้าเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเสียการควบคุม เกมที่เคยอยู่ในกำมือของเขามาตลอด ตอนนี้กลับพลิกผันจนเขารู้สึกไม่มั่นคง และคนที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ก็คืออลิสา ผู้หญิงที่เขาเคยคิดว่าจะพิชิตได้อย่างง่ายดาย
ในเวลาเดียวกัน อลิสาเดินออกมาจากวงสนทนาของธามและภูริช เธอขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ แต่แท้จริงแล้วเธอแค่ต้องการเวลาอยู่กับตัวเองสักครู่ เพื่อทบทวนความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจของเธอเอง
อลิสายืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำวีไอพี เธอมองดูใบหน้าของตัวเองที่ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่ดวงตาของเธอกลับฉายแววครุ่นคิด
"ทำไมฉันต้องหมั่นไส้ยัยแพรไหมขนาดนั้นด้วยนะ" อลิสาพึมพำกับตัวเอง เธอรู้สึกแปลกใจกับความรู้สึกหมั่นไส้ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อเห็นแพรไหมพยายามแสดงความเป็นเจ้าของคีรินทร์
เธอเคยบอกตัวเองมาตลอดว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับคีรินทร์ไปมากกว่าการเล่นเกมเดิมพัน เป็นเกมที่เธอต้องการจะเล่นเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เป็นคนที่ถูกผู้ชายอย่างเขาจีบได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว
อลิสานึกถึงท่าทีที่แพรไหมแสดงออกต่อคีรินทร์ ทั้งการเกาะแขน การซบไหล่ และคำพูดออดอ้อนที่แสดงความเป็นเจ้าของ อลิสารู้สึกรำคาญใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่ชอบผู้หญิงที่แสดงท่าทีเหล่านั้น และยิ่งเป็นผู้หญิงที่พยายามจะครอบครองผู้ชายที่เธอกำลัง "เล่นเกม" ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรง
แต่ทำไมเธอถึงต้องรู้สึกแบบนี้ ทั้งที่เธอเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับคีรินทร์เลย หรือจริงๆ แล้วเธออาจจะกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างกับเขาโดยไม่รู้ตัว
อลิสานึกถึงสีหน้าหงุดหงิดของคีรินทร์เมื่อเห็นเธออยู่กับธามและภูริช เธอเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเขา และเธอก็รู้สึกสนุกที่ได้เห็นปฏิกิริยาเหล่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ กับตัวเอง
ความรู้สึกที่อยากจะยั่วโมโหคีรินทร์ให้เขาแสดงอาการหึงหวงออกมา มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเกม หรือมันเป็นความปรารถนาลึกๆ ที่อยากจะเห็นว่าเขาสนใจเธอมากแค่ไหน
อลิสาถอนหายใจ เธอรู้สึกว่าเกมเดิมพันที่เธอคิดว่าเป็นเพียงการเล่นสนุกๆ กำลังจะนำพาความรู้สึกบางอย่างที่ไม่คาดคิดมาให้ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่ทำให้เธอสับสน แต่เป็นความรู้สึกที่ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทั้งหมดนี้
เธอไม่แน่ใจว่าเธอจะสามารถควบคุมเกมนี้ได้ต่อไปหรือไม่ เมื่อความรู้สึกที่แท้จริงเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง และเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นจะนำพาเธอไปสู่จุดไหน
ในค่ำคืนนี้เองที่ความรู้สึกภายในที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของทั้งคีรินทร์และอลิสาได้กลายเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเกมเดิมพันที่พวกเขาคิดว่าเป็นเพียงการเล่นสนุกๆ อาจจะกำลังเปลี่ยนไปสู่ความรู้สึกที่แท้จริง
สำหรับคีรินทร์ ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นอลิสาอยู่ใกล้ชิดผู้ชายคนอื่น ไม่ใช่เพียงแค่ความไม่พอใจของนักล่าที่เห็นเหยื่อกำลังถูกรบกวน แต่มันคือความรู้สึกหึงหวงที่ก่อตัวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน และมันกำลังทำให้เขาสับสนกับตัวเอง
ส่วนอลิสา ความหมั่นไส้ที่เธอมีต่อแพรไหม ไม่ใช่เพียงแค่ความรำคาญในท่าทีที่ไร้รสนิยม แต่เป็นความรู้สึกที่ไม่พอใจที่เห็นผู้หญิงคนอื่นพยายามครอบครองสิ่งที่เธอกำลังสนใจ และแผนการยั่วโมโหคีรินทร์ของเธอก็ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นเกม แต่เป็นการทดสอบว่าเขาสนใจเธอมากแค่ไหน
ทั้งคีรินทร์และอลิสาต่างกำลังเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ไม่คาดคิด เป็นความรู้สึกที่กำลังทำให้เกมเดิมพันที่พวกเขาตั้งใจจะเล่นเพื่อความสนุก เปลี่ยนไปสู่สนามรบแห่งหัวใจที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและอารมณ์ที่แท้จริง
จากนี้ไป เกมเดิมพัน 10 ล้านบาทอาจจะไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการที่พวกเขาจะต้องค้นหาคำตอบให้กับความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจของตัวเอง และจะต้องรับมือกับผลลัพธ์ของเกมนี้ ไม่ว่ามันจะนำพาพวกเขาไปสู่ความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่