Войтиตู้ชิงชิงเห็นท่าทางหื่นกามของเกาถงก็เริ่มหงุดหงิดไม่พอใจ สายตาเขาที่จ้องมองมาราวกับอยากจะกลืนกินนางจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก
“ข้าก็คิดว่าพี่ชายจะไม่สนใจสตรี ที่ไหนได้ ก็ไม่ต่างจากบุรุษหื่นกามทั่วไป” ว่าแล้วนางก็จ้องเข้าไปในดวงตาของเกาถง ชายหนุ่มจ้องตอบด้วยแววตาหลงใหลเคลิบเคลิ้ม
ตู้ชิงชิงที่เดิมอยากจะลองใจเกาถง เห็นว่าเขาดูซื่อๆ ไม่มีพิษภัยไร้เดียงสา อยากเก็บเขาไว้ข้างกาย เมื่อเห็นว่าเขาจ้องมองเต้าอวบของตนไม่วางตาก็เปลี่ยนใจ
ใบหน้างามเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาแต่ใสซื่อช้าๆ เมื่อริมฝีปากอยู่ในระยะใกล้กัน นางก็เริ่มดูดพลังชีวิตของเกาถง
“บังอาจ”
เสียงดุดันคล้ายคำรามดังขึ้น ไม่ทันที่ตู้ชิงชิงจะได้หลบหนี แขนเรียวขาวของนางก็ถูกบุรุษร่างสูงใหญ่จับไว้แน่น
“ผีสาวที่ล่อลวงชายหนุ่มมาดูดพลังวิญญาณสมควรตายแล้วเกิดใหม่นับร้อยครั้ง” บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตามีเสน่ห์ล่อลวงใจสตรีไม่แพ้กับที่ตู้ชิงชิงล่อลวงเกาถง
ดวงตาหงส์ที่ลึกล้ำจ้องมองสตรีอย่างโกรธเกรี้ยว
“ปล่อยข้านะ ข้าก็แค่ฆ่าพวกผู้ชายที่ก่อให้เกิดภัยแก่สตรีนางอื่นได้ คนพวกนี้สายตาแทะโลมข้าทั้งนั้น” ตู้ชิงชิงรีบพูดแก้ตัวด้วยความร้อนรน
ปกติแล้วร่างของนางก็คล้ายกลุ่มเมฆหมอกที่สามารถจางหายได้ตลอดเวลา หากนางต้องการสัมผัสมนุษย์จึงจะรวมพลังจนสามารถถูกเนื้อต้องตัวได้ คนปกติทั่วไปคิดจะแตะต้องนางก็จะทะลุร่างเหมือนยื่นมือผ่านไอหมอกที่หนาวเย็น
แต่บุรุษผู้นี้กลับจับร่างของนางได้ง่ายๆ ทำให้ตู้ชิงชิงมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง
“กายเอกสุวรรณ” ตู้ชิงชิงเบิกตาโพลงร้องด้วยความตกใจ นางหยุดสนใจเกาถง ทำให้ร่างสูงของเขาล้มลง ชายหนุ่มหมดสติ ใบหน้าซีดขาวดูแก่ลงไปหลายปี
กายเอกสุวรรณที่นางเอ่ยขึ้น เป็นชื่อเรียกของผู้ที่มีร่างกายพิเศษ สามารถจับต้องภูติผีปีศาจได้ ไม่ว่าผีหรือปีศาจเหล่านั้นจะปรากฏร่างในสถานะใดก็ตาม ทั้งยังไม่รู้สึกระคายเคืองผิวแม้แต่น้อย
แต่บุคคลเหล่านี้ก็พบได้น้อยมาก ในทารกที่ถือกำเนิดมาหนึ่งพันคน อาจจะพบเจอได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น
หากโชคดีก็อาจจะพบถึงสองคน แต่หากโชคร้าย ในหนึ่งพันคนก็ไม่ปรากฏกายเอกสุวรรณแม้แต่คนเดียว
“หืม ข้าก็เพิ่งรู้ว่าข้าสามารถจับวิญญาณเช่นเจ้าได้” จางอวิ๋นอวี้ตอบเสียงต่ำ ดวงตาหงส์หลุบมองเกาถงที่นอนไม่ได้สติบนพื้น
“เขาจะเป็นอะไรหรือไม่”
“ม่ะ ไม่เป็นอะไร เมื่อครู่ข้าแค่ดูดพลังของเขามานิดเดียวเท่านั้น” ตู้ชิงชิงพูดพลางพยายามสะบัดมือของตัวเองให้หลุดพ้นจากบุรุษที่มีพละกำลังมหาศาล
นี่ก็เป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของผู้ที่มีกายเอกสุวรรณ มีเรี่ยวแรงมหาศาลกับภูตผีปีศาจ แต่เมื่อต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันกลับไม่ได้เปรียบเท่าใดนัก
ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาที่ใช้แรงต่อสู้ห้ำหั่นกัน
เรียกได้ว่าผู้ที่มีร่างกายเช่นนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจกับภูตผีปีศาจเลยก็ว่าได้
“คิดจะหนีหรือ อย่าหวัง” ขณะที่จางอวิ๋นอวี้กำลังพูด โคมไฟที่เกาถงนำมาก็เผาไหม้จนดับ บรรยากาศรอบตัวมืดมิด ดุจราตรีสีหมึกที่ไร้ดวงดาวทอแสง
ตู้ชิงชิงเห็นโอกาสหนี นางกระโดดลงบึงน้ำทันที จางอวิ๋นอวี้ชักสีหน้าไม่พอใจ กระโดดตามลงไปโดยไม่เกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ลงไปในบึงน้ำที่เย็นดั่งน้ำที่ถูกแช่ในภูเขาน้ำแข็ง เมื่อขึ้นฝั่งก็พบว่าเป็นคนละมิติที่เพิ่งจากมา
มิติของป่าไผ่แห่งนี้แม้ไม่มีแสงจากจันทราหรือดวงดารา แต่ก็มีหิ่งห้อยจำนวนมากบินวนเวียนให้ความสว่างจนมองเห็นทิวทัศน์รอบกาย
“จะ เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร” ตู้ชิงชิงที่นั่งตัวเปียกหายใจเหนื่อยหอบจนหน้าอกกระเพื่อมส่งเสียงด้วยความตกตะลึง
ที่นี่มีเฉพาะผีปีศาจหรือเทพเซียนที่เข้ามาได้ คิดไม่ถึงว่าผู้ที่มีกายเอกสุวรรณก็เข้ามาได้เช่นกัน
“ยอมให้ข้าจับดีๆ ไม่ชอบ สงสัยชอบให้ใช้กำลัง” จางอวิ๋นอวี้กดเสียงต่ำ ย่างเท้าเข้าไปหาตู้ชิงชิงท่าทางราวกับต้องการจับนางมาทรมาน
มือหนาจับแขนเล็กเรียวรวบขึ้นเหนือศีรษะ เขาผลักร่างบางหงายหลังนอนลงกับพื้นหญ้า ตู้ชิงชิงดิ้นขัดขืนจนเสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ยเผยให้เห็นเนินเนื้อนูนที่หน้าอกมากขึ้น
“คิดจะยั่วยวนข้าหรือ ฝันไปเถอะ”
เมื่อสิ้นสุดเสียงของจางอวิ๋นอวี้ ก็เกิดประกายแสงสว่างวาบราวกับมีดวงดาราตกร่วงลงมาจากผืนนภา จากนั้นกระดาษอธิษฐานที่ตู้ชิงชิงเขียนคำขอพรแล้วแขวนไว้ตามกิ่งของต้นไผ่ในทุกวันก็ระเบิดออกทำให้เกิดแสงสีทองคล้ายกับการจุดดอกไม้ไฟต่อเนื่องไม่หยุด
นางอยู่ที่นี่มาเกือบสามร้อยปี เขียนคำอธิษฐานวันละใบ แน่นอนว่ากระดาษที่ระเบิดนั้นย่อมมีจำนวนมหาศาล
ตู้ชิงชิงคิดจะใช้โอกาสนี้หลบหนีอีกครั้ง แต่เมื่อจ้องมองดวงตาหงส์ที่ลึกล้ำของจางอวิ๋นอวี้ ก็พบว่าเขาเริ่มมีอาการประหลาด
ชายหนุ่มไม่พูดพล่ามทำเพลงก็ยกมือหนาอีกข้างกระชากเสื้อผ้าของนางออกจนหน้าอกคู่งามเปิดเผยออกมา
เต้าใหญ่ขาวราวหิมะ มีจุกสีดอกท้ออยู่ตรงกลาง ยั่วยวนจนจางอวิ๋นอวี้รู้สึกปั่นป่วนบริเวณท้องน้อย
เขาก็เป็นชายพรหมจรรย์คนหนึ่ง ไม่เคยเห็นเรือนร่างสตรีมาก่อน เมื่อเห็นภาพตรงหน้าถึงกับใจสั่นสะท้าน
กระดาษอธิษฐานยังคงระเบิดต่อเนื่อง จางอวิ๋นอวี้คล้ายกลับเข้าสู่ภวังค์ เขาเริ่มถอดเสื้อผ้าของตู้ชิงชิงออกจนหมดทุกชิ้น
เรือนร่างบอบบาง สัดส่วนโค้งเว้า ตรงที่เล็กก็เล็กน่ารัก ตรงที่ควรใหญ่ก็ใหญ่เกิดความคาดหมาย
ดวงตาหงส์จับจ้องไม่วางตา
“อย่านะ อย่า” ตู้ชิงชิงร้องด้วยความตกใจ ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนจนเป็นผี นี่เป็นครั้งแรกที่นางเปลือยกายให้บุรุษเห็น
ป่าไผ่สวรรค์ เขาเทพประทานหย่วนเฉินพาเชวี่ยชิงเอ๋อร์มายังอีกมิติที่อยู่อีกฝั่งของสระน้ำในป่าไผ่ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เขาและเชวี่ยชิงเอ๋อร์ร่วมรักกันครั้งแรกเมื่อคนหนึ่งลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ส่วนอีกคนเป็นผีสาวที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเชวี่ยชิงเอ๋อร์ถึงจะมาเป็นครั้งแรก แต่นางก็เคยเห็นสถานที่นี้และเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นผ่านความทรงจำของจางอวิ๋นอวี้ช่างน่าอายยิ่งนัก“ท่านพาข้ามาที่นี่ทำไมหรือ” นางถามพลางหลบสายตาหวานเยิ้มของบุรุษ“ทบทวนความทรงจำ” หยวนเฉินอมยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาสะบัดแขนเสื้อครั้งแรกก็ปรากฎเตียงนอนหลังใหญ่ขึ้นด้านข้าง สะบัดแขนเสื้อครั้งที่สอง บนท้องฟ้าสว่างไสวด้วยแสงของดวงดารานับแสนนับล้านดวงสะบัดแขนเสื้อครั้งที่สาม เสื้อผ้าบนร่างกายของเขากับเชวี่ยชิงเอ๋อร์ก็หายไปทันที“เรามารื้อฟื้นความทรงจำกันเถอะ” หย่วนเฉินเอ่ยเสียงหวาน ฝ่ามือหนาประคองร่างอรชรขึ้นนอนบนเตียงอย่างทะนุถนอม“ตะ แต่ว่าข้ากลัว” “เจ้าชอบบอกว่าข้าเฒ่า เจ้ามองข้าสิ ทุกส่วนยังดูหนุ่มและแข็งแรง ที่เฒ่าคือมากประสบการณ์ต่างหาก” เขาพูดพร้อมกับยกฝ่ามือลูบไล้ไปทุกส่วนของร่างกายหญิงสาว เมื่อถึงภูเขาสองลูกและเนินเนื้อที่มีไรข
“ไม่นะ ข้าจะไปหาประมุขเผ่ากระทิง” หนิวอันนั่วพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากการจับกุม “เปิ่นหวางนี่แหละที่จะเป็นประมุขเผ่ากระทิงตนถัดไป” อ๋องเจี้ยนยกยิ้มมุมปาก หนิวอันนั่วได้ยินดังนั้นก็มีท่าทีอ่อนลง นางเคยได้ยินมาว่าปีศาจกระทิงตนนี้มีพละกำลังมหาศาลทั้งยังมีบริวารพอๆ กับประมุขเผ่ากระทิงตนปัจจุบัน คิดทบทวนไปมาก็ยอมขึ้นรถโดยไม่ขัดขืน …….จวนอ๋องเจี้ยน ปีศาจกระทิง หนิวอันนั่วเดินตามหลังขบวนของอ๋องเจี้ยนเข้าจวน สายตาของนางสอดส่องไปทั่ว เห็นปีศาจสตรีโฉมงามหลายเผ่าเดินอ้อนแอ้นออกมาต้อนรับจำนวนมาก ‘เจ้าชู้จริงด้วย ไม่เหมือนเทพหย่วนเฉินของข้าสักนิด’ หนิวอันนั่วคิดในใจพลางเบ้ปากกลอกตาไปมา “พาสตรีด้านหลังเปิ่นหวางไปอาบน้ำแต่งตัวดีๆ เห็นนางใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก” อ๋องเจี้ยนสั่งบรรดาสตรีที่กรูเข้ามาต้อนรับตน“เจ้าค่ะท่านอ๋อง” เจี่ยวซี สตรีที่ยืนอยู่หน้าสุดรับคำ นางยกมือเรียวขึ้นโบกเล็กน้อย เหล่าสาวใช้ก็ดึงแขนของหนิวอันนั่วไปยังเรือนด้านหลัง …….หลังจากอาบน้ำจนผิวพรรณสะอาดผุดผ่อง หนิวอันนั่วก็สวมอาภรณ์เนื้อผ้าชั้นดี จากนั้นนางจึงตัดสินใจไปหาอ๋องเจี้ยนเพื่อพูดคุยธุระของตนเมื่อถ
“ท่านปล่อยข้านะ ฮือๆ ข้ายังอายุน้อย ไม่อยากมีสามีแก่แบบท่าน ฮือ” เชวี่ยชิงเอ๋อร์ร้องไห้ฟูมฟายร้องขอความเห็นใจตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่าของนางกำลังถูกหย่วนเฉินสำรวจอย่างเอาแต่ใจเมื่อบุรุษหยอกล้อเต้าอวบทั้งสองและกลีบเนื้อนุ่มด้านล่างจนอิ่มหนำแล้ว เขาก็ปล่อยให้นางนอนในอ้อมกอดของตน“รอเราแต่งงานกันก่อน ข้าถึงจะรังแกเจ้ามากกว่านี้” หย่วนเฉินพูดพร้อมกับก้มหน้าจุมพิตหน้าผากหญิงสาวอย่างอ่อนโยน“ท่านไม่ได้ฟังข้าพูดเลยหรือ ข้าบอกแล้วว่าจะไม่แต่งกับท่าน” เชวี่ยชิงเอ๋อร์นอนตะแคงหันตัวหนี“ข้าไม่ดีตรงไหนหรือ ข้าเป็นเทพ สามารถให้เจ้าได้ทุกอย่าง” หย่วนเฉินยกแขนพาดร่างบางกอดนางแน่นเชวี่ยชิงเอ๋อร์เงียบ คิ้วโก่งขมวดคิ้วสายตาครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนตอบ“แก่” สตรีตอบสั้นๆ จะบอกว่าขี้เหร่ก็ไม่ใช่ เพราะหย่วนเฉินนับว่ารูปงามยากที่จะหาคนเปรียบ จะบอกว่าไม่มีความสามารถก็ไม่ได้ แค่เขาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ เพียงครั้งเดียวก็ล้มหุ่นไม้ได้หลายสิบตัวมีเพียงเหตุผลนี้ที่เข้าท่าที่สุด“เจ้าเคยได้ยินหรือไม่ว่ายิ่งแก่ยิ่งมีประสบการณ์” หย่วนเฉินที่อยู่ในท่ากอดเชวี่ยชิงเอ๋อร์ทางด้านหลังยกบริเวณช่วงตัวขึ้นสูงเล็กน้อยเพื่อกระซิบข
วันถัดมาลานจัดงานเลือกคู่ดูตัว เชวี่ยหงหลันและเชวี่ยหงอี้เดินนำเชวี่ยชิงเอ๋อร์ขึ้นบนศาลาข้างลานคัดเลือก เมื่อพวกเขาทั้งสามคนเดินบนศาลา ทุกสายตาก็หันมองเป็นตาเดียว เกิดเสียงเงียบขึ้นทั่วบริเวณ จากนั้นไม่นานจึงเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบรอบลาน“นั่นเทพธิดาเผ่าวิหคอัคคีใช่หรือไม่ งดงามตามคำล่ำลือ มิน่าล่ะที่เทพบุตรเผ่าวิหคเร้นกับวิหคสายฟ้าต่างแข่งขันกันมัดใจนาง”“เทพบุตรเผ่าวิหคสายฟ้าของข้าสง่างามยิ่งนัก เป็นที่หลงใหลของสตรีทั่วทั้งแคว้น หากเทพธิดาเผ่าวิหคอัคคีเล่นตัว นางก็ไม่คู่ควร”“นางอาจจะชอบผู้ชายบ้านๆ แบบข้าก็เป็นได้ เทพบุตรเผ่าวิหคอัคคีล้วนรูปงาม นางคงมองคนหล่อจนเบื่อแล้ว”…“ชิงเอ๋อร์ เจ้ามาแล้ว” ท่ามกลางเสียงพูดคุยก็มีเสียงดังขึ้น เป็นเสียงของเหลยเว่ยซิง เทพบุตรเผ่าวิหคสายฟ้า“ชิงเอ๋อร์ ท่านพี่ทั้งสอง เชิญพวกท่านนั่งลงตรงนี้ได้เลย” อ้าวอวี๋เซิง เทพบุตรเผ่าวิหคเร้นลุกขึ้นพร้อมผายมือเชิญพวกเชวี่ยชิงเอ๋อร์ดั่งคนกันเองเชวี่ยชิงเอ๋อร์พยักหน้ายิ้มรับน้อยๆ ทว่ากลับเดินเลยไปนั่งตรงอื่น“ตามสบายกันนะ พวกข้ามาร่วมงานเพื่อชมความครื้นเครงเท่านั้น” เชวี่ยหงหลันโบกมือให้บุรุษทั้งสองก่อนเดินผ่าน
แดนวิหคอัคคีเมืองวิหคอัคคี“ชิงเอ๋อร์ ลูกควรไปงานหาคู่ที่แดนวิหคสายฟ้านะ งานนี้เป็นงานใหญ่ ลูกหลานของหัวหน้าเผ่าแต่ละดินแดนล้วนไปกันทั้งนั้น” หัวหน้าเผ่าวิหคอัคคีพูดกับบุตรสาวของตนอย่างอ่อนโยน“แต่ข้าไม่อยากไปนี่นา งานหาคู่ดูตัวช่างไร้สาระ เอาเวลาไปฝึกบำเพ็ญเพียรดีกว่า” เชวี่ยชิงเอ๋อร์ถอนหายใจ ร่างบางเดินไปนั่งเก้าอี้หน้าตาเหนื่อยหน่าย “ไปเถอะ แม้จะไม่ได้คู่บำเพ็ญเพียร แต่ก็อาจจะได้สหายรู้ใจกลับมา จะเป็นสหายหญิงหรือชายต่างก็ดีทั้งนั้น” ฮูหยินหัวหน้าเผ่าวิหคอัคคีกล่าวพร้อมกับให้ลี่ลี่ยกขนมส่งให้บุตรสาวตนเชวี่ยชิงเอ๋อร์หยิบขนมขึ้นมากัดเข้าปากเคี้ยวไม่กี่คำก่อนพูดต่อ “ข้าเพิ่งอายุสิบแปดปีก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้แล้ว นกพวกนั้นใช้เวลากันตั้งร้อยกว่าสองร้อยปีถึงจะแปลงร่างได้ ขนาดเกิดมาบนทรัพยากรอันมหาศาล แสดงว่าไร้ความสามารถ หรือไม่ก็มัวแต่สนใจเรื่องไร้สาระ”“ชิงเอ๋อร์น้องสาวข้านอกจากมีทรัพยากรแล้ว ยังมีวาสนามากกว่าผู้อื่น อายุห้าขวบก็แปลงร่างได้แล้ว พวกตัวเล็กจ้อยนั่นไม่คู่ควรกับนาง” เชวี่ยหงหลัว บุตรชายคนโตของหัวหน้าเผ่าเข้ามาภายในห้องโถงเอ่ยเสียงดัง “แต่ว่า งานหาคู่นี้เจ้าควรไปเสียหน่
“นำตัวนางไป”เทียนจวินออกคำสั่งน้ำเสียงทรงพลัง ทหารเซียนสองคนจึงไม่รีรอนำตัวตู้ชิงชิงออกนอกตำหนักไห่ถังอย่างไร้เมตตาหลังจากที่เทียนจวินพูดคุยกับฮองเฮาสักพักก็กลับตำหนักของตน ตงฟางอันนั่วที่ยืนหลบอยู่ด้านข้างก็เดินมาพูดคุยประจบเอาใจ“ฮองเฮาเพคะ จดหมายของผี เอ่อ แม่นางตู้ผู้นั้น หม่อมฉันจะเอาไปส่งให้ท่านเทพหย่วนเฉินเองเพคะ จะได้ไม่ต้องลำบากท่านเทพ”ฮองเฮาครุ่นคิดเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของตงฟางอันนั่วจึงพยักหน้าตกลง “ได้สิ รบกวนเจ้าแล้ว”“ไม่รบกวนเลยเพคะ ถึงอย่างไรหม่อมฉันก็ต้องกลับไปที่ตำหนักอยู่แล้ว” ตงฟางอันนั่วตอบ ริมฝีปากถูกกัดแน่นไม่ให้เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาแกล้งทำเป็นลืมมอบสักหนึ่งอาทิตย์ หรือไม่ก็แกล้งทำหาย แค่นี้หย่วนเฉินก็จะพลาดกับตู้ชิงชิงอีกครั้ง........ลานด้านหน้าบ่อจุติตู้ชิงชิงถูกพาตัวมายืนด้านหน้าบ่อ เทพที่เฝ้าบ่อจุติก็กระวีกระวาดหยิบถ้วยน้ำลืมเลือนมาส่งให้นาง“ดื่มลงไปเถอะ การลืมดีต่อการจุติใหม่ของเจ้า” เทพผู้เฝ้าบ่อบอกกับตู้ชิงชิง“ไม่ต้องกังวลไป แม้เทียนจวินจะให้เจ้าไปเกิดเป็นเดรัจฉาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาของเจ้า หากเจ้าวาสนาดีก็อาจจะ







