Share

บทที่ 8 อีเวนต์โจรป่า

last update Last Updated: 2025-10-05 10:16:56

บทที่ 8

อีเวนต์โจรป่า

               มาแล้ว!

               อีเวนต์โจรป่าที่คณะเดินทางทุกเรื่องต้องเจอ!

               เซี่ยหยู่ขมวดคิ้ว คิดพลางถอยหลังกลับเข้ากระโจม ย่อตัวลงนั่งยองๆ ข้างกายเซี่ยอวี้พร้อมกับเงี่ยหูฟังเสียงด้านนอก

               แม่นมจื่อฮวาหยิบกระบองไฟฟ้าออกจากแขนเสื้ออย่างเงียบเชียบ มือข้างหนึ่งก็โอบกอดองค์ชายน้อยหมายปกป้อง

               ท่าทางเตรียมพร้อมที่คล่องแคล่วของแม่นมจื่อฮวา ทำให้เซี่ยหยู่อดสงสัยตัวตนของฝ่ายนั้นไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะถาม เซี่ยหยู่จึงเงียบ ฟังสถานการณ์ข้างนอกต่อ  

               ที่นอกกระโจม ทันทีที่รู้ว่าถูกโจรป่าปิดล้อมรอบบริเวณ ทหารกล้าทั้ง 30 นายก็พากันลุกฮือพร้อมกับคว้าอาวุธขึ้น ความตรึงเครียดแผ่กระจายไปทั่วร่างของทุกคน แววตาสะท้อนความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด

               หากบอกว่าไม่รู้สึกกลัวเลยก็เหมือนโกหก! เบื้องหน้าพวกเขาคือโจรป่าร่างใหญ่จำนวน 30 กว่าชีวิต มากกว่าพวกเขาเสียด้วยซ้ำ อีกอย่าง แค่เห็นรูปร่างกำยำกับอาวุธในมือของพวกมัน ก็พอเดาได้ว่าฝีมือแต่ละคนไม่ธรรมดา

               แต่…

               แม้ว่าจะหวาดกลัว ทหารทุกคนต่างก็เตรียมใจจะสู้จนถึงที่สุดเช่นกัน 

               ในตอนนั้นเอง ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ ท่าทางดุดันป่าเถื่อนคนหนึ่งก้าวออกมาจากกลุ่มโจร กล่าวด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

               “หุบเขานี้เป็นของข้า ต้นไม้ข้าปลูก ลำธารข้าเป็นคนขุด ใครอยากผ่าน ต้องจ่าย!”

               เซี่ยหยู่ที่อยู่ในกระโจม “...”

               ประโยคนี้มัน…สูตรสำเร็จ NPC โจรป่าเลยไม่ใช่เหรอ!

               ในขณะที่เซี่ยหยู่ไม่รู้จะกลัวหรือจะขำก่อน พลันนั้น เสียงของรองแม่ทัพ ‘เสิ่นหลาง’ ก็ดังขึ้น

               “พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าขบวนรถม้านี้เป็นของผู้ใด ถ้าไม่อยากตาย รีบไสหัวไปซะ!

               หัวหน้าโจรแหงนหน้าหัวเราะลั่น พลางชี้ดาบเล่มใหญ่ในมือใส่หน้ารองแม่ทัพเสิ่นอย่างท้าทาย  

               “คำขู่ของเจ้า ข้าไม่กลัว! สุนัขรักษาเมืองอย่างพวกเจ้า ข้าฝังมาไม่รู้กี่ศพแล้ว ฮ่าๆๆ”

               รองแม่ทัพเสิ่นอายุใกล้สามสิบแล้ว เดิมเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย แต่ด้วยฝีมือและผลงานจึงไต่เต้าจนได้ตำแหน่งรองแม่ทัพ ย่อมรู้ว่าหัวหน้าโจรป่าจงใจพูดจายั่วยุให้เขาโมโห 

               แม้เขาจะไม่สบอารมณ์กับคำพูดของมันจริงๆ แต่…เขาก็ไม่หลงกลจนเสียอาการ   

               รองแม่ทัพเสิ่นยิ้มอย่างเยือกเย็นขณะชักดาบออกจากฝัก

               “งั้นก็มาดูกันว่าข้าหรือเจ้าที่ต้องตาย!”

               สิ้นคำพูดของรองแม่ทัพเสิ่น ทั้งสองฝ่ายต่างก็เข้าปะทะกันทันที 

               เสียงดาบกระทบกันดังก้องป่า ม้าร้องด้วยความแตกตื่น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งตามสายลมและโชยเข้ามาถึงในกระโจม 

               “องค์หญิง มาหลบหลังหม่อมฉัน” แม่นมจื่อฮวากระซิบบอกด้วยแววตาเย็นเฉียบ

               เซี่ยหยู่ที่นั่งยองๆ อยู่ตรงทางออก ได้ยินน้ำเสียงที่ไม่แสดงความหวาดกลัวของแม่นม อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง

               แม่นมจื่อฮวาถือกระบองไฟฟ้า หลังตั้งตรง ท่าทางเตรียมพร้อมจะโจมตีทุกเมื่อ แถมแววตานั้นยังคมกริบดั่งคมมีด แวบหนึ่งเซี่ยหยู่รู้สึกว่าแม่นมจื่อฮวาองอาจเหมือนกับทหารหญิงที่ได้รับการฝึกฝนมา  

               และทันทีที่เกิดความคิดนั้น เซี่ยหยู่อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วถาม “แม่นมมีวรยุทธ์หรือ เก่งแค่ไหน?”

               แม่นมผงะอึ้งเล็กน้อย ครู่ต่อมาถึงตอบอย่างจริงจังว่า “ความจริงหม่อมฉันเป็นทหารของตระกูลซิน แต่ก็ไม่ได้เก่งถึงขั้นสู้กับโจรนับสิบได้ หากแค่ช่วยถ่วงเวลาให้ท่านทั้งสองหลบหนี ย่อมทำได้เพคะ”

               ร่างเล็กของเซี่ยอวี้สั่นเทาด้วยความกลัว แต่พอได้ยินแม่นมพูดอย่างนั้น เขาก็ร้องขึ้นมาทันที

               “ยะ อย่าทิ้งข้า…”

               เด็กชายไม่พูดเปล่า แขนเล็กๆ ยังกอดแม่นมแน่น พร้อมซุกหน้าเข้าสู้อ้อมอกของแม่นมด้วย

               หัวใจของแม่นมจื่อฮวาเจ็บปวดราวกับถูกค้อนทุบลงมาแรงๆ แต่ความตั้งใจสละชีพเพื่อปกป้องเด็กทั้งสองกลับหนักแน่นยิ่งกว่า นางพยายามแกะร่างเล็กๆ ขององค์ชายน้อยที่ติดหนึบเหมือนตังเมออก

               “ไม่ต้องกลัวเพคะ หม่อมฉันจะปกป้ององค์ชายสามเอง”

               “ไม่เอา” เซี่ยอวี้ส่ายหน้าแรงๆ แทบคอหัก

               ยิ่งเห็นแบบนี้ แม่นมยิ่งเจ็บปวดหัวใจ  

               “แม่นมไม่จำเป็นต้องเสียสละตัวเองเพื่อพวกเราหรอก” เซี่ยหยู่พูดด้วยสีหน้านิ่งสงบเกินวัย มือก็ค้นหาอะไรบางอย่างในแขนเสื้อ สักครู่ นางก็ดึงหน้าไม้เล็กๆ ขนาดพกพาออกมา

               “นั่นมัน…?” แม่นมจื่อฮวาถามพร้อมกับสีหน้าแปลกใจ  

               “หน้าไม้แบบพกพา” เซี่ยหยู่ตอบ พลางคลี่หน้าหน้าไม้ออก ในขณะบรรจุลูกศรอย่างคล่องแคล่ว ปากเล็กๆ ของนางก็พูดว่า “ถ้าจะหนี เราต้องหนีไปด้วยกัน”

               “องค์หญิง…ห้ามไปเด็ดขาด ถึงท่านจะมีหน้าไม้ แต่ฟังจากเสียง โจรพวกนั้นมีจำนวนมากกว่า ทหารยื้อไว้ได้ไม่นานหรอกเพคะ” แม่นมจื่อฮวาเอ่ยเตือนพร้อมรั้งแขนเด็กสาว

               นั่นสินะ…

               เซี่ยหยู่ไม่ใช่ทหาร ไม่เคยฆ่าคนมาก่อน และไม่รู้ว่าจะตัดใจสังหารคนได้หรือไม่ นางก็แค่โชคดีที่ครอบครองมิติสวรรค์ และโชคดีที่ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ มาจากมิติ หมายความว่า หากจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์เป็นตายในตอนนี้ มีแค่สองทางเลือก หนีหรือจะฆ่าโจรพวกนั้น   

                              “ถ้าทหารพวกนั้นตาย พวกเราเองก็ไม่รอด ไหนจะต้องลงใต้ พวกเราจำเป็นต้องมีพวกเขา” เซี่ยหยู่พูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นางก็กล่าวเสริมสั้นๆ ว่า “ข้ามีวรยุทธ์”

เมื่อพูดจบ องค์หญิงน้อยก็เคลื่อนกายออกจากกระโจมด้วยความปราดเปรียว ตั้งท่าเล็งหน้าไม้อย่างสงบนิ่ง

               ฟิ้ว…ปัก!

               ท่ามกลางความวุ่นวาย ศรดอกแรกพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนดาวตก ปักกลางอกโจรคนหนึ่ง ร่างนั้นหงายหลังทันที

               ล่วงไปหนึ่ง…

               ฟิ้ว…ปัก!

               คราวนี้ลูกศรดอกที่สองพุ่งตรงเข้าลำคอโจรคนหนึ่งอย่างแม่นยำ…โจรคนที่สองล้มแน่นิ่ง!

               เซี่ยหยู่ใส่ลูกศรหน้าไม้ เตรียมเล็งโจรคนถัดไป

               ทว่า ในขณะที่นางกำลังจดจ่ออยู่ด้านหน้า โจรคนหนึ่งก็ย่องเข้ามาด้านหลัง มันเงื้อดาบขึ้นตั้งท่าจะฟาดใส่กลางศีรษะของนาง  

               ทันทีที่รู้ตัว เซี่ยหยู่รีบกระโจนหลบ

               แม้คิดว่าตนเคลื่อนไหวรวดเร็วและคล่องแคล่วแล้ว กระนั้นกลับหลบไม่ทันอยู่ดี

               ประกายดาบสีเงินฟาดลงมา เด็กสาวทำได้เพียงหลับตาปี๋

               ฉัวะ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!    บทที่ 28 เยว่หลิวเซิงเจอทางตัน!?

    บทที่ 28เยว่หลิวเซิงเจอทางตัน!? ย้อนกลับมาบนเส้นทางอพยพ ชาวบ้านกลุ่มใหญ่หลายร้อยชีวิตทยอยเดินลงจากเขา สภาพแต่ละคนล้วนอิดโรย เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินและเหงื่อไคล ทว่าพวกเขากลับเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ไม่สับสนวุ่นวาย ถึงเสื้อผ้าของพวกเขาจะมีการปะชุนซ้ำๆ แต่ก็ดูดีกว่ากลุ่มผู้ลี้ภัยกลุ่มอื่นๆ เด็กเล็ก สตรี และคนชราต่างได้รับการคุ้มครองจากชายฉกรรจ์ในกลุ่ม ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แม้ตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านจะเป็นชายสูงวัยแซ่ลู่ที่อายุเกือบห้าสิบปี ทว่าผู้นำการเดินทางกลับเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบ เห็นอายุน้อยเช่นนี้ แต่ประสบการณ์การเอาตัวรอดกลับสูงลิ่ว บนหลังของชายหนุ่มคนนี้ยังแบกทารกแฝดชายหญิงไว้ในตะกร้า ส่วนด้านหน้าอุ้มเป้เก่าๆ ใบหนึ่ง ในมือของเขาถืออุปกรณ์ทรงกระบอกยาว เรียกว่า “กล้องส่องทางไกล” ทันทีที่เดินลงจากเขา ชายหนุ่มยกกล้องส่องทางไกลขึ้นส่องดูทิศทาง และสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น หน้าประตูเมืองซีหนานเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญ

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 27 แผนการอันชั่วร้าย (สอง)

    บทที่ 27แผนการอันชั่วร้าย (สอง) ยิ่งครุ่นคิดถึงเรื่องซวยสารพัดที่ประสบพบเจอในช่วงนี้ ความโกรธแค้นของเสนาบดีเผิงก็ยิ่งทวีคูณ ถ้าไม่ใช่เพื่อทำลายเสบียงของขบวนองค์ชายสาม ก็คงไม่ส่งเผิงอู๋ไปร่วมมือกับพวกโจรป่า และลูกชายคนรองของเขาก็คงไม่ต้องตาย เคราะห์กรรมครั้งนี้ พูดไปแล้วเป็นความผิดของเผิงซวนทั้งนั้น แต่คนชั่วเห็นแก่ตัวไหนเลยจะยอมรับผิด เขาโยนความผิดทั้งหมดไปที่ไป๋มู่อวิ๋น พอสรุปออกมาแบบนั้น เผิงซวนก็รีบวิ่งโร่มาทูลฟ้องต่อฮ่องเต้ “ฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงโปรดทวงความเป็นธรรมให้ลูกชายของกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” ฮ่องเต้ทรงเลิกพระขนงเล็กน้อย “ทวงความเป็นธรรม? หมายความว่าอย่างไร” “ไป๋มู่อวิ๋น…เขาฆ่าลูกชายของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!” ถ้อยคำนั้นทำให้ฮ่องเต้ถึงกับขมวดพระขนงแน่น ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ทราบเพียงว่าบุตรชายคนรองของอัครเสนาบดีเผิงถูกพบเป็นศพกลางป่า ร่องรอยบ่งชี้ว่าถูกหมาป่ากัดแทะจนตาย แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับไป๋มู่อวิ๋น? เผิงซวนเห็นคว

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 26 แผนการอันชั่วร้าย (หนึ่ง)

    บทที่ 26แผนการอันชั่วร้าย (หนึ่ง) เวลานี้ ประตูเมืองซีหนานปิดเงียบ จากข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไป ทำให้ไม่มีขบวนผู้อพยพสักกลุ่มกล้าเข้าใกล้ประตูเมืองอีกเลย ณ จวนแม่ทัพซีหนาน นายทหารคนหนึ่งรีบเร่งเข้ามารายงาน “ท่านแม่ทัพ! หน่วยสอดแนมแจ้งมาว่ามีขบวนรถม้ากลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาในเขตเมืองซีหนานขอรับ!” ชายสวมเกราะเหล็ก อายุราวสามสิบปลายๆ ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ “ขบวนรถม้ากลุ่มใหญ่อย่างนั้นรึ...ก็คงเป็นขบวนรถม้าขององค์ชายสาม?” นายทหารผู้รายงานรีบพยักหน้ารับ “แม้ผู้ติดตามจะไม่ได้สวมเกราะทหาร แต่จากท่วงท่าและอาวุธที่พก มองแวบเดียวก็รู้เลยขอรับว่าพวกเขาเป็นทหารแน่นอน” ได้ยินเช่นนั้น แม่ทัพแซ่เสวี่ยหัวเราะในลำคอเบาๆ “น่าชื่นชม ทั้งที่ข่าวลือหน้าประตูซีหนานแพร่สะพัดไปทั่วกลุ่มผู้อพยพ แต่ขบวนม้าขององค์ชายยังกล้าเลือกผ่านเส้นทางนี้...” “คงเพราะแม่ทัพไป๋ ผู้คุ้มกันขบวนรถม้า มั่นใจในฝีมือตนเองนักกระมัง ว่าสามารถปกป้ององค์ชายสามแ

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 25 กวาดล้างผู้อพยพ

    บทที่ 25กวาดล้างผู้อพยพ “จะตามไปเก็บหรือไม่เจ้าคะ” ลี่ถิงถามอย่างไม่เข้าใจ จิ้งอี๋เพียงส่ายหน้า “เสียเวลา พวกเราไปกันเถอะ” เป้าหมายของการเดินทางคือมุ่งหน้าไปยังเมืองหลิงหนาน ระหว่างการเดินทางบนเส้นทางอพยพ ความแร้นแค้นได้เปลี่ยนชาวบ้านให้กลายเป็นโจรเร่ร่อน หลายครั้งพวกเขาเห็นคนที่เคยเป็นชาวนาต้องหันมาปล้นและแย่งชิงอาหารกันเอง องค์หญิงเซี่ยหยู่ทำได้เพียงแค่เข้าไปสั่งสอนเท่านั้น ครั้นจะให้ตามจับส่งทางการทุกคนย่อมเป็นไปไม่ได้ พวกเขาไม่มีเวลามากพอสำหรับเรื่องนั้น เมื่อมาถึงที่พัก ทั้งสองนำซากหมาป่ามอบแก่กลุ่มผู้อพยพให้แบ่งกันทำอาหาร พร้อมบอกว่าในป่ายังเหลืออีกสี่ตัว ทุกคนต่างแสดงความยินดี ได้ทั้งเนื้อได้ทั้งหนังไว้ใช้ ชายชราคนหนึ่งที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน กล่าวขอบคุณแทนชาวบ้านทุกคน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล “แม่นาง ข้าเห็นขบวนรถม้าของพวกเจ้ากำลังเดินทางสวนกับผู้อพยพ...พวกเจ้าจะเดินทางไปเมืองซีหนานกันหรือ?” “พวกเราไม่ได้จะไปเมืองซีหน

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 24 หนีหมาป่า ปะทะ โจรเร่ร่อน

    บทที่ 24หนีหมาป่า ปะทะ โจรเร่ร่อน กลางดึกสงัดคืนหนึ่ง ภายในกระโจมของเหล่าหญิงสาว ลี่ถิงสะลึมสะลือลุกขึ้นนั่ง หลังจากกะพริบตาถี่ๆ เพื่อเรียกสติอยู่ครู่หนึ่ง นางก็หันไปสะกิดจิ้งอี๋เบาๆ “อะไรหรือ” “ข้าอยากเข้าห้องน้ำ…” ยิ่งใกล้จะถึงเมืองหลิงหนานเท่าไร อากาศก็ยิ่งร้อน ลี่ถิงจึงดื่มน้ำเยอะ ตอนนี้ก็เหมือนจะกลั้นไม่อยู่แล้ว แน่นอน บนเส้นทางอพยพเช่นนี้ ‘ห้องน้ำ’ ที่ว่าก็คือป่าข้างทาง “พี่สาวจิ้งอี๋ พาข้าไปห้องน้ำทีนะ” ลี่ถิงบอกพลางยิ้มเขิน จิ้งอี๋เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ จึงขานรับสั้นๆ “ได้สิ” จากนั้นหญิงสาวทั้งสองก็ลุกออกจากกระโจม เมื่อเดินออกมาไกลพอสมควร ลี่ถิงก็เดินลับเข้าไปในป่าเพื่อทำธุระส่วนตัวอย่างไม่รอช้า พอจัดเสื้อผ้าเรียบร้อย ลี่ถิงก็ก้าวออกจากป่าด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ท่ามกลางความมืดของราตรี จู่ๆ ลี่ถิงพลันรู้สึกเย็นที่สันหลังวาบ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ครั้นหันไปมองต้นตอขอ

  • เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!   บทที่ 23 เซี่ยอวี้จัดการเอง!

    บทที่ 23 เซี่ยอวี้จัดการเอง! “เดี๋ยวก่อน!” เสียงเซี่ยอวี้ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะประคองกระบอกน้ำด้วยสองมือแล้วส่งให้กับพี่สาว เซี่ยหยู่เห็นความโอบอ้อมอารีของน้องชาย อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปขยี้หัวเล็กๆ ของเจ้าตัวจิ๋วแรงๆ ด้วยความเอ็นดู เมื่อรับกระบอกน้ำมา เซี่ยหยู่ก็แอบใส่น้ำพุวิญญาณลงไปเล็กน้อยระหว่างที่ก้าวตรงไปหาเด็กที่นอนหมดสติ หวังต้าเจิงที่เฝ้าดูอาการของเด็กชาย ครั้นเห็นองค์หญิงตรงมาทางนี้ก็รีบโค้งคำนับแล้วบอกว่า “กระหม่อมให้ยาลดไข้เด็กคนนี้แล้ว เหลือแค่รอดูอาการพ่ะย่ะค่ะ” “อืม” เซี่ยหยู่ตอบหวังต้าเจิงสั้นๆ จากนั้นก็ยื่นกระบอกน้ำให้หญิงหม้ายที่นั่งกอดลูกชายพร้อมกับร่ำไห้ “ให้ลูกของเจ้าดื่มน้ำนี้เถอะ จะช่วยให้สดชื่นขึ้น” “ขะ…ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณหนู” หญิงหม้ายรับกระบอกน้ำมา จากนั้นก็ก้มกราบจนหน้าผากติดพื้น ก่อนประคองลูกชายให้ขึ้นมาจิบน้ำอย่างช้าๆ แม้ยังหมดสติ แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดทำให้เด็กน้อยค่อยๆ ขยับริมฝีปาก ดื่มน้ำเข้าไปทีละน้อย ไม่นานจา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status