Home / รักโบราณ / เพียงนาง / เริ่มต้นการเดินทางของสองเรา 1

Share

เริ่มต้นการเดินทางของสองเรา 1

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-25 22:27:02

เฉินเจียวเหมยเพียงใช้หางตาแอบมองใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันอย่างระแวงอยู่ตลอดเวลา เขากำลังนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยมาดของบุรุษที่มีเสน่ห์น่าแทรกกายเข้าหา

นางติดใจเขาเสียแล้ว นางเป็นสตรีอย่างนี้ได้อย่างไร  

อา...นางต้องอยู่ให้ไกลจากเรือนร่างอันยั่วยวนของเขา นางต้องหนีเขาไปให้ไกล ก่อนที่นางจะรู้สึกคลั่งเขาไปมากกว่านี้

เรื่องอย่างนี้จะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะกับบุรุษน่าตายผู้นี้ นางจะต้องเก็บข่มมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด ไม่ได้ ไม่ได้

นางจะเสียชื่อหมอหญิงผู้เก่งกาจทุกสถานการณ์อย่างนี้...ไม่ได้!  จะเสียท่าให้กับยาปลุกกำหนัดของตัวเองอย่างนี้...ไม่ได้!  จะตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่อย่างนี้...ไม่ได้! จะ....หือ!

และแล้วความคิดที่ต้องการจะหนีใครบางคนด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงของเฉินเจียวเหมยพลันตกไป ด้วยเพราะว่าใครบางคนนั้นพลันอุ้มนางลงจากรถม้าแล้วพานางมาขึ้นนั่งบนหลังม้าก่อนจะควบตะบึงม้าพานางออกมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด

และเพียงอึดใจ  เสียงควบตะบึงม้าพลันดังขึ้นมาในโสตประสาทของเฉินเจียวเหมยและทำให้นางได้เข้าใจ

ไม่...

เฉินเจียวเหมยได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจ

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่แล้วเฉินเจียวเหมยยังคงถูกบุรุษแปลกหน้าแต่ทว่าไม่แปลกกายผู้นี้จับกุมให้นั่งซ้อนอยู่ด้านหน้าของเขาบนหลังม้าตัวเดียวกันแล้วควบตะบึงม้ามาได้ระยะทางหนึ่ง

“หยุด! หยุดก่อน” เฉินเจียวเหมยเอ่ยคำๆ นี้ออกมาตลอดทางแต่ก็หาได้เข้าหูของจ้าวจิ่นหลงไม่

จ้าวจิ่นหลงนั้นกำลังคิดที่จะพานางไปแต่งงานให้แล้วเสร็จเป็นเรื่องเป็นราว

อันที่จริงนางควรได้แต่งงานกับเขานานแล้วตั้งแต่ปีที่เขาจะต้องรับนางเข้าไปเป็นองค์หญิงบรรณาการนั่น สัญญาสงบศึกเขาก็ได้ลงนามไปแล้ว จะเหลือก็แต่องค์หญิงบรรณาการของเขา

ซึ่งก็คือนาง

นางผู้ซึ่งบังอาจหนีเขาไป แล้วย้อนกลับมาวางยาปลุกกำหนัดเขา ร่วมรักกับเขา อย่างถึงใจ...

น่าชังนัก!

“ได้โปรด ข้าจะร้องไห้แล้วนะ” เฉินเจียวเหมยกล่าวออกมาในที่สุด นางสุดจะกลั้นแล้วจริงๆ

และประโยคนั้นก็ทำเอาจ้าวจิ่นหลงถึงกับต้องหยุดม้าลงในทันที

เมื่อม้าหยุดวิ่งแล้วยืนอยู่นิ่งๆ เฉินเจียวเหมยจึงคิดจะใช้โอกาสนี้หนีเขาอีกครั้ง นางจึงทำท่าจะกระโดดลงจากหลังม้า เนื่องจากว่าในยามนี้ นางกับเขากำลังอยู่ในท่าหมิ่นเหม่เหลือประมาณ บนหลังม้านี่ แนบชิดเหลือเกิน

แต่ยังไม่ทันที่เฉินเจียวเหมยจะได้ขยับกาย จ้าวจิ่นหลงที่รู้ทันจึงกระชับวงแขนกอดนางเอาไว้แน่นอย่างนึกเข่นเขี้ยว

“หยุดหนีข้าเสียที” เขาคำรามเสียงดุดันใส่นางในอ้อมแขน

เฉินเจียวเหมยจึงทำได้แค่นั่งตัวแข็งทื่อ

“เจ้าจะเอาอย่างไรกับข้ากันแน่” จ้าวจิ่นหลงยังคงคำรามถามอย่างดุดัน “เจ้าหนีข้า วางยาปลุกกำหนัดข้า ท้าทายข้า จะเอาอย่างไรกับข้ากันแน่”

เฉินเจียวเหมยได้ยินคำว่าวางยาปลุกกำหนัดจึงชะงักงัน

“ข้าไม่ได้ทำนะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อน

“ฮึ!” จ้าวจิ่นหลงส่งเสียงในลำคอ “ไม่ได้ทำ”

“ข้าไม่ได้ทำจริงๆ”

“แล้วเจ้าของยานั่นเป็นใคร”

“...”

เฉินเจียวเหมยชะงักไปอีกครา

“มันเป็นของเจ้า!” เขาถามมาจากหลงจู๊ประจำโรงเตี๊ยมแห่งนั้นมาแล้ว

เฉินเจียวเหมยถึงกับหลับตาลงอย่างยอมจำนน

นางปรุงมันเองกับมือ

“บอกมาว่าเจ้าจะเอาอย่างไร” จ้าวจิ่นหลงถามย้ำอีกครั้งด้วยประโยคนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะมิได้ต้องการให้ทางเลือกอันใดแก่นางเลยก็ตามที

“ข้า...เอ่อ...” เฉินเจียวเหมยเริ่มอึกอัก

“ว่ามา...” จ้าวจิ่นหลงยังคงคำราม

“...”

ความเงียบงันเริ่มโรยตัว

บรรยากาศพาวังเวง

เพียงอึดใจต่อมา

“ท่านควรลืมมันเสีย” เสียงของเฉินเจียวเหมยโพล่งขึ้นมาอย่างรัวเร็ว “ข้าเองก็จะลืมมัน” นางเอ่ยอย่างเร็วจนลิ้นพันกัน

“ลืมอันใด” จ้าวจิ่นหลงพลันขมวดคิ้วก้มหน้าถาม

“ลืมเรื่องคืนนั้น” เฉินเจียวเหมยตอบตามตรง

“ไยต้องลืม”

“...”

“เจ้าลืมได้หรือ”

“...”

“เจ้าเป็นสตรี คิดปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้หรือ” จ้าวจิ่นหลงถามขึ้นอย่างไม่พอใจ นอกจากนางจะหนีเขาครั้งแล้วครั้งเล่า นางยังต้องการจะลืมเขา ได้อย่างไรกัน ลีลาเขาออกจะดีปานนั้น

 “...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนาง   ร่วมทุกข์2

    เขาเป็นองค์ชายที่มีตำแหน่งพ่วงท้ายเป็นรัชทายาทแน่นอนว่าย่อมมีเรื่องเช่นนี้ เขาไม่แปลกใจ“อาเหมย...” จ้าวจิ่นหลงตัดสินใจปลุกสตรีในอ้อมกอดให้ตื่นขึ้นมาหลังจากที่นางกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่ภายในอ้อมอกของเขา“หืม...” เฉินเจียวเหมยจึงงัวเงียตื่นขึ้นมาจากนิทรารมย์ฝันหวานที่นางไม่รู้เลยว่ามันมิใช่แค่เพียงความฝัน“ตื่นขึ้นมาก่อน ยามนี้อันตราย” จ้าวจิ่นหลงยังเอ่ยคำไม่ทันจบ รอบด้านของเขาพลันปรากฏเงาร่างของชายชุดดำหลายคนกำลังคืบคลานพรางตัววูบไหวใกล้เข้ามา“อันใด” เฉินเจียวเหมยพลันได้สติตื่นเต็มตาด้วยสัญชาตญาณจ้าวจิ่นหลงไม่เสียเวลาอธิบาย เขารีบจับยกร่างของเฉินเจียวเหมยขึ้นอุ้มแล้วนำนางไปวางเอาไว้บนหลังม้าในทันที“เจ้าขี่ม้าเป็นหรือไม่ ขี่ม้าหนีไป ข้าจะอยู่ทางนี้เอง” ชายหนุ่มรีบเอ่ย“ท่านขึ้นมา” เฉินเจียวเหมยตอบแค่นั้นพลางจับสาบเสื้อช่วงไหล่ของจ้าวจิ่นหลงแล้วย้ำ “ขึ้นมา!”จ้าวจิ่นหลงจึงรีบขึ้นหลังม้าซ้อนกับร่างของเฉินเจียวเหมยในทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปจับดาบที่อยู่ตรงข้างลำตัวของม้าแล้วดึงออกจากฝักอย่างไม่เสียเวลาคิดอันใดเนื่องจากชายชุดดำได้เข้ามาจนถึงตัวของพวกเขาแล้วในยามนี้“ไป!” เสียงคำรามของจ้าวจิ่

  • เพียงนาง   ร่วมทุกข์1

    ภายใต้ร่มไม้ร่มรื่นของป่าใหญ่หนาทึบ จ้าวจิ่นหลงเพียงบังคับม้าให้เดินเท้าอยู่เพียงเบาๆ มิได้เร่งรีบเหมือนดั่งเช่นในคราแรกเนื่องจากว่าในยามนี้ มีสตรีผู้หนึ่งผู้ซึ่งนั่งอยู่ภายในอ้อมแขนของเขาบนหลังม้าตัวเดียวกันนี้ นางกำลังนั่งสัปหงกคอพับคออ่อนอยู่ตรงแผงอกของเขานางคงใช้เรี่ยวแรงในการวิ่งหนีเขาเมื่อก่อนหน้านี้มากจนเกินไป หนีแล้วหนีอีกอยู่นั่น วิ่งไปทั่วหมู่บ้านอยู่อย่างนั้น มิรู้ได้ว่าจะหนีทำไมกันนักกันหนา หนีอยู่ได้ น่าขย้ำนัก!จ้าวจิ่นหลงนึกเข่นเขี้ยวอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มเพียงก้มหน้ามองเฉินเจียวเหมยที่กำลังนั่งหลับอยู่ตรงด้านหน้าของเขาในยามนี้ เขาจึงเอื้อมมือที่จับกุมเอวของนางขึ้นมาแล้วจับเอาศีรษะของนางกดเอาไว้ให้แนบกับแผงอกของเขา ให้นางได้หลับสบายอยู่ตรงแผงอกของเขา เขาเกรงว่านางจะสัปหงกจนตกม้าไป แล้วคอหักตายไปเสียก่อนที่จะได้เข้าพิธีแต่งงานกับเขามีสตรีมากมายที่ต้องการจะแต่งงานเป็นชายาของเขาแต่ละนางหาเรื่องเข้ามาหาเขาในวังไม่เว้นในแต่ละวัน จนเขานึกรำคาญก็เลยแอบปลอมตัวออกท่องเที่ยวไปถ้วนทั่วแผ่นดินจนมาถึงแคว้นเฉินแห่งนี้ แต่นาง...นางหนีเขา…นางทำการอุกอาจเพื่อที่จะ

  • เพียงนาง   เริ่มต้นการเดินทางของสองเรา 2

    เฉินเจียวเหมยเงียบงันพลันครุ่นคิดหาทางหนีทีไล่อยู่ภายในใจ เอาอย่างไรดี?“หยุดคิดที่จะหนีข้าได้แล้ว” จ้าวจิ่นหลงคำรามเสียงดังอย่างรู้เท่าทันสตรีตรงหน้าเฉินเจียวเหมยถึงกับสะดุ้งตกใจ“พูดดีๆ ก็ได้” หญิงสาวตะคอกกลับเสียงดัง“เจ้าคุยไม่รู้เรื่อง”“ท่านนั่นล่ะคุยไม่รู้เรื่อง”“เจ้านั่นล่ะ”“ท่านนั่นล่ะ”“ฮึ!”“หึ!”ทั้งสองสะบัดหน้าหนีออกจากกันคนละทิศละทางแม้ว่ากายงามจะยังคงแนบชิดพวกเขายังคงนั่งซ้อนกันอยู่บนหลังม้าอึดใจต่อมา จ้าวจิ่นหลงจึงทำท่าจะควบตะบึงม้าให้ออกตัวเดินทางอีกครา โดยที่มือข้างหนึ่งของเขายังคงรัดรึงโอบกอดร่างของเฉินเจียวเหมยที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเขา ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คุมบังเหียนม้าเพื่อบังคับให้ไปตามทางเฉินเจียวเหมยเห็นดังนั้นจึงรีบเอื้อมมือของตนขึ้นจับมือของจ้าวจิ่นหลงที่กำลังจับบังเหียนม้าอยู่อย่างรวดเร็วเมื่อมือเล็กจับกุมมือใหญ่ ชายหนุ่มจึงชะงักไป“หยุดเลย!” เฉินเจียวเหมยยังคงเสียงดัง“อันใด!”“ท่านจะพาข้าไปที่ใด”“พาเจ้ากลับแคว้นจ้าว”“ข้าไม่ไป”“ทำไม”“ไม่ไปก็คือไม่ไป ท่านนี่ พูดไม่รู้เรื่อง” เฉินเจียวเหมยเริ่มหงุดหงิดเหลือประมาณ“...”จ้าวจิ่นหลงถึงกับเงียบงัน เข

  • เพียงนาง   เริ่มต้นการเดินทางของสองเรา 1

    เฉินเจียวเหมยเพียงใช้หางตาแอบมองใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันอย่างระแวงอยู่ตลอดเวลา เขากำลังนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยมาดของบุรุษที่มีเสน่ห์น่าแทรกกายเข้าหานางติดใจเขาเสียแล้ว นางเป็นสตรีอย่างนี้ได้อย่างไร อา...นางต้องอยู่ให้ไกลจากเรือนร่างอันยั่วยวนของเขา นางต้องหนีเขาไปให้ไกล ก่อนที่นางจะรู้สึกคลั่งเขาไปมากกว่านี้เรื่องอย่างนี้จะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะกับบุรุษน่าตายผู้นี้ นางจะต้องเก็บข่มมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด ไม่ได้ ไม่ได้นางจะเสียชื่อหมอหญิงผู้เก่งกาจทุกสถานการณ์อย่างนี้...ไม่ได้! จะเสียท่าให้กับยาปลุกกำหนัดของตัวเองอย่างนี้...ไม่ได้! จะตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่อย่างนี้...ไม่ได้! จะ....หือ!และแล้วความคิดที่ต้องการจะหนีใครบางคนด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงของเฉินเจียวเหมยพลันตกไป ด้วยเพราะว่าใครบางคนนั้นพลันอุ้มนางลงจากรถม้าแล้วพานางมาขึ้นนั่งบนหลังม้าก่อนจะควบตะบึงม้าพานางออกมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดและเพียงอึดใจ เสียงควบตะบึงม้าพลันดังขึ้นมาในโสตประสาทของเฉินเจียวเหมยและทำให้นางได้เข้าใจไม่...เฉินเจียวเหมยได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจเวลาผ่านไปครู่ใหญ่แล้วเฉินเจียวเหมยยังคงถูกบุรุษแป

  • เพียงนาง   คุยกันไม่รู้เรื่อง 3

    เขาทำท่าทางดุดันน่าเกรงขามข่มคำรามใส่นาง ในขณะที่จับกดนางไม่ยอมปล่อยนางรู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดที่ทำให้เขาไม่อาจถอนร่างกายของเขาออกจากร่างกายของนางเพราะว่านางเองก็เป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกันนางโอบกอดกระหวัดรัดรึงเขาเอาไว้อย่างแนบแน่นในขณะที่เขาก็ถาโถมเข้าใส่นางอย่างหนักหน่วง เราสองสอดประสานกันอย่างเหนียวแน่นเกินห้ามใจเกินยับยั้งแต่ทว่า...เขามิได้รักนาง เขามิได้ต้องการนางแต่อย่างใดนางเองก็เช่นเดียวกันนางมิได้ต้องการเขา ไม่ได้รักเขานางจะรักเขาได้อย่างไร เขาเป็นใครนางยังไม่รู้เลยที่สอดประสานกับจนเนื้อนวลเกือบจะแหลกเหลวนั่น ก็เพราะยาสูตรพิเศษของนางล้วนๆนางกับเขาไม่ควรเจอกัน นางไม่ควรเจอกับเขาอีก นางอยากจะลืมลืมความอับอาย ลืมความอัปยศดอดสูนี่ นางควรหนี นางจะต้องหนีเขา นางต้องหนีเขาเท่านั้น นางควรหนีเขาไปที่ใดดีเมื่อเฉินเจียวเหมยคิดได้อย่างนั้นจึงทำท่าจะกระโจนตัวหนีจ้าวจิ่นหลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ นอกจากฝ่ามือใหญ่หนาของเขาที่จับกระชากนางให้นั่งอยู่กับที่นิ่งๆ แล้ว ใบหน้าของจ้าวจิ่นหลงพลันแนบชิดเข้ามา แล้วกดจูบนางอย่างเร่าร้อน“อื้อ...อื้อ” เฉินเจียวเหมยถึงกับตกใจอุทานอยู่

  • เพียงนาง   คุยกันไม่รู้เรื่อง 2

    เขาเป็นบุรุษน่าตายที่สุดในชีวิตของนางนางควรทำอย่างไรดี ทำตัวน่ารังเกียจไปเลยดีหรือไม่ จะอย่างไรเสีย นางก็น่ารังเกียจอยู่แล้วในยามนี้ นางเป็นสตรีน่ารังเกียจไปหมดแล้วตั้งแต่ค่ำคืนของคืนนั้นจ้าวจิ่นหลงที่ได้ถือโอกาสเข้ามาภายในรถม้าคันนี้เป็นผลสำเร็จเมื่อจูหยวนจางอุ้มภรรยาลงจากรถม้าไปเพื่อที่จะได้ไปนั่งชื่นชมทิวทัศน์พร้อมกับแนบชิดคลอเคลียไปมาอยู่กับภรรยาที่ริมลำธารนั่น เขาจึงเข้ามาเพื่อที่ต้องการจะคุยกับสตรีน่าตายผู้นี้ให้รู้เรื่อง เมื่อเขาเข้ามานั่งในรถม้าคันเดียวกันกับนางแล้ว เขาเพียงนั่งจ้องมองนางนิ่งๆ เพื่อหยั่งเชิงนาง เพื่อดูว่านางจะหนีเขาไปที่ใดได้อีกเมื่อเขาเห็นนางไม่มีทีท่าว่าจะหนีไปที่ใดแล้ว เขาจึงเริ่มต้นบทสนทนาแนะนำตัวและทำความรู้จักกับนางใช่! เขากับนางควรทำความรู้จักกันด้วยการเสวนากันดีๆ แบบปกติของบุรุษและสตรีทั่วไปถึงแม้ว่า เขากับนางจะทำความรู้จักกันด้วยเรือนร่างทุกสัดส่วน ด้วยลีลาเร่าร้อนหลายกระบวนท่าไปแล้วก็ตาม แต่ทว่า...นอกจากนางจะไม่หนีเขาแล้ว นางยังทำหน้าตาน่าจับกดอีกนางนั่งเหม่อลอยอยู่ครู่ใหญ่ แล้วซักพักนางก็หันหน้ามามองใบหน้าของเขาเพียงอึดใจนางก็ใช้สายตาของนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status