“กรี๊ดๆ นังบ้า แกมาเอางูออกไปที นังดาหวัน นังบ้า กรี๊ดดด ฉันจะฟ้องพี่เปลว...”
เสียงแปดหลอดของอาน้ำหวานคนสวยที่ฟังไม่ไพเราะเหมือนเดิมเลยสักนิดดังขึ้นขัดความซาบซึ้งของสองแม่ลูกดวงยิหวาหันไปมองอย่างไม่พอใจแล้วเดินไปคว้างูออกมาจากคอน้ำหวานแล้วถือไว้เหมือนมันเป็นของเล่นซ้ำยังแกว่งไปมาใกล้ๆ ใบหน้าของน้ำหวานที่ถอยร่นไปอย่างหวาดกลัวขยะแขยง
“ตามสบายค่ะ อย่าลืมบอกคุณเปลวด้วยล่ะว่าเธอเป็นคนเอางูมาไว้ในห้องฉัน แล้วฉันเองก็จะบอกคุณเปลวด้วยว่าเธอมาเสี้ยมสอนให้ลูกฉันทำแบบนี้...”
“อย่านะคะคุณแม่ น้องเปรียวกลัวอาเปลวดุเอา น้องเปรียวขอโทษ..” เด็กหญิงร้องบอกแววตาของน้องเปรียวดูหวาดหวั่นน่าสงสาร
“แกกล้าเหรอ...” น้ำหวานแทรกขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นน้องเปรียวเหมือนจะแปรพรรคและตนก็จะโดนเล่นงานอยู่คนเดียว
“แน่นอนฉันกล้า... หรือว่าเธอจะลองดูก็ได้ว่าฉันจะกล้ามั้ย” ดวงยิหวามองน้ำหวานอย่างท้าทาย...
“กรี๊ดดด... นังบ้า นังดาหวัน นางมารร้าย...” น้ำหวานกรีดร้องอยู่ในรถของตัวเองเมื่อเธอออกมาจากบ้านไร่ตะวันงามด้วยสารรูปที่เรียกได้ว่ายับเยิน เธอไม่เคยรู้สึกเสียเหลี่ยมและเสียหน้ามากขนาดนี้มาก่อน คุณน้ำหวานคนสวยไม่เคยถูกใครมองด้วยแววตาเหยียดหยันท้าทายเหมือนกับที่ดวงดาหวันมอง ก่อนหน้าที่ดวงดาหวันจะประสบอุบัติเหตุว่าร้ายแล้วแต่ตอนนี้ดูดวงดาหวันจะร้ายกาจมากกว่าเดิมและเอาคืนเธอชนิดว่าถึงลูกถึงคนเลยทีเดียว
“เป็นไปได้ยังไง นังดาหวันมันไม่กลัวงู... หึ แต่ฉันจะไม่ยอมให้แกเอาชนะฉันได้อีกหรอก...” น้ำหวานพูดกับตัวเองด้วยความฉุนเฉียวและเกลียดชังคนที่พูดถึง
ทางด้านดวงยิหวาหลังจากที่น้ำหวานกลับไปแล้วผก็พาน้องเปรียวกลับไปที่ห้องและดูแลเด็กหญิงจนน้องเปรียวหลับไป หญิงสาวมองใบหน้าเล็กๆ ที่หลับพริ้มไปพร้อมสะอื้นเบาๆ จากที่ร้องไห้ไปอย่างหนักเมื่อตอนเย็นแล้วก็ถอนใจ น้ำหวานทำเกินไปจริงๆ แม้ว่าจะโกรธจะเกลียดดวงดาหวันมากแค่ไหน แต่น้ำหวานไม่ควรจะดึงน้องเปรียวมาเกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งเธอเช่นนี้
หากว่างูนั้นยังไม่ตายและเป็นงูที่มีพิษแน่นอนว่าเธอคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้และน้องเปรียวก็คงมีมลทินติดตัวว่าฆ่าแม่ของตนเอง แม้เธอจะสวมรอยเป็นดวงดาหวันแต่เธอก็รู้สึกรักเด็กๆ เสมือนหนึ่งลูกของตนเอง แม้เวลาที่อยู่ที่นี่ไม่นานแต่เธอรู้สึกได้ถึงสายใยความผูกพันที่เกิดขึ้นกับเด็กทั้งสอง เธอจะไม่ยอมให้น้ำหวานได้มีโอกาสชักจูงน้องเปรียวไปในทางผิดๆ อีกอย่างแน่นอน...
ดวงยิหวาปิดประตูห้องของเด็กๆ เบาๆ หลังจากที่เล่านิทานก่อนนอนให้น้องเปรียวกับน้องปราณฟัง เด็กทั้งสองหลับไปอย่างง่ายดาย ดวงยิหวาจึงเดินมายังห้องทำงานของเปลวเมื่อเขาให้คนมาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย หญิงสาวเคาะประตูเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยอนุญาตจึงเปิดประตูเข้าไปพร้อมทั้งปิดให้เรียบร้อย เขาเงยหน้ามองเธอนิ่งดวงยิหวาปรายตามองชายหนุ่มคอแข็งอย่างไว้ตัว
“เธอทำอะไรหลานฉันรึเปล่าทำไมน้องเปรียวถึงได้ดูแปลกๆ ไป” คำถามแรกของเขาก็ทำให้เคืองใจทันที
“นี่คุณ พูดอย่างกับว่าน้องเปรียวไม่ใช่ลูกฉันอย่างนั้นล่ะ ฉันถึงจะได้ไปทำอะไรน้องเปรียว”
“อย่ามายอกย้อนนะ ฉันถามก็ตอบมาดีๆ” ชายหนุ่มเสียงเข้มใบหน้าบึ้งตึงจนเหมือนว่าหนวดรกๆ นั่นจะกระดิกเลยทีเดียวแต่ดวงยิหวาทำลอยหน้าลอยตาไม่ใส่ใจ
“ก็นี่ล่ะตอบดีๆ แล้วคุณจะให้ฉันตอบยังไงล่ะ”
“แน่ใจเหรอ”
“แน่สิ คุณคิดว่าฉันจะทำร้ายลูกตัวเองรึไง แค่นี้ใช่มั้ยที่จะถาม” หญิงสาวเชิดหน้าตอบแล้วทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง
“เดี๋ยว ฉันยังพูดไม่จบห้ามเดินหนีฉัน” ร่างสูงเดินมาดึงเขียนเธอไว้อย่างรวดเร็ว
“อุ้ย นี่คุณปล่อยนะ จะมาจับแขนฉันไว้ทำไม”
หญิงสาวหันมาตามแรงดึง ร่างบางหันมาเผชิญหน้ากับเปลวใจเต้นตึกๆ เธอไม่ชอบความใกล้ชิดแบบนี้เลยแล้วที่นี่ก็มีแค่เขากับเธอและเขาก็เคลื่อนไหวได้เร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ
“กลัวฉันเหรอ ปกติเธอไม่มีทีท่ารังเกียจฉันเลยนี่ มีแต่จะนอนรอให้ฉันทำอะไรต่อมิอะไร”
“อย่ามาลามปามฉันนะ ฉันเป็นพี่สะใภ้คุณ คุณควรให้เกียรติฉันบ้าง”
ดวงยิหวาพูดไปก็พยายามบิดข้อมือจากออกจากการเกาะกุมของอุ้งมือหนา แต่ก็ดูมันจะไร้ผลเพราะยิ่งบิดออกมันยิ่งแน่นเข้าจนรู้สึกระบมไปทั้งข้อมือบาง
“เกียรติของเธอหมดไปตั้งแต่นอกใจพี่ชายฉันแล้วดาหวัน”
“แต่ฉันไม่ใช่ อุ้ย ปล่อยนะคนบ้า..”
คราวนี้หญิงสาวเริ่มโกรธจัดเหวี่ยงขามาเพื่อจะเตะเปลวให้ล้มคว่ำด้วยทักษะที่เรียนมาและใช้ได้ผลมาเสมอ แต่เปลวกลับหลบหลีกได้อย่างว่องไวซ้ำยังดึงเธอเข้าไปใกล้แล้วกอดรัดร่างบางไว้โอยโอบรัดจากด้านหลัง แล้วใช้ขาแกร่งแยกเรียวขาของดวงยิหวาไว้ทั้งสองข้างเพื่อป้องกันไม่ให้เธอทำร้ายจุดยุทธศาสตร์อันสำคัญของลูกผู้ชายได้
“หึหึ นึกว่าจะเก่งที่ไหนได้ อ่อนหัดจริงๆ”
เปลวพูดเหมือนเยาะดวงยิหวามากกว่าไม่ใช่ดาหวันอย่างที่ดวงยิหวาเข้าใจ แต่มันก็สร้างความไม่พอใจให้เธอมากขึ้น หญิงสาวพยายามสะบัดกายออกแต่ยิ่งเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งก็ยิ่งทำให้ร่างของทั้งสองเสียดสีกันอย่างไม่ตั้งใจมากขึ้นและเปลวเองเริ่มจะยืนไม่อยู่เพราะแรงของดวงยิหวามากกว่าที่คิด สุดท้ายเขาก็เซถลาไปนั่งแหมะบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ของตนโดยมีเธอนั่งซ้อนตักกว้างอยู่
“อุ้ย ปละ ปล่อย คุณจะทำอะไร นี่ฉันเป็นพี่สะใภ้คุณนะ” หญิงสาวพยายามแกะมือหนาออกจากเอวบาง ความหวาดหวั่นหวามไหววิ่งเข้าจู่โจมหัวใจน้อยๆ ของเธออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยมีความรู้สึกนี้ให้ใครแล้วทำไมจะต้องมาหวั่นไหวกับคนปากร้ายหน้ารกๆ ด้วยหนวดเคราอย่างอีตาเปลวปากเปราะนี่ด้วยนะ อี๊ ไม่ได้การแล้วยิหวา อย่าหลงเสน่ห์เขานะ.. หญิงสาวร้องบอกตัวเองในใจพยายามแกะมือหนาอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล
“นี่คุณ ฉันบอกให้ปล่อย ตาบ้าเอ๊ยปล่อยนะโว้ย”
“พูดไม่เพราะเลยนะ หากลูกๆ มาได้ยินจะทำไงนี่”
“เรื่องของฉัน ปล่อยฉันนะ คนบ้า” หญิงสาวร้องขัดขึ้นทั้งพยายามดิ้นรนออกจากตักแกร่งโดยไม่รู้ว่ายิ่งดิ้นสะโพกงามก็ยิ่งขยับเสียดสีตักกว้างพลอยทำให้อะไรๆ ของเปลวตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จนเธอรู้สึกได้ หญิงสาวหน้าเสียในขณะที่เปลวกัดกรามแน่นพยายามควบคุมอารมณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างสุดความสามารถ
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ