"ป้าแก้วคะ อาเตกลับมาจากบริษัทยังคะ" เสียงหวานของคนเป็นหลานหรือซีเซีย เอ่ยถามหาคนเป็นอากับป้าแม้บ้านด้วยความร้อนใจ เพราะเธอรอคุยเรื่องสำคัญกับอาของเธอตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว จึงทำให้เธอร้อนใจเป็นอย่างมาก โดยมีคนรักหรือศิลายืนอยู่ข้างๆไม่ห่าง
"กลับมาแล้วค่ะ อยู่บนห้องทำงาน เมื่อกี้ป้าเพิ่งเอาของว่างกับน้ำไปให้คุณเตมาค่ะ"
สิ้นเสียงป้าแม่บ้าน ซีเซียก็ไม่รอช้าสองขาเรียวเล็กก้าววิ่งขึ้นไปบนชั้นสองยังห้องทำงานของคนเป็นอาอย่างไว
"น้องเซียอย่าวิ่งครับเดี๋ยวล้ม" ศิลาพูดตามหลังไวๆของคนรัก พลางส่ายหน้าให้อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะรีบเดินตามเธอไปติดๆ
เมื่อมาถึงห้องทำงานของคนเป็นอา ซีเซียก็เปิดประตูเข้าไปทันที
แกรก!
ด้านเตชินท์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหรูหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง เขาจึงละสายตาจากแฟ้มงานตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูห้องทันที พอเห็นว่าเป็นใครเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อน เตชินท์จึงเอ่ยดุออกไป
"เอาอีกแล้วนะครับน้องเซีย อาบอกกี่ครั้งแล้วว่าก่อนเข้ามาให้เคาะประตูห้องก่อน" เตชินท์เอ่ยดุ พลางเบนสายตาไปมองเพื่อนตัวเองที่เดินตามหลังหลานสาวเข้ามาในห้องอีกคน ก่อนที่เสียงหลานสาวจะดังขึ้นดึงความสนใจของเขาให้หันกลับไปมองเธอ
"หนูรู้ค่ะแต่หนูรีบ หนูมีเรื่องสำคัญจะคุยกับอาเตค่ะ"
"เรื่องสำคัญอะไร"
"เรื่องพั้นซ์ค่ะ พั้นซ์โดนตาจับขังไว้ในห้องค่ะ"
ได้ยินหลานสาวบอกมาเช่นนั้น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีก่อนจะเอ่ยถามหลานสาวไป
"แล้วทำไมหนูพั้นซ์ถึงโดนจับขังไว้ในห้องล่ะ"
"ตาหนูจับได้ว่าพั้นซ์แอบไปเล่นปลากัดค่ะ แถมตายังคาดโทษพั้นซ์ไว้ว่าถ้าแอบไปเล่นปลากัดอีกจะส่งพั้นซ์ไปอยู่กับแม่พั้นซ์ หรือไม่ก็จับพั้นซ์แต่งงานค่ะ"
"ว่าไงนะ! จับแต่งงานเหรอ"
"ใช่ค่ะ อาเตต้องช่วยพั้นซ์นะคะ"
"หนูพั้นซ์ของอา อาต้องช่วยอยู่แล้วครับ"
เตชินท์แทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ในหัวกำลังคิดว่าทำไมนักสืบที่เขาว่าจ้างให้คอยตามสืบตามดูความเคลื่อนไหวของน้ำพั้นซ์มาตลอดสี่ปีถึงไม่รายงานเขาในเรื่องที่สำคัญขนาดนี้
~~~
ทว่าอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น ดึงความสนใจของเขาให้หันไปมอง พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของนักสืบคนดังกล่าวที่เขาว่าจ้างโทรเข้ามา เขาก็รีบกดรับสายทันที
"ว่าไง"
(คุณเตครับคุณน้ำพั้นซ์โดนตาของเธอจับขังไว้ในห้องครับ)
"อืม รู้แล้ว"
ในขณะที่เตชินท์คุยโทรศัพท์กับนักสืบ ซีเซียที่มองอยู่อย่างนึกขัดใจว่าใครโทรมาหาอาของเธอตอนนี้ เพราะเธอยังคุยเรื่องสำคัญกับอาเธอไม่เสร็จ ทว่าสายตาของเธอก็ดันไปสะดุดเข้ากับซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าเธอพอดี ซึ่งข้างในซองเหมือนจะมีรูปอะไรโผล่ออกมาจากในซองแค่เล็กน้อย และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซีเซียจึงถือวิสาสะหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาแล้วล้วงรูปข้างในออกมาดู โดยมีศิลายืนกอดอกมองเธอนิ่งๆ ไม่คิดจะเอ่ยห้ามอะไร
ด้านเตชินท์มัวแต่คุยโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจความซุกซนของหลานสาวตัวเองเลย จนกระทั่งเสียงของหลานสาวดังขึ้น จึงดึงความสนใจของเขาให้หันไปมอง
"นี่มันอะไรกันคะอาเต ทำไมมีแต่รูปพั้นซ์เต็มไปหมดเลย" ซีเซียเอ่ยถาม พลางชูรูปน้ำพั้นซ์ในมือด้วยสีหน้าสงสัยเต็มประดา แม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าคนเป็นอาชอบพอน้ำพั้นซ์อยู่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าอาเธอไปเอารูปน้ำพั้นซ์เยอะแยะขนาดนี้มาจากไหน
"เฮ้ย!" เตชินท์เห็นเช่นนั้นถึงกับอุทานตกใจออกมาทันที ก่อนจะรีบกดวางสายนักสืบไป แล้วดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปคว้ารูปของน้ำพั้นซ์ในมือของหลานสาวมาเก็บใส่ซองไว้อย่างเดิมด้วยความรวดเร็ว แม้มันจะไม่ทันแล้วก็ตาม เพราะหลานสาวของเขาเห็นหมดแล้ว
"นี่มันอะไรกันคะอาเต เล่ามาเลยค่ะว่าอาเตไปได้รูปพั้นซ์มาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้" ซีเซียพูดพลางหรี่ตามองอาตัวเอง ประหนึ่งกำลังจับผิดคนเป็นอา
เตชินท์มองหลานสาวนิ่งๆเสมือนคนกำลังใช้ความคิด ก่อนจะเบนสายตาไปมองเพื่อนที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นว่าเพื่อนพยักหน้าให้ เขาจึงเบนสายตากลับมามองหลานสาวอีกครั้ง และเลือกที่จะพูดความจริงกับหลานสาวไป
"อา.. จ้างนักสืบคอยตามดูหนูพั้นซ์"
"ฮะ! ลงทุนจ้างนักสืบเลยเหรอคะ"
"ดูทำเป็นตกใจเข้า อาก็แค่จ้างนักสืบเอง ไม่ได้ลงทุนอะไรเยอะซะหน่อย"
พูดจบเตชินท์ก็ส่ายหน้าเบาๆให้กับหลานสาวที่ทำหน้าตกใจอย่างกับว่าเขาทำผิดร้ายแรงหรือไปฆ่าใครตายยังไงยังงั้น
"คิกๆ~ อาเตนี่คลั่งรักไม่เบาเหมือนกันนะคะเนี่ย"
ซีเซียที่เหมือนจะตกใจในคราแรก แต่พอรู้ความจริงแบบนี้เธอก็อดแซวคนเป็นอาไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยถามคนเป็นอาออกไปในสิ่งที่อยากรู้
"แล้วอาเตให้นักสืบตามดูพั้นซ์ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
"ก็ตั้งแต่ที่อาโทรไปหาน้องเซียตอนที่น้องเซียอยู่ใต้นั่นแหละครับ วันที่หนูพั้นซ์รับสายอาแทนน้องเซียไง" แม้จะรู้สึกเขินอายกับการที่ต้องบอกความจริงหลานสาว แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ไม่รู้จะปิดเอาไว้ทำไม
"โห! ถ้าตั้งแต่วันนั้นมันก็หลายปีแล้วนะคะ นี่อาเตตามดูพั้นซ์มาตลอดเลยเหรอ ทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกโรคจิตเลยนะคะ"
พอนึกย้อนกลับไปตามที่คนเป็นอาบอก ซีเซียก็ถึงกับอุทานออกมาพร้อมกับดวงตาปรือโต สีหน้าตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัด จนศิลาที่มองอยู่ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างนึกเอ็นดูคนรักปนขำเพื่อนไปในทีที่โดนเธอเปลียบเทียบว่าเหมือนโรคจิต
"หึๆ~"
ด้านเตชินท์มองเพื่อนที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่ด้วยสายตาคาดโทษ ก่อนจะเบนสายตามามองหลานสาวแล้วเอ่ยพูดกับเธอไป
"นี่ไงที่อาไม่อยากให้น้องเซียรู้ก็เพราะแบบนี้ไง พอรู้แล้วก็มาว่าอาเป็นพวกโรคจิตอีก"
"โธ่! อาเตคะ ก็ใครจะไปคิดล่ะคะว่าอาเตจะคลั่งรักพั้นซ์ถึงขนาดจ้างนักสืบตามดูพั้นซ์มาตั้งสี่ปีเลยนะคะ"
"ถ้าบอกว่าอาคลั่งรักอาไม่เถียงครับ แต่อาไม่ใช่พวกโรคจิตซะหน่อย ว่าแต่ตอนนี้หนูพั้นซ์ของอาเป็นยังไงบ้างครับ" เตชินท์เปลี่ยนเรื่องคุยแทน ทว่ามันก็ไม่พ้นเรื่องของน้ำพั้นซ์อยู่ดี เพราะใจเขาตอนนี้พะวงห่วงแต่เธอ
"หนูพั้นซ์ของอา หนูพั้นซ์ของอา พูดได้เต็มปากเลยนะคะ ถ้าเกิดพั้นซ์ไม่ได้ชอบอาเตขึ้นมาจะทำยังไง คุณอาเตของหนูไม่คิดจะเผื่อใจไว้หน่อยเหรอคะคุณอาขา~"
ซีเซียพูดติดเล่น แต่ทำเอาเตชินท์หน้าถอดสี พูดอะไรไม่ออกเลย เพราะถ้าน้ำพั้นซ์ไม่ได้ชอบเขาอย่างที่เขาชอบเธอ แค่คิดเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งใจแล้ว จนศิลาที่มองอยู่เห็นเพื่อนดูเศร้าไป จึงเอ่ยพูดขึ้นประหนึ่งปลอบเพื่อนไปในที
"มึงอย่าคิดมากเลย น้องเซียแค่พูดเล่นไปเรื่อย อีกอย่างมึงยังไม่ได้สาระภาพรักกับน้ำพั้นซ์เลย บ้างทีกูว่าน้ำพั้นซ์อาจจะชอบมึงอย่างที่มึงชอบเธอก็ได้"
"ใช่ค่ะๆ อาเตของหนูออกจะหล่อซะขนาดนี้ แถมยังรวยมากอีกต่างหาก มีแต่ผู้หญิงอยากเข้าหา น้ำพั้นซ์ก็คงเหมือนกันค่ะ" ซีเซียรีบพูดสมทบคนรักทันที เพราะเธอไม่อยากให้คนเป็นอาคิดมากกับคำพูดพล่อยๆของเธอเมื่อครู่
ด้านเตชินท์ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้หลานสาวกับเพื่อนเบาๆ แม้จะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยกับคำพูดของทั้งสองคนที่พยายามพูดปลอบเขา แต่ความคิดมากมันก็ยังคงอยู่ ทว่าเขาก็พยายามที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามหลานสาวออกไปอีกครั้ง
"แล้วตอนนี้หนูพั้นซ์เป็นยังไงบ้างครับ"
"ก็โดนตาจับขังไว้ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ป่านนี้หนูก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง แต่หนูบอกพั้นซ์ไปแล้วนะคะว่าจะรีบลงใต้ไปช่วยพูดกับตาให้ เพราะยังไงหนูก็ต้องลงใต้ไปบอกพวกท่านเรื่องงานแต่งของหนูกับอาศิอยู่แล้ว อาเตต้องไปกับหนูด้วยนะคะ"
"อาต้องไปด้วยอยู่แล้วครับ งั้นคืนนี้อาจะรีบเคลียร์งานและฝากงานกับเลขาให้เรียบร้อย พรุ่งนี้พวกเราจะได้ออกเดินทางกันแต่เช้าเลย"
"ดีค่ะ เพราะทางหนูอาศิเคลียร์งานไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ" พูดจบซีเซียก็หันไปยิ้มให้คนรักที่มองเธอและยิ้มให้เธออยู่ก่อนแล้ว
หลังจากที่ทั้งสามตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว ซีเซียกับศิลาก็พากันออกจากห้องทำงาน ปล่อยให้เตชินท์ได้เคลียร์งานของตัวเองไป
ด้านน้ำพั้นซ์ขับรถมาถึงบ้านไข่ดำ ไม่ทันจะได้จอดรถสนิทเธอก็เอ่ยถามหาไข่ดำกับป้าแดงแม่ของไข่ดำที่นั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน"ป้าแดงไอไข่ดำอยู่ไหมจ๊ะ""อยู่หลังบ้าน ไปแลตะ" (อยู่หลังบ้าน ไปดูสิ)ได้ยินเช่นนั้นน้ำพั้นซ์ก็รีบเอาขาตั้งรถลง พอจอดรถเสร็จเธอก็รีบเดินไปหาไข่ดำหลังบ้านตามที่ป้าแดงบอกทันทีด้านไข่ดำที่นั่งชื่นชมปลากัดหลายตัวที่อยู่ในขวดแก้วใสๆหรือขวดเหล้าหงส์และขวดโซดา พอหันไปเห็นน้ำพั้นซ์ที่เดินมุ่งตรงมาทางตัวเอง ไข่ดำก็เอ่ยทักออกไปทันที"อ่าวพี่พั้นซ์ มาแลไอเงินเนาะ" (อ่าวพี่พั้นซ์ มาดูไอเงินเหรอ)"อือ ว่าจะมาดูตั้งแต่เช้าแล้วแหละ แต่เมื่อวานต้องมีใครไปบอกตาแน่ว่าพี่แอบไปเล่นปลากันที่บ้านพี่แสน พี่เลยโดนตาจับขังไว้ในห้องตั้งแต่เมื่อวาน นี่ตาก็เพิ่งปล่อยออกมาเนี่ยแหละ โคตรเซ็งเลย อย่าให้รู้นะว่าใครที่มันปากบอนไปบอกตา แม่จะไปจับแหกปากถึงบ้านเลยคอยดู" น้ำพั้นซ์พูดด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เพราะไม่รู้ว่าคนที่เอาเรื่องของเธอไปฟ้องตาเป็นใคร แต่ก็คงจะไม่พ้นพวกป้าข้างบ้านอีกเหมือนเดิม แค่ไม่รู้ตัวบุคคลแน่ชัดเท่านั้น เพราะพวกที่ชอบทำตัวเป็นป้าข้างบ้านมันมีเยอะเหลือเกิน"โหด
ด้านน้ำพั้นซ์เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องนอนของตัวเองอย่างร้อนใจ เพราะก่อนหน้านี้ซีเซียได้ส่งข้อความบอกเธอว่ามาถึงที่นี่แล้ว เธอจึงตั้งหน้าตั้งตารอว่าเมื่อไหร่ซีเซียจะมาช่วยเธอให้เป็นอิสระจากการถูกขังไว้ในห้องแบบนี้เสียที ทว่าพอได้ยินเสียงกึกกักๆคล้ายว่ากลอนประตูไม้หน้าห้องกำลังถูกเปิดออกจากคนข้างนอก น้ำพั้นซ์ก็ยิ้มออกมาได้จนแก้มแทบปริ และไม่รอช้าสองขาเรียวเล็กเดินกรูไปยังประตูห้องทันที และเมื่อประตูไม้คู่บานเล็กถูกผลักเข้ามาจากคนด้านนอก ก็ทำให้สองสาวสบตากันพร้อมเอ่ยเรียกชื่อกันและกันทันที"เซีย/พั้นซ์"หมับ!เห็นเช่นนั้นน้ำพั้นซ์ก็ก้าวขาออกจากห้องแล้วกอดหมับคนที่มีศักดิ์เป็นพี่สาวทันทีด้วยความดีใจ ด้านซีเซียก็กอดตอบทันทีเช่นเดียวกัน ไม่นานสองสาวก็ผละกอดออกจากกัน แล้วเป็นน้ำพั้นซ์ที่เอ่ยพูดขึ้นก่อน"ขอบใจนะเซียที่มาช่วยเรา""ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง"ด้านสองหนุ่มใหญ่ที่ยืนมองอยู่ด้านหลังของซีเซีย ไม่ได้อยู่ในสายตาของน้ำพั้นซ์เลย เพราะมัวแต่ดีใจที่ซีเซียมาช่วย น้ำพั้นซ์จึงให้ความสำคัญแค่ซีเซียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้น กระทั่งซีเซียเอ่ยพูดขึ้น"อาศิกับอาเตก็มาด้วยนะ มัวแต่ดีใจอยู่นั่นแ
ณ เรือนไม้สักยกพื้นในที่สุดทั้งสามก็เดินทางมาถึงที่หมายอย่างสวัสดิภาพในเวลาที่ตะวันใกล้จะตกดินพอดี โดยมีเจ้าของบ้านหรือตาบุญกับยายลียืนรอต้อนรับทั้งสามคนอยู่หน้าบ้านแล้ว เพราะหลานสาวคนโตหรือซีเซียได้โทรบอกทั้งสองล่วงหน้าแล้วว่าจะมาหาด้านซีเซียเมื่อลงจากรถก็รีบวิ่งไปหาตากับยายของเธอที่ยืนรออยู่หน้าบันไดบ้าน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสแจ๋ว"ตาจ๋ายายจ๋า สวัสดีค่ะ หนูคิดถึงตากับยายที่สุดเลย" พนมสองมือน้อยๆไว้ตากับยายเสร็จ ซีเซียก็เข้าไปกอดทั้งสองทันทีด้วยความคิดถึง แม้เธอจะกลับกรุงเทพไปได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ แต่ก็รู้สึกคิดถึงท่านทั้งสองเหมือนว่ากลับไปนานเป็นเดือน"ยายกับตาก็คิดถึงเราเหมือนกันยัยหนูเซีย เดินทางมาเหนื่อยๆขึ้นไปพักบนบ้านก่อนเถอะ" ยายลีเอ่ยพูดพลางลูบศรีษะเล็กของหลานสาวคนโตอย่างรักใคร่เอ็นดู ไม่ต่างกับตาบุญที่แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ลูบศรีษะเล็กของหลานสาวคนโตอย่างรักใคร่เอ็นดูเช่นเดียวกัน...ตาบุญกับยายลี ถิ่นกำเนิดไม่ใช่คนใต้ แต่เป็นคนภาคกลางที่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานสร้างครอบครัวอยู่ที่ใต้ตั้งแต่หนุ่มสาว ทั้งคู่จึงพูดภาษากลางกันตามปกติรวมถึงน้ำพั้นซ์ด้วย ทุกคนในครอบครัวพูดภาษากลางกันห
วันต่อมาวันนี้ทั้งสามคนออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด ใช้รถตู้คันหรูสีดำเป็นยานพาหนะในการเดินทางจากกรุงเทพลงใต้ โดยเตชินท์กับศิลาผลัดเปลี่ยนกันมาขับรถ ส่วนซีเซียก็นั่งอยู่เบาะหลัง พูดคุยกับคนรักและอาของเธอน้ำเสียงเจื้อยแจ้วไปเรื่อย"อาเตพวกเราถึงไหนกันแล้วคะ อีกนานไหมกว่าจะถึงบ้านตากับยาย" แม้ซีเซียจะรู้ดีว่าบ้านตากับยายของเธออยู่จังหวัดไหนและเขตไหนของภาคใต้ แต่เพราะเธอไม่รู้เส้นทาง เธอจึงถามคนเป็นอาออกไปแบบนั้น"เข้าเขตภาคใต้มาไกลแล้วครับ อีกประมาณสองชั่วโมงก็น่าจะถึงแล้ว" เตชินท์เอ่ยตอบขณะที่ดวงตาคู่คมมองยังถนนเบื้องหน้า ก่อนจะเอ่ยถามหลานสาวกลับบ้างในสิ่งที่เขาอยากรู้เต็มประดาถึงเรื่องที่เคยตกลงกันไว้"แล้วตกลงน้องเซียจะบอกอาได้ยังครับ ว่าจะช่วยอาจีบหนูพั้นซ์ยังไง"ได้ยินเช่นนั้นซีเซียก็รีบหยัดตัวขึ้นมาเกาะเบาะคนขับจากด้านหลังที่คนเป็นอานั่งอยู่แล้วเอ่ยตอบออกไป"ถ้าอาเตอยากได้พั้นซ์ อาเตก็ต้องทำให้พั้นซ์มาอยู่กับพวกเราก่อนค่ะ เพราะถ้ายังอยู่ห่างไกลกันแบบนี้แล้วอาเตจะจีบพั้นซ์ยังไงล่ะคะ จริงไหม""แล้วอาต้องทำยังไงให้หนูพั้นซ์มาอยู่บ้านเรา แล้วตากับยายน้องเซียจะยอมให้หนูพั้นซ์มาอยู่กับพ
"ป้าแก้วคะ อาเตกลับมาจากบริษัทยังคะ" เสียงหวานของคนเป็นหลานหรือซีเซีย เอ่ยถามหาคนเป็นอากับป้าแม้บ้านด้วยความร้อนใจ เพราะเธอรอคุยเรื่องสำคัญกับอาของเธอตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว จึงทำให้เธอร้อนใจเป็นอย่างมาก โดยมีคนรักหรือศิลายืนอยู่ข้างๆไม่ห่าง"กลับมาแล้วค่ะ อยู่บนห้องทำงาน เมื่อกี้ป้าเพิ่งเอาของว่างกับน้ำไปให้คุณเตมาค่ะ"สิ้นเสียงป้าแม่บ้าน ซีเซียก็ไม่รอช้าสองขาเรียวเล็กก้าววิ่งขึ้นไปบนชั้นสองยังห้องทำงานของคนเป็นอาอย่างไว"น้องเซียอย่าวิ่งครับเดี๋ยวล้ม" ศิลาพูดตามหลังไวๆของคนรัก พลางส่ายหน้าให้อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะรีบเดินตามเธอไปติดๆเมื่อมาถึงห้องทำงานของคนเป็นอา ซีเซียก็เปิดประตูเข้าไปทันทีแกรก!ด้านเตชินท์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหรูหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง เขาจึงละสายตาจากแฟ้มงานตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูห้องทันที พอเห็นว่าเป็นใครเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อน เตชินท์จึงเอ่ยดุออกไป"เอาอีกแล้วนะครับน้องเซีย อาบอกกี่ครั้งแล้วว่าก่อนเข้ามาให้เคาะประตูห้องก่อน" เตชินท์เอ่ยดุ พลางเบนสายตาไปมองเพื่อนตัวเองที่เดินตามหลังหลานสาวเข้ามาในห้องอ
แนะนำตัวละครพระเอก เตชินท์ หรือ อาเต นักธุรกิจหนุ่มใหญ่มากความสามารถ หล่อ รวย อบอุ่น ขี้เล่น ไม่ถือตัว แต่บุคลิคภายนอกอาจจะดูนิ่งๆ อายุ38ปี สูง188เซนติเมตรนางเอก น้ำพั้นซ์ หรือ หนูพั้นซ์ เด็กใต้กะโปโลจอมแสบซน ดื้อรั้นไม่ฟังใคร ร่าเริงสดใส อัธยาศัยดี หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตา อายุ22ปี สูง159เซนติเมตร ลำดับตัวละครเนื่องจากนิยายเรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ต่อจากเรื่องเด็กดื้อของศิลา ไรท์จึงขอแนะนำลำดับความสัมพันธ์ของตัวละครกันก่อนจะไปอ่านบทนำนะคะ เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้นสำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านหรือตามมาจากเรื่องแรก... เตชินท์คือเพื่อนสนิทของศิลา และเขายังเป็นอาแท้ๆของซีเซีย (ศิลากับซีเซียคือพระนางในเรื่องเด็กดื้อของศิลา) ส่วนน้ำพั้นซ์ก็เป็นลูกของน้องสาวแม่ซีเซียหรือเป็นลูกพี่ลูกน้องกับซีเซียทางฝ่ายแม่นั่นเอง แต่ทั้งคู่อายุรุ่นเดียวกัน เข้าใจอีกอย่างง่ายๆคือ แม่ของซีเซียกับแม่ของน้ำพั้นซ์เป็นพี่น้องกันบทนำ...เขา หนุ่มใหญ่นักธุรกิจมากความสามารถ หล่อ รวย เป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ที่พร้อมทอดสะพานทอดกายให้เขาทุกเมื่อ ทว่าเขากลับไม่สนใจใครเลยนอกจาก เธอ เด็กสาวกะโปโลจอมแสบซน หน้าตาน่ารักรา