Share

บทที่ 10

Author: คุณชายหกถังถัง
“นายท่าน เหนื่อยแล้วใช่หรือไม่ เชิญด้านในเลย!”

ขณะที่กำลังครุ่นคิด แม่เล้านางหนึ่งก็เดินบิดสะโพกเข้ามาหาหลี่วั่นเหนียน

หลี่วั่นเหนียนยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว ตัวเขาก็เข้ามาอยู่ในหอคณิกาแล้ว

ที่นี่เป็นอาคารไม้สองชั้น ชั้นแรกเป็นห้องโถงสำหรับดื่มสุรา ส่วนชั้นที่สองแบ่งออกเป็นห้องเล็ก ๆ และไม่ค่อยเก็บเสียงนัก

“ไม่ทราบว่าคิดราคาอย่างไร?”

หลี่วั่นเหนียนเพิ่งนึกได้ว่าต้องถามราคาก่อน

“ขึ้นอยู่กับความต้องการของท่าน หากแค่ลูบคลำก็หนึ่งร้อยอีแปะ แต่หากจะหากจะหลับนอนก็สามร้อยอีแปะขึ้นไป! ส่วนสุราต้องคิดแยกต่างหาก!”

แม่เล้าตอบเช่นนี้

“เช่นนั้นข้าเอาแบบหลับนอน!”

หลี่วั่นเหนียนหยิบเงินออกมาสามร้อยอีแปะ เงินจำนวนนี้สามารถใช้ซื้อข้าวได้หนึ่งโต่วหรือก็คือประมาณสิบสองชั่งครึ่ง ในชาติก่อน ข้าวสิบกว่าชั่งไม่ได้ถือว่ามีค่าอะไร กระนั้น จะนำผลผลิตทางเกษตรของโลกยุคนี้ไปเทียบยุคสมัยใหม่ไม่ได้ สำหรับโลกยุคนี้แล้ว ข้าวหนึ่งโต่วสามารถใช้ดำรงชีพได้หนึ่งเดือน สามโต่วจะเพียงพอให้อยู่รอดในช่วงที่เสบียงขาดแคลน

“เช่นนั้นลองมองหญิงสาวเหล่านี้ เลือกที่ถูกใจได้เลย!”

แม่เล้าชี้หญิงสาวแต่งหน้าหนาเตอะที่ยืนอยู่สองข้างฝั่ง บอกตามตรง หน้าตาของพวกนางไม่เลวเลย กระนั้นมันก็สะท้อนให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่อันแร้นแค้นของราษฎรในแคว้นนี้ มิเช่นนั้นหญิงสาวเหล่านี้จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรือ?

“คนนี้ก็แล้วกัน!”

หลี่วั่นเหนียนเลือกหญิงสาวที่ดูแล้วอายุยังไม่ค่อยมาก แต่แน่นอนว่าหญิงสาวที่นี่ก็ยังดูเด็กกันทั้งนั้น

“เสี่ยวเยี่ยน พาลูกค้าไปที่ห้องได้เลย!”

“เจ้าค่ะ!”

หลี่วั่นเหนียนถูกเสี่ยวเยี่ยนพาไปที่ห้องเล็ก ๆ ภายในห้องมีน้ำสะอาดหนึ่งกะละมัง พร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่ริมกะละมัง

เมื่อมาถึงห้อง หญิงสาวก็เริ่มย่อตัวชำระล้างตัวเอง เนื่องจากไม่มีม่านกั้น ทุกอย่างจึงอยู่ท่างกลางการจดจ่อของหลี่วั่นเหนียน

หลังจากชำระล้างตัวเรียบร้อยก็ถึงเวลาเข้าสู่ประเด็นหลัก

“นายท่าน ท่านมีเวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา เร่งมือเถิดเจ้าค่ะ!”

“บัดซบ!”

หลี่วั่นเหนียนได้ยินเสี่ยวเยี่ยนพูดแบบนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก แต่ตอนนี้จะถอยกลับไม่ได้แล้ว ต้องเน้นประสิทธิภาพก่อน

.......

หลังจากเสร็จกิจอย่างรีบร้อน หลี่วั่นเหนียนก็คอยดูความเปลี่ยนแปลงของทำเนียบวงศ์ตระกูล น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เห็นได้ชัดว่าวิธีเช่นนี้ไม่สามารถเพิ่มความสามารถใด ๆ ได้เลย แต่เงินสามร้อยอีแปะก็ยังต้องจ่ายไปอยู่ดี เขารู้สึกไม่พอใจกับราคามาก เพราะมันเป็นแค่บริการระดับหนึ่งร้อยอีแปะชัด ๆ ทว่ากลับต้องให้เขาจ่ายถึงสามร้อยอีแปะ ไม่แปลกเลยที่จะไม่มีคนมาใช้บริการ!

ทว่า คราบโลหิตสีแดงบนผ้าปูที่นอนกลับดึงดูดความสนใจของเขา ภาพนี้ทำให้เขาสับสนนงุนงง จะบอกว่าแม่เล้าเอาเปรียบลูกค้าก็ไม่ใช่ เพราะแม่เล้าก็จัดหาหญิงบริสุทธิ์มาให้เขา แต่จะบอกว่าใจดีก็ไม่ใช่อีก เพราะให้เวลาแค่หนึ่งถ้วยชา

ตอนนี้ ใบหน้าของเสี่ยวเยี่ยนแดงก่ำ “นายท่านอย่าได้รู้สึกอัปมงคลเลยนะเจ้าคะ เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเอง!”

“เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้?”

หลี่วั่นเหนียนไม่ค่อยเข้าใจ เขาเองก็เพิ่งเคยมาหอคณิกาครั้งแรก ประสบการณ์ยังน้อย

“ในวงการของพวกข้า ลูกค้าที่ต้องใช้บริการจากหญิงบริสุทธิ์มักจะรู้สึกว่าเป็นโชคดี ฉะนั้น ในวงการของพวกข้าจึงแทบไม่มีหญิงสาวที่ไม่เคยผ่านมือชายใดเจ้าค่ะ!”

เสี่ยวเยี่ยนใช้น้ำทำความสะอาดไปด้วย อธิบายไปด้วย ไม่นาน น้ำสะอาดก็กลายเป็นสีขุ่น

จู่ ๆ หลี่วั่นเหนียนก็นึกถึงเรื่องที่ทางการนำเจ้าสาวมาส่ง ความจริงแล้วหญิงสาวหลายคนในนั้นเคยแต่งงานมาแล้ว บางคนก็เคยมีลูกแล้วด้วยซ้ำ แต่ชาวนาเหล่านี้ไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะยังบริสุทธิ์หรือไม่ ดูเหมือนพวกเขาทั้งหมดจะเชื่อว่าการเสียโลหิตสื่อถึงความอัปมงคล

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ตั้งใจทำงานไปนะ!”

หลี่วั่นเหนียนยังต้องไปทำธุระ จึงบอกลาทันที

“นายท่านรอประเดี๋ยวเจ้าค่ะ!”

เสี่ยวเยี่ยนคุกเข่าลงเบื้องหน้าเขาทั้งที่ยังไม่สวมกางเกงชั้นใน ดวงตามีน้ำตา!

“แม่นางหมายความว่าอย่างไร?”

ความจริงหลี่วั่นเหนียนก็พอจะเดาความคิดของนางออก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!   บทที่ 100

    กู้เฉวียนจวินสบถคำหยาบออกมาโดยตรง เขาส่งสายตาให้หลี่วั่นเหนียนเตรียมลงมือ แต่ตอนนี้เป็นกลางคืน มองเห็นไม่ชัด ส่วนหลี่วั่นเหนียนก็คิดว่าหมอนี่พูดรหัสลับจริงๆแต่ปรากฏว่ามันคือรหัสลับจริงๆ!“เข้าไปเถิด!”หลังจากคนตรวจสอบข้อมูลทั้งสามคุยกับคนที่อยู่หลังประตู ประตูใหญ่ก็เปิดออกทันที!กู้เฉวียนจวินอึ้งไปแล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าตนเองจะเดารหัสลับถูก แต่ขณะเดียวกัน แผ่นหลังของเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วหลี่วั่นเหนียนพาทุกคนเดินเข้าประตูใหญ่ ขณะที่ประตูกำลังจะปิดลง หลี่วั่นเหนียนฟันดาบออกไปฉับพลัน ศีรษะของหนึ่งในชาวชี่ตานที่กำลังปิดประตูถูกฟันจนขาด ทหารที่อยู่ข้างกายหลี่วั่นเหนียนพากันชักดาบออกมา ชาวชี่ตานไม่ทันตั้งตัว เพียงพริบตาเดี๋ยวก็ล้มลงไปอีกเจ็ดแปดคนเวลานี้เอง ชาวชี่ตาที่อยู่บนหอสังเกตการณ์ของค่ายรู้ตัวแล้ว และกำลังจะตีฆ้อง ทว่าหลี่วั่นเหนียนขว้างมีดบินออกไป สังหารชาวชี่ตานที่อยู่บนหอสังเกตการณ์ทันที และคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่บนที่สูงของค่ายก็เจอกับมีดบินเช่นกันผ่านไปเพียงครู่เดียว ประตูใหญ่ถูกเปิดออก คนของหลี่วั่นเหนียนโบกคบเพลิงบนค่ายทหาร!ยามลับที่อยู่นอกค่ายสังเกตเห็นความผิดปกติแล้ว

  • เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!   บทที่ 99

    อันที่จริงตอนแรกที่หลี่วั่นเหนียนกล่าว มีเพียงไม่กี่คนที่สนใจ แต่เมื่อพูดถึงเลื่อนยศหนึ่งขั้น ดวงตาของเหล่าเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านตระกูลหลี่เบิกกว้างทันที!“ข้าไป!”“ข้าก็ไป!”……เพียงครู่เดียว ก็มีคนยกมือเกินสี่สิบคนแล้ว แต่มีเครื่องแบบแค่ยี่สิบชุด จึงต้องคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุด“เสียงเบาหน่อย! คนจากหมู่บ้านตระกูลหลี่เข้าร่วมทั้งหมด คนจากหมู่บ้านตระกูลหวังที่มีอายุระหว่างยี่สิบถึงสามสิบปีได้สิทธิ์ก่อน!”หลี่วั่นเหนียนก็รู้ เขาต้องเลือกผู้ที่มีประสบการณ์การรบ อีกทั้งยังแข็งแรงก่อนสุดท้ายมีสามสิบคนถูกคัดออก ส่วนคนที่เหลือมายืนข้างกายหลี่วั่นเหนียน“ใต้เท้าหลิว ข้าก็จะไป!”ทันใดนั้น กู้เฉวียนจวินยกมือขึ้น แต่หลี่วั่นเหนียนไม่เคยพิจารณาเขาเลย“เจ้าไปไม่ได้!”แม้เขามีความก้าวหน้า แต่พละกำลังและทักษะการต่อสู้ของเขายังสู้เด็กหนุ่มของหมู่บ้านตระกูลหลี่ไม่ได้ และสู้เด็กหนุ่มของหมู่บ้านตระกูลหวังไม่ได้เช่นกัน“พวกเจ้าพูดภาษาชี่ตานไม่ได้ แต่ข้าพูดได้!”เมื่อกู้เฉวียนจวินกล่าวเช่นนี้ หลี่วั่นเหนียนเลิกคิ้วทันที คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย“ท่านอย่าเข้าใจผิดเสียล่ะ โยว

  • เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!   บทที่ 98

    ช่วงสองวันนี้ไม่มีแสงจันทร์เลย รอหลังจากฟ้ามืดแล้ว หลี่วั่นเหนียนใช้เชือกโรยตัวลงที่นอกกำแพงเมือง เหล่าเด็กหนุ่มของหมู่บ้านตระกูลหวังกับหลี่ก็ตามมาด้วยพวกเขาสามารถออกจากประตูใหญ่ของกำแพงเมือง แต่การทำเช่นนั้นมันสะดุดตาเกินไปหลังออกจากกำแพงเมือง พวกเขามุ่งหน้าไปยังที่ต่ำของเทือกเขาหลังจากเดินออกมาสองสามลี้ พบว่ามีผู้คนหลายร้อยรวมตัวกันที่ด้านหน้า พวกเขาล้วนลงมาจากยอดเขาต่างๆ โดยไม่ได้เลือกออกมาจากประตูใหญ่ของกำแพงเมืองเซียวเจิ้งก็มาถึงแล้วเช่นกัน!แต่เวลานี้ยังไม่มีค่ายไหนที่มากันคบ ทุกคนยังคงรอต่อไปมีคำสั่งทหารหากใครมาไม่ถึงก่อนยามซวี จะถือว่าเป็นทหารหนีทัพทั้งหมด!เซียวเจิ้งจะไม่ลังเลในเวลานี้เช่นนี้ เพราะนี่ก็คือคำสั่งทหาร พวกเขาต้องออกเดินทางก่อนยามซวี ไปถึงจุดซุ่มโจมตีก่อนยามไฮ่และถอนกำลังหลังจากโจมตีหนึ่งชั่วยาม เพราะชาวชี่ตานต้องใช้เวลาส่งข่าวและส่งกำลังเสริมมาถึง ก็คือหนึ่งชั่วยามหัวหน้าล่วงเลยไปทีละนิด สุดท้ายกำลังพลของค่ายเซียวเจิ้งมากันครบแล้ว ค่ายอื่นก็เช่นกันหลังจากมาถึง ก็ออกเดินทางอย่างเต็มกำลังทันทีเพราะที่นี่อยู่ห่างจากกำแพงเมืองสามลี้ ยังต้องเดินหน้

  • เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!   บทที่ 97

    หวังโส่วอี้ออกคำสั่ง ผู้ใต้บังคับบัญชาย่อมปฏิบัติตามอย่างไร้เงื่อนไข ไม่นานนัก ทหารส่งสารก็ส่งข่าวมาถึงมืออู๋ซานอู๋ซานอยู่ในค่ายใหญ่ตรงเชิงเขา เมื่อได้รับข่าวนี้ ก็รู้สึกปวดหัวมากเช่นกันต้องบอกก่อนว่า ค่ายแนวหน้าของชาวชี่ตานอยู่ห่างจากกองบัญชาการใหญ่ของพวกเขาเพียงสามสิบลี้ และชาวชี่ตานล้วนเป็นทหารม้า ระยะทางสามสิบลี้สำหรับทหารม้าไม่ถือว่าไกลเลย เมื่อไรที่ไม่สามารถจบการต่อสู้และถอนกำลังทัน ก็มีโอกาสถูกปิดล้อมสูงมากอู๋ซานรู้ดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งทหาร จึงเริ่มลงมือปฏิบัติทันที แต่เขาก็รู้ว่าเป้าหมายหลักในครั้งนี้คือการสั่งสอนชาวชี่ตาน การจะทำลายค่ายแนวหน้านั้นค่อนข้างยาก ดังนั้นย่อมไม่ส่งทหารชั้นยอดออกไป เพราะเขารู้ว่าการทำลายกองทัพศัตรูนั้นเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตนเองก็ต้องไม่เกิดความสูญเสียมากเกินไปหากมีผลงาน เพียงแต่เป็นภายใต้สถานการณ์ที่ผลงานไม่มากนัก ผู้ว่าการทหารก็คงไม่ลงโทษเขาจริงๆ หรอกด้วยเหตุนี้ เขาจึงเรียกจางเหลียงมา“ใต้เท้าอู๋ มีอะไรจะสั่ง?”จางเหลียงมาถึงแล้ว“แม่ทัพจาง ข้ามีภารกิจให้พวกเจ้าไปทำ พาคนของเจ้าไปทำลายค่ายแนวหน้าของชาวชี่ตานเสีย! ขณะเดียวกัน

  • เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!   บทที่ 96

    หลังจากตะโกน ก็ใช้ไฟจุดหญ้าแห้งโดยตรง หญ้าแห้งก็ลามไปติดมูลม้า แม้เป็นตอนกลางคืน อาจจะมองไม่เห็นควันไฟ แต่ภายในหอส่งสัญญาณมีแสงไฟ อยู่ห่างออกไปสิบกว่าลี้ก็สามารถมองเห็น“ลุย!”ชาวชี่ตานที่อยู่ห่างออกไปรู้ว่าตนเองถูกพบเห็นแล้ว จึงพุ่งออกไปโดยตรงหลี่วั่นเหนียนคิดไม่ถึงว่าพวกมันจะบุกตีหอส่งสัญญาณที่เขาอยู่ เพราะเส้นทางที่นี่ยากต่อการเดินทัพเหล่าเด็กหนุ่มของหมู่บ้านตระกูลหวังกับหลี่เลือดลมพลุ่งพล่านขึ้นมาทันทีคบเพลิงโดยรอบก็ถูกจุดสว่างเช่นกัน ที่ด้านล่างของพวกเขา มีชาวชี่ตานเนืองแน่นมากกว่าร้อยคนปรากฏตัวขึ้น นี่เป็นเพียงกำลังพลที่อยู่ใกล้หอส่งสัญญาณของพวกเขา ส่วนหอส่งสัญญาณจุดอื่นมีเท่าไรไม่รู้ แต่จำนวนรวมคงไม่มาก ไม่เช่นนั้นจะเสียงดังเกินไป ไม่มีทางเข้าใกล้ได้ในระยะยี่สิบจั้งแน่นอนชาวชี่ตานพุ่งเข้าหากำแพงเมือง วิธีการบุกโจมตีของพวกเขายังคงเหมือนก่อนหน้านี้ คือใช้ตะขอเหล็ก เชือก และบันไดแต่ครั้งนี้พวกเขาเป็นฝ่ายตั้งรับ แม้มีคนเพียงแค่เกือบหกสิบคน แต่มีชัยภูมิที่ได้เปรียบกว่า อีกฝ่ายต้องมีกำลังพลอย่างน้อยสามเท่าขึ้นไป จึงจะสามารถชนะอย่างแน่นอน ดังนั้นขอแค่ระมัดระวังไม่ให้เกิดข้อ

  • เป็นทหารแล้วได้เมีย? ข้าขอแต่งรวดเดียวสิบแปดคน!   บทที่ 95

    “ใต้เท้า เหตุใดพวกเราไม่เป็นฝ่ายบุกล่ะ?”หัวหน้าหน่วยของหลี่วั่นเหนียนกล่าวถาม เพราะกำลังพลในมือเขาเยอะ ตอนนี้เกือบสองร้อยคนแล้ว ดังนั้นเขาอยากสร้างผลงาน เพื่อเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น“นี่เป็นการตัดสินใจของท่านผู้ว่าการทหาร แต่เท่าที่ข้ารู้จักท่านผู้ว่าการทหาร ความพ่ายแพ้ของครั้งก่อน ไม่อาจชดเชยได้เพียงเพราะยึดปาต๋าหลิงคืนมาได้ ทุกคนเตรียมตัวให้ดีเถิด!”“รับทราบ!”หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง หลี่วั่นเหนียนกับหลิวเถียนกลับมาพร้อมกับเบี้ยทหารทหารที่ได้รับข่าวพากันมาเข้าแถวรอรับเบี้ยทหารแล้วทหารใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จ่ายเต็มจำนวนทั้งหมด ดังนั้นทุกคนจึงยิ้มกันถ้วนหน้าแต่อยู่ในค่ายทหาร อยากใช้เงินก็แทบไม่มีที่ใช้ เพราะทางกองทัพเป็นคนจัดหาอาหารให้ สิ่งเดียวที่ต้องเสียเงินก็คือนางบำเรอในสังกัดฝ่ายพลาธิการ หรือไม่ก็ตลาดที่เหล่าทหารตั้งขึ้นเอง สามารถซื้อของเล็กน้อยที่ตนเองต้องการหลี่วั่นเหนียนไม่มีอะไรจะซื้อ จึงเก็บเงินไว้ในกระโจมคืนนี้ผ่านไปอย่างสงบ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะขึ้นเขาไปรับช่วงต่อแล้ว ในวันต่อมา พวกเขาต้องลาดตระเวนบนกำแพงเมือง ต้องทนแดดทนฝนอยู่บนนั้นทั้งวัน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status