ในขณะที่แพรไหมยังคงใช้แผนการสกปรกเพื่อทำลายอลิสา และธามเพิ่งสารภาพรักกับอลิสา ทำให้ความสัมพันธ์ของคีรินทร์และอลิสากำลังถูกทดสอบอย่างหนัก แต่ยังมีอีกหนึ่งบุคคลที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบและชาญฉลาด เขาคือ ภูริช อดีตเจ้านายเก่าของอลิสา ผู้ที่เคยแสดงความสนใจในตัวเธอมาโดยตลอด ภูริชไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งเหมือนธาม หรือสร้างความวุ่นวายเหมือนแพรไหม แต่เขามักจะ เข้ามาช่วยเหลืออลิสาในเรื่องงานหรือปัญหาต่างๆ อย่างเงียบๆ และมีประสิทธิภาพ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและสุขุมสำหรับคีรินทร์
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่แพรไหมพยายามก่อกวนงานเปิดตัวคอลเลกชันการกุศล อลิสารู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ เธอต้องเผชิญกับข่าวลือเสียหายและปัญหาทางธุรกิจที่ตามมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่อลิสากำลังรู้สึกท้อแท้และหาทางออกไม่เจอ จู่ๆ เธอก็ได้รับอีเมลฉบับหนึ่งจากภูริช
"เรียน คุณอลิสา" เนื้อหาในอีเมลระบุ
"ผมทราบเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นกับคุณ และเข้าใจว่าคุณกำลังเผชิญกับความยากลำบาก ผมมีข้อมูลบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์ในการจัดการกับเรื่องนี้ หากคุณสะดวก ผมยินดีที่จะให้คำปรึกษา"
อลิสารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ภูริชส่งอีเมลมาหาเธอในเวลานี้ แต่เธอก็ตัดสินใจตอบกลับและนัดหมายเพื่อพูดคุยกับเขาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
เมื่ออลิสามาถึง ภูริชนั่งรออยู่แล้ว เขายิ้มทักทายเธออย่างสุภาพและเป็นกันเอง ซึ่งแตกต่างจากความเคร่งเครียดที่อลิสากำลังเผชิญอยู่
"สวัสดีครับคุณอลิสา" ภูริชเอ่ยทัก
"ผมหวังว่าคุณคงจะไม่ลำบากใจที่ผมติดต่อไปนะครับ"
"ไม่เลยค่ะคุณภูริช ขอบคุณมากเลยค่ะที่ติดต่อมา" อลิสาตอบ "ลิซกำลังต้องการความช่วยเหลือพอดีเลยค่ะ"
ภูริชพยักหน้า เขาหยิบแฟ้มเอกสารบางอย่างออกมาวางบนโต๊ะ "ผมได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายของแพรไหม และช่องทางที่เธอใช้ในการปล่อยข่าวลือ ผมคิดว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการจัดการกับเธอครับ"
อลิสาเปิดแฟ้มเอกสารดู เธอรู้สึกทึ่งกับข้อมูลที่ภูริชรวบรวมมาให้ มันละเอียดและเป็นประโยชน์อย่างมาก เธอไม่คิดเลยว่าภูริชจะลงทุนลงแรงขนาดนี้เพื่อช่วยเหลือเธอ
"คุณภูริชไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหนคะ" อลิสาถามด้วยความประหลาดใจ
ภูริชยิ้มเล็กน้อย "ผมก็แค่พอมีคอนเนกชันอยู่บ้างครับ และผมก็ไม่อยากเห็นคนดีๆ อย่างคุณต้องมาถูกกลั่นแกล้ง"
นอกจากข้อมูลแล้ว ภูริชยังให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์แก่อลิสาเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับข่าวลือและวิธีการฟื้นฟูชื่อเสียงของ ALISA Design เขาแนะนำให้เธอออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน และเน้นย้ำถึงความโปร่งใสของโปรเจกต์การกุศล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมและลูกค้า
การให้คำปรึกษาของภูริชมีความชาญฉลาดและรอบคอบ ทำให้ปัญหาที่ดูซับซ้อนสำหรับอลิสาคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็ว อลิสารู้สึกขอบคุณภูริชอย่างสุดซึ้งที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอในยามที่เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
"ขอบคุณมากนะคะคุณภูริช ลิซไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงเลยค่ะ" อลิสาพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอลิสา ผมแค่ไม่อยากเห็นความสามารถของคุณต้องมาถูกบดบังด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง" ภูริชตอบด้วยรอยยิ้มอบอุ่น "หากคุณมีปัญหาอะไรอีกก็บอกผมได้เสมอนะครับ"
การช่วยเหลือของภูริชเป็นไปอย่างเงียบๆ และมีประสิทธิภาพ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทำให้การกระทำของเขาดูบริสุทธิ์ใจ และนั่นก็ทำให้อลิสารู้สึกขอบคุณและเชื่อมั่นในตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เธอเองก็อาจไม่รู้ตัวว่าภูริชกำลังใช้กลยุทธ์ที่สุขุมและแยบยลเพื่อเข้าใกล้เธอและสร้างความประทับใจให้กับเธอ
ข่าวการช่วยเหลือของภูริชไปถึงหูของคีรินทร์อย่างรวดเร็ว คีรินทร์ได้รับรู้เรื่องนี้จากปกรณ์ ซึ่งเป็นคนคอยสืบข่าวและรายงานความเคลื่อนไหวของอลิสาให้เขาฟัง
"คุณคีรินทร์ครับ มีเรื่องจะรายงานครับ" ปกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "คุณภูริชเขาเข้าไปช่วยคุณอลิสาเรื่องข่าวลือที่ยัยแพรไหมปล่อยออกมาครับ แถมยังให้ข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากๆ ด้วยครับ"
คีรินทร์กำหมัดแน่นเมื่อได้ยินชื่อภูริช เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ภูริชเข้ามาวุ่นวายกับอลิสา ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ภูริชเข้ามาช่วยเหลืออลิสาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในเรื่องนี้
การกระทำของภูริชจะทำให้คีรินทร์รู้สึกว่าภูริชเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและสุขุม เขารู้ว่าภูริชเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ และมีคอนเนกชันที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้เขากลายเป็นภัยคุกคามที่ยากจะรับมือ คีรินทร์ไม่สามารถคาดเดาแผนการของภูริชได้ง่ายๆ และรู้สึกว่าภูริชกำลังกุมความได้เปรียบอยู่เงียบๆ
คีรินทร์เริ่มจับตาดูภูริชอย่างใกล้ชิด เขาพยายามสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับภูริชมากขึ้น และพยายามหาทางรับมือกับคู่แข่งที่ดูเหมือนจะกุมความได้เปรียบอยู่เงียบๆ นี้
วันหนึ่ง คีรินทร์บังเอิญเห็นภูริชและอลิสากำลังนั่งคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อลิสายิ้มแย้มและดูผ่อนคลายเมื่ออยู่กับภูริช ซึ่งทำให้คีรินทร์รู้สึกหึงหวงอย่างรุนแรง เขาเดินเข้าไปหาทั้งคู่อย่างไม่ลังเลใจ
"สวัสดีครับคุณภูริช ไม่เจอกันนานเลยนะครับ" คีรินทร์ทักทายภูริชด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ
ภูริชยิ้มตอบอย่างสุภาพ "สวัสดีครับคุณคีรินทร์ โลกกลมนะครับ บังเอิญมาเจอกันที่นี่"
"ลิซครับ ทำไมลิซไม่บอกพี่ว่าลิซนัดเจอคุณภูริช" คีรินทร์หันไปถามอลิสาด้วยน้ำเสียงที่เจือความไม่พอใจ
อลิสารู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น "ลิซแค่มาคุยเรื่องงานกับคุณภูริชน่ะค่ะพี่คี"
"งานอะไรครับ ทำไมพี่ไม่รู้เรื่อง" คีรินทร์ถามต่อด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแข็งขึ้น
ภูริชยิ้มเล็กน้อย "ผมแค่ให้คำปรึกษาคุณอลิสาเรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นน่ะครับคุณคีรินทร์ คุณอลิสาดูเครียดมาก ผมเลยอยากช่วยเท่าที่ช่วยได้"
คีรินทร์มองภูริชด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาไม่ชอบที่ภูริชเข้ามาวุ่นวายกับอลิสา และยิ่งไม่ชอบที่ภูริชแสดงท่าทีเป็นห่วงอลิสาอย่างออกนอกหน้า
"ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะครับคุณภูริช" คีรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เน้นคำว่า "ความหวังดี" "แต่เรื่องของคุณอลิสา ผมจัดการเองได้ครับ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกครับ"
ภูริชเพียงยิ้มตอบอย่างสุภาพ แต่ในแววตาของเขากลับมีประกายบางอย่างที่ทำให้คีรินทร์รู้สึกไม่สบายใจ
"พี่คีคะ" อลิสาพยายามแทรกขึ้น "คุณภูริชแค่มาช่วยลิซจริงๆ ค่ะ"
"พี่รู้แล้วลิซ" คีรินทร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง เขาหันไปมองภูริชอีกครั้ง "ผมคิดว่าเราคงไม่มีเรื่องจะคุยกันแล้วนะครับคุณภูริช"
คีรินทร์ดึงมืออลิสาให้ลุกขึ้น และพาเธอเดินออกจากร้านอาหารไปทันที ทิ้งให้ภูริชนั่งอยู่เพียงลำพัง
การกระทำของคีรินทร์ทำให้ภูริชยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย เขารู้ดีว่าคีรินทร์กำลังหึงหวง และนั่นคือสัญญาณที่ดีสำหรับเขา เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคีรินทร์กำลังรู้สึกไม่มั่นคง และภูริชกำลังก้าวเข้ามาเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวสำหรับความสัมพันธ์ของคีรินทร์และอลิสาอย่างแท้จริง
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่