Beranda / LGBTQ+ / เพรงพ่าย / ยังสวยเหมือนเดิม

Share

ยังสวยเหมือนเดิม

Penulis: ลลนล
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-09 17:30:08

“อย่าทำอีก พี่ก็ไม่ชอบ” กิดากานต์ว่าหน้าตึง เพราะเธอรู้ว่าปริญญ์เป็นคนที่เธอควบคุมไม่เคยได้ อดีตคนรักมักจะทำในสิ่งตรงข้ามกับที่ขอร้องอยู่เสมอ

“มันก็ไม่อะไรนะ แค่หยอกกันเล่นเฉยๆ ยังไงพวกเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเราเคยทำงานด้วยกันมาก่อน”

“บอกหมดแล้วเหรอ”

“บอก แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้บอก ก็คือสิ่งที่ทุกคนไม่มีวันรู้นั่นแหละ”

ปริญญ์หมายถึงเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งคู่ ที่เคยอยู่กันมาอย่างไม่มีสถานะอื่น นอกจากรุ่นพี่รุ่นน้องในสายตาคนอื่นเท่านั้น

“ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะน่า”

แม้กิดากานต์จะทำท่าหงุดหงิดใส่ขนาดไหน แต่อีกคนก็ยังจะเอามือเท้าคางมองกัน

“ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ”

“ไอ้ปากมอม ไอ้เจ้าชู้ หุบปากเดี๋ยวนี้เลย น้องๆ จะมาละ”

และนั่นเองที่ทำให้หมอปริญญ์ยิ้มหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ

“พี่หมอรู้ได้ยังไงคะว่าไข่นกกะทาทอดเจ้านี้อร่อย”

บ๊อบบี้ที่ถือจานไข่นกและจานส้มตำถามส่งสัญญาณก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนตัวออกมาจากมุม

“คนที่ตลาดบอกมาน่ะค่ะ”

“อ๊ะคุณแม่ ของโปรดคุณแม่” บ๊อบบี้บอกแล้วก็วางจานขนมไข่นกกะทาทอดไปไว้ตรงหน้ากิดากานต์อย่างเอาใจ

“ตั้งใจซื้อมาฝากพี่อูนเลยแหละ”

อีกครั้งที่กิดากานต์ต้องระงับอารมณ์ด้วยการสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดไปอย่างช้าๆ

“น่าจะเลื่อนขั้นไวนะเรา เอาใจเก่ง แต่น่าจะเอาใจผิดคน หนูต้องไปเอาใจ ผอ. แทนนะคะ” กิดากานต์ว่าเชิงหยอกเย้าให้ได้พอหัวเราะ ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้ช่วยทั้งสอง ว่ากลิ่นแปลกๆ ของสองคนนี้ มันหมายถึงอะไร

“เพิ่งเห็นตอนหมอปริญญ์ไม่ใส่แว่นดำ เลยเพิ่งรู้ว่าพี่หมอสวยกว่าที่คิดอีกนะคะ” หนุงหนิงพูดเขินๆ และคนถูกทักก็พูดจริงจังขึ้นมาทันทีว่า

“แพ้แสงน่ะค่ะ พี่แพ้แสงออร่าแถวนี้น่ะ”

“หมายถึงบ๊อบบี้ใช่มั้ยฮะ!?” บ๊อบบี้รีบสานต่อมุกที่ไม่รู้จะชิ่งโดนใคร โดยการเอาตัวโยนลงไปเล่นให้สถานการณ์ไหลลื่นไปทั้งเสียงหัวเราะชอบใจ

“ออร่าจากครีมปรอทพี่บ๊อบบี้อ่ะน่ะ”

หนุงหนิงชอตฟิลขึ้นมาให้เสียงหัวเราะยิ่งดังขึ้นอีก ท่ามกลางความอิดหนาระอาใจของกิดากานต์ ผู้ที่โดนไล่ต้อนเป็นลูกแกะจนหัวหมุนเลยทีเดียว

กระทั่งมาถึงตอนที่ต้องแยกย้ายกันกลับไปทำงานกันตอนบ่ายโมง ทันใด...บ๊อบบี้ก็กระตุกชายเสื้อหนุงหนิงยิกๆ นิ้วก็ชี้ไปยังกระเป๋ากางเกงของกิดากานต์ที่มีบางอย่างโผล่ออกมาให้พอเดาได้ว่าคืออะไร

‘แว่นๆ หมอปริญญ์’ บ๊อบบี้พูดให้อ่านปากออกมาได้อย่างนั้น

“พี่หมอไม่ใส่แว่นแล้วเหรอคะ”

ทันใดหนุงหนิงก็เสียบมีดใส่ทันทีจนบ๊อบบี้แทบเต้นผ่าง นี่คือตัวอย่างเพื่อนสนิทที่ทำให้บ๊อบบี้เก็บสีหน้าไม่ทัน จนต้องทำเป็นสะบัดเดินหันหลังไปนับจานที่ชั้นวาง ท่ามกลางรอยยิ้มอ่อนๆ ที่ปริญญ์รู้ทันทุกอย่าง เลยชี้นิ้วไปยังกระเป๋ากางเกงคนที่เพิ่งหันตามมาเป็นคนสุดท้ายว่า “แว่นโดนยึดไปแล้วอ่ะ”

กิดากานต์ทำหน้ามึนงง ตกตะลึงนิดหน่อย  หากแต่พอรับรู้ต่อสายตาของทุกคนที่มองมายังกระเป๋าตุงของตัวเอง เธอก็บอกหน้าเหนื่อยหน่ายออกไปว่า “จะไม่ให้ยึดได้ไง คนบ้าที่ไหนใส่แว่นดำตอนทำงานในร่ม”

“ออร่ามันแรงไงแม๊!”

คล้ายๆ กิดากานต์จะโดนรุม เธอจึงยังคงความเอือมระอาไว้กับใบหน้า แล้วพูดออกมาว่า “ไว้วันหลังจะซื้อครีมกระปุกใหม่ให้นะบี้ ขาวเกิ๊น”

พูดแล้วก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่แยแส กิดากานต์จะเก็บเอาเรื่องเล็กเรื่องน้อยมาคิดมั่วไปหมดคงไม่ไหว อยากสนุกก็สนุกไป ถ้าอยากรู้ จะรู้ได้แค่ไหนกัน หากเธอจะยืนยันที่จะปฏิเสธ ใครจะทำอะไรเธอได้

แว่นตากันแดดถูกยัดตามเข้าไปกับถุงผ้าสีเทาอีกครั้ง ตามด้วยตู้เอกสารถูกปิดลงไปอย่างเบามือ แล้วเจ้าของห้องก็เดินไปนั่งสงบจิตสงบใจอยู่ที่เก้าอี้ทำงาน

เสียงลากถอนลมหายใจยาวๆ หลายครั้งต่อเนื่อง มันบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวได้ดี กิดากานต์นั่งหลับตา ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แล้วหัวคิ้วก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากันแน่น

คนรักเก่าวนกลับเข้ามาในชีวิตอย่างนั้นหรือ ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเธอ เลยเชื่อมั่นว่า ตัวเองสามารถรับมือกับมันได้

ก่อนจะคบกัน ปริญญ์ก็เคยเข้าหากันด้วยลักษณะนี้ คนคนนั้นไม่เกรงกลัวที่จะเปิดเผยความรู้สึก การเดินหน้าลุยเคยทำให้เธอใจสั่นจนไม่เป็นตัวของตัวเองมาแล้วอย่างหนัก แต่ครั้งนี้มันคงไม่ได้ผลอย่างเช่นวันวาน เพราะรอยช้ำในใจมันยังทนโท่ จนไม่อยากโง่เอาตัวเข้าไปเจ็บรอบสอง

เพียงแต่เธอกำลังสงสัยว่า เลิกราครานั้น ร่องรอยบาดหมางมันบาดลึกเอาการ มันไม่มีทางที่จะทำให้ปริญญ์ชะล้างความรู้สึกที่ขาดวิ่นนั้นได้เนียนปานนี้

เพราะตอนนั้นไม่ใช่แค่เธอที่โกรธ แต่อีกฝ่ายก็ปั้นปึ่งไม่แพ้กัน แล้วอยู่ๆ ในวันที่ต้องวนมาเจอกันอีกในสถานการณ์ที่ต่างหลีกไม่พ้น ปริญญ์ไม่มีทางพลิกขั้วอารมณ์ยิ้มแย้มได้จนบางคราวเธอเองก็ยังเผลอคิดว่ามันคือออกมาจากความรู้สึกจริงๆ

มันไม่มีทางหรอกน่า ไอ้เจ้าวายร้ายคนนั้นไม่มีทางแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาในตอนนี้ เพราะเธอมั่นใจว่า ในแต่ละวินาทีในสายตาคนอื่น  พวกเธอกำลังแสดงละครในโลกแห่งความเป็นจริงอยู่เท่านั้น

ฉะนั้น...ในเมื่อกิดากานต์ต้องการจะเก็บความสัมพันธ์ที่ผ่านมาเป็นความลับ เธอจึงไม่อาจจะตั้งป้อมเป็นศัตรูท่ามกลางผู้คนได้ และนี่คือจุดอ่อนที่เธอปกปิดมันไม่ได้

แต่ช่างมันเถอะ เธอมีวุฒิภาวะมากพอที่จะควบคุมมันได้ งานส่วนงาน เรื่องอื่นก็ช่างหัวมัน ถึงแม้บางคราวมันอาจจะเหมือนให้ความหวัง เพราะการแสดงออกในฐานะหัวหน้ากับลูกน้องมันค้ำคอ ยิ้มด้วย หัวเราะได้ ใส่ใจตามประสาน้องใหม่ เ ก็ถือว่าเป็นโชคดีของปริญญ์ไปก็แล้วกัน

ทว่า...กลับมีสิ่งที่ทำให้เธอสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง คือปริญญ์ไม่ได้เพิ่งใส่แว่นในวันที่เจอเธอ แต่เริ่มใส่มาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน

พฤติกรรมดังกล่าว มันเลยไปหักล้างสันนิษฐานแรก ที่กิดากานต์เคยคิดว่าคงแค่อยากปกปิดแววตาเวลาอยู่ต่อหน้ากันเท่านั้น เพราะนิสัยของอดีตคนรักจะเป็นอย่างนั้น ปริญญ์เป็นคนเก็บสีหน้าแววตาไม่เก่ง และเป็นนิสัยที่เธอเคยเตือนกันอยู่บ่อยๆ ในเวลาที่ต้องทำงานร่วมกับคนอื่น

แต่เพราะต่างคนต่างรู้จักกันดีนี่ล่ะ ที่ทำให้หมอปริญญ์รีบใส่แว่นดำในทันทีที่รู้ว่าแฟนเก่าทำงานอยู่ที่นี่ เธอพยายามทำให้ไม่ตกเป็นที่น่าสงสัยต่อคนอื่น เพราะจะมาอยู่ๆ ก็เลือกใส่แค่วันที่เจอกับหมอกิดากานต์ไม่ได้!

คนรู้ตัวก่อนมักได้เปรียบ...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพรงพ่าย   ออกมาหาได้มั้ย

    “ไม่ไปได้ยังไงคะป๊า ตั๋วเค้าก็จองให้หมดแล้ว แล้วอูนก็แค่ไปช่วยงาน ยังไม่ได้ย้ายสักหน่อย”“หนูไม่ต้องมาใช้คำว่าสักหน่อยกับป๊า แค่หนูป่วยแค่นิดเดียว หัวใจป๊าก็เจ็บปวด...”พูดยังไม่ทันจะจบ ลูกสาวขี้วีนก็สวนกลับทันที“อย่ามาลิเกค่ะป๊า”“ป๊าไม่ได้ลิเก แต่คราวนี้ป๊ายอมไม่ได้”“ก็บอกแล้วว่าแค่ไปช่วยงาน”“อูนเอาคำว่าแค่ช่วยงานมาอ้างให้ป๊าตายใจ ไปลาออกเลย ลูกสาวคนเดียวป๊าเลี้ยงได้ ไม่ต้องทำงานเป็นหมอแล้ว ป๊านอนไม่หลับสักวันเพราะเรื่องหนูนี่แหละ”“ป๊าลองเป็นช้างสิ ถ้าป่วยมาแล้วไม่มีหมออย่างอูน ป๊าจะรู้สึก”“หนูอย่ามาแช่งป๊านะ”“ไม่ได้แช่ง แต่ป๊าเองไม่ใช่เหรอที่เลี้ยงหนูมาให้รักสัตว์ ป๊าเองไม่ใช่เหรอที่ชอบช้างมากที่สุด หนูก็เดินตามทางที่ป๊าเคยขีดไว้ให้แล้วไง หนูจะสี่สิบแล้ว หนูถึงขอให้เลิกยุ่งกับชีวิตหนูสักที”“ก็หนูทำตัวน่าเป็นห่วง ให้ตายยังไงป๊าก็ไม่ยอมให้หนูไปลำปาง”“งั้นป๊าก็ต้องช่วยหนูแล้ว

  • เพรงพ่าย   ใช้ของด้วยกัน

    “กวนประสาท...ฮือ ทำไงดี เด็กต้องตกใจแน่ๆ ตาพี่แดงไปหมดเลย”ว่าแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิด มันก็ดันมาเกิดกลางทาง และหากจะพากันไปทั้งสภาพนี้ มันคงแย่พอๆ กับการไม่ไปร่วมขบวน ดังนั้นคนทั้งคู่เลยพากันกลับไปล้างหน้าที่บ้านอีกรอบ“แว่นคีย์ที่พี่เคยซื้อให้อยู่ไหนอ่ะ ใส่อันนั้นพรางตาได้ดีนะ” ปริญญ์บอกคนที่ยืนล้างหน้าอยู่ในครัว“อยู่บนห้องอ่ะ หยิบให้หน่อย”และเมื่อปริญญ์เดินกลับลงมาอีกครั้ง เธอก็เดินเข้าไปสวมกอดผ่านแผ่นหลังกันไปอย่างอ่อนโยน“เลิกเกลียดคีย์เรื่องเพลงน้า”“คนพูดน่ะพูดง่าย”“คีย์ขอโทษ ตอนนี้คีย์อยากเห็นคุณมีความสุข เพลงพวกนั้นมันแค่ข้ออ้างของคนปากเสีย ไม่ได้ขอให้คุณให้อภัยนะคะ แต่อยากให้เข้าใจว่า มันไม่ใช่สิ่งที่คีย์คิดจริงๆ เพราะเพลงที่คีย์ไม่ชอบจริงๆ อ่ะคือเพลงเพื่อชีวิต พี่ก็น่าจะรู้ตั้งแต่เราคบกันแรกๆ”“ไม่ใช่แค่นี้ใช่มั้ยที่โกหกพี่”“มันนานมากแล้วอ่ะ จำไม่ค่อยได้...”“แล้วที่ทำน่ะ เพราะเข้าใจว่าพี่ยังรั

  • เพรงพ่าย   รู้ใจ

    จริงดั่งที่เข้าใจมาตลอด ยิ่งปริญญ์พยายามทำให้อีกคนเจ็บมากเท่าใด แต่หัวใจของเธอกลับเจ็บยิ่งกว่า เธอมองเห็นความอ่อนล้าเหล่านั้นก็อยากจะโผเข้าไปกอด แต่หากจะทะเล่อทะล่าแสดงออกไปเช่นนั้น คนที่มีปมแน่นในใจ คงไม่ยอมเปิดใจให้กันง่ายๆเธอเลยทำได้แค่แสร้งทำเป็นว่าไม่เข้าใจ หญิงสาวไม่พูดอะไร นอกจากการเดินเข้าไปหา แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอนหนุนตักคนที่รักสุดหัวใจนั้นไปเงียบๆ“อืมม์...คีย์คะ คือจริงๆ ไม่ต้องพาไปก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ไปเองก็ได้”นั่นไงล่ะ ปริญญ์คิดเอาไว้ไม่มีผิด ว่าจะต้องได้ยินอะไรแบบนี้ ดังนั้นจากที่เคยนอนหงาย ก็ค่อยๆ พลิกตัวเข้าไปกอดกันเอาไว้เพียงหลวมๆ ศีรษะได้รูปทำท่าส่ายหน้า ไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น ก่อนจะงึมงำบอกออกมาว่า“ของีบสักห้านาทีนะ แค่ห้านาที หมดเวลาแล้วปลุกเลย”“เหนื่อยเหรอคะ”“ค่ะ ปีนขึ้นปีนลง มาหลายตัวด้วย”“ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปช่วย”“ถึงพี่อยู่คีย์ก็ไม่ยอมให้พี่ทำหรอก”“งั้นนอนพักดีกว่ามั้ย ไม่ต้องไปหรอกเนาะ”“ไม่เอา ขอแค

  • เพรงพ่าย   ถ้ายังรักกัน

    และยิ่งกิดากานต์ปฏิเสธกันเท่าใด อีกคนก็ยิ่งอยากฟาดกันให้ราบคาบเสียแต่ตอนนี้ หญิงสาวเอาแต่ยืนหายใจฟืดฟาด จ้องหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้น“ก็บอกว่าจะเข้าไปส่งไง”“ก็แล้วจะเข้าเมืองไปทำไม”“จะไปส่งเมียตัวเองมันผิดตรงไหน”“เมียไหนกันแน่ ที่แน่ๆ พี่ยังไม่ใช่เมียเธอ ยัยเด็กคนไหนล่ะที่อยากไปหา มันไม่ใช่แค่อยากไปส่งพี่หรอก”และนี่ก็กลายเป็นการยืนยันว่า พวกเธอยังคงไม่เชื่อใจกันอย่างชัดเจน“ไม่อยากเป็นแล้วเหรอ ไหนเมื่อคืน...”พูดยังไม่ทันจบ อีกคนก็ทุบกำปั้นลงไหล่กันไม่เบานัก“เลิกพล่ามถึงตอนนั้นได้ป่ะ”“ความจริงคนเรามันออกมาตอนนั้นไม่ใช่เหรอ”“แล้วมันจะเป็นไปได้ไง ในเมื่อเธอไม่ได้ต้องการฉันจริงๆ”“.........................”เมื่อไม่อยากจะเถียง ปริญญ์ก็ทำเพียงยิ้มเยาะใส่หน้า เป็นท่ากวนประสาทที่อีกฝ่ายอยากจะตะโกนใส่หน้าให้สุดเสียง“ไม่ต้องด้อยค่ากันถึงขนาดนั้นก็ได้”“เปล่

  • เพรงพ่าย   รู้เป็นคนสุดท้าย?

    “มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ นะอูน”“นี่คีย์เค้าคิดว่าอูนกลับไปมีอะไรกันกับพี่แทคงั้นเหรอคะ ป้าขา...เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ นะคะ” กิดากานต์พูดเสียงแหบแห้งออกมาจากใจที่อ่อนล้า“ป้าจะไม่ลงรายละเอียดนะ ให้คุยกันเอง”“ไม่ได้มีจริงๆ นะคะ”“ไปคุยกันเอาเอง เพราะเจ้าปริญญ์มันก็ไม่ฟังใคร มันเชื่อที่ตามันเห็น”“ก็หนูอธิบายเค้าตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ได้ทำๆ ถึงว่าสิ พอพูดถึงพี่แทคเมื่อไหร่แล้วคีย์จะกลายเป็นคนบ้าไปเลย”หลังจากวางสาย กิดากานต์ก็เพิ่งจะมานั่งคิดทบทวนว่า ปริญญ์เริ่มเปลี่ยนแปลงแหนงหน่ายกันตั้งแต่เมื่อไร และก็ถึงกับน้ำตาซึมว่ามันเกิดหลังจากสาเหตุนั้นจริงๆ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอมั่นใจว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงแม้กฤษกรจะทรงแบดดูกินไม่เลือกในเวอร์ชั่นผู้ชาย แต่เขาจะให้เกียรติเธอเสมอ จนกระทั่งตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขายังดีอยู่ ก็เพราะเขาไม่เคยหาจังหวะรังแกกันเลยสักครั้งแต่แล้วในขณะที่นั่งไล่เรียงไทม์ไลน์อย่างรวดเร็ว พลันอีกหนึ่งความสงสัยก็ผุดขึ

  • เพรงพ่าย   ไม่แฟร์

    “โอเค คีย์อาจจะขอผิดเวลา แต่ขอให้มั่นใจกับอะไรกว่านี้อีกสักหน่อย คีย์จะกลับมาขอคบอีกครั้ง”“มั่นใจเรื่องอะไรคะ”“ไว้ถึงเวลาแล้วจะบอกค่ะ”“เรื่องที่พี่เคยถามน่ะเหรอ”ทันทีปริญญ์ก็แสยะยิ้มเครียดออกมา ทำเอาอีกคนยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก“นอนเถอะ...จะได้หายเร็วๆ ไว้หายแล้วค่อยคุยกัน”“ค่ะ”แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรกัน เป็นเรื่องน่าปวดหัวที่ไม่มีใครกล้าตั้งมันขึ้นมาเป็นคำถาม...ตั้งแต่ที่ปริญญ์เดินเข้ามาจุ๊บหน้าผากก่อนออกไปทำงาน กิดากานต์ก็กลับไปเป็นคนคลั่งรักได้อย่างเงียบๆ สมองมันแล่นแปลบปลาบ ฉายแต่ภาพซ้ำๆ ที่ทำเอานอนหน้าร้อนเป็นสีระเรื่อปริญญ์เป็นเพียงคนเดียวในชีวิต ที่รู้จักร่างกายเธอดียิ่งกว่าผู้ใด การเคลื่อนไหวอย่างรู้ใจและแสนจะช่ำชอง มันพร้อมจะหลอมละลายกายที่เกร็งสั่น ให้ปวดมวนไปทั่วร่างด้วยความกำซาบฝ่ามือเจ้าเล่ห์ปาดฉวัดเฉวียนเฉียดผ่าน แต่ไม่แตะต้องเพชรเม็ดงามที่ฉ่ำลื่นจนเจ้าตัวต้องถอนหายใจซ้ำซากด้วยความอึดอัด เพราะ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status