อลิสาและคีรินทร์ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกันอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้ชื่อเสียงที่โดดเด่นของบริษัทและของทั้งคู่ที่พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดในวงการ พวกเขากลายเป็นผู้นำที่ไม่ได้มีเพียงความสามารถและวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทั้งคู่เป็นเหมือนรากฐานอันแข็งแกร่งที่คอยค้ำจุนให้ทุกย่างก้าวของการดำเนินชีวิต ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เป็นไปได้อย่างมั่นคงและมีความสุขอย่างแท้จริง
โปรเจกต์ล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งปิดดีลไปคือการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในย่านใจกลางเมือง ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างลงตัว การใช้พลังงานสะอาด ระบบจัดการของเสียอัจฉริยะ และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ทำให้โครงการนี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในวันแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ชื่อของอลิสาและคีรินทร์ถูกกล่าวขานถึงในฐานะผู้บุกเบิกและผู้สร้างนวัตกรรมแห่งยุค
หลังจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจมานานหลายเดือน คีรินทร์รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเติมพลังและความหวานให้กับชีวิตคู่ เขาตัดสินใจจองวิลล่าส่วนตัวสุดหรูที่ซ่อนตัวอยู่ริมชายหาดอันเงียบสงบ เพื่อเป็นของขวัญให้กับอลิสาและตัวเขาเอง
“ลิซครับ อาทิตย์หน้าเราไปพักผ่อนกันนะ” คีรินทร์พูดขึ้นขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารค่ำในบ้าน
อลิสาเงยหน้าจากจานอาหารด้วยความประหลาดใจ “ไปไหนคะพี่คี”
“ทะเลครับ พี่จองวิลล่าไว้แล้ว เป็นหาดส่วนตัว เงียบสงบมากๆ เลยครับ” คีรินทร์ยิ้มอย่างอบอุ่น ดวงตาของเขาสะท้อนถึงความรักและความห่วงใย
อลิสายิ้มกว้างด้วยความดีใจ “จริงเหรอคะ! โห พี่คีน่ารักที่สุดเลยค่ะ ลิซอยากพักผ่อนจะแย่แล้ว”
เมื่อเดินทางไปถึงวิลล่าส่วนตัว บรรยากาศเงียบสงบของหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีครามก็โอบล้อมพวกเขาไว้ทันที ไอทะเลเย็นฉ่ำพัดโชยมาปะทะกาย ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักที่สะสมมานานมลายหายไปในพริบตา อลิสาเดินลงไปเหยียบทรายนุ่มๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสดใสราวกับเด็กน้อย คีรินทร์เดินตามไปโอบกอดเธอจากด้านหลัง พลางก้มลงจูบที่เรือนผมของเธอเบาๆ
“พี่ว่าลิซคงจะชอบที่นี่นะครับ” คีรินทร์กระซิบข้างหูเธอ
“ชอบมากๆ เลยค่ะพี่คี ขอบคุณนะคะ” อลิสาพูดพร้อมกับเอนศีรษะซบกับไหล่ของเขาอย่างออดอ้อน
ตลอดทั้งวันพวกเขาใช้เวลาเดินเล่นริมชายหาด สร้างปราสาททรายเล็กๆ ด้วยกัน เล่นน้ำทะเลใสๆ และนอนอาบแดดบนเก้าอี้ชายหาด บางครั้งคีรินทร์ก็จะหยอกล้อด้วยการปะทรายใส่อลิสา ทำให้เธอหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ภาพของทั้งคู่ที่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางแสงแดดยามบ่าย ช่างเป็นภาพที่น่ารักและอบอุ่น
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงฉานตัดกับสีครามของน้ำทะเล คีรินทร์ชวนอลิสามานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันบนระเบียงวิลล่าที่มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา อลิสาซบศีรษะกับไหล่ของคีรินทร์อย่างสบายใจ มือของเขากุมมือเธอไว้แน่น สัมผัสความอบอุ่นที่ส่งผ่านถึงกันและกัน
“วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดเลยค่ะพี่คี” อลิสาพึมพำ
“สำหรับพี่ทุกวันที่มีลิซอยู่ข้างๆ ก็เป็นวันที่ดีที่สุดเสมอครับ” คีรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม แล้วก้มลงจูบที่หน้าผากของเธอ
หลังจากทานอาหารค่ำง่ายๆ ที่เชฟของวิลล่าเตรียมให้ อลิสารู้สึกถึงความเมื่อยล้าที่แล่นเข้ามาหลังจากกิจกรรมตลอดทั้งวัน คีรินทร์เห็นดังนั้นจึงรีบเดินเข้าไปหาเธอ
“ลิซคงเมื่อยใช่ไหมครับ” คีรินทร์ถามด้วยความเป็นห่วง “มาครับ เดี๋ยวพี่นวดให้”
อลิสายิ้มและพยักหน้า เธอเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวที่จัดไว้อย่างสะดวกสบาย คีรินทร์เดินเข้าไปยืนด้านหลังเธอ เริ่มนวดไหล่และต้นคอของเธออย่างอ่อนโยน นิ้วมือแข็งแรงของเขากดคลึงไปตามจุดที่เมื่อยล้า ทำให้อลิสารู้สึกผ่อนคลายราวกับได้ขึ้นสวรรค์
“อืมมมสบายจังเลยค่ะพี่คี” อลิสาครางออกมาอย่างพอใจ “พี่คีนวดเก่งที่สุดเลย”
คีรินทร์หัวเราะเบาๆ “สบายตัวแล้วจะได้มีแรงไปทำอย่างอื่นไงครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แล้วก้มลงจูบที่ไหล่เนียนของเธออย่างแผ่วเบา
วันรุ่งขึ้น อลิสาตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่จะทำอาหารเช้าพิเศษให้คีรินทร์ เธอลงมือทำไข่เบเนดิกต์ที่เขาโปรดปราน พร้อมกับวาฟเฟิลราดซอสเบอร์รี่สด และกาแฟอาราบิก้าหอมกรุ่น คีรินทร์เดินลงมาจากห้องนอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และเมื่อเห็นโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยของโปรด เขาก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปกอดอลิสาจากด้านหลัง แล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่
“โห! ลิซทำอาหารเช้าให้พี่ด้วย” คีรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
“แน่นอนค่ะ” อลิสายิ้ม “พี่คีทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ ลิซก็อยากให้พี่คีได้ทานของอร่อยๆ บ้าง”
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว การได้อยู่เคียงข้างกันและเป็นกำลังใจให้กัน ทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมีความสุข พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความรักสามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตได้จริง
ค่ำคืนสุดท้ายของการพักผ่อนที่วิลล่าริมทะเล แสงจันทร์เต็มดวงส่องกระทบผืนน้ำระยิบระยับราวกับเพชรนับพันเม็ด ส่องเข้ามาในห้องนอนที่ตอนนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้และกลิ่นกายที่คุ้นเคยของคนทั้งสอง หลังจากที่ความเหนื่อยล้าจากการทำงานและการเดินทางถูกชะล้างออกไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่ความปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ในห้วงลึกของหัวใจ
อลิสานอนหงายอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดขับเน้นผิวขาวผ่องของเธอให้โดดเด่นท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามา ร่างกายของเธอยังคงอบอวลไปด้วยความผ่อนคลายจากการนวดเมื่อช่วงหัวค่ำ แต่ตอนนี้กลับถูกแทนที่ด้วยความร้อนรุ่มที่แล่นพล่านไปทั่วทุกอณู คีรินทร์มองใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอาง ดวงตาคู่สวยที่ปิดพริ้ม และริมฝีปากอิ่มที่เผยอขึ้นเล็กน้อยด้วยความเสน่หา เขาเลื่อนตัวขึ้นคร่อมร่างเล็กๆ ของเธออย่างแผ่วเบา ประคองน้ำหนักตัวไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง
อลิสาค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่คุ้นเคย เธอช้อนตามองคีรินทร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน มือเรียวของเธอค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบลำคอของเขา ดวงตากระตุกไหวเมื่อเห็นแววตาเร่าร้อนของเขา
“พี่คี” เสียงของเธอแผ่วเบาและแหบพร่าเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ควบคุมไม่ได้
คีรินทร์ไม่รอช้า เขาก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มของอลิสาอย่างดูดดื่ม จูบนั้นรุนแรงและลึกซึ้งราวกับจะกลืนกินทุกสิ่ง ลิ้นร้อนของเขาแทรกซอนเข้าไปในโพรงปากหวาน หยอกล้อและดูดดึงอย่างเร่าร้อน อลิสาตอบรับจูบนั้นอย่างคลั่งไคล้ มือของเธอเลื่อนลงต่ำไปยังบั้นท้ายแข็งแรงของเขา บีบเคล้นอย่างยั่วยุและไม่ยอมปล่อย
เมื่อถอนจูบออก ทั้งคู่หอบหายใจถี่กระชั้น คีรินทร์มองใบหน้าที่แดงก่ำและดวงตาฉ่ำเยิ้มของอลิสาด้วยความหลงใหล เขาเลื่อนริมฝีปากลงตามลำคอระหง บ่าเนียน ไหล่มน และหยุดอยู่ที่ทรวงอกอวบอิ่ม เขาดูดดึงและคลึงเคล้นยอดอกสีชมพูระเรื่ออย่างหนักหน่วง ทำให้อลิสาบิดเร้าด้วยความสุขสม
“อ๊าพี่คีซี๊ด” อลิสาครางเสียงดังลั่นห้อง ใบหน้าเหยเกด้วยความสุขสม มือของเธอจิกผ้าปูที่นอนแน่น ร่างกายบิดเร้าด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ
คีรินทร์เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนา เขาเปลี่ยนท่าทางให้อลิสา ประกบฝ่าเท้าเข้าหากันเขาแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง สัมผัสความร้อนชื้นที่รอคอยอยู่ภายใน ความคับแน่นและรัดรึงทำให้เขาคำรามต่ำๆ ในลำคอ
“แน่นไปหมดลิซ” เขาพูดเสียงสั่น สัมผัสถึงการตอบรับจากร่างกายของเธอ
“พี่คีอื้อออได้โปรดเร็วสิคะ” อลิสากระตุ้น เสียงของเธอขาดห้วง ใบหน้าเหยเกด้วยความทรมานที่แสนสุข
คีรินทร์ไม่รอช้า เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ คลอเคลียก่อนจะเพิ่มจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงเนื้อกระทบกัน เสียงครางหวานของอลิสาที่เปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องด้วยความสุขสม และเสียงคำรามต่ำของคีรินทร์ดังประสานกันไปทั่วห้องอย่างไม่ขาดสาย
ต่อมา คีรินทร์ค่อยๆ พลิกตัวให้นั่งบนเตียง โดยดึงอลิสาขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของเขา หันหน้าเข้าหากัน อลิสาโอบรอบคอเขา ขยับร่างกายขึ้นลงอย่างเร่าร้อน บดเบียดสะโพกกับความเป็นชายของเขาอย่างไม่ยั้ง ความใกล้ชิดในท่านี้ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงทุกแรงเต้นของหัวใจที่ตรงกัน ความเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง สัมผัสที่แนบแน่นทำให้พวกเขารู้สึกถึงความสุขสมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
“อื้อออพี่คีตรงนี้ลึกอีกค่ะอ๊า” อลิสาสั่งเสียงสั่นพลางบิดเร้า ก้มลงจูบเขาอย่างกระหายหิว ราวกับจะดูดกลืนเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเธอ
คีรินทร์จับสะโพกมนของเธอไว้แน่น ช่วยประคองและนำทางให้เธอเคลื่อนไหวอย่างเข้าจังหวะ มือของเขาเลื่อนไปสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกายเธออย่างลุ่มหลง ใบหน้าซบลงกับซอกคอของเธอ สูดดมกลิ่นกายหอมๆ ของเธออย่างบ้าคลั่ง
เมื่อความต้องการทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง คีรินทร์ค่อยๆ วางอลิสาลงนอนหงาย แล้ว ยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดบ่า ในท่า The Hammock ท่านี้ทำให้เขาเข้าถึงเธอได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อลิสาแหงนหน้า กรีดร้องด้วยความสุขสมเมื่อเขากระแทกกายเข้าสู่ภายในอย่างแรงและหนักหน่วง แรงกระแทกที่หนักแน่นและต่อเนื่องทำให้ร่างของเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“อ๊าพี่คี! สุดยอดเลยค่ะ! แรงอีกค่ะ! อื้อออลิซไม่ไหวแล้ววว”
คีรินทร์โถมกายเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง จูบ ซบไซร้ และกระซิบคำรักข้างหูเธออย่างไม่หยุดหย่อน เหงื่อไหลซึมตามไรผมและแผ่นหลังของทั้งคู่ สองร่างแนบชิดเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง ความรักและความปรารถนาหลอมรวมกันเป็นความสุขสมที่เกินบรรยาย จนกระทั่งทั้งคู่ปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดแน่นออกมาพร้อมกัน ท่ามกลางเสียงครางกระเส่าที่ดังก้องไปทั่วทั้งวิลล่า
หลังจากนั้น ทั้งคู่นอนกอดกันแน่นบนเตียง ท่ามกลางความเงียบสงบที่กลับคืนมา มีเพียงเสียงลมหายใจที่ยังคงหอบถี่ อลิสาซบหน้ากับอกของคีรินทร์อย่างอ่อนแรงแต่เปี่ยมสุข คีรินทร์จูบลงบนเรือนผมของเธออย่างอ่อนโยน สัมผัสได้ถึงหัวใจของเธอที่ยังคงเต้นระรัว
“รักนะลิซ” คีรินทร์กระซิบ
“รักพี่คีที่สุดเลยค่ะ” อลิสาตอบกลับ
ค่ำคืนนั้นเป็นเหมือนการเฉลิมฉลองความสำเร็จของพวกเขา ทั้งในด้านธุรกิจและความรัก ชีวิตคู่ของอลิสาและคีรินทร์แข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น ด้วยความรัก ความเข้าใจ และความปรารถนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมีความสุขตลอดไป
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่