ตอนที่6 แม่ครัวคนใหม่
“ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพลอยขอตัวก่อนนะคะ” พลอยใสพูดขึ้นเมื่อจัดเตรียมมื้อเย็นสำหรับเจ้าของบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“จ้ะ กลับไปพักผ่อนเถอะลูกทางนี้ป้าจัดการต่อเอง” เด็กสาวที่รู้หน้าที่ของตัวเองดีจึงไม่อยู่รบกวนเวลาส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ทั้งที่เธออยากเจอหน้าผู้ปกครองของเธอมากก็ตาม
“แขขึ้นไปเชิญคุณวีมาทานข้าว” เท้าเล็กที่กำลังเดินพ้นขอบประตูบ้านหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงป้าณีสั่งแม่บ้านอีกคนให้ไปตามชายหนุ่มลงมาทานข้าว และนั่นจะเป็นโอกาสที่เธอจะได้เจอมาเฟียหนุ่มถ้าเธอหาเรื่องประวิงเวลาเพื่ออยู่ที่นี่ต่อ
“~” เด็กสาวยืนคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจก้าวเท้าเดินออกจากบ้านใหญ่ไปโดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย
หลังจากทานมื้อเย็นกับเพื่อน ๆ แล้วเสร็จพลอยใสก็หยิบกีตาร์ตัวโปรดมานั่งแกะโน๊ตต่อจากที่ค้างไว้เมื่อช่วงเย็น เสียงใสของคอร์ดอีไมเนอร์ที่อยู่ในท่อนสุดท้ายช่วยส่งอารมณ์เพลงให้จบลงอย่างสมบูรณ์
“เฮ้อ! เสร็จสักที ปวดนิ้วไปหมดแล้ว” นิ้วเรียวเล็กที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยกดของสายกีตาร์ถูกยกขึ้นสำรวจอีกครั้งหลังจากที่ถูกใช้งานไปอย่างหนักตลอดทั้งวัน
ชาร์วีที่กำลังนั่งดูภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงผ่านหน้าจอมือถือ เมื่อสิ้นสุดเสียงของคนในภาพนั้นชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายทันที
“ธาราของใช้จำเป็นสำหรับเด็กสามคนนั้นมีเพียงพอหรือเปล่า มึงจัดการครบหมดหรือยัง” เสียงเรียบยิงคำถามทันทีที่อีกฝ่ายกดรับสาย
“ก็จัดการซื้อมาให้ครบหมดแล้ว มีอะไรอยู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา” ธาราที่กำลังนั่งทำงานต่อในห้องทำงานหลังจากทานมื้อเย็นเสร็จถามกลับเสียงเรียบ
“ช่วงนี้มึงทำแต่งานได้เดินไปถามพวกเธอบ้างหรือเปล่า”
“มึงก็ขายกิจการที่มีอยู่ออกไปสักครึ่งหนึ่งสิ กูจะได้ทำงานและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเขาบ้าง”
“อย่าพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เดินมาหากูที่ห้องด้วยตอนนี้” ชาร์วีพูดจบก็กดตัดสายทันที
“สั่งเหมือนกูเป็นเมียมึงเลยนะไอ้ห่า” ธาราด่าให้กับโทรศัพท์เมื่อโดนเจ้าของบ้านออกคำสั่งแล้วตัดสายทันทีแบบนี้
แอ๊ด..
“มีอะไร” บอดี้การ์ดหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดกระดุมเม็ดบนสามเม็ดโชว์หน้าอกแกร่งเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาเอ่ยถามน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
ปั่ก!
กระปุกวาสลีนและปลอกสวมนิ้วซิลิโคนที่บรรจุในซองขนาดเล็กสามสี่ซองถูกโยนไปตรงหน้าบอดี้การ์ดหนุ่ม
“อะไร กูไม่ใช้ของพวกนี้” ธาราถามขึ้น คิ้วหนาดกดำขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นสิ่งที่ชาร์วีโยนมาตรงหน้า
“กูไม่ได้ให้มึงเอาไปใช้” ชาร์วีพูดขึ้นเสียงแข็ง
“แล้วโยนมาให้กูทำไม จะให้กูเอาไปทิ้งเหรอถังขยะอยู่ตรงโน้นเอาไปทิ้งเอง” ธาราตอบกลับหัวเสียกำลังหันหลังเดินกลับออกไป
“เอาไปให้พลอยใส” เสียงเรียบสั่งออกไป ธาราเอี้ยวตัวหันกลับมองสิ่งของบนโต๊ะอีกครั้งว่ามันคืออะไร
“ใส่ใจเด็กมันตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงรู้ว่าเด็กมันต้องการของพวกนี้” ธาราย้อนถามมาเฟียหนุ่ม
“อย่าถามมาก กูสั่งให้เอาไปให้ก็เอาไปแค่นั้น ออกไปได้แล้วกูจะทำงาน” ชาร์วีตัดบทเช่นเคยก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารที่วางอยู่มุมโต๊ะขึ้นมาเซ็น
“พูดเหมือนมึงมีงานคนเดียวนะ” ธาราสบถด่าออกไปก่อนจะคว้าของบนโต๊ะสาวเท้าเดินออกไป
ปั้ง! ตามมาด้วยเสียงปิดประตูที่บ่งบอกอารมณ์คนปิดได้เป็นอย่างดี
บอดี้การ์ดหนุ่มเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้านหลังเล็กที่ไม่ได้แวะเข้ามาเกือบหนึ่งเดือน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“อ้าวพี่ธารา มีอะไรหรือเปล่าคะ” พลอยใสลุกมาเปิดประตูก็ต้องตกใจและเอ่ยถามขึ้น
“พี่เอานี่มาให้..ทาซะ แล้วก็วันหลังจะเล่นกีตาร์ก็ใส่ซิลิโคนที่นิ้วด้วย ถ้ากดมาก ๆ เล่นไปนาน ๆ นิ้วจะเป็นแผลหรือด้านเอาได้” สายตาคมเหลือบมองนิ้วด้านซ้ายของเด็กสาวก็พอจะรู้สาเหตุที่เขาต้องมาที่นี่
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่กลับไปทำงานต่อก่อนนะ ล็อกประตูบ้านดี ๆ ด้วยล่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ พี่ธาราอย่านอนดึกมากนะคะรักษาสุขภาพด้วย”
เช้าวันถัดมา
พลอยใสในชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าเป้ใบน่ารักพร้อมกับสะพายกระเป๋ากีตาร์ตัวโปรดที่เธอจะใช้สอบในวันนี้เดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่บริเวณหน้าบ้าน
“พี่ธาราสวัสดีค่ะ วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ” ดวงตากลมสวยแหงะไปเห็นบอดี้การ์ดหนุ่มที่คุ้นเคยเดินออกมาพอดีจึงกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใส
“เข้าครับ รอนายประชุมกับสาขาต่างประเทศอยู่สักพักก็จะออกไปแล้ว วันนี้เอากีตาร์ไปด้วยมีสอบเหรอเรา”
“ค่ะ วันนี้มีสอบวิชาดนตรี”
“พลอยไปก่อนนะคะ พี่ธาราทำงานก็สู้ ๆ นะคะ” เด็กสาวชูสองนิ้วเพื่อให้กำลังใจบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนจะวิ่งขึ้นรถตู้ไป
“ถึงขั้นต้องมาส่งกันขึ้นรถแล้วเหรอเดี๋ยวนี้” เสียงเรียบถามขึ้นอย่างประชด
“ผมออกมาสั่งงานลูกน้องแล้วบังเอิญเจอเด็ก ๆ พอดีครับ เลยทักทายกันปกติแค่นั้นเอง” ธาราตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบไม่ได้สนใจถ้อยคำประชดของเจ้านาย แค่เพียงอธิบายเพื่อไม่ให้เข้าใจเด็กสาวผิดแค่นั้น
“ทักทายกันธรรมดาด้วยการชูสองนิ้วสินะ” พูดจบก็เดินเลี่ยงเพื่อจะไปขึ้นรถอีกคันที่เปิดประตูรออยู่
“กูแบ่งให้มึงก็ได้นะนิ้วหนึ่ง ถ้าอยากได้” นิ้วกลางชี้ไปตรงหน้ามาเฟียหนุ่มขณะกำลังเดินผ่านหน้าไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดที่เห็นภาพสองคนนี้ทะเลาะกันจนชินตา
“ไอ้ห่า เก็บไว้เองเหอะกูไม่ได้อยากได้”
“ก็นึกว่าอยากได้เห็นสายตาขี้อิจฉามองมาแต่ไกล” ธาราผู้ที่ได้รับฉายาบอดี้การ์ดฝีปากกล้ายังคงรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
“พี่ไม่กลัวนายควักปืนยิงแสกหน้าเข้าสักวันเหรอครับ” เนทบอดี้การ์ดรุ่นน้องอีกคนที่ติดตามธาราและชาร์วีไปด้วยตลอดถามขึ้น ทั้งที่เห็นเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อย ๆ
“ถ้าเป็นมึงจะยืนเฉย ๆ ให้นายยิงกระบาลมึงไหมล่ะ”
พลอยใสกลับมาจากโรงเรียนเธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปช่วยงานที่บ้านใหญ่เหมือนเช่นทุกวัน
“ลูกมือมาแล้วค่ะ” เมื่อเข้ามายังห้องครัวเด็กสาวก็พูดทักทายและรายงานกับแม่บ้านจนตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในครัวแทบจะไม่ต้องหันไปมองว่าเป็นใคร เพราะเสียงใส ๆ ที่ดังขึ้นในช่วงเวลานี้ของทุกวันก็มีเพียงเด็กสาวเท่านั้น
“เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเป็นลูกมือแล้วมั้งเริ่มลงกระทะเก่งแล้ว วันนี้ป้าจะให้โชว์ฝีมือทำอาหารให้พนักงานและบอดี้การ์ดทาน” ป้าณีบอกกับพลอยใสในขณะที่มือก็วุ่นอยู่กับการเตรียมอาหารให้เจ้านาย
“จริงเหรอคะถ้าอย่างนั้นมาเลยค่ะ เมนูอะไรคะที่ป้าณีจะให้พลอยทำ พลอยสัญญาค่ะว่าจะทำอย่างสุดฝีมือ” พลอยใสดีใจ ในที่สุดฝีมือที่เธอฝึกฝนมาตลอด4ปีที่กำลังจะได้โชว์ฝีมือเป็นครั้งแรก
“เย็นนี้เมนูพนักงานมีแกงมัสมั่นไก่กับผัดผักรวมกุ้งจะเลือกทำอันไหนก็ได้เอาที่ถนัดและคิดว่าทำอร่อย” ป้าณีละจากหน้าเตาหันมาบอกเด็กสาวยิ้ม ๆ
“ได้เลยค่ะ งั้นพลอยขอเป็นคนทำเมนูแกงมัสมั่นนะคะ จะได้ให้ป้าณีชิมว่าครูพักลักจำที่พลอยเอามาจากป้าณีลูกศิษย์คนนี้จะสอบผ่านหรือเปล่า” เด็กสาวบอกกับหญิงสูงวัยพร้อมกับยิ้มแป้นจนบรรดาแม่บ้านที่อยู่ในครัวต่างยิ้มตาม
“หวังว่าบอดี้การ์ดคงจะไม่ท้องเสียจนเสียชื่อคนสอนอย่างป้าล่ะ” ป้าณีหยอกเด็กสาว
“พลอยสัญญาเลยค่ะว่าจะไม่ทำให้ป้าณีเสียชื่อแน่นอน” เด็กสาวตกปากรับคำอย่างมั่นใจก่อนจะเริ่มลงมือทำเมนูที่เธอเลือกอย่างตั้งอกตั้งใจ
แกงมัสมั่นไก่หน้าตาน่ารับประทานส่งกลิ่นหอมของเครื่องแกงโชยไปทั่วห้องครัว น่องไก่ชิ้นใหญ่ที่ถูกตุ๋นจนเปื่อยน้ำแกงซึมเข้าเนื้อทั่วทั้งชิ้นยั่วน้ำลายมากขึ้นเมื่อตักแบ่งใส่ถ้วยสีใส
“ตักเพิ่มอีกถ้วยจัดขึ้นโต๊ะให้คุณวีด้วย” ป้าณีบอกกับพลอยใสที่กำลังเลือกชิ้นไก่อีกชิ้นใส่ถ้วยที่ตั้งใจตักแบ่งให้ธารา
“รสชาติไม่อร่อยเท่าป้าณี คุณวีจะทานได้เหรอคะ” ใบหน้าสดใสฉายแววความกังวลขึ้น เมื่ออาหารฝีมือเธอจะถูกตักไปให้ประมุขของบ้านทาน
“ทานได้สิรสชาตินี้อร่อยที่สุดแล้ว คุณวีชอบทานมัสมั่นไก่มาก” พลอยใสจำต้องตักแบ่งอาหารฝีมือเธอเพิ่มอีกหนึ่งถ้วยสำหรับประมุขของบ้าน
เมื่อเสร็จจากการช่วยงานในครัวพลอยใสก็มานั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ประจำของเธอซึ่งก็คือโต๊ะม้าหินอ่อนตรงสวนหย่อม ในขณะที่กำลังทบทวนตำราเรียนอยู่นั้นก็บังเอิญเห็นชายหนุ่มที่ไม่คุ้นหน้าก้าวเท้าลงจากรถ แต่ด้วยระยะไกลและมีบอดี้การ์ดบังมุมสายตาของเธออยู่จึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าชัดเจนได้ เห็นเพียงใบหน้าด้านข้างและแผ่นหลังของชายคนนั้นในระยะไกล ๆ
“จะใช่คุณวีรึเปล่านะ ต้องใช่แน่ ๆ” เสียงเล็กพึมพำอยู่คนเดียว แม้จะเห็นแค่ระยะไกลแต่ความรู้สึกและสัญชาตญาณของเธอก็รับรู้ได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “คุณวี” ผู้มีพระคุณของเธอ เพราะตลอดทางที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านบอดี้การ์ดทุกคนต่างก้มหัวให้
“ลุคค์กำลังจะเข้าไปที่ผับมันฝากถามว่าวันนี้นายจะเข้าไปหรือเปล่าจะได้เตรียมห้องครับ” ธาราที่เดินตามเจ้านายเข้ามายังห้องทำงานหลังจากพึ่งกลับจากบริษัทเอ่ยถามขึ้น
“เข้า คืนนี้กูนัดกับพวกไอ้เหมันต์ไว้” ชาร์วีตอบกลับเสียงเรียบ
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมแจ้งลุคค์ให้เตรียมห้องไว้เลยนะครับ”
“อืม บอกมันเตรียมเด็กไว้ดูแลไอ้มังกร ไอ้อเล็กซ์ และ ไอ้ฉลามด้วยส่วนของกูกับไอ้เหมันต์ไม่ต้อง” มาเฟียหนุ่มผู้ไร้ความรู้สึกคำนี้ยังใช้ได้กับชาร์วีเสมอ
“ได้ครับ” ธารากำลังจะเดินออกไปถ่ายทอดคำสั่งของเจ้านายให้กับลุคค์มือซ้ายของชาร์วีที่คอยดูแลงานที่ผับ แต่เสียงของชาร์วีก็ดังขึ้นก่อนที่ธาราจะก้าวพ้นขอบประตู
“เด็ก ๆ เป็นยังไงบ้างช่วงนี้”
“ก็ปกตินะครับ เมื่อคืนผมเอาของไปให้พลอยใสก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไรนี่ครับ แต่ถ้ามีพลอยใสก็คงจะโทรแจ้งผมแล้ว”
“ดูท่าทางเด็กที่ชื่อพลอยใสจะสนิทกับมึงดีนะมีอะไรก็คอยบอกคอยถามกันตลอด”
“ประชดหรือว่าอิจฉาครับ ถ้านายอิจฉาผมจะได้บอกกับพลอยใสว่าต่อไปนี้ถ้ามีอะไรให้โทรหานายโดยตรงได้เลย เห็นพักหลังมานี้ให้ความสนใจกับเด็กในการปกครองกว่าเมื่อก่อน”
“มึงอย่ามายอกย้อนกูให้มากไอ้ธารา ออกไปจัดการงานที่กูสั่งได้แล้วก่อนที่ตีนกูจะลอยไปปิดปากมึง” ชาร์วีด่ากลับอย่างหัวเสียเมื่อโดนมือขวาคนสนิทยอกย้อนใส่ทุกครั้งเมื่อถามถึงเด็กสาว
ชาร์วีเปิดดูงานจากอีเมลอีกนิดหน่อยก่อนจะเดินไปห้องส่วนตัวเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปทานมื้อเย็นก่อนจะเอาแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย
“แกงมัสมั่นรสชาติเป็นไงบ้างคะ ถูกปากไหม” ป้าณีเอ่ยถามเมื่อชาร์วีตักเนื้อไก่และน้ำแกงในถ้วยราดข้าวและตักเข้าปากต่อเนื่องสองสามคำ
“ก็อร่อยเหมือนเดิมครับ แต่วันนี้รู้สึกว่ากลิ่นพริกแกงจะเข้มกว่าครั้งก่อนแต่ก็อร่อยดีครับ” ชาร์วีที่ทานรสมือป้าณีมาตั้งแต่เด็กไม่มีสักครั้งที่มาเฟียหนุ่มจะบ่นเรื่องรสชาติสักครั้งเพราะอาหารทุกจานที่ถูกจัดขึ้นโต๊ะนั้นถูกปากชาร์วีทุกอย่าง
“รสชาติผมชอบนะครับจัดจ้านดี รู้สึกว่าเจริญอาหารกว่าทุกวัน ทำบ่อย ๆ นะครับ” ธาราเสริมขึ้นเมื่อตักแกงในถ้วยทานไปกว่าครึ่งพร้อมกับข้าวสวยในจานที่พร่องไปเกือบหมดจานเช่นกัน
“แกงมัสมั่นป้าไม่ได้เป็นคนทำนะคะ วันนี้ป้าให้พลอยใสแสดงฝีมือ ถ้าคุณวีกับคุณธาราชอบวันหลังป้าจะให้เธอทำให้ทานอีกค่ะ”
“ป้าว่าใครทำนะครับ” ชาร์วีละจากอาหารในจานเงยหน้าขึ้นถามแม่ครัวคนโปรดอีกครั้ง
“พลอยใสค่ะ พลอยใสเป็นคนทำ”
“พลอยใสเก่งนะครับทั้งการเรียน ทั้งงานบ้านงานเรือน ต่อไปคงเป็นแม่บ้านที่ดีคนหนึ่ง” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยขึ้นมุมปาก สายตาแฝงความเจ้าเล่ห์มองหน้าชาร์วีขณะที่พูดถึงเด็กสาว
“ป้าก็คิดอย่างนั้นค่ะ ถ้าไม่นับชาติกำเนิดพลอยใสคือผู้หญิงที่เพียบพร้อมคนหนึ่ง” หญิงสูงวัยพูดขึ้นแสดงแววตาชื่นชม
“เธอเก่งก็ดีแล้วครับ อนาคตข้างหน้าจะได้ดูแลตัวเองได้” ชาร์วีพูดขึ้นและก้มลงสนใจอาหารตรงหน้าต่อ ใช้เวลาเพียงยี่สิบนาทีมื้อเย็นก็จบลง
ตอนที่7 พบเจอเพียงแค่รูปถ่ายพลอยใสออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนหย่อมอย่างเช่นทุกวัน บรรยากาศที่มีลมพัดเอื่อย ๆ เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน กุหลาบที่เธอปลูกไว้หลายต้นตอนนี้ออกดอกส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตามลม ท้องฟ้าที่มืดสลัวมีเพียงพระจันทร์และกลุ่มดาวที่ทอแสงสว่างให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง เพราะความสว่างของไฟฟ้าในเมืองหลวงบดบังความสวยงามแท้จริงของกลุ่มดาวหลายล้านดวง“นั่นพี่ธารานี่ กำลังจะออกไปข้างนอกสินะ” ธาราเดินออกมาจากบ้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงยีนสีเดียวกันกับรองเท้าหนังสีดำมันวาว“คุณวี” ชายหนุ่มร่างกำยำเดินตามหลังออกมาในชุดคล้าย ๆ กัน ขายาวหุ่นนายแบบรีบเดินไปขึ้นรถสปอร์ตคู่ใจสีดำที่ธาราขึ้นนั่งประจำคนขับอยู่ก่อนแล้ว“ใช่คุณจริง ๆ สินะ” แม้จะเห็นใบหน้าของชายหนุ่มโดยไม่มีอะไรมาบดบังแต่ด้วยความที่เป็นช่วงเวลากลางคืนจึงไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดชัดเจนขนาดนั้นตั้งแต่พลอยใสอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าจนย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เธอรู้เพียงว่าคนที่อุปการะเธอชื่อคุณวีเพียงเท่านั้น เพราะแม่แก้วจะบอกกับเด็ก ๆ เสมอว่าคนใจดีที่ดูแลพวกเธอชื่อคุณวี ไม่มีชื่อจริง ชื่อเต็ม หรือชื่ออื่น ๆ ให้เรียก และตอนนี้เ
ตอนที่8 แรกพบเลิกเรียน“วันนี้จะแวะซื้อขนมที่ไหนหรือเปล่าครับ” ลุงคนขับรถเอ่ยถามทันทีที่พลอยใสก้าวเท้าขึ้นมาบนรถ“เอ่อ..เปล่าค่ะ กลับบ้านเลยค่ะ” พลอยใสตอบกลับแบบงง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เลยนึกคำพูดของธาราเมื่อเช้าที่บอกกับเธอว่าตอนเย็นในบ้านจะกลับมาปกติเหมือนเดิมบ้านฮาร์เปอร์“วันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับ” เสียงบอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้าที่อยู่หน้าบ้านเอ่ยทักทายเด็กสาวอย่างเช่นทุกวัน“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ พี่ ๆ ล่ะคะ ทำงานกันเหนื่อยไหมคะวันนี้” เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ บ้านฮาร์เปอร์กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังเจอมรสุมลูกใหญ่จากประมุขของบ้านถูกจัดการไปสี่ทุ่ม“เธอจะออกไปไหนเหรอพลอยใส ผ้าไหมที่ลุกไปเข้าห้องน้ำและกำลังเดินกลับเข้ามานอนถามขึ้นเมื่อเห็นพลอยใสถือผ้าคลุมกำลังจะเดินออกจากห้อง”“พลอยรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับน่ะว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ไหมนอนก่อนเลยนะ” พลอยใสบอกกับเพื่อนร่วมห้องนอนของเธอ“อืม ตามใจดึก ๆ ดื่น ๆ ยังจะออกไปเดินเล่นอีกนะเธอนี่ ฉันนอนก่อนล่ะไม่ไหวง่วง” ผ้าไหมพูดพร้อมกับเดินไปขึ้นเตียงปิดโคมไฟหัวเตียงและนอนหลับไปพลอยใสที่เกิดอาการนอนไม่หลับจึงออกมานั่งรับลมเย็น ๆ ช่วงกลางดึ
ตอนที่9 คลั่งหลังจากสั่งลูกน้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณสวนหย่อม พลอยใสก็อยู่ในสายตาของชาร์วีตลอดเวลาที่เด็กสาวออกมานั่งทบทวนบทเรียนหรือเล่นกีตาร์ยามว่างจากการช่วยงานที่บ้านใหญ่วันถัดมาวันนั้นพลอยใสเปลี่ยนจากม้าหินกลางสวนหย่อมมานั่งศาลากลางสระบัวแทนเพราะน้ำค้างค่อนข้างแรง ในขณะที่ชาร์วีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูกล้องวงจรปิดทันทีหลังจากกลับมาจากทำงานแต่มองกล้องมุมไหนก็ไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายที่อยากเจอ ชายหนุ่มจึงต้องละจากหน้าจอโทรศัพท์กดเปิดLaptopและไล่ดูกล้องตัวอื่น ๆ ที่ติดอยู่รอบ ๆ บริเวณนั้น“ยัยตัวแสบ แอบหนีมานั่งอยู่นี้เอง” ชาร์วีที่เจอเป้าหมายนั่งอยู่ศาลากลางสระบัวที่เปิดไฟสว่างจ้ารอบบริเวณ แต่ด้วยกล้องตัวที่ส่องไปนั้นติดอยู่ระยะค่อนข้างไกลจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเด็กสาวได้ชัดเจน“ธาราเข้ามาหาฉันหน่อย”“นายมีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ” ธารารีบเข้ามาพบเจ้านายทันทีที่ถูกเรียก“พรุ่งนี้สั่งคนมาติดกล้องตรงบริเวณสระบัวเพิ่มด้วย” ชาร์วีสั่งสิ่งที่ต้องการออกไปโดยไม่บอกเหตุผลว่าทำไม ทั้งที่ภายในบ้านตอนนี้ก็มีกล้องติดอยู่บริเวณรอบ ๆ เกือบร้อยตัวกระจายอยู่ทั่วบริเวณรอบ ๆ บ้าน ยกเ
ตอนที่10 หวงเด็กในการปกครองวันต่อมาชาร์วีสั่งลูกน้องให้ยืนเฝ้าพลอยใสและรุ่นพี่ ธาราเดินเข้าไปเจอเลยต้องทักท้วง“นายให้คนคอยประกบขนาดนั้นพลอยใสจะไม่มีสมาธิในการติวหนังสือนะครับ เด็กเขาติวหนังสือนะครับไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”“ในเมื่อกูให้มึงดูแลแต่มึงหละหลวมกูก็ต้องจัดการเอง แล้วการที่เจ้าของบ้านจัดคนดูแลความปลอดภัยให้เด็กในความปกครองมันก็ไม่ได้แปลกตรงไหนเพราะที่นี่บ้านกู” ชาร์วีใช้อำนาจในความเป็นเจ้าของบ้านตอกกลับมือขวาด้วยความหงุดหงิด เพราะเคืองธาราอยู่ก่อนแล้วเรื่องที่อนุญาตให้รุ่นพี่พลอยใสมาติวหนังสือโดยไม่รายงานเขาก่อน“ครับ แล้วแต่นายเลยครับถ้าเด็กมันอึดอัดแล้วขอออกไปติวข้างนอกผมก็คงห้ามไม่ได้แล้วล่ะครับ” ธารายังไม่วายที่จะจุดชนวนให้คนเป็นเจ้านายโมโหเพิ่มเพราะค่อนข้างไม่เห็นด้วยที่ชาร์วีรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเด็กแบบนั้น“ถ้าถึงเวลานั้นกูคือคนที่จะบอกว่าอนุญาตหรือไม่” ร่างสูงเดินไปนั่งบนโต๊ะเพื่อทำงานต่อโดยไม่สนใจมือขวาอีกต่อไป ธาราจึงได้แต่ส่ายหัวกับการใช้อำนาจของเจ้านายเช้าวันหยุดที่ความจริงแล้วชาร์วีมีนัดคุยงานแต่เนื่องจากวันนี้ชายหนุ่มมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการจึงส่งธาราให้
ตอนที่11 หลบหน้า“มึงจะมาจ้องจับผิดอะไรกูธารา” เมื่อถูกถามแบบจับผิดคนที่ไม่บริสุทธิ์ใจเหมือนเดิมก็ทำท่าหงุดหงิดขึ้นมา“กูไม่ได้ว่าอะไรถ้ามึงจะสนใจเรื่องความปลอดภัยของเด็กแต่ที่กูเห็นมันเกินความจำเป็นไปหรือเปล่า ที่นี่ในบ้านไม่ใช่ข้างนอกที่ต้องให้คนไปยืนเฝ้าตลอดเวลาแบบนั้น ทำเหมือนเด็กมันเป็นนักโทษไปได้” ธาราพูดในสิ่งที่เขารู้สึก ไม่มีใครชอบให้มีคนยืนคุมตลอดเวลาหรอกแต่ที่พลอยใสไม่พูดเพราะเธอเกรงใจประมุขของบ้านชาร์วีหันมองหน้าธาราก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบโดยไม่พูดอะไรต่อ ธาราเองก็หัวเสียที่อีกฝ่ายเอาแต่เงียบไม่สะทกสะท้านกับคำเตือนของเขา“กูพอใจที่จะทำ และอีกอย่างไอ้พวกนั้นมันก็ไม่ได้ไปรบกวนอะไรเด็กนั่นด้วย แค่ยืนเฉย ๆ คิดซะว่าเป็นรูปปั้นประดับศาลาแล้วกัน” ชาร์วีพูดขึ้นหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบมาสักพัก ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมและเดินออกจากห้องไป“เธอว่าวันนี้เราจะเจอคุณวีไหมแก้มใส” ผ้าไหมพูดกับแก้มใสในขณะที่ทั้งคู่นัดกันมาดักรอเจ้าของบ้านอยู่มุมด้านหลังของตึกใหญ่ที่เชื่อมระหว่างตึกเล็ก หลังจากที่เห็นรูปชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในมือถือของพลอยใสเมื่อวันก่อนและสอบถามจึงไ
ตอนที่12 ออกอาการชาร์วีที่วันนี้เคลียร์งานอยู่ที่บ้านทั้งวันกำลังยืนมองผ่านหน้าต่างจากชั้นบนของบ้าน ไปทางประตูหน้าบ้านเมื่อตอนนี้เลยเวลาที่เด็กในการปกครองต้องกลับถึงบ้านแล้ว“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์แวะมาส่งเรา ไว้เจอกันพรุ่งนี้จ้า” เด็กสาวในชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถตู้คันหรูที่ด้านในรถมีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่ด้านในรถคันดังกล่าวด้วย ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่ประตูรถจะปิดลงและขับเคลื่อนตัวออกไปพลอยใสเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ระหว่างทางเดินก็กล่าวทักทายเหล่าบอดี้การ์ดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่บ้านหลังเล็กเพื่อเก็บกระเป๋าและเปลี่ยนเสื้อผ้า“ธารา ไอ้ธารา” ชาร์วีตะโกนเสียงดังลงมาจากชั้นสองของบ้านธาราที่กำลังสั่งงานบอดี้การ์ดอยู่ด้านล่างต้องรีบหันไปถามคนเป็นนายทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น“นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับเสียงดังไปถึงข้างล่าง”“ทำไมวันนี้พลอยใสถึงไม่นั่งรถตู้ของที่บ้าน” น้ำเสียงโมโหถามออกไปทันทีที่ธาราพูดจบ ธาราถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ทำให้ชาร์วีหัวเสียจนเสียงดังลั่นบ้านจะเป็นเรื่องของเด็กในปกครอง“รถของที่บ้านกลับมาถึงตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วครับ และอี
ตอนที่13 เพียงกระจกกั้น“ถ้าหมดธุระก็เชิญกลับไปได้แล้ว” ขณะที่ฉลามกำลังนั่งเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างคนอารมณ์ดีอยู่ ๆ ก็โดนเจ้าของบ้านไล่กลับแบบไม่ทันตั้งตัว“กลัวความลับรั่วไหลหรือไง พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะไม่ใช่ศัตรูเผื่อมึงเข้าใจผิด” ฉลามสวนกลับทันควัน ทุกคนยังนั่งนิ่งไม่มีทีท่าจะลุกกลับออกไปสักคน“พวกขี้เสือก แค่พวกมึงก้าวขาเข้ามาในบ้านกูก็รู้แล้วว่าตั้งใจมาเสือกโดยเอางานบังหน้า” ชาร์วีด่าสวนกลับไม่ไว้หน้าแม้แต่คนเดียว“555 มึงยังฉลาดเหมือนเดิมนะไอ้ชาร์ ไอ้ฉลามอุตส่าห์คิดแผนตั้งนานมึงเสือกจับได้ซะงั้น ปะพวกเรากลับเถอะไม่สนุกแล้วว่ะ” อเล็กซ์หัวเราะร่าพร้อมตั้งท่าลุกขึ้น“อย่าลืมสั่งลาเด็กมันด้วยล่ะ จะไม่อยู่อีกหลายวันเดี๋ยวเด็กมันคิดถึง” ฉลามยังไม่วายหันกลับมาบอกกับชาร์วีที่ตอนนี้กำลังจ้องแผ่นหลังของเพื่อนทั้งสามคิ้วขมวดเข้าหากัน“นายจะรับกาแฟไหมครับ” ธาราถามขึ้นเมื่อตอนนี้ถึงเวลาอาหารว่างช่วงบ่ายของมาเฟียหนุ่ม“กลับจากดูไบให้สถาปนิกเข้ามาดูพื้นที่ด้านหลังติดกับบ้านใหญ่ว่าสามารถปลูกบ้านหลังเล็กอีกหลังได้ไหม” ชาร์วีไม่ตอบคำถามธาราแต่กลับสั่งงานออกมาและสร้างความแปลกใจให้บอดี้การ์ดหนุ่มอยู่ไม่น
ตอนที่14 ใส่ใจทุกรายละเอียด“นายครับ สถาปนิกมาถึงแล้วครับ”“ให้เข้ามา”“ผมต้องการรายละเอียดตามนี้ ออกแบบและส่งรายละเอียดให้ผมภายในพรุ่งนี้ และทีมวิศวกรจะเข้ามาสำรวจพื้นที่และเริ่มก่อสร้างภายในสัปดาห์หน้า ผมต้องการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด” ชาร์วีส่งแบบแปลนที่เขาออกแบบไว้คร่าว ๆ ให้สถาปนิกหนุ่มดู“ในส่วนของห้องนอนต้องการให้ตกแต่งรูปแบบไหนครับ”“ห้องสำหรับผู้หญิง ไม่ต้องหวือหวาเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นแต่เน้นความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” ชาร์วีแจ้งความประสงค์กับสถาปนิกชัดเจน“ได้ครับ ผมจะรีบลงรายละเอียดและส่งให้คุณธาราพรุ่งนี้เช้า ถ้างั้นผมขอตัวก่อนครับ”“เชิญ” สถาปนิกหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากนั่งเกร็งมาสักพัก เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านก็รีบสาวเท้าเดินออกมาทันทีบ้านหลังเล็กสไตล์ทันสมัยก็ก่อสร้างและตกแต่งเกือบแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว พลอยใสได้รับคำสั่งให้เตรียมตัวย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังเล็กที่สร้างขึ้นใหม่นี้โดยธาราให้เหตุผลว่าก้าวเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัยแล้วควรที่จะแยกห้องนอนกันเพื่อจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างอิสระโดยไม่รบกวนเพื่อนคนอื่น ๆ“เก็บของเสร็จหรือยัง” ธาราเอ่ยถามเด็กสาวขณะที่พลอยใสม
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้