Beranda / รักโบราณ / เพียงนาง / ใคร?อันใดกัน?

Share

เพียงนาง
เพียงนาง
Penulis: LiHong

ใคร?อันใดกัน?

Penulis: LiHong
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-25 22:18:31

            บนโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งภายในห้องพักห้องหนึ่ง

บัดนี้ได้ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกำยานชนิดหนึ่งซึ่งเป็น แบบพิเศษ

พิเศษมาก....

กลิ่นกำยานที่บรรจุอยู่ในโถกำยานอันนี้มีส่วนผสมของตัวยาชนิดพิเศษที่ช่วยให้คู่สามีภรรยาได้รักกันมากยิ่งขึ้น

มีความต้องการกันและกันมากยิ่งขึ้น

สร้างอารมณ์กำหนัดให้สุดแสนจะมีความรัญจวนมากๆ ยิ่งๆ ขึ้น

และมีความสามารถที่จะทำให้คู่สามีภรรยาได้มีทายาทได้ในเร็ววันยิ่งๆ ขึ้น

กลิ่นกำยานกลิ่นนี้นั้น มันกำลังทำงานตามหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี

ดีมาก...

ถึงแม้ว่าผู้ที่ได้สูดดมจะมิใช่สามีภรรยา

ถึงแม้ว่าผู้ที่ได้สูดดมจะมิได้นำพาสิ่งใดๆ ต่อกัน และ...

ถึงแม้ว่าผู้ที่ได้สูดดมจะมิได้รู้จักมักคุ้นกันและกันก็ตามที

กลิ่นกำยานชนิดพิเศษนี้นั้น มันกำลังแผ่กลิ่นหอมอันทรงพลังกำจายให้แก่ร่างกายของหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีได้

เป็นอย่างดี...

มันกำลังสร้างความปั่นป่วนพลุ่งพล่านกระจัดกระจายพาอารมณ์กระเจิดกระเจิงได้

เป็นอย่างดี...

“อา...ท่ะ...ท่าน...ท่านเป็น...ใคร” เสียงหวานใสครางกระเส่าของสตรีนางหนึ่งเอ่ยถามบุรุษผู้หนึ่งออกมาขณะกำลังเอื้อมวงแขนเรียวสวยของตนโอบเกี่ยวบุรุษผู้นี้เอาไว้แน่น

“เจ้า...นั่นล่ะ...เป็นใคร” ฝ่ายบุรุษตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าปนกระเส่าไม่แพ้กันขณะกอดรัดโรมรันอยู่กับสตรี

“อืม...ไย...ไยท่าน...ทำอย่างนี้ อา...” น้ำเสียงแว่วหวานพร้อมลมหายใจติดขัดของสตรียังคงคาดคั้นขณะแอ่นอกยกกายเข้าหาร่างใหญ่กำยำที่กำลังครอบงำเรือนร่างของนาง

“เจ้า...นั่นล่ะ...ไยทำเยี่ยงนี้” เสียงครางกดต่ำของบุรุษยังคงคาดคั้นขณะดันร่างล่ำๆ ของตนเบียดเสียดแทรกซึมเข้าหาสตรี

“ป่ะ...ปล่อยข้า...นะ”

“เจ้า...นั่นละ...ปล่อยข้า”

            “ไม่นะ...ปล่อยนะ...”

            “ปล่อยข้า”

“อา...”

“อืม...”

ถึงแม้ว่าประโยคที่เอื้อนเอ่ยจะเป็นอย่างนั้น แต่ทว่าการกระทำกลับมิได้เป็นอย่างนั้นแต่อย่างใด

คนสองคน

ร่างสองร่าง

ยังคงสอดประสานเข้าหากันอย่างรุนแรงเร่าร้อนกระชั้นถี่

แม้แต่อาภรณ์ยังถูกถอดออกจากเรือนร่างของแต่ละฝ่ายอย่างไม่ใยดี

เตียงนอนม่านมุ้งพลันสั่นไหวไปมาอย่างไม่ปราณี

ฝ่ายบุรุษยังคงก้มหน้าลงซุกไซร้อยู่ตรงซอกคอหอมกรุ่นของสตรีอย่างไม่อาจห้ามได้ ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่อาจห้ามใจ ห้ามอารมณ์ ห้ามความพลุ่งพล่าน ห้ามความต้องการ ห้ามทุกสิ่งอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในยามนี้

ฝ่ายสตรีก็เช่นเดียวกัน นางมิอาจห้ามปรามความต้องการของตนในยามนี้ได้แต่อย่างใด

ในยามนี้นางทำได้เพียงโอบกอดเขา แอ่นกายเข้าหาเขา ตอบรับทุกสัมผัสของเขาอย่างรัญจวนเร่งเร้า เข้าขาได้เป็นอย่างดี

“ข้าบอกให้ปล่อย” นางยังคงคำรามแม้ว่ากายงามยังคงตอบรับ

“เจ้านั่นล่ะปล่อยข้า” เขายังคงคำรามแม้กายงามยังคงรุกล้ำ

“ปล่อย อา...”

“อืม...”

“อ๊ะ...ท่าน...”

“อืม...เจ้า...”

ทั้งสองคนยังคงพยายามเถียงกันไปมาในขณะที่กายายังคงแทรกซึม

กลิ่นกำยานยังคงตลบอบอวลในขณะที่อารมณ์รัญจวนยังคงทำงาน

ร่างสองร่างที่เมื่อครู่ยังคงมีอาภรณ์ติดอยู่อย่างรุ่มร่ามแต่ทว่าเพียงไม่นานอาภรณ์เหล่านั้นพลันถูกดึงทึ้งฉีกขาดจนเหลือเพียงร่างสองร่างเปลือยเปล่าคลุกเคล้ากันไปมาอยู่บนเตียงนอน

เสียงถกเถียงกันยังคงดัง…

อย่างต่อเนื่อง

“ไยทำอย่างนี้ อื้ม...”

“เจ้านั่นล่ะ กล้าดีอย่างไร อา...”

“ท่าน...ปล่อยนะ...”

“เจ้า...ปล่อยก่อน”

“อา...”

“อืม...”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพียงนาง   เพียงนาง 3

    และเพียงไม่นาน เนื้อตัวที่เย็นเยียบของเฉินเจียวเหมยพลันเปลี่ยนไปเป็นอุ่นร้อนขึ้นมาเนื่องจากว่าถูกเรือนร่างหนาแน่นและร้อนระอุของจ้าวจิ่นหลงบดเบียดเข้าแนบชิดจนสนิทแนบแน่นไร้ช่องว่างใดๆ ระหว่างกัน“อุ่นขึ้นหรือไม่” จ้าวจิ่นหลงกระซิบเสียงแหบต่ำตรงใบหูของเฉินเจียวเหมย“อ่ะ...อืม...” นางตอบด้วยน้ำเสียงเริ่มกระเส่า“เจ้าชอบ...” จ้าวจิ่นหลงก้มหน้าถามแนบชิด“ข้าชอบ...” เฉินเจียวเหมยครางตอบเสียงเบาจ้าวจิ่นหลงเพียงหัวเราะอยู่ในลำคออย่างถูกใจก่อนจะก้มหน้าลงฝังจมูกและริมฝีปากอุ่นชื้นกับลำคอระหงของนางและเริ่มต้นบทเพลงบรรเลงบทรักเพื่อเอาใจชายารักอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องในหน้าที่ของสวามีที่ดีเขาเติบโตมาท่ามกลางบิดาที่มีหลายภรรยา ตัวของเขาเป็นบุตรชายที่เกิดจากหนึ่งในภรรยาของบิดา จากภรรยาหลายๆ คนนั่นความรักที่ได้มาจึงมักจะถูกแบ่งสันปันส่วนจากพี่น้องต่างมารดา ถึงแม้ว่ามารดาของเขาจะเป็นถึงฮองเฮา แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่ามารดาของเขาก็ไม่เคยที่จะได้รับความรักจากสามีได้อย่างเต็มที่ เขาเคยเห็นมารดาของเขาแอบร่ำไห้น้อยใจอยู่หลายครั้ง จนถึงขั้นที่เคยคิดจะพาเขาหนีออกจากวัง จนเขาต้องเลือกที่จะทำงานหนัก เพื่อให้มา

  • เพียงนาง   เพียงนาง 2

    “เจ้าไม่ควรทำอย่างนี้ อาเหมย มีอะไรเจ้าก็ควรบอกกล่าวแก่ข้า ข้ายอมเจ้าทุกอย่าง” จ้าวจิ่นหลงเอ่ยออกมาอย่างนั้น พลางเอื้อมมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าที่ทั้งเย็นเยียบทั้งแดงชาดของนางเบาๆ ตั้งแต่เจอกันเขายังไม่เคยเห็นสภาพอย่างนี้ของนางนางทำเขาใจสั่นไม่เบาเขาไม่อยากเสียนางไป เขารักนางถึงเพียงนี้ นางไม่สิทธ์ไปจากเขา ไม่ว่าด้วยวิธีใด โดยเฉพาะการทำร้ายตัวเองเฉินเจียวเหมยเหม่อมองใบหน้าของเจ้าจิ่นหลงในระยะประชิดใบหน้าของเขา ฝ่ามือของเขา สัมผัสของเขา กลิ่นอายของเขา อา...นางทำใจไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ นางหลงใหลเขาถึงเพียงนี้ นางทำใจไม่ได้แน่ๆ หากเขาจะต้องเข้าหอกับสตรีนางอื่น หากนางได้เห็นอย่างนั้นแล้วทำใจไม่ได้ สู้ไม่ต้องอยู่ไม่ต้องเห็นยังจะดีเสียกว่า“ข้ามิใช่สตรีที่ดี ข้าจะกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเพียงใด หากต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในวังหลังของท่าน คอยดูแลมวลบุบผาให้ท่าน อาหลง หากเป็นอย่างนั้น ข้าขอไปอยู่ดูแลผู้ยากไร้ในถิ่นฐานทุรกันดารยังดีเสียกว่า” เฉินเจียวเหมยเลือกที่จะเอ่ยออกมาตามตรงอย่างไม่คิดที่จะยินยอมใดๆ นางมักจะมีจุดยืนของนางจ้าวจิ่นหลงได้ฟังถึงกับนิ่งอึ้งไปแน่นอนว่านางคงคิดจะทำจริงๆ หากวันนั้นมาถ

  • เพียงนาง   เพียงนาง 1

    ตามทางเดินทอดยาวระหว่างโรงน้ำชากับบ้านของเฟยเทียน เฉินเจียวเหมยกำลังเดินอย่างเร็วด้วยอาการเมามายคล้ายกับวิญญาณล่องลอยนางกำลังต้องการหนีมาทำใจเสียหน่อย นางต้องทำใจให้ได้ ภาพของอาหลงกำลังรื่นเริงบันเทิงยิ่งกับสตรีคนอื่นที่มิใช่ตัวนาง ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่านยากแก่การจัดการความเห็นแก่ตัวของตนอา...แย่แล้ว...ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพี่สะใภ้ของนางที่เป็นฮองเฮาถึงได้ใจร้ายยิ่งนักนางกำลังจะกลายร่างเป็นอย่างนั้นหากนางต้องไปแต่งงานกับอาหลงที่เป็นถึงรัชทายาทจริงๆ แล้วในภายภาคหน้าเขาได้ขึ้นครองราชย์แล้วต้องมีสนมหลายคนจริงๆ นางคงจะใจร้ายไม่แตกต่างจากพี่สะใภ้แน่ๆอา...หรืออาจจะร้ายยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยแย่แล้ว แย่แล้วเมื่อเข้ามายังห้องพักของเรือนรับรองได้แล้ว เฉินเจียวเหมยที่กำลังฟุ้งซ่านอย่างร้อนรุ่มเต็มขั้น จึงรีบเดินเข้าห้องอาบน้ำเพื่อที่หวังจะใช้การอาบน้ำช่วยให้ดับอารมณ์กรุ่นร้อนคล้ายดั่งลูกไฟที่กำลังปะทุอยู่ภายในอกให้มอดดับไปแต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลภายในจิตใจของนางยังคงรุ่มร้อนคล้ายกับเปลวไฟเผาผลาญ อยากจะแพ้วพานใส่เหล่าสตรีทุกนางให้ตายตกตามกันไปทุกคนอยากฆ่าพวกนางยิ่งนักเฉินเจี

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 3

    เวลาแห่งการร่ำสุราผ่านไปอย่างเชื่องช้าเป็นชั่วยามผ่านไป เฉินเจียวเหมยพาร่างกายและสติที่เริ่มจะไม่อยู่กับร่องกับรอยด้วยอาการเมามายอย่างที่ไม่เคยเป็นเดินออกไปจากห้องแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบได้ คงเหลือเอาไว้เพียงซูเซียว ซูฮวา และหย่าหลินยังคงนั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันและเพียงไม่นานซูเซียวจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเฟยเทียนที่กำลังนั่งร่ำสุราตามประสาบุรุษอยู่อีกห้องหนึ่งกับอาหลงและสหายอีกหนึ่งคนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่พี่สาวคุยกับหย่าหลินจนเป็นเหตุให้อาเหมยคล้ายกับเปลี่ยนพฤติกรรมไปจนน่าเป็นห่วง “อาเหมยไปที่ใด” เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจของจ้าวจิ่นหลงถามขึ้นไปทางซูเซียวเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นหัวข้อสนทนากันระหว่างซูฮวากับหย่าหลิน “ข้าไม่รู้ นางบอกแค่ว่าขอหนีไปทำใจ” ซูเซียวตอบตามจริงและเนื่องจากนางยังไม่รู้ว่าอาหลงมีฐานะใดนางจึงเอ่ยไปด้วยระโยคอย่างนั้น จ้าวจิ่นหลงพลันชะงักงันไป และเพียงอึดใจเขาจึงรีบลุกขึ้นแล้วก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องแห่งนี้ไปในทันทีอย่างไม่รีรอ เฟยเทียนรีบลุกขึ้นมาประคองร่างบางของซูเซียวเอาไว้ พลางถามนางอย่างห่วงใย “เจ้าเหนื่อยหรือไม่ ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน”“ไ

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 2

    เวลาแห่งการดื่มเหล้าหวังสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างกันผ่านไปอีกครู่ใหญ่ “นี่ๆ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าการแข่งขันของเมืองเราปีนี้ช่างสำคัญยิ่งนัก” หย่าหลินที่ดื่มเหล้าจนมึนเอ่ยออกมาอย่างเป็นกันเองไร้ความขุ่นเคืองใดๆ ไปเสียแล้ว “อันใด” ซูฮวานั่งท้าวคางถามออกไปอย่างมึนๆ เช่นเดียวกัน “การแข่งขันปีนี้หาใช่แค่การแข่งขันเพื่อแสดงออกถึงความสามารถประกาศศักดาเพื่อให้มีบุรุษมาหมายตาไม่แต่...” หย่าหลินอธิบายยาวเหยียดเว้นคำเพียงนิดเพื่อดื่มน้ำเมา แล้วเอ่ยต่อ “มันเป็นการคัดเลือกสาวงามผู้มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเพื่อส่งตัวเข้าวัง” “ไปเป็นสนมหรือ” ซูฮวายังคงนั่งเอามือท้าวคางถามออกไปอย่างมึนๆ “มิใช่ๆ” หย่าหลินยังคงเอ่ย “เป็นของขวัญของกำนัลแด่องค์รัชทายาทอายุครบยี่สิบห้าชันษาต่างหากเล่า” แกร๊ง! จอกเหล้าถึงกับหลุดมือใครบางคน ซูเซียวถึงกับหันไปมองเฉินเจียวเหมยผู้เป็นเจ้าของจอกเหล้าจอกนั้นก่อนจะช่วยเฉินเจียวเหมยหยิบจอกเหล้าขึ้นมาให้อย่างงุนงง สงสัยอาเหมยคงจะเมาแล้วกระมัง หย่าหลินยังคงเอ่ยต่อ “หากโชคดีในภายภาคหน้าเมื่อรัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์สตรีที่ส่งเข้าไปถวายตัวให้พระองค์ก็อาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นถึงพระสนม

  • เพียงนาง   สตรีของรัชทายาท 1

    “ในเมื่อผลการประลองยังไม่เป็นที่แน่ชัดและเจ้าไม่คิดที่จะยอมรับ เช่นนั้นแล้ว” เฉินเจียวเหมยที่ยังคงยืนท้าวสะเอวอยู่เอ่ยขึ้นไปทางซูฮวาและหย่าหลิน “ข้าเลี้ยงเหล้าพวกเจ้าดีหรือไม่ เรามานั่งคุยกันดีๆ มาเถอะ!” ถึงแม้ว่าจะเป็นประโยคคำถามแต่ก็หาได้รอคำตอบไม่ เฉินเจียวเหมยกล่าวเสร็จก็รวบข้อมือของซูฮวาและหย่าหลินให้เดินตามตนเองไป และเพียงไม่นานเสี่ยวเอ้อร์ผู้รู้ความก็สามารถจัดการห้องรับรองสำหรับแขกคนสำคัญได้อย่างรวดเร็ว อาหารเลิศรส สุราเลิศล้ำ ก็มีมาวางเอาไว้บนโต๊ะได้อย่างทันใจ สมกับเป็นโรงน้ำชาของผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฟยเทียน ซูฮวากับหย่าหลินเพียงนั่งดื่มเหล้าและกินอาหารด้วยสายตาพิฆาตแวววาวใส่กันตลอดเวลา ซูเซียวเพียงนั่งจิบชาอยู่ใกล้ๆ กับเฉินเจียวเหมยด้วยท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยนตามวิสัยแตกต่างจากสตรีอีกสองนาง เฉินเจียวเหมยเพียงกินอาหารอย่างสบายอารมณ์ตามวิสัยเช่นเดียวกัน ทั้งสี่สตรีกำลังนั่งร่ำสุราอยู่ด้วยกันตรงโต๊ะเล็กทรงเตี้ยขนาดพอเหมาะ โดยที่ทั้งสี่นางนั่งอยู่กับพื้นรอบโต๊ะบนผ้าบุนวมรอบทิศทาง “ข้าอยากรู้เสียจริงว่าพวกเจ้ามีความแค้นอันใดต่อกัน” เฉินเจียวเหมยถามออกไปทางซูฮวาและหย่าหลิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status