หน้าหลัก / ประวัติศาสตร์สมมติ / เผลอใจรัก / ตอนที่ 7 ทางที่เลือกแล้วไม่คิดหวนกลับ 1

แชร์

ตอนที่ 7 ทางที่เลือกแล้วไม่คิดหวนกลับ 1

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-27 16:50:35

กว่าหนึ่งชั่วยามทีเดียวหวงลี่ฟางถึงได้เวลาดูแลปรนนิบัติใส่เสื้อผ้าให้จ้าวฉีเสวียน

ความกร้าวแกร่งทรงพลังที่สตรีอื่นใช้สายตามองจนรับรู้ได้ ยังไม่เท่าเศษเสี้ยวที่นางกำลังเผชิญ

ขณะตรวจดูความเรียบร้อยแล้วเงยหน้ายิ้มแย้มอ่อนหวาน                                เป็นรอยยิ้มละมุนละไมที่ส่งถึงดวงตา พาให้ใบหน้าอ่อนโยนแลดูนุ่มละมุนกว่าสตรีใดในใต้หล้า

เมื่อแต่งตัวเสร็จ นางมองอย่างชื่นชมจากก้นบึ้งของหัวใจ “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

เขาพยักหน้าเอ่ยเสียงเรียบ “อืม ข้าไปล่ะ”

นางเดินไปส่ง แต่ยังไม่ทันออกนอกห้องหับในเรือนส่วนตัว เสื้อคลุมที่สวมไว้หลวมๆ พลันร่นลงเผยหัวไหล่นวลเนียนหมิ่นเหม่

หวงลี่ฟางรีบรั้งขึ้น ทว่ากลับสายไป

กิริยาอ่อนหวานนั้นมิอาจหลุดรอดดวงตาปานเปลวเพลิงพร้อมแผดเผาของใครบางคนได้

จ้าวฉีเสวียนที่เสมือนเชื้อเพลิงใกล้กองไฟจุดติดง่ายดายยิ่งหันมารั้งร่างนวลเนียนหอมกรุ่นเข้าหาทันที

“เจ้ากล้ายั่วยวนข้า”

หวงลี่ฟางกะพริบตา นางมิได้ตั้งใจเลยสักนิด

มือใหญ่เกี่ยวเอวเล็กให้ประชิด เนินอกนุ่มๆ สัมผัสอกแกร่ง เนื้อแนบเนื้อ บนล่างผสานพันกัน จุมพิตเกิดขึ้นอย่างร้อนแรง อารมณ์ปรารถนาจุดติดทันใด ชายหนุ่มยกหญิงสาวขึ้นนั่งบนโต๊ะริมหน้าต่างที่ปิดสนิทมิได้เปิดอ้า

เดิมทีจ้าวฉีเสวียนตัวโตสูงใหญ่มาก หวงลี่ฟางสูงแค่ไหล่เขา มีเพียงยามต้องทำกิจกรรมเช่นนี้ที่อกกว้างล่ำสันที่น่าลูบไล้ของเขาจะอยู่ระดับเดียวกับหน้าอกนุ่มนิ่มของนาง

เขาโน้มตัวก้มหน้ากดจูบริมฝีปากลากไล้ไปที่ติ่งหูซอกคอพลางเลิกกระโปรงเปิดกางเกงชั้นใน ยกขาข้างหนึ่งของนาง เปิดทางให้ตัวตนของเขาผงาดกล้าและดำดิ่งลึกล้ำ ตอกตรึงลงไปในความอุ่นนุ่มชุ่มฉ่ำแสนหวานอย่างลึกซึ้ง

หวงลี่ฟางไม่เคยปฏิเสธ นางตามใจจ้าวฉีเสวียนทุกอย่าง พอๆ กับที่เขาเอาแต่ใจกับนางอย่างไม่เลือกเวลา

ต่อหน้าบิดามารดา เบื้องหน้าไพร่ฟ้าธารกำนัลและยามสะสางงานแต่ละขั้น จ้าวฉีเสวียนเป็นบุรุษสุขุม เงียบขรึมจริงจัง เคร่งครัดกฎเกณฑ์ ยึดมั่นระเบียบแบบแผน มีเพียงกระทำการเหลวไหลกับนาง เขากลับผาดโผนไร้กฎเกณฑ์อย่างสิ้นเชิง

แม้หวงลี่ฟางมีนิสัยพูดน้อยถนอมคำ มารยาทงามล้ำ ท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตน แต่เมื่อถูกคนเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจ นางก็มักประท้วงด้วยเสียงครวญครางแว่วหวานอันเย้ายวนใจเสมอ

นี่ไยมิใช่เขาเสนอนางสนองเพื่อแลกเปลี่ยนความสุขสมระหว่างชายหญิง

การร่วมรักเกิดขึ้นเนิ่นนาน ก่อเกิดหลุมดำแห่งความเสพสมคล้ายสวรรค์กลั่นแกล้ง ประหนึ่งเทพจันทราแสร้งตบตาคนว่ามนุษย์เดินดินไม่มีอยู่จริง ใต้หล้านี้มีเพียงเทพธิดากับเทพเซียนกำลังเสพสมกันบนชั้นฟ้าชั้นดาวดึงส์เท่านั้น

ความรู้สึกถึงดวงดาวที่พร่างพราวและคลับคล้ายว่าทั้งตัวล่องลอยสูงลิบอยู่บนเมฆาเกิดขึ้นจนฟ้าเปลี่ยนสีอีกครา จ้าวฉีเสวียนก็กลับจวนชินอ๋อง หวงลี่ฟางจึงได้รับอิสระ

จ้าวฉีเสวียนมิเคยกักขังหน่วงเหนี่ยวนางแต่อย่างใด ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นนางเต็มใจ

กาลก่อนนางที่ไม่เคยได้ย่างเท้าออกนอกเรือน ทั้งวันต้องท่องตำรา ทบทวนบทเรียน คร่ำเคร่งฝึกศาสตร์ทุกแขนง ศิลปะสี่ประการของสตรี กระทั่งมารยาทและความประพฤติทุกอย่างภายใต้การสั่งสอนอันเข้มงวด

อิสระคืออะไร นางไม่รู้จักด้วยซ้ำ

หลายครั้งอยากโยนทุกสิ่งทิ้งไปอย่างไม่ไยดีแต่ก็มิอาจกระทำ จำต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอันสูงส่งเทียมฟ้า

แต่ยามนี้นางมีเวลาว่างมากมาย นางใช้เวลาว่างที่ได้รับไปกับฝึกทำอาหารที่จ้าวฉีเสวียนชอบ บางครั้งก็ปักผ้า เลี้ยงปลา              บางครายังได้ออกไปเที่ยวที่ตลาดเลือกหาซื้อของที่ตัวเองชอบและจ้าวฉีเสวียนอาจจะพึงใจเมื่อเห็นสิ่งเหล่านั้นอยู่บนเรือนร่างนาง

เบี้ยหวัดรายเดือนนางไม่มีหรอกเพราะมิได้มีสัญญาขายตัวเฉกบ่าวไพร่ทั่วไป มีเพียงหีบไม้ที่จ้าวฉีเสวียนมักจะแวะเวียนมาเติมเงินใส่ทองวางเครื่องประดับเอาไว้ให้

ส่วนข้าวของเครื่องใช้รวมถึงอาหารทุกมื้อล้วนมีพร้อมพรั่งเพียงเอ่ยปากสั่ง

คฤหาสน์หนิงเทียนแห่งนี้มีสาวใช้และบ่าวชายประจำอยู่แค่น้อยนิดไม่กี่คน ซึ่งแตกต่างจากจำนวนบ่าวไพร่ที่หวงลี่ฟางเคยควบคุมดูแลมาตลอดสิบกว่าปีในจวนหวง แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว คนมากปัญหาย่อมมาก เรื่องยุ่งยากย่อมตามมา

หวงลี่ฟางเหลือบตามองท้องฟ้า วันนี้อากาศค่อนข้างดียิ่ง นางจึงตัดสินใจว่าควรออกไปหาซื้อผ้ามาเย็บถุงหอม คิดเอาไว้ว่าต้องเพิ่มสมุนไพรบำรุงร่างกายให้มากหน่อย สุขภาพของซื่อจื่อจะได้แข็งแรงตลอดเวลา

หญิงสาวมักต้องเข้าร้านยาบ่อยครั้งเพื่อหาซื้อยาห้ามครรภ์ด้วยตนเองโดยไม่เรียกใช้สาวใช้หรือบ่าวไพร่คนใด

ดังนั้นจึงมีโอกาสหาซื้อสมุนไพรดีๆ มาเย็บใส่ถุงหอมเพื่อเตรียมไว้ให้จ้าวฉีเสวียน วันนี้ก่อนจากกันนางก็สอดถุงหอมอันใหม่ให้เขา ทุกห้าวันสิบวันที่เจอกันล้วนเป็นเช่นนั้น เขาเองก็ชอบเปลี่ยนถุงหอมตามที่นางมอบให้อย่างไม่เคยปฏิเสธ

ตลาดเมืองผิงโจวยังคงคึกคักเหมือนทุกวัน ประชากรในเมืองหน้าด่านแห่งนี้ค่อนข้างหนาแน่นไม่แพ้เมืองหลวงแคว้นจิน

นอกจากมีจำนวนเยอะผู้คนยังมากหน้าหลายตา หมุนเวียนเข้าออกประตูเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เพราะมีคนของแคว้นฉินเข้ามาติดต่อค้าขายตลอดฤดูกาล บ้านเรือนมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเจ้าของบ่อยครั้ง และหลายครั้งเจ้าของเดิมร่ำรวยมั่งคั่งก็ขยับขยายไปอยู่เมืองหลวงที่เจริญกว่าและหลายครั้งก็มีคนที่ขยับฐานะจากยากจนขึ้นเป็นเศรษฐีใหม่

นับเป็นเมืองที่เหมาะแก่การอยู่แบบเงียบๆ ไม่เผยตัวตนของหวงลี่ฟางอย่างยิ่ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เผลอใจรัก   ตอนที่ 35 หึงหวง 1

    จวนชินอ๋องทางฝั่งจ้าวฉีเสวียน เขาไม่รู้ว่าช่วงนี้ตนเองเป็นอะไรไป เหตุใดถึงรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจตลอดเวลาครั้นหันไปมองหน้าอันงดงามเปล่งปลั่งของสตรีที่ตัวติดกันตลอดหลายวันมานี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจ ไฉนไม่เคยปฏิเสธนางสักครา“น้องเฟยเฟยจะติดตามไปด้วยกันทุกที่ก็ได้”หลิงเฟยแย้มยิ้มเบิกบานราวบุปผา “พี่เสวียนไปที่ใดหรือ?”ชายหนุ่มตอบนิ่งๆ “ข้าจะเข้าไปที่คฤหาสน์หนิงเทียน”“คฤหาสน์หนิงเทียน?” หลิงเฟยให้รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง ที่นั่นมีสาวงามหยาดเยิ้มซึ่งนางเทียบไม่ติดอยู่ผู้หนึ่ง “เหตุใดท่านต้องไปที่นั่นอีก เราสองคนกำลังจะหมั้นหมายกันแล้วนะเจ้าคะ”นั่นสิ เหตุใดต้องไปที่นั่น จ้าวฉีเสวียนเองก็ไม่เข้าใจ ในอกพลันร้อนรุ่มแปลกๆ เขารู้สึกเหมือนลืมใครไปสักคนหนึ่งจ้าวฉีเสวียนให้รู้สึกปวดหัว เขาพยายามนึกภาพสตรีผู้นั้น ทว่าในความเลือนรางไม่ชัดเจน กลับเห็นเป็นหลิงเฟยที่ยื่นหน้ามา ภาพที่เพียรนึกถึงพลันอันตรธานหายไป คล้ายถูกมนต์มารล่อลวงและปิดตาบิดเบือนในคราวเดียวกันหลิงเฟยยื่นหน้ามองจ้าวฉีเสวียนอย่างกดดัน สุ้มเสียงที่เคยหวานใสระรื่นหูบัดนี้เปลี่ยนไปเป็นหวานแหลมเฉียบคม“ข้าไม่ให้พี่เสวียนไปเจ

  • เผลอใจรัก   ตอนที่ 34 ใกล้เวลาต้องหักใจจากชายที่รัก 2

    สตรีทั้งสองพากันเดินไปนั่งจิบชาในศาลารับลมริมบึงบัวฟางซินที่ไม่ตามไปจึงได้โอกาสหันมาหาสามีอย่างรักใคร่“พี่เหอ เหนื่อยหรือไม่?”จิ้นเหอหันไปเห็นภรรยาคนงามมีหรือยังกล้าแข็งแรงอยู่อีก เขาบ่นอย่างเหน็ดเหนื่อย“ข้ารู้สึกอ่อนเพลียยิ่งนัก”“โอ...ข้าจะพาท่านพี่ไปพักเจ้าค่ะ”เวลานี้ยังต้องยืนเวรตามหน้าที่ ฟางซินจึงดึงจิ้นเหอให้ไปนั่งลงบนขั้นบันไดหน้าห้องหนังสือไม่ไกลจากตำแหน่งยืนยาม ก่อนลงมือบีบนวดให้อย่างเอาอกเอาใจนางถามเสียงหวาน “ปวดเมื่อยตรงนี้หรือไม่ ข้านวดให้”จิ้นเหอเสียงอ่อน “ปวดมาก เมื่อยยิ่ง ตรงนี้ด้วย”ฟางซินเริ่มตาโต “ท่านพี่ปวดเมื่อยถึงเพียงนี้ ข้าอยากให้ท่านลางานสักคืนเหลือเกิน” นางรีบกระซิบข้างหูน้ำเสียงกระเส่า “แล้วข้าจะนวดให้ท่านทั้งตัว ไร้เสื้อผ้ากางกั้น ดีหรือไม่เจ้าคะ”ดวงตาจิ้นเหอพลันสว่างวาบ ใจเหลวไปหมด“ข้าจะลางานคืนนี้เลย”จิ้นอันที่ยืนอยู่เพียงกลอกตาขึ้นฟ้าอย่างหมั่นไส้เวลาล่วงเลยผ่านไปหนึ่งชั่วยามนับเป็นเวลาที่ไม่นานเลยสำหรับทุกคน ทว่ากลับยาวนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์ในความรู้สึกของหวงลี่ฟางเหตุเพราะจ้าวฉีเสวียนอยู่ในห้องกับหลิงเฟยตลอดเวลา หลังจากนั้น พอเขาออกมาจากห

  • เผลอใจรัก   ตอนที่ 33 ใกล้เวลาต้องหักใจจากชายที่รัก 1

    ระเบียงทางเดินระหว่างเรือนรับรองที่ทอดยาวเชื่อมต่อกับเรือนตำราหวงลี่ฟางยืนถือถาดน้ำชารสล้ำหอมกรุ่นยืนนิ่งเงียบงัน มิอาจขยับเขยื้อนไปข้างหน้าได้อีกแม้ครึ่งก้าวเมื่อครู่ จ้าวฉีเสวียนสั่งให้นางรอปรนนิบัติชงชาให้ในห้อง แต่เขาไม่ชอบชาเก่าที่อยู่ในห้องหนังสือ นางจึงออกมาชงชากาใหม่ ทว่าพอกลับมาคนกลับไม่รอชิมชาฝีมือนางอีกต่อไปด้านข้างนางคือฟางซินที่ยืนกระซิบกระซาบอยู่ไม่ห่าง “ซื่อจื่อมีท่านหญิงหลิงคอยดูแลชงชาให้แล้ว เจ้าอย่าเข้าไปเลย”พอพูดจบ ฟางซินลอบกลืนน้ำลายอึกหนึ่งอย่างยากลำบากด้วยหน้าที่ต้องรับผิดชอบ งานต้องทำให้ลุล่วง นางจึงต้องทำอย่างจำใจ ทว่าส่วนลึกกลับรู้สึกผิดเหลือเกินหญิงสาวกลั้นใจเอ่ยอีกว่า “ท่านหญิงหลิงเฟยผู้นี้คือคู่หมั้นของซื่อจื่อเชียวนะ เจ้าควรรู้เอาไว้”คู่หมั้น...ร่างอรชรนิ่งงันราวถูกสาปในที่สุดวันนี้ก็มาถึง...แคว้นจิน นิยมให้ชายแต่งงานอายุยี่สิบ หญิงแต่งสิบห้า ปีหน้าจ้าวฉีเสวียนก็อายุครบยี่สิบปีแล้วคงสมควรแก่เวลาสินะส่วนนางหากไม่เกิดเหตุพลิกผันก่อนอายุสิบห้าปีก็คงไม่แคล้วกลายเป็นชายารัชทายาทอย่างขมขื่น ไหนเลยจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดจ้าวฉีเ

  • เผลอใจรัก   ตอนที่ 32 วสันต์พร่ำรัก 2

    พี่น้องสกุลจ้าวล้วนไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันและกัน ทุกคนมีสิทธิ์ทำอะไรตามอำเภอใจเต็มที่ ขอแค่ไม่หลงผิดคิดทำชั่ว เรื่องที่ทำต้องยึดมั่นถือมั่นในคุณธรรมเป็นที่ตั้งอ้อ...แต่อาจมีบ้างในเรื่องคู่ครองที่ออกจะเอาแต่ใจไปบ้างความคิดของจ้าวเล่อเสียล่องลอย ขณะที่หลิงเฟยยังคงพูดถึงจ้าวฉีเสวียน “พี่เสวียนซื้อคฤหาสน์ไว้พักผ่อนจริงดังเจ้าว่า...”และยิ่งเล่า สีหน้าหลิงเฟยยิ่งเผยความนัยคล้ายไม่ยินดี“ที่นั่นน่ะ มิใช่คฤหาสน์ธรรมดา แต่เป็นเรือนทองซ่อนสตรี พี่เสวียนซ่อนสาวงามเอาไว้ถึงสองคน แม่นางฟางซินก็คือหนึ่งในสาวงามของพี่เสวียนที่ยกให้จิ้นเหอ”จ้าวเล่อเสียพยักหน้าเอื่อยๆ แม้จะแปลกใจเพราะนี่มิใช่นิสัยของพี่ชาย แต่นางก็พอทำความเข้าใจได้ว่า“เรื่องนี้หาใช่เรื่องแปลกนี่นา พี่รองอาจได้รับมาเพราะเป็นเครื่องบรรณาการจากขุนนาง เขารับไว้แล้วส่งต่อให้ลูกน้องอีกที บุรุษสกุลจ้าวทำเช่นนี้ตั้งแต่รุ่นท่านพ่อแล้วล่ะ”หลิงเฟยรีบพูดอีกว่า “แต่ก่อนหน้าฟางซิน พี่เสวียนเลี้ยงดูหญิงงามไว้คนหนึ่ง นางผู้นี้อยู่กับพี่เสวียนเต็มหนึ่งปีแล้ว”จ้าวเล่อเสียเริ่มมีปฏิกิริยา “จริงหรือ?”หลิงเฟยถอนหายใจ “ผู้คนเล่าลือกันทั

  • เผลอใจรัก   ตอนที่ 31 วสันต์พร่ำรัก 1

    ธรรมชาติของหวงลี่ฟางดื้อรั้น ยึดมั่นถือมั่น ต้องถูกกระตุ้นด้วยวิธีที่รุนแรงต่อจิตใจระดับนี้เท่านั้นรุ่ยเยียนเหลือบตามองหลันฮวาแวบหนึ่งแล้วนิ่งสนิท พยายามระงับโทสะที่เจียนระเบิดในที่สุดเพลิงพิโรธในอกก็สงบลง นางหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด ก่อนเผยยิ้มเย็นยะเยือก“ดี!” ว่าพลางหันไปหยิบตลับหยกใหม่ในลิ้นชักใต้โต๊ะขึ้นมายื่นให้หลันฮวา“นี่คือผีเสื้อ ‘วสันต์พร่ำรัก’ ละอองเรณูจากปีกผีเสื้อนี้มีฤทธิ์เดชกล้าแกร่งยิ่งกว่าครั้งก่อน มันมิใช่แค่ควบคุมจิตวิญญาณแต่จะทำหน้าที่สร้างปฏิสัมพันธ์ให้จิตวิญญาณผสานเกิดเป็นพันธนาการรัดรึงยากฉุดรั้งให้กลับคืน หากใช้กับคนสองคนที่มีใจผูกพันแต่เดิมไม่ว่าด้วยฐานะใด จะรักกันแน่นแฟ้นมากขึ้น”นั่นหมายความว่า ต่อให้จ้าวฉีเสวียนไม่ได้มีใจให้หลิงเฟย ทว่าแค่รู้จักมักคุ้นกันตั้งแต่เด็กก็จะแปรเปลี่ยนเป็นรักปักใจทันทีหลันฮวาเก็บตลับหยกอันใหม่ใส่แขนเสื้ออย่างระมัดระวัง“รับทราบเจ้าค่ะ”ด้วยไม่แน่ชัดถึงความรู้สึกนึกคิดของจ้าวฉีเสวียนการที่เขาแอบเลี้ยงดูสาวงามไว้ที่คฤหาสน์หนิงเทียนจึงมิใช่เรื่องที่ควรค่าแก่การรายงานบุรุษอายุสิบแปดสิบเก้าปีผู้หนึ่งจะมีสตรีเอาไว้ปล

  • เผลอใจรัก   ตอนที่ 30 สาวงามแพ้ใจ 4

    จิ้นเหอไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้เพียงว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว มีเพียงต้องไปต่อเท่านั้น เขาไม่มีทางพอแค่นี้เป็นที่แน่นอนเสื้อผ้าพลันปลดเปลื้อง สตรีแยกขา บุรุษแทรกกลาง การสอดใส่เกิดขึ้นตามด้วยเสียงครางครวญอย่างสุขสมไม่มีหรอกการเล้าโลมคลอเคลีย ชายหญิงคู่หนึ่งคล้ายน้ำมันไหลหลากปะทะเปลวไฟ ร้อนแรงยิ่งกว่ากองเพลิงสีน้ำเงิน[1] ในหุบเขาบรรลัยกัลป์คนสองคนคล้ายลอยล่องหลุดพ้นจากแดนดินสู่แดนสรวงทว่าเสี้ยวสติหนึ่งของบุรุษพลันชะงัก เมื่อสัมผัสและรับรู้ได้ถึงเยื่อบางๆ ที่ขาดสะบั้นกับหยาดเลือดพรหมจรรย์ที่หลั่งรินเบาๆ จากช่องทางเร้นลับคับแคบซึ่งกำลังบีบรัดตัวตนของเขาเอาไว้แน่นจิ้นเหอที่ขบกรามก้มหน้าซุกซบซอกคอหอมถึงกับเบิกตาอย่างตระหนกและงงงัน กระนั้นยามนี้ต่อให้เอาอาชาศึกมาฉุดรั้ง คนย่อมมิอาจหยุดยั้งแม้ลมหายใจเดียว ยิ่งมองเห็นดวงตาฉ่ำน้ำที่หวานหยด หยดเหงื่อที่หยาดเยิ้ม ริมฝีปากชุ่มฉ่ำที่กำลังเม้มน้อยๆ อย่างทรมานสุขสมเช่นนั้นยอมตายอนาถบนยอดถันสาวงาม นับเป็นผู้กล้าโดยแท้...ห้องรับรองส่วนตัวของโรงน้ำชาฝูหมิงบนชั้นสอง สตรีสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากันนิ่งงัน มีเพียงโต๊ะเตี้ยกั้น ห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status