“นี่เธอ หยุดดิ้นก่อนได้มั้ย”
“ไม่หยุด จนกว่าคุณจะปล่อยฉัน”
“แล้วถ้าหากฉันไม่ปล่อยล่ะ” คำตอบแบบกวนๆ ทำให้ดวงยิหวากัดฟันแน่นด้วยความโมโห เธอไม่เคยเสียท่าให้ผู้ชายลามกที่พยายามลวนลามเธอสักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน...
“ได้ ไม่ปล่อยใช่มั้ย นี่แน่ะๆๆ”
หญิงสาวกระทืบเท้าเล็กๆ ลงบนหลังเท้าแกร่งแรงๆ แล้วใช้ความว่องไวเอี้ยวตัวมากัดใบหูของเขาอย่างแม่นยำเมื่อเปลวคลายวงแขนเล็กน้อยเพราะเจ็บเท้า
“โอ๊ยๆ นี่เธอ ยัยเด็กบ้า”
เปลวร้องลั่นปล่อยร่างบางทันที เมื่อวงแขนแข็งแรงคลายออกหญิงสาวก็เตรียมจะวิ่งออกไปให้พ้นร่างสูง แต่แล้วก็ต้องหวีดร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อเปลวคว้าเอวบางไว้ได้อีกครั้งและคราวนี้เขากับเธอก็ล้มกลิ้งอยู่บนพื้นพรมนุ่มโดยที่เปลวเปลวคร่อมร่างงามไว้จนดวงยิหวาไม่อาจจะขยับไปไหนได้เลย
“ปล่อยนะคุณจะรังแกพี่สะใภ้เลยเหรอ ทุเรศที่สุด” ตวาดเสียงเขียวในใจก็เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
“แต่เธอไม่ใช่...” เปลวหลุดปากพูดไปแค่นั้นแล้วก้มลงปิดปาก ระเรื่อที่จะขยับต่อว่าเขาก่อนที่เธอจะแหกปากร้องลั่นบ้าน
โลกทั้งโลกของดวงยิหวาเหมือนจะสะเทือนหวั่นไหวราวจะถล่มทลายเมื่อริมฝีปากร้อนผะผ่าวของเปลวทาบลงมายังกลีบปากของตน ลิ้นร้ายสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากสาวลิ้นร้อนระอุราวนาบด้วยไฟกวาดต้อนเสาะหาความหวานปากโพรงปากนุ่มอย่างย่ามใจ รสจุมพิตจะร้อนแรงทำให้ดวงยิหวาอ่อนเปลี้ยไปทั้งกาย สมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกได้แต่ก็ยอมเผยอปากให้เขาจูบเท่าที่อยากจะจูบโดยไม่อิดออดซ้ำยังเผลอไผลไปกับเรียวลิ้นร้อนตอบสนองอย่างลืมตัวมือเรียวดึงทึ้งเรือนผมนุ่มกดใบหน้าคมเข้มให้ชิดเข้ามาหาตนอีกด้วย
“หวานเหลือเกินยิหวา...” แว่วๆ เสียงครางของเปลวทำให้หญิงสาวที่กำลับเผลอไผลได้ยินเสียงที่เหมือนจะเตือนสติที่เตลิดลอยให้กลับมา เปลวเรียกเธอว่ายิหวาใช่ไหม...
“โอ้ย อูยยย ยัยเด็กบ้า ทำอะไรของเธอนี่..”
ชายหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อผละใบหน้ามาจากริมฝีปากสดฉ่ำเพื่อหอมแก้มเนียนใสหอมละมุนแต่ก็กลายเป็นว่าหญิงสาวกระชากเรือนผมของเขาอย่างแรงจนหน้าหงายซ้ำยังชกเข้าที่เบ้าตาคมอย่างแม่นยำก่อนที่แม่ตัวดีจะกลิ้งออกไปยืนตั้งหลักเสียไกล
“ก็ชกคนลามกอย่างคุณน่ะสิ หึ คนเลว ใจสกปรกลวนลามแม้แต่พี่สะใภ้ของตัวเองฉันว่าแล้วเชียวคนอย่างคุณมันตัวร้ายชัดๆ” ดวงยิหวายืนหอบแฮ่กๆ อยู่ที่ประตูมองเปลวอย่างกินเลือดกินเนื้อลืมสิ่งที่สงสัยไปสิ้นว่าก่อนหน้านั้นเขาเรียกเธอว่าอย่างไร
เธอต้องหลบไปตั้งหลัก.. หญิงสาวสะบัดหน้าเดินหนีคนตัวโตไปอย่างรวดเร็วด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำราวกลองศึก ความรู้สึกทั้งหวาดหวั่นทั้งหวั่นไหวตีกันยุ่งเหยิงไปหมด
เปลวนั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะอาหารกับเด็กๆ ที่พร้อมใจกันตื่นแต่เช้าโดยเฉพาะน้องเปรียวดูเหมือนว่าเด็กทั้งสองกำลังแข่งกันตื่นเช้า ส่วนคุณแม่จำแลงของหลานๆ ก็ทำเหมือนหลบหน้าเขาตั้งแต่คืนทำให้เปลวหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“อาเปลวเป็นอะไรรึเปล่าคะ” เด็กหญิงเอียงคอมองหน้าผู้เป็นอาอย่างพิจารณาด้วยท่าทางแก่แดด
“นั่นสิครับอาเปลว ทำไมช่วงนี้ดูแปลกๆ เอ.. หรือว่ามีความรัก แต่ทำไมคนมีความรักต้องใส่แว่นดำด้วยครับ”
“บ้าน่าปราณ อาเปลวอยู่แต่กับวัวกับม้าวันๆ ก็เข้าไร่ จะเอาเวลาไหนไปรักสาวๆ เอ๊ะ.. หรือว่าเพราะความรักทำให้คนตาบอด อาเปลวเลยใส่แว่นดำ อิอิ”
น้องเปรียวทำเสียงดุน้องชายฝาแฝดแล้วก็ปิดปากหัวเราะสนุกสนานกันทั้งสองแสบ เปลวกลอกตาไปมาหลังแว่นกันแดดยี่ห้อดังอย่างหมดคำจะพูดกับความแก่แดดแก่ลมของหลานๆ
“อาเปลวไม่ได้มีความรักครับอาเปลวแค่เซ็งและหิวข้าว หิวมากกก..”
“แหม อาเปลวใช้ภาษาวัยรุ่นซะด้วย แถมยังใจร้อนเหมือนวัยรุ่นอีกต่างหาก” น้องปราณทำหน้าทะเล้นอารมณ์ดี
“อาหารเช้ามาแล้วค่ะเด็กๆ” เสียงหวานของคุณแม่คนสวยดังขึ้นทำให้เสียงสนทนาของอาหลานหยุดลงเพราะต่างสนใจอาหารตรงหน้าที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ดวงยิหวาวางกับข้าวลงบนโต๊ะโดยไม่สนใจประมุขของบ้านและไม่คิดจะมองหน้า เปลวชักสีหน้าไม่พอใจนั่งหน้าบึ้งไม่ยอมหยิบช้อนขึ้นตักอาหาร
“อาเปลวไม่หิวเหรอคะ เมื่อกี้บอกว่าหิวมากไงคะ”
“เอ่อ คือ...” ชายหนุ่มอึ้งพูดไม่ออกและรู้สึกเหมือนจะขัดเขินเป็นครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้ ดวงยิหวาทำไม่รู้ไม่ชี้รับประทานอาหารไปเงียบๆ ทั้งที่เธอเองก็ใจสั่นๆ เมื่อรับได้ว่าเขามองเธออยู่อย่างแน่นอนภายใต้แว่นกันแดดที่ใส่ปกปิดผลพลอยได้จากเมื่อคืนนี้..
ดวงยิหวาเดินเข้าไปในสวนเพื่อทำหน้าที่ของตนตามปกติพร้อมกับสายฝนผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ด้านการพูดล้นเหลือ
“วันนี้ไม่เข้าไร่หรือคะแม่เลี้ยง” สายฝนถามเสียงสดใสเมื่อกล้าพูดคุยกับแม่เลี้ยงดาหวัน คนนี้ มากขึ้นเพราะก่อนหน้านี้แม่เลี้ยงดาหวันคนเก่าไม่เคยเห็นคนงานอยู่ในสายตา แต่แม่เลี้ยงดาหวันตอนนี้น่ารักน่าเข้าใกล้ สายฝนมองแม่เลี้ยงคนงามของตนด้วยความชื่นชม
“ไปตอนบ่ายน่ะ วันนี้เราจะเก็บผักอะไรไปทำอาหารกลางวันดี คะน้าดีมั้ย กลางวันนี้ทำราดหน้ากันเถอะฉันอยากกินราดหน้าทะเล”
“ราดหน้าทะเลเหรอคะ...” สายฝนทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ก็แม่เลี้ยงดาหวันไม่เคยชอบกินราดหน้าเพราะไม่ชอบกินผักโดยเฉพาะผักคะน้าซึ่งดวงดาหวันให้เหตุผลว่าเหม็นเขียว
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะฝน”
“ก็เอ่อไม่มีอะไรคะแม่เลี้ยง แหะๆ”
สายฝนไม่รู้จะพูดอย่างไรดีอีกใจก็คิดสงสัย แต่คำพูดของแม่ที่สั่งสอนว่าอย่าสู่รู้เรื่องเจ้านายให้มากนักก็ทำให้เธอสงบปากสงบคำได้ดีทีเดียว
“ไม่มีอะไรแน่เหรอ เอ หรือว่าฉันมีอะไรกับราดหน้ามาก่อนรึเปล่า”
คราวนี้ดวงยิหวาเองที่เริ่มสงสัยไม่ทันที่สายฝนจะได้พูดอะไรเปลวก็เดินเข้ามาในสวนครัวที่ปลูกไว้สำหรับเก็บผลผลิตมาทำอาหารเลี้ยงคนทั้งไร่ หน้าตาคมเข้มรกด้วยหนวดเคราอยู่เสมอนั้นบึ้งจัด ดวงยิหวาเมินหน้าหนีคนที่ขโมยจูบเธอเมื่อคืนแล้วเดินไปยังแปลงผักที่เพิ่งปลูกใหม่ พรวนดินรดน้ำมันไปเรื่อยๆ ทำเหมือนไม่เห็นว่าเขามาแต่เงี่ยหูฟังว่าเปลวจะพูดอะไรกับสายฝนก่อนที่สายฝนจะเดินออกไปเงียบๆ
ดวงยิหวาปรายตามองสายฝนที่พ้นรั้วออกไปด้วยใจสั่นๆ เมื่อตอนนี้มีเพียงเธอกับเปลว มือบางที่แตกน้อยๆ และเริ่มด้านนิดๆ กระแทกพลั่วพรวนดินในมือแรงๆ เหมือนจะระบายความหงุดหงิดหรือคิดว่าดินที่ตนพรวนนั้นเป็นใบหน้าของเปลวเสียเลย
“อะแฮ่ม..” เปลวกระแอมเบาๆ มองแผ่นหลังบางของคนที่พรวนดินอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ดวงยิหวาทำเฉยเหมือนไม่ได้ยิน
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ