สนามมวยในวันแข่งขันเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก เสียงเชียร์ดังก้องไปทั่ว ฮึกเหิมและเต็มไปด้วยพลัง นักมวยเดินเข้าออกเวทีด้วยสีหน้าจริงจัง มีทั้งมืออาชีพและเยาวชนที่กำลังไต่ระดับขึ้นมา
น้ำฟ้ายืนข้างๆ ธารา มองดูเวทีที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่
“เสียงดังขนาดนี้เลยเหรอ?” เธอเอียงตัวเข้าไปถาม เพราะเสียงเชียร์กลบเกือบทุกอย่าง
“ก็แน่นอนสิ” ธาราตอบกลับ “นี่เป็นไฟต์สำคัญ ไม่แปลกที่คนจะมาเยอะ แต่ยังไม่ใช่เวทีใหญ่ รอคุณอยู่ไปนาน ๆ อาจจะได้ดูเวทีใหญ่กว่านี้”
น้ำฟ้ามองรอบๆ เห็นแฟนมวยจับจองที่นั่งกันแน่น หลายคนมีธง มีป้ายเชียร์นักมวยที่ตัวเองชอบ
“แล้วนักมวยของค่ายเราล่ะ?”
“ขึ้นชกคู่ที่สาม” ธาราชี้ไปที่มุมนักมวย “เห็นหมอนั่นมั้ย? ใส่เสื้อคลุมสีแดง”
น้ำฟ้ามองตาม เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งนิ่งอยู่ ท่าทางจริงจัง ต่างจากปกติที่เธอเห็นเขาวิ่งเล่นแกล้งเพื่อนในค่าย
“โห หน้าตาเปลี่ยนไปเลยแฮะ”
ธาราหัวเราะเบาๆ “เวลาขึ้นเวที ไม่มีใครเล่นแล้วล่ะ”
เสียงระฆังดังขึ้น นักมวยคู่แรกเริ่มชกกันแล้ว เสียงเชียร์ดังขึ้นอีกระดับ
น้ำฟ้าตั้งใจดูการต่อสู้บนเวที เห็นหมัดแต่ละหมัดปล่อยออกมาอย่างหนักหน่วง แต่ก็มีการป้องกันและโต้กลับตลอด
เธอหันไปมองธารา “คุณดูออกเหรอว่าใครจะชนะ?”
ธาราพยักหน้า “ก็พอเดาได้จากฟอร์มการชก”
น้ำฟ้าเลิกคิ้ว “แล้วค่ายเราล่ะ? มีโอกาสชนะมั้ย?”
ธารายิ้มมุมปาก “แน่นอน”
น้ำฟ้าเห็นแววมั่นใจในสายตาเขาแล้วก็อดรู้สึกตื่นเต้นตามไม่ได้ เธอไม่เคยสนใจมวยมาก่อน แต่วันนี้กลับรู้สึกอยากรู้ อยากเห็น ว่าค่ายของธาราจะทำได้ดีแค่ไหน
เสียงระฆังจบยกดังขึ้น น้ำฟ้าหันกลับไปมองเวทีอีกครั้ง
วันนี้อาจเป็นวันแรกที่เธอเข้าใจว่าทำไมคนถึงหลงใหลในกีฬานี้
เสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง นักมวยจากค่ายธารากำลังจะขึ้นชก น้ำฟ้าเคลื่อนตัวไปข้างๆ ธารา หายใจเข้าลึกๆ เพราะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เริ่มตึงเครียดขึ้น
“ใจเย็นนะ มันแค่การชกในเวที” ธาราพูดเบาๆ แต่เสียงเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
น้ำฟ้ามองเด็กหนุ่มในชุดนักมวยสีแดงที่กำลังตั้งท่าพร้อมสำหรับยกแรก เสียงจากข้างสนามดังสนั่น ทั้งเสียงเชียร์และเสียงกระทบกันของมือทุบถุงมวยที่อยู่ข้างเวที
“พร้อมไหม?” ธาราถามเสียงเรียบเหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสนามนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเขา
น้ำฟ้ากลืนน้ำลาย เธอรู้สึกตื่นเต้นตามบรรยากาศ “จะชนะไหมนะ?”
ธาราหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ลองดู”
ระฆังดังขึ้น นักมวยสีแดงเริ่มเดินเข้าหาคู่ต่อสู้ของเขาอย่างมั่นใจ น้ำฟ้าจับจ้องตาไม่กะพริบ สายตาของธาราที่จับตามองเด็กหนุ่มในเวทีดูเหมือนจะมีอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง มันเหมือนเขากำลังให้กำลังใจแบบเงียบๆ แต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“การชกมวยมันก็เหมือนการทำงานในโลกของเรา” ธาราพูดขณะที่สายตาของเขายังจับจ้องไปที่เวที “ต้องมีกลยุทธ์ มีการเตรียมตัวที่ดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต้องพร้อมรับมือ”
น้ำฟ้าเงยหน้าขึ้นมองเขา หัวใจเต้นเร็วขึ้น “แต่... ถ้าเขาทำพลาดล่ะ?”
ธาราหันมามองเธออย่างตั้งใจ “ทุกคนทำพลาดได้ แต่อย่าปล่อยให้พลาดซ้ำๆ อย่าท้อ ถ้ามันพลาด แก้ไขใหม่ ถ้าทำได้แบบนั้น ก็ไม่ต้องกลัวอะไร”
น้ำฟ้ามองเวทีต่อ สัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นในคำพูดของธารา
การชกยังคงดำเนินต่อไป นักมวยในชุดแดงเริ่มโดนโจมตีหนักขึ้น แต่ไม่ยอมถอยหลัง เขาหมุนตัวหลบแล้วสวนกลับด้วยหมัดตรงๆ น้ำฟ้ากัดปากตื่นเต้นตามไปด้วย ขณะที่ธารายิ้มเล็กน้อย “เห็นมั้ย ”
น้ำฟ้ามองธาราแล้วหลุดหัวเราะ “คุณนี่... ดูออกทุกอย่างเลย”
ธาราพยักหน้า “การชกมวยคือการต่อสู้กับตัวเอง การควบคุมจิตใจและการคิดอย่างมีสติ”
เสียงเชียร์ดังกึกก้อง เมื่อเด็กหนุ่มชุดแดงสวนกลับด้วยหมัดเด็ดที่ทำให้คู่ต่อสู้ถอยไปห่างจากวงเวที น้ำฟ้าเริ่มตื่นเต้นจนตัวเกร็ง มือของเธอหงิกแน่น เฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวของนักมวยทั้งสอง
“เขาทำได้แล้วใช่ไหม เขาจะชนะใช่มั้ย?” น้ำฟ้าถามเสียงสั่นๆ
ธารามองการต่อสู้อย่างตั้งใจ “เขาต้องชนะ”
ในที่สุด นักมวยของค่ายธาราก็ลงมือสุดท้าย ด้วยหมัดที่ทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงไปกองกับพื้น เสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงเชียร์ดังกระหึ่มจากแฟนๆ ทุกคน
ธาราหันไปมองน้ำฟ้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มและตื่นเต้น “เห็นไหม? เขาทำได้”
น้ำฟ้าแหงนมองธารา “เขาทำได้จริงๆ!” เธอตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ
“คุณก็ทำได้เหมือนกันถ้าลองคิดแบบนี้” ธารายิ้มให้เธอ
น้ำฟ้าหัวเราะเล็กน้อย “ไม่รู้สิ... ตอนนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นจัง ไม่เคยเปิดใจดูอะไรแบบนี้ สนุกดีนะ”
ธารายักไหล่ “นี่แค่เริ่มต้น มันก็แค่ไฟต์เดียว”
น้ำฟ้าหันมามองเขา “แต่สำหรับเธอ มันคือการชนะตัวเอง”
ธาราไม่ตอบอะไร แค่ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ
วันนี้ น้ำฟ้าได้เรียนรู้มากกว่าการออกแบบชุดกีฬา เธอได้เรียนรู้ถึงการต่อสู้ของนักกีฬา และความมุ่งมั่นที่ทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า แม้ว่าจะต้องผ่านความล้มเหลวและการแก้ไขไปทุกครั้ง
วันแรก ๆ ที่น้ำฟ้าเข้ามาที่ค่ายมวย ทุกอย่างดูแปลกใหม่ไปหมด ทั้งกลิ่นเหงื่อของนักมวย กลิ่นน้ำมันมวย และเสียงกระสอบทรายดัง “ตุ้บ! ตุ้บ!” สลับกับเสียงคนสั่งซ้อม
แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่ได้เตรียมใจมาเจอ คือ…
“ข้าวเช้าที่นี่หมดตอนแปดโมงเช้า”
น้ำฟ้ายืนมองแม่ครัวที่พูดออกมาด้วยสีหน้างง ๆ ในขณะที่เธอเพิ่งเดินลงมาโรงอาหารของค่ายมวยในเวลาสิบเอ็ดโมง
“หมด?” เธอทวนคำ “แต่นี่มันเพิ่งสิบเอ็ดโมงเองนะ”
“ที่นี่เด็กค่ายต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ กินข้าวเช้าเสร็จตอนแปดโมง แล้วไปซ้อมต่อจนเที่ยง อาหารที่มีตอนนี้ก็เป็นมื้อกลางวันแล้ว”
น้ำฟ้าเม้มปากมองอาหารในถาดหน้าตัวเอง อันที่จริง เธอไม่ได้คิดมากเรื่องกินอาหารมื้อไหน ขอแค่มีกินก็พอ แต่สายตาของนักมวยหลายคนที่มองเธออยู่มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาด
“ผู้หญิงอะไรลงมากินข้าวเช้าเอาเที่ยง?”
“เอ่อ… ถ้ากินมื้อกลางวันแทนได้ไหมคะ?” น้ำฟ้าถามแม่ครัวเสียงเบา
แม่ครัวหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตักข้าวร้อน ๆ ใส่จานพร้อมกับกับข้าวสองสามอย่างให้เธอ “กินเลยลูก หิวก็ต้องกิน”
น้ำฟ้ายิ้มรับ “ขอบคุณค่ะ”
เธอถือจานไปหาที่นั่ง แต่ยังไม่ทันได้วางดี ก็ได้ยินเสียงแซวจากนักมวยโต๊ะข้าง ๆ
“พี่สาวนี่ชีวิตดีจังเลยนะ กินข้าวเช้าตอนเที่ยง”
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากโต๊ะข้าง ๆ น้ำฟ้าเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่พูดขึ้นมา
“ก็ไม่ได้ตั้งใจจะกินข้าวเช้าตอนเที่ยงหรอก แต่ฉันไม่ได้ซ้อมมวยตอนเช้าเหมือนพวกนายไง”
“จริงด้วยแฮะ”
นักมวยคนอื่นเริ่มหัวเราะและพยักหน้าตาม บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายขึ้น
และตั้งแต่นั้นมา... "ผู้หญิงที่มากินข้าวเช้าตอนเที่ยง" ก็กลายเป็นเรื่องล้อกันเล่นในค่ายมวยนี้ไปโดยปริยาย
แต่สิ่งที่น้ำฟ้าไม่รู้ในตอนนั้นคือ... นอกจากนักมวยที่มองเธอแปลก ๆ แล้ว
สายตาของธาราเอง... ก็จับจ้องเธออยู่เงียบ ๆ เช่นกัน
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง ทำให้น้ำฟ้าชะงัก หันไปมองธาราที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ สายตาของเขามีแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก"พูดเรื่องอะไรคะ?" เธอถามกลับ รู้ดีว่าเขาน่าจะได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วธาราไม่ตอบ แต่กลับเดินเข้ามาใกล้จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง"เธอรู้ไหมว่าเด็กในค่ายเชียร์เธอกันขนาดไหน?" เขาพูดเสียงต่ำ จ้องเธอราวกับจะจับผิดน้ำฟ้ายักไหล่ "พวกเขาไม่ชอบโมนาของคุณไงคะ"ธาราหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะปลายคางเธออย่างถือสิทธิ์ "แล้วเธอล่ะ?""อะไรคะ?""หงุดหงิดที่ผู้หญิงคนนั้นมายุ่งกับฉันเหรอ?"น้ำฟ้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหนี "เปล่าค่ะ ฉันแค่รำคาญ"ธารายิ้มมุมปาก เขารู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีกว่าที่เธอคิด"งั้นเหรอ?" เขาโน้มหน้าเข้าใกล้เธอมากขึ้น เสียงของเขาแผ่วต่ำจนน้ำฟ้ารู้สึกเหมือนมันสะกิดเข้าไปในหัวใจ"ไม่หึงเลย?"น้ำฟ้ากำมือแน่น พยายามคุมสีหน้าให้เป็นปกติ "คุณไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์หึงหรอกค่ะ"ธาราหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกระซิบใกล้หูเธอ "งั้นคืนนี้ฉันจะทำให้เธอรู้เองว่าเธอมีสิทธิ์แค่ไหน"หัวใจของน้ำฟ้าเต้นกระหน่ำทันที แต่เธอก็ยังคงเชิดหน้าไม่ยอมแพ้"มั่นใจเกินไปแล้วค่ะ""ลองด
ธารายืนมองเธอที่กอดอกแน่น สายตาแข็งกร้าวราวกับปิดกั้นทุกความรู้สึกที่เขาพยายามค้นหา"สองวันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันแค่กลับมาจัดการธุระ งานฉันยังไม่เสร็จ อีกอย่าง..." น้ำฟ้าสูดหายใจเข้า ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "คุณยังไม่ตกลงเรื่องชุดที่ฉันเสนอ"ธารายังคงนิ่ง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอที่ดูจะตั้งใจพูดให้ชัดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีผลอะไรกับงาน"เรื่องแค่นี้ ฉันไม่เอามาทำให้เสียงานหรอกนะ"คำพูดนั้นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างประหลาดเธอคิดว่าเรื่องระหว่างพวกเขาเป็นแค่ "เรื่องเล็กๆ" งั้นเหรอ?ธาราหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น น้ำฟ้าถอยหลังไปเพียงก้าวเดียว ก่อนจะหยุด ราวกับไม่อยากแสดงให้เห็นว่าเธอหวั่นไหว"งั้นเหรอ?" เขาถามเสียงต่ำ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ"ใช่ค่ะ" น้ำฟ้ายืนยัน ดวงตาไหววูบไปวินาทีหนึ่ง แต่เธอยังคงเชิดหน้าขึ้นธาราเลื่อนมือไปแตะปลายคางเธอเบาๆ สัมผัสนั้นทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี"ถ้างั้น..." เขาหรี่ตาลง "ฉันควรถือว่าเธอไม่ได้หนีฉันใช่ไหม?"น้ำฟ้ากำมือแน่น ก่อนจะตวัดสายตามองเขา "ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่กลับมาอยู่ในที่ของฉัน"ธารายิ้มมุ
น้ำฟ้ายืนนิ่งอยู่หน้าประตู มือที่ถือแฟ้มเริ่มกำแน่นขึ้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร—หรือจริงๆ แล้วเธอรู้… แต่เธอแค่ไม่อยากยอมรับมันธาราไม่ได้ดึงมือกลับ ไม่ได้ผละออกจากโมนาทันที นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอกระตุกแรงที่สุดเธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะก้าวเข้าไปวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเบาๆ"นี่ค่ะ ตัวอย่างงาน ฉันเอามาให้คุณตรวจสอบ" น้ำเสียงของเธอราบเรียบจนน่าตกใจธาราหันขวับมาทันทีเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าเธออยู่ที่นี่ ดวงตาของเขามีแววผิดแปลกไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร น้ำฟ้าก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน"ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ"เธอไม่แม้แต่จะรอให้เขาตอบกลับ เดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย…เพราะเธอกลัวว่าถ้ามอง เธออาจจะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไปน้ำฟ้าขับรถ กลับไปคอนโดเธอช่วงดึกคืนนั้น โดยเอารถที่เขาให้เธอไว้ใช้ไป แค่ไปสงบสติตัวเอง ระยะทางเกือบเจ็ดสิบกิโล (บนถนน – เวลาห้าทุ่มกว่า)เสียงเครื่องยนต์ดังแผ่วเบา ขับเคลื่อนไปตามถนนที่ทอดยาวไร้รถสวน น้ำฟ้านั่งหลังพวงมาลัย สายตาจดจ่ออยู่กับเส้นทางข้างหน้า แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพเหตุกา
ปลายนิ้วร้อนลากไล้ผ่านแนวกรอบหน้าลงมายังลำคอ น้ำฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสแผ่วเบานั้นไล่ต่ำลงไปถึงแผ่นหลังเปลือยที่โชว์ผ่านลูกไม้บางบอดี้สูทสีดำที่เธอใส่ เป็นเหมือนคำท้าทายสำหรับเขาน้ำฟ้าเม้มปาก พยายามเก็บเสียงหายใจที่เริ่มติดขัด“คุณ... เดี๋ยว...”แต่ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากร้อนแตะลงที่ซอกคอ ไล้ไปตามผิวเนียนที่เขาอดใจไม่แตะต้องมาทั้งคืนน้ำฟ้าหลับตาแน่น ฝ่ามืออุ่นสอดเข้าที่ช่วงเอว ลูบไล้ผ่านเนื้อผ้า ราวกับต้องการให้แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ใต้ชุดนั้นจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเธอรู้ดีว่าเขากำลังพยายามอดทน แต่สัมผัสที่ร้อนจัดและลมหายใจที่แผ่วกระทบผิวบอกชัดว่า... ความอดทนนั้นคงเหลือไม่มากแล้วค่ำคืนนี้... คงไม่มีใครได้นอนง่าย ๆ แสงแดดยามบ่ายส่องลงมาเต็มที่ อากาศร้อนอบอ้าวจนทำให้พื้นปูนหน้าค่ายมวยแผ่ไอร้อน แต่สิ่งที่ร้อนยิ่งกว่านั้นคือสายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังประตูบ้านพักของธาราเมื่อคืนนี้ไม่มีใครเห็นน้ำฟ้ากลับเข้าห้องของตัวเอง และจนถึงตอนนี้... บ่ายแล้ว คนทั้งค่ายก็ยังไม่เห็นเธอออกมาจนกระทั่งเสียงประตูเปิดออกทุกสายตาหันขวับไปทางเดียวกันน้ำฟ้าเดินนำออกมาก
หลังจากคืนนั้น ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ น้ำฟ้ายังคงทำหน้าที่ของเธอ ศึกษาการออกแบบชุดกีฬาตามที่ได้รับมอบหมายจากภูวิน ส่วนธาราก็ยังคงเป็นเจ้าของค่ายมวยที่จริงจังกับงานของตัวเองไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ไม่มีคำว่ารัก ไม่มีคำสัญญา ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบงันที่ทั้งสองต่างก็ยินยอมรับมันโดยไม่ต้องเอ่ยปากแต่กระนั้น… ก็ไม่เคยมีครั้งเดียวทุกครั้งที่สายตาสบกัน ทุกครั้งที่มือสัมผัสกันโดยบังเอิญ มีบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบงันนั้น บางครั้งระหว่างที่น้ำฟ้ายืนร่างแบบเงียบๆ ธาราก็จะเดินเข้ามาใกล้ มองเธอด้วยสายตาที่เธอรู้ดีว่าหมายถึงอะไรบางคืน หลังจากที่ทั้งสองต่างแยกย้ายกันไปทำงานมาทั้งวัน น้ำฟ้าก็จะพบว่าตัวเองถูกตรึงอยู่กับผนังห้อง ซุกอยู่ในอ้อมแขนของธารา ลมหายใจร้อนกระซิบอยู่ข้างใบหู ริมฝีปากคุ้นเคยแนบลงมาโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความและเมื่อความต้องการถูกเติมเต็ม เขาก็จะถอยออกไปอย่างเงียบๆไม่มีการถามหาความหมาย ไม่มีข้อผูกมัด มีเพียงแรงดึงดูดที่รุนแรงเกินกว่าที่ทั้งคู่จะต้านทานได้กลางวันพวกเขาคือคนรู้จักที่ร่วมงานกัน กลางคืนพวกเขาคือสิ่งที่ไม่มีชื่อเรียก...น้ำฟ้ารู้ด
ธารากำหมัดแน่นแนบข้างตัว พยายามสะกดอารมณ์ที่เริ่มปั่นป่วนเพราะท่าทีของเธอ หญิงสาวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการยืนอยู่ตรงหน้าเขาในชุดนี้ ทำให้เขารู้สึกอยากฉีกทึ้งการควบคุมตัวเองแค่ไหน"กลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดซะ" เขาสั่งเสียงแข็ง พยายามทำให้ตัวเองดูดุเข้าไว้แต่แทนที่น้ำฟ้าจะเชื่อฟัง เธอกลับหัวเราะเบาๆ พลางเอนตัวพิงตู้เย็น "ฉันใส่ชุดนอนของฉันในที่ของฉัน ฉันไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน"ธาราขบกรามแน่น จ้องเธออย่างไม่พอใจ "มันผิดตรงที่เธอทำให้ฉันอดใจไม่ไหว"คำพูดนั้นทำให้น้ำฟ้าชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดตรงขนาดนี้ ดวงตาคู่นั้นของเขามีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเม้มปากแน่น สับสนไปชั่วขณะบรรยากาศรอบตัวเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่เริ่มไม่เป็นจังหวะ...มีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่เบาๆ ธารายืนจ้องน้ำฟ้า ดวงตาคมเข้มของเขามืดลงด้วยอารมณ์บางอย่างที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ห้ามไม่อยู่ร่างของเธออยู่ตรงหน้า ชุดนอนบางเบานั้นแทบจะไม่ได้ช่วยปิดบังอะไรเลย ยิ่งแสงไฟสลัวสะท้อนผิวเนียนละเอียดของเธอ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังทดสอบความอดทนของตัวเอง"กลับขึ้นไปเปลี่