ความสัมพันธ์ของมิ้นท์และปกรณ์ดำเนินไปอย่างมั่นคงและราบรื่น ทุกวันคือการเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน พวกเขาเข้าใจกันและกันอย่างลึกซึ้ง ให้กำลังใจกันในทุกสถานการณ์ และเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของกันและกัน ทั้งสองได้เรียนรู้ที่จะยอมรับและปรับตัวเข้ากับความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้ความรักของพวกเขายิ่งทวีความแน่นแฟ้นและแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพูดคุยและวางแผนอนาคตร่วมกันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซื้อบ้านหลังเล็กๆ ที่อบอุ่น หรือการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับชีวิตคู่
หลังจากที่ปกรณ์ได้พามิ้นท์ไปแนะนำให้ครอบครัวของเขารู้จักอย่างเป็นทางการ บรรยากาศในครอบครัวของปกรณ์ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและการต้อนรับมิ้นท์เป็นอย่างดี คุณพ่อและคุณแม่ของปกรณ์ชื่นชอบความสดใสและอ่อนโยนของมิ้นท์ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจและเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มิ้นท์เองก็รู้สึกประทับใจในความอบอุ่นและความรักใคร่ของครอบครัวปกรณ์ การได้ก้าวข้ามผ่านการแนะนำตัวกับครอบครัวไปได้ด้วยดี ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยิ่งแน่นแฟ้นและจริงจังมากขึ้น
เมื่อความสัมพันธ์พัฒนาไปอีกขั้น มิ้นท์และปกรณ์เริ่มพูดคุยถึงเรื่องการย้ายมาอยู่ด้วยกันอย่างจริงจังมากขึ้น ปกรณ์อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ซึ่งถึงแม้จะไม่กว้างขวางนัก แต่ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความรักและความตั้งใจ ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะปรับปรุงและตกแต่งคอนโดใหม่ เพื่อให้เป็นรังรักที่อบอุ่นและสะดวกสบายสำหรับทั้งสองคน
วันหยุดสุดสัปดาห์ มิ้นท์และปกรณ์ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่คอนโด ช่วยกันจัดข้าวของ เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ และตกแต่งห้องต่างๆ ด้วยกัน มิ้นท์ออกไอเดียในการเลือกสีทาผนัง ผ้าม่าน และของตกแต่งน่ารักๆ ส่วนปกรณ์ก็ลงมือประกอบเฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งชั้นวางของ และดูแลเรื่องระบบไฟภายในห้อง ทุกๆ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำร่วมกัน เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ
ในขณะที่กำลังช่วยกันจัดเรียงหนังสือบนชั้นวาง มิ้นท์เผลอทำหนังสือเล่มหนึ่งหล่นลงพื้น ปกรณ์ก้มลงเก็บขึ้นมา แล้วทั้งคู่ก็สบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในแววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและยากจะบรรยาย เป็นความรู้สึกของการได้พบเจอคนที่ใช่ คนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างกันไปตลอดชีวิต ในโมเมนต์นั้นเอง ปกรณ์ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ มิ้นท์ก็หลับตาลงอย่างอัตโนมัติ ริมฝีปากของทั้งสองแตะกันเบาๆ ก่อนที่จะแนบชิดกันสนิทแน่น เป็นจูบที่อ่อนหวานแต่ลึกซึ้ง สื่อถึงความรักและความผูกพันที่เติบโตขึ้นในหัวใจของทั้งสองคน
หลังจากที่ช่วยกันตกแต่งคอนโดจนเกือบจะเรียบร้อย มิ้นท์และปกรณ์รู้สึกเหนื่อยล้าแต่ก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ค่ำคืนนั้นเป็นคืนแรกที่มิ้นท์จะค้างคืนที่คอนโดของปกรณ์อย่างเป็นทางการ บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความตื่นเต้นที่แฝงไปด้วยความเขินอายเล็กน้อย
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ มิ้นท์อยู่ในชุดนอนผ้าซาตินสีชมพูอ่อนที่ปกรณ์เคยซื้อให้ เธอนั่งอยู่บนเตียง มองไปยังปกรณ์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำสีเทาเข้ม หยดน้ำยังคงเกาะพราวอยู่บนเส้นผมของเขา มิ้นท์รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อเห็นปกรณ์เดินตรงมาที่เตียง
ปกรณ์นั่งลงข้างๆ เธอ มองใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อของมิ้นท์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา เขาเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนของเธอเบาๆ สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้มิ้นท์รู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย
“มิ้นท์ครับ” ปกรณ์กระซิบเสียงแหบพร่า “คืนนี้ให้พี่ได้ดูแลมิ้นท์นะ”
มิ้นท์พยักหน้าเบาๆ ไม่กล้าสบตาเขา แต่แก้มของเธอก็ยิ่งแดงก่ำขึ้นไปอีก ปกรณ์ค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ จูบเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่เปลือกตา จมูก และสุดท้ายก็หยุดอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม
จูบแรกเริ่มต้นด้วยความอ่อนโยน ก่อนที่จะค่อยๆ ทวีความเร่าร้อนและลึกซึ้งขึ้น มิ้นท์ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ มือเรียวของเธอค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบคอของปกรณ์ ดึงเขาเข้ามาใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน สัมผัสถึงไออุ่นและความสั่นไหวที่ส่งผ่านถึงกัน
เมื่อถอนจูบออก ทั้งคู่หอบหายใจถี่กระชั้น ปกรณ์จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของมิ้นท์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนา และความเคารพ เขาค่อยๆ เลื่อนมือลงไปสัมผัสไหล่มนของเธอ ลูบไล้เบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ปลดกระดุมชุดนอนของเธอออกทีละเม็ด เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้าบางเบา
เมื่อชุดนอนตัวสวยถูกปลดออกจนพ้นกาย ปกรณ์ก็ก้มลงจูบที่เนินอกอวบอิ่มของมิ้นท์อย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มแรงดูดดึงและคลึงเคล้นยอดอกสีชมพูระเรื่อ ทำให้มิ้นท์ครางออกมาด้วยความสุขสม มิ้นท์ยกมือขึ้นลูบศีรษะของปกรณ์ สัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของเขา
“อืมมมพี่ปกรณ์” เสียงของมิ้นท์แหบพร่า
ปกรณ์เงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก เขาค่อยๆ เลื่อนตัวลงนอนทาบทับร่างของมิ้นท์มองใบหน้าหวานที่กำลังบิดเบี้ยวด้วยความปรารถนา
“มิ้นท์ครับพี่รักมิ้นท์นะครับ รักมากที่สุด” ปกรณ์กระซิบเสียงสั่น ก่อนที่จะก้มลงจูบเธออีกครั้ง
ในระหว่างที่จูบกันอย่างดูดดื่ม ปกรณ์ค่อยๆ สอดแทรกความเป็นชายของเขาเข้าไปในช่องทางรักของมิ้นท์อย่างนุ่มนวล มิ้นท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะปล่อยเสียงครางหวานออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความคับแน่นที่เข้ามาเติมเต็มภายในร่างกายของเธอ
“อ๊าพี่ปกรณ์” เสียงของมิ้นท์สั่นระริก
ปกรณ์หยุดการเคลื่อนไหวชั่วครู่ เพื่อให้มิ้นท์ได้ปรับตัวกับความรู้สึก ก่อนที่จะค่อยๆ เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เนิบนาบ มิ้นท์ยกขาขึ้นโอบรอบเอวของเขา ตอบรับสัมผัสที่ลึกซึ้งด้วยการบดเบียดสะโพกเข้าหาเขาอย่างไม่ยอม
ต่อมา มิ้นท์พลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของปกรณ์หันหน้าเข้าหาเขา มือเรียวของเธอเท้าแขนไว้กับอกกว้างของปกรณ์ มองสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความปรารถนา จากนั้นเธอก็เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างช้าๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอควบคุมจังหวะและความลึกของการสอดใส่ได้อย่างใจปรารถนา ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกถึงความสุขสมที่พุ่งสูงขึ้น
“ซี๊ดมิ้นท์สุดยอดเลยครับ” ปกรณ์ครางออกมาด้วยความพึงพอใจ มือของเขาเลื่อนขึ้นไปลูบไล้สะโพกมนของมิ้นท์อย่างหลงใหล
เมื่อความต้องการทวีความรุนแรงขึ้น มิ้นท์เอนตัวลงนอนตะแคงข้าง หันหน้าเข้าหาปกรณ์ แล้วให้เขาโอบกอดเธอจากด้านหลังในท่า Spooning ท่านี้ทำให้ทั้งสองรู้สึกถึงความอบอุ่นและความใกล้ชิดอย่างแนบแน่น ปกรณ์ค่อยๆ สอดแทรกกายเข้าไปในตัวมิ้นท์อีกครั้ง สัมผัสที่แนบชิดและลึกซึ้งทำให้ทั้งคู่หายใจถี่กระชั้น
“อืมมมพี่ปกรณ์มิ้นท์ชอบท่านี้จังเลยค่ะมันรู้สึกอบอุ่น” มิ้นท์พึมพำเสียงหวาน
ปกรณ์กระซิบตอบข้างหูเธอ “พี่ก็ชอบครับรู้สึกเหมือนเราเป็นหนึ่งเดียวกันเลย” แล้วเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เนิบนาบ สัมผัสที่อ่อนโยนแต่ลึกซึ้งทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความรักและความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างช้าๆ เต็มไปด้วยเสียงกระซิบแห่งความรัก เสียงครางหวานที่ดังประสานกัน และสัมผัสที่เร่าร้อนของคนทั้งสอง ร่างกายและจิตใจของมิ้นท์และปกรณ์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นค่ำคืนแห่งการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความปรารถนาที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่