Beranda / โรแมนติก / เพื่อน(ไม่)รัก / 5มาทำงานได้แล้วเหรอ ไอ้ตัวดี

Share

5มาทำงานได้แล้วเหรอ ไอ้ตัวดี

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-07 22:14:05

Chapter 5

ม่านหมอก… TALK...

“นี่คีย์การ์ดห้องคอนโดดีดิว    ห้องของเธอ”     คนที่ชื่อสายฟ้ายื่นคีย์การ์ดให้ฉัน

“ขอบคุณค่ะ” ฉันยกมือไว้อย่างนอบน้อม ส่วนคุณพายุเดินเข้ามา แล้วไปหยุดยืนที่หน้าต่าง เขาหยิบบุหรี่ราคาแพงขึ้นมาสูบ แล้วพ่นควันขาวลอยคลุ้ง แค่ได้กลิ่นฉันจะเป็นลม ฉันไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ มันเหม็น

แค่ได้กลิ่นฉันก็จะตายแล้ว ฉันยกมือขึ้นมาปิดจมูกอย่างอดไม่ได้ สายตาคมเข้มนั้นตวัดมองฉันสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะหันไปมองผ่านอากาศอันเวิ้งว้างนอกกระจกใส

“ลูกน้องของผมน่าจะกำลังไปขนของเธอไปที่คอนโดแล้ว ไปดูความเรียบร้อย พรุ่งนี้มาทำงาน” คุณสายฟ้ายิ้มให้ฉัน ฉันยังงง ๆ เขารู้ได้ไงว่าฉันพักที่ไหน ฉันได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ

“ขอบคุณค่ะ งั้นฉันกลับก่อนนะคะ”  ฉันยกมือไหว้อีกครั้ง

“ครับ” 

ฉันหยิบซองเงินเดือนล่วงหน้าและคีย์การ์ดออกมาด้วย ในใจก็คิดไปเรื่อย ให้ฉันไปอยู่คอนโด คงจะเป็นคอนโดธรรมดาไม่หรูอะไรหรอก แค่พนักงาน เขาคงไม่ให้อยู่เลิศหรูหรอกมั้ง ฉันนั่งรถมาที่ห้องเช่าของตัวเอง ปรากฏว่ามีผู้ชาย5-6คน ขนของฉันมาไว้บนรถเรียบร้อยแล้ว

“จะไปพร้อมพวกผมเลยไหมครับ?” ชายเสื้อลายถามฉัน ฉันยังงงกลางดงผู้ชายอยู่เลย พวกพี่เขาเข้าไปขนของในห้องของฉันได้อย่างง่ายดายเลย ทั้งที่ฉันล็อคห้องเอาไว้

“พี่เข้าไปได้ไงคะ?” ฉันพูดไม่ได้อะไรกับข้าวของเท่าไหร่หรอกนะ เพราะมันไม่มีของมีค่าอะไร

“คุณไม่ได้ล็อคครับ” 

“อ๋อค่ะ” ฉันกล่าวพร้อมกับคิดอย่างสงน ฉันลืมไปยังไงกัน แต่ก็ช่างเถอะ! คงเพราะฉันสะเพร่าเอง มีหลายอย่างมากที่ฉันสงสัย มันแปลก ๆ ห้องพักของฉัน พวกเขารู้ได้อย่างไร

“ไปเลยไหมครับ ถ้าไม่ไปพร้อมกันพวกผมจะไปก่อน” 

“งั้นไปก่อนเลยค่ะ เอาคีย์การ์ดไหมคะ?”

“ไม่เป็นไรครับ คุณสายฟ้าให้พวกผมมาแล้ว” 

“ค่ะ” 

“พวกผมไปก่อนแล้วกัน” ชายคนนั้นพูดกับฉันแล้วเดินไปขึ้นรถ ฉันเปิดประตูห้องเข้าไปในห้องของตัวเอง ภายในห้องบัดนี้เหลือเพียงเตียงกับตู้ ข้าวของของฉันถูกเก็บไปจนหมดแล้ว

“มึงนอนที่นอนแข็งๆแบบนี้ได้ไงวะ?”

“นอนได้ จะเป็นไรไป”

“ปวดตัวแน่ ๆ เลยวะ เดี๋ยวกูมีเงินจะซื้อให้”

“ไม่เป็นไร มึงเก็บเงินของมึงเอาไว้เถอะ” 

“อยากมีเงินเยอะ ๆ จัง กูจะซื้อให้มึง” 

“เรียนจบทำงานเก็บเงิน ตอนนี้อดทนไปก่อน” 

“อืม” ภาพวันเก่า ๆ ลอยวนมา ฉันพ่นลมหายใจแรง ๆ แล้วเดินออกมาจากห้อง ฉันเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่คอนโดดีดิว 

พอจ่ายเงินเสร็จ ฉันเข้าไปอย่างงง ๆ ที่เขาบอกว่าห้องพักพนักงาน นึกว่าจะเป็นคอนโดราคาถูก หรือห้องเช่าที่ฉันเคยอยู่ แต่เปล่าเลย คอนโดหรูเลยแหละ บอสฉันโคตรใจดีเลย 

ฉันเดินออกมาลิฟท์ แล้วเดินไปที่ห้องของตัวเอง พอถึงฉันก็แตะคีย์การ์ดเข้าไป ป้าดดดด!!! เริดเรอเพอร์เฟ็ค ห้องหรูมากกกก!!! ฉันรีบเดินออกจากห้องแล้วดูเลขห้อง ฉันก็ไม่ได้เข้าห้องผิด มันก็เป็นห้องที่ฉันต้องพักนี่น่า งงในงงแค่พนักงานทำไมได้พักดีจังวะ!! 

ปั้นจั่น... TALK...

ผ่านไปเกือบเดือนที่ผมเอาแต่ขลุกอยู่ที่ห้อง ผมเก็บตัวเงียบ ไม่ว่าพี่ชายของผมจะมาไม่มาผมก็ไม่สนใจ

พี่ปั้นสิบพยายามพูดให้ผมคลายความเศร้าใจลง แต่ผมก็ทำไม่ค่อยได้เลยผมยังเสียใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องของริสา เธอคือรักแรกรักเดียวในหัวใจที่ผมมี

ม่านหมอกก็หายไปเลย ผมเองก็ไม่ได้ถามหาเธอ พี่ชายของผมก็ไม่พูดอะไร เป็นแบบนี้ก็ดีในเมื่อผมกับเธอ มันเป็นได้แค่เพื่อน แล้วเธอคิดไปเกินกว่าเพื่อน ผมก็คงให้เธอไม่ได้

แต่การหายไปของเธอ มันทำให้ผมอดใจหายไม่ได้ เมื่อก่อนสมัยเรียน ผมกับเธอขลุกอยู่ด้วยกันตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ม่านหมอกเรียนไม่เก่งเท่าผม ผมก็จะคอยติวและอ่านหนังสือด้วยกันกับเธอ

“จั่น มึงทำยังไงวะ? มึงก็เรียนเท่ากู อ่านหนังสือเหมือนกันกับกู ทำไมมึงถึงเรียนเก่งกว่ากูวะ!” 

“ทำไงได้วะ? ก็คนมันเก่ง” 

“จ้าพ่อคนเก่ง” ม่านหมอกสะบัดค้อนใส่ผม

“ฮ่า ๆ แต่ตอนนี้กูหิววะ” 

“กินไรดี?” 

“กูไม่มีตังค์วะ บ้านกูจนให้เงินมาจำกัด” 

“กูพอมี ตอนนี้มีอยู่เงิน100เดียว ได้ผัดกะเพรา2จานกับน้ำคนล่ะขวด” ม่านหมอกหยิบเงินออกมา

“ขอบคุณนะ กูมีกูจะตอบแทนมึงแน่นอน”

“อืม อย่าคิดมาก เดี๋ยวกูไปสั่งแป๊บเดียว เดี๋ยวมา” ม่านหมอกลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู

“หมอก กูสัญญากูจะไม่ทิ้ง” 

“ อืม กูก็จะไม่ทิ้งมึงเหมือนกัน” ม่านหมอกส่งยิ้มหวานสดใส ผมมองรอยยิ้มนั้นแล้วยิ้มออกมา

Rrrrrr

เสียงสมาร์ทโฟนราคาแพงของผมดังขึ้น ทำให้ผมตื่นจากภวังค์ หลังจากที่สมองของผมมันคิดไปหาเรื่องเก่า ๆ ที่ผมกลับม่านหมอกเคยทำร่วมกัน เธอหายไปเป็นเดือนแล้ว ตั้งแต่ผมออกปากไล่ ม่านหมอกก็ไม่มาหาผมอีกเลย อดใจหายไม่ได้นะ เพื่อนรักที่คบกันมาตั้งหลายปี เงียบหายไป

“ฮัลโหล” 

(“ปั้นจั่นทำไมไม่ไปทำงานช่วยพี่”) เสียงของปลายห้วน บ่งบอกว่าไม่พอใจมาก

“ผมยังไม่มีกะจิตกะใจทำเลยพ่อ ช่วยนี้ผมเศร้า”

(“เศร้าเห*้ยอะไรวะเกือบเดือนแล้ว ตัดใจได้ก็ตัดเถอะ เธอแค่ผู้หญิงคนเดียวจะอะไรนักหนาวะ! งานสิสำคัญ พี่ปั้นสิบบริหารงานคนเดียว ไม่ได้นะ ลุงภูก็ไม่อยู่ อินทัชก็ไปทำงานต่างประเทศแล้ว พ่อก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยตอนนี้ธุรกิจเรามันขยายใหญ่แล้วต้องช่วยกัน จะมาเอาปัญหาส่วนตัวไปปนกับส่วนรวมไม่ได้นะ”)

“แต่พ่อครับ”

(“ไม่มีแต่รีบมาช่วยงานพี่ปั้นสิบเลย สินค้าตัวใหม่จะเปิดตัวอีกไม่กี่วัน ทำเป็นเล่นไปได้”

“ธานินทร์มันก็ช่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ? ให้ธานินทร์มันช่วยทำก็ได้”

“จะมีใครมาช่วยเราได้ตลอดล่ะลูก ถ้าเราไม่กระตือรือร้นทำเอง ปั้นจั่นโตแล้วควรคิดเองได้แล้วนะ อย่าให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับงาน อาบน้ำแล้วออกมาทำงานเลย”

“พ่อครับ…”

(“นี่ไม่ใช่คำขอร้องให้กลับมาทำ แต่นี่คือคำสั่ง โตแล้วควรคิดให้เป็น ผู้หญิงในโลกนี้มันมีคนเดียวหรือไงจะอะไรเอาอะไรนักหนา”)

“พ่อไม่เคยอกหักเพราะไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน?”

(“พ่อก็เคยเจ็บนะสมัยเป็นหนุ่ม แต่พ่อไม่เอามาปนกับเรื่องงาน คนเรามันต้องรู้จักแยกแยะ ถ้าเกิดว่าเรามัวแต่จมอยู่กับเรื่องส่วนตัว แล้วไม่มาบริหารงาน จะเอาอะไรกินล่ะหัดคิดให้มาก”)

“เอ่อ…”

(“ถ้าไม่เชื่อคำพ่อ พ่อจะให้แม่น้ำชาไปลากลูกมาจากคอนโดโกโรโกโสนั่น”)

“พ่อครับสภาพจิตใจของผม ยังไม่พร้อมเลยนะครับ”

(“ต่อให้แกเสียใจให้ตาย มันก็เอากลับคืนมาไม่ได้หรอก ในเมื่อเขาเลือกคนอื่นไปแล้ว มาโฟกัสงานของเราไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าลูกทำงาน มาบริหารพี่ชายและเปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมกับพี่ ให้คนได้รับรู้ว่าพี่กับน้องมาบริหารงานช่วยกัน ใคร ๆ ก็อยากรู้จักลูกทั้งนั้น ในฐานะนักธุรกิจไฟแรง ผู้หญิงมากมาย ต่างก็พร้อมจะอ้าขาให้ลูก ลูกจะเอาสวย กว่าผู้หญิงคนนั้นของลูก 10 เท่าก็ยังได้เลย”)

“... “

(“เลิกฟูมฟายร้องไห้เป็นเด็ก ๆ ได้แล้ว ทำตัวให้มีค่า ให้ผู้หญิงคนนั้นมันเสียดายเรา อย่าไปยึดติดกับของที่ไม่ใช่ของของเรา ขนาดคนเป็นผัวเมียกันมีลูกด้วยกันเขายังหย่ากันได้ แต่งได้ก็เลิกได้ หมั้นได้ก็ถอนหมั้นได้ รักได้ก็เกลียดได้ เกลียดได้ก็รักได้ ชีวิตนี้มันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนหรอก เราอย่าไปยึดติดกับมันมาก ของที่เป็นของของเรา ต่อให้เราเสียไปแล้วมันก็กลับมาเป็นของเราอยู่ดี”)

“ครับพ่อ”

(“เดี๋ยวให้แม่ไปลากมานะ”)

“ไม่ต้องให้แม่มาหรอกครับ เดี๋ยวผมจะไปเองแม่มาทีไรบ่นผมหูชาทุกที”

(“เออ… รีบ ๆ มาแล้วกัน”)

“ครับ” ผมรีบวางสายพร้อมกับตวัดปลายเท้าจรดลงพื้น แล้วหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง ผมสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อเรียกกำลังใจตนเอง

จริงอย่างที่คำของพ่อผมพูด ถึงจะเสียใจไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอก ผมควรจะลุกขึ้นมาทำตัวเองให้มีค่า ผมจะช่วยงานพี่ชาย 

ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็ขับรถสปอร์ตหรูของผมไปจอดที่ลานจอดรถของบริษัท พนักงานทุกคน ที่เห็นผมเดินเข้าไปในตึก ต่างก็ทำความเคารพผม พนักงานทุกคนก็รู้จักผมเป็นอย่างดี เพราะผมโตมากับบริษัทแห่งนี้

ผมเดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงโต๊ะทำงานที่ม่านหมอกเคยนั่งทำงาน ผมขมวดคิ้วมุ่น เมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้ม เพื่อนสนิทของผมอีกแล้ว แต่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ม่านหมอก นั่งทำงานแทนเธอ

ผมทำหน้าฉงน ม่านหมอกไปไหนทำไมคนอื่นถึงมาทำงานแทนเธอ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากถามใคร พี่ปั้นสิบกับพี่อินทิราก็เดินมาพอดี

“มาทำงานได้แล้วเหรอ ไอ้ตัวดี” 

“ครับ แล้วม่านหมอกไปไหนครับทำไมคนอื่นถึงมานั่งทำงานที่โต๊ะแทนเธอ” 

“อ๋อ ม่านหมอกเธอลาออกไปแล้ว เกือบเดือนได้แล้วมั้ง เห็นว่าจะไปช่วยเพื่อนทำงาน” 

“แล้วพี่ก็ให้เธอไปเหรอ?”  ผมเอ่ยถาม พยายามขบคิดว่าเพื่อนของเธอเป็นใคร ในเมื่อตลอดที่ผ่านมา เธอมีผมเป็นเพื่อนคนเดียว

“อ้าวในเมื่อเธอต้องการจะออก กูจะรั้งไว้ทำไมล่ะ? เธอมีสิทธิ์ที่จะไปทำงานที่อื่นก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเธอ ในเมื่อเธอต้องการที่จะออกกูก็แค่เซ็นอนุมัติให้เธอเท่านั้นเอง”

“... “     ผมยืนนิ่ง กำลังใช้ความคิด ม่านหมอกคงจะโกรธ ที่ผมออกปากไล่เธอ ณ เวลานั้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมตกใจ รู้สึกเสียใจ ปะปนกันไปหมด ถูกแฟนทิ้งเจ็บแล้ว เพื่อนสนิทมาจูบผม พร้อมกับสารภาพว่ารักผม จะให้ผมทำอย่างไร

ในเมื่อผมคิดกับม่านหมอกเป็นได้แค่เพื่อน  ผมไม่สามารถคิดกับเธอเป็นอื่นได้เลย แล้วเราจะมองหน้ากันยังไง ในเมื่อเธอคิดกับผมมากกว่านั้นแล้ว จะให้ผมไปทำตัวสนิทด้วยมันก็คงไม่ใช่

“ส่วนนี่คุณเพ็ญศรี จะมาออกแบบสินค้าแทนม่านหมอก มึงก็ช่วยดูแล้วกัน” 

“...”

“ม่านหมอกเธอลาออกกูก็เลยให้คนอื่นมาแทน หวังว่ามึงคงไม่มีปัญหานะ” 

“ไม่มีครับ” 

“ดีงั้นเราไปห้องทำงานกันเถอะอิน” 

“จ้ะ!”    ผมมองตามหลังพี่ชายของผมที่เดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว ผมรีบหยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงของผมออกมากดโทรออกทันที ถึงแม้ว่าความเป็นเพื่อนของผมกับเธอจะไม่เหมือนเดิม แต่ม่านหมอกเป็นคนมีความสามารถและเก่งในการออกแบบมาก ผมเองก็นึกเสียดายที่ต้องเสียพนักงานดี ๆ อย่างม่านหมอกไป

ผมกดย้ำที่หน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง แต่ผลตอบรับก็คือเสียงที่ดังตื๊ดตื๊ดตื๊ด เธอน่าจะบล็อคเบอร์ผมแต่ไม่เป็นไร ผมยังมีไลน์มีเฟซมี I* ผมรีบติดต่อเธอทันที แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นความว่างเปล่า ม่านหมอกบล็อกเฟซ บล็อคไลน์บล็อคทุกช่องทางการติดต่อ ที่ผมจะติดต่อเธอได้

มาถึงตอนนี้ผมกลับร้อนใจแปลก ๆ ทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้ ทั้งที่ผมเป็นฝ่ายไล่เธอไป

“ช่างเถอะในเมื่อมึงไม่อยากให้กูติดต่อมึงกูก็จะไม่ติดต่อ ต่างคนต่างอยู่ไปแล้วกัน” ผมพูดออกมาเบา ๆ ถึงแม้ว่าในใจของผม มันจะโหวงเหวงแปลก ๆ ก็ตาม

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพื่อน(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ5 จบ

    วันเวลาผ่านไปอีก3เดือนค่ะ​ ฉันกลับมาใช้ชีวิต​เป็นครอบครัว​กับปั้นจั่นที่กรุงเทพ​โดยที่พ่อของฉันไม่ขัดข้อง​ประการใดค่ะ​ ฉันมีความสุข​มากๆเลยค่ะ​ ที่พ่อของฉันไม่เกลียดปั้นจั่นเหมือนแต่ก่อน ปั้นจั่นคงจะทำให้ท่านเห็นว่าเขายังมั่นคงกับฉัน เพราะเขาแสดงออกว่าเขารักฉันกับลูกตอนที่ไปบ้านพ่อแม่ฉันถึงแม้ว่าฉันกับเขาจะเลิกรากันไปถึง 10 ปีปั้นจั่นไม่มีใคร​ ฉันเองก็ไม่มีเหมือนกัน​ พ่อก็คงจะใจอ่อนให้เขา​ และสิ่งที่เขากระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือเขาไปหาอันนาอยู่เสมอ​ เขาไม่เคยรับผู้หญิงคนอื่นเข้ามาแทรกเลยความรักครั้งใหม่สดใสอีกครั้ง​ ฉันเลือกที่จะอภัยเพราะมันถึงเวลาที่ควรอภัยแล้ว​ เขาปรับปรุง​ตัวและไม่มีใคร​ ถึงมันจะเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัย​ แต่ฉันก้าวผ่านและอภัย​ให้เขาแล้วฉันยังมั่นคง​ ไม่มีใครลืมรักแรกได้​ ฉันไม่เคยลืมและไม่มีใคร​ ไม่ใช่ว่าตลอดระยะเวลา10ปีฉันเฝ้ารอเขานะคะ​ ฉันไม่ได้รอเขาหรอก​ แต่ฉันไม่สามารถรับใครเข้ามาในหัวใจได้ฉันรับน้ำค้างมาอยู่ที่บ้านแล้วนะคะ​ ถึงแม้ว่าตอนแรกเธอจะไม่อยากมา​ อิดออดมากเลยค่ะเพราะเธออยากอยู่ใกล้คุณพายุ​ แต่ในเมื่อฉันกลับมาอยู่กับปั้นจั่นแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้น้

  • เพื่อน(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ4

    ม่าน​หมอกเเสงแดดอุ่น​ๆแผ่เข้ามากระทบร่าง​ ฉันซุกหน้ากับอกแกร่งของปั้นจั่น​ อกที่คุ้นเค​ยอกนี้มันอุ่นมากเลยค่ะ​ อุ่นสุด ๆ เลยค่ะหลังจากที่จบศึกสวาทกันฉันก็หมดแรง​ คนที่นอนอยู่ข้างๆทั้งถึกทั้งทน ฉันถึงกับอ่อนเปลี้ยเพลียแรงฉันเงยหน้าจ้องใบหน้าคมคายของเขา ตอนนี้ปั้นจั่นหลับตาอมยิ้มที่มุมปากน้อยๆ เขาดูมีความสุขมากเลยค่ะ ซึ่งมันไม่ต่างจากฉันตอนนี้ ฉันมีความสุขมากที่ได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา ถึงแม้ว่าใจของฉันมันจะสับสน แล้วรู้สึกหวาดหวั่นกับสิ่งที่เขาทำ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ได้พิสูจน์ให้ฉันได้เห็นว่า เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีจริงๆ“จ้องการแบบนี้มาขี่ม้ากันเลยดีกว่า” เขาพูดพร้อมกับ เปิดเปลือกตาขึ้นต้องมองฉัน ฉันนี่เขินหน้าดำหน้าแดงเลยค่ะ“บ้าน่า” ฉันค้อนใส่เบาๆก่อนจะค่อยๆคลายกอดเขา ฉันหยัดกายลุกขึ้นจากเตียง​หมับ!“ว้าย!” ฉันกรีดร้อง​อย่างตกใจ​ ปั้นจั่นคว้าตัวของฉันเอาไว้​ พร้อมกับ​ฝังจมูกไปตามพวงแก้มของฉัน​“กลิ่นตัวหมอกหอมจัง” เขาพูดจมูกก็เริ่มซุกไซร้ตามเนื้อตัวของฉัน​ ไม่นะ! ไม่​ เรื่องบนเตียงตอนนี้ต้องพักก่อน​ มือของเขาเริ่มลูบไปตามเนื้อตัวของฉัน​ ยุกยิก​เป็นหนวดปลาหมึกเชียวค่ะ“ไปอ

  • เพื่อน(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ3

    ปั้นจั่น​TALK​ผมจูบหมอกเร่าร้อนราวทะเลเดือด​ จูบราวกับสูบวิญญาณ​เธอออกจากร่าง​ ผม​ประคองใบหน้าของหมอก​ จูบเน้นๆแล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก​ของเธอ​ม่านหมอกขัดขืนในตอนแรกพยายาม​ผลักผมออก แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ​ วันนี้ผมต้องได้เมียคืน​ พี่ชายพี่สาวพ่อแม่และทุกคนๆช่วยกันวางแผนขนาดนี้ผมต้องตีมึนเอาไว้​ผมดันเธอไปชิดกำแพงในขณะที่​จูบเธอไปด้วย มือของผมเลื่อนลงต่ำมาบีบเค้นที่อกอวบของเธอ​ มืออีกข้างก็ถลกกระโปรงแล้วสอดมือเข้าไปในแพนตี้​ตัวจิ๋ว​ม่านหมอกสะดุ้งทันทีที่มือผมสัมผัส ผมกดคลำลากตามร่องยาวปริ่มน้ำ​ ม่านหมอกพยายาม​ต่อต้าน​ ร่างกายเธอเริ่มบิดไปมาผมกรีดนิ้วจนกระทั่ง​เจอเม็ดทับทิม​“อ้ะ ...ปะ... ปั้นจั่น” ม่านหมอกครางเบา​ๆ​ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด​เมื่อปากเป็นอิสระ​ ผมทนมามากพอแล้ว​ ผมไม่ได้ปลดปล่อยมา10ปี​ และวันนี้ผมจะไม่ทน“หมอกจ๋า​ จั่นอยาก” ผมพูดเสียงกระเส่า​ รู้สึกต้องการเรื่องอย่างว่า​ แก่นกายของผมมันปวดหนึบจนแทบจะปริแตก​ มันผงาดชี้โด่พร้อมกับมีน้ำใสๆ​ ไหลเยิ้มออกมา“พะ... พอ... ยะ... หยุดสักที”“หยุดทำไม? นี่คือความสุขนะหมอก”“มะ... ไม่เอา​ พะ... พอ” ม่านหมอกพูดอยู่แค่นั้นวนไปมา ผมไ

  • เพื่อน(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ2

    “หมอกไปกรุงเทพ​ก่อนนะพ่อ” ฉันเอ่ยกับพ่อสุนทรในขณะที่ท่านกำลังง่วนอยู่กับการสั่งงานลูกน้อง วันนี้ท่านให้คนมาทำถนนทางไปบ้านของฉันกับบ้านที่ปั้นจั่นเคยอาศัยอยู่ และคนงานกำลังฟังอย่างตั้งใจ“อันนารบเร้าให้พาไปหาพ่อมันละสิ”“ใช่ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับมองแผ่นหลังของพ่อ พ่อไม่ชอบปั้นจั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท่านอาจจะไม่พอใจที่ฉันจะพาอันนาไปหาเขา“...”“พ่อคะ...” ฉันเม้นปากพร้อมกับเรียกท่าน“ไปเถอะ​ ผ่านมาหลายปีดีดักแล้ว​ หมอกมั่นคงกับมัน​ มันก็มั่นคงกับหมอก​ พ่อคงไม่ห้ามอะไรแล้ว​ เพราะที่ผ่านมามันก็พิสูจน์​ตัวให้พ่อเห็น​แล้ว”“ค่ะ”“รักคุณ​ตาที่สุดเลยค่ะ” อันนาเช้าไปกอดพ่อสุนทร“รักเหมือนกันครับ​ ไปกับคุณ​แม่ก็บอกคุณ​แม่ให้ขับรถดีๆด้วยนะ”“ค่ะ”“ให้ไอ้วัดไปขับรถให้ไหม? ““ไม่เป็นไรค่ะ​ หมอกขับเองดีกว่า”“อืม รีบไปเถอะ​ เดี๋ยว​พ่อคุยงานกับพวกคนงานก่อน​”“ค่ะ”“รีบไปเถอะค่ะแม่”ฉันรีบพาบุตรสาวไปขึ้นรถจากนั้นก็ขับออกไปโดยที่มีสาวใช้คนสนิทตามไปด้วย​“ ซื้อของฝากไปฝากคุณ​ย่าด้วยนะแม่”“ได้จ้ะ” ฉันขับรถไปถึงร้านของฝากแล้วพาบุตรสาว​ไปเลือกของตามต้องการ“เอาไปเยอะๆ​เลยนะคะคุณ​แม่”“จ้า”ผ่านไปหลายชั่วโมง

  • เพื่อน(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ1

    ปั้นจั่น​TALK​“ปั้นจั่น เดือนนี้จะไปหาหมอกกับลูกใหม่?” แม่ผมเอ่ยถามขณะที่เดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับพี่สาวของผม“ผมอยากไปจะแย่แล้วครับแม่ คราวก่อนเหมือนหมอกจะใจอ่อนกับผมแล้ว​ ถ้าผมไปพูดหยอดเธอบ่อยๆ​ อีกไม่นานคงจะใจอ่อน” ผมเอ่ยกับมารดายิ้ม ๆ ก่อนจะก้มหน้าเซ็นเอกสารกองโตที่อยู่ตรงหน้า งานเยอะมาก เยอะสุด ๆ เลยครับ“เดี๋ยวแม่โทรไปชวนหมอกมาเที่ยวดีกว่า หลายปีแล้วนะที่หมอกไม่มากรุงเทพ แม่อยากให้หมอกมาอยู่กรุงเทพมาก ๆ อยากให้หลานมาเรียนที่นี่ด้วย”“หมอกก็คงปฏิเสธ​เหมือนทุกครั้งแหละครับ​ เฮ้อ!”“แต่แม่อยากให้หมอกกับแกคืนดีกันสักที”“ผมก็พยายาม​อยู่ครับ”“แกพยายาม​ไม่มากพอนะสิ​ แม่อยากให้หมอกมาอยู่ที่นี่แล้ว” แม่ผมทำหน้าเศร้า“แกก็ช่วยทำให้ความฝันของแม่เป็นจริงหน่อยสิวะ” พี่ปั้นสิบเดินเข้ามา วันนี้วันอะไร ทำไมทุกคนถึงพร้อมใจกันมาหาผม“ทำยังไง?” ผมขมวดคิ้วเข้มชนกัน “มึงก็เอาม่านหมอกกับมาเป็นเมียมึงสิวะ ผ่านมาหลายปีแล้ว กูว่าม่านหมอกคงใจอ่อนแล้วแหละ” พี่ปั้นสิบเอ่ย“บ้าน่า หมอกโกรธกูจะทำยังไงล่ะ กูกลัวเธอโกรธ” ผมเอ่ย ผมกลัวหมอกโกรธจริง กลัวมากเพราะหมอกเป็นคนค่อนข้างใจแข็ง ถ้าได้โกรธผมเอง เธอคง

  • เพื่อน(ไม่)รัก   60รักสิครับ​

    Chapter 60ฉันมองปั้นจั่นที่ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ฉันรู้ว่าเขาเจ็บแต่ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันต้องให้เขาออกไปจากชีวิตฉันตามที่เขาสัญญาเอาไว้ ฉันดูใจร้ายมากไหมคะ? ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันต้องทำ มันต้องจบได้แล้ว “หมอก ฮึก” ปั้นจั่นร้องไห้สะอึกสะอื้นหัวใจของฉันเจ็บหนึบ ไม่มีวันไหนที่ฉันไม่รักเขา มันคือความรักที่มั่นคงมาก​ ฉันไม่สามารถเอาใครมาแทนเขาได้ และฉันไม่สามารถกลับไปหาเขาได้เหมือนกัน“กลับไปทำหน้าที่ลูกเถอะ กูจะบอกเขาว่ามึงเป็นพ่อ กูสัญญาจะดูแลเขาให้ดี”“ฮึก ๆ ฮื่อ ๆ” ฉันค่อย ๆ​ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง​ ปั้นจั่นมองหน้าฉันด้วยสายตาเจ็บปวด เขาต้องเจ็บอยู่แล้ว การจากลามันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เขาจูบที่หน้าผากลูกของฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะส่งลูกให้แม่ของฉัน เขามองหน้าฉันแล้วเดินมาหาฉันหมับ!เขาสวมกอดฉันแล้วร้องไห้ออกมา ฉันร้องไห้ไม่ต่างกัน มันเจ็บนะคะที่ยังรักแต่ต้องจากกัน ฉันกอดตอบเขาอ้อมกอดนี้มันเคยเป็นเป็นของฉัน​ แต่มันเป็นเพียงอดีตแล้ว มันเจ็บนะคะที่ต้องจากทั้งที่ยังรัก แต่วันเวลาผ่านไปทุกความเจ็บปวดมันจะผ่านพ้นไป “ขอให้มึงโชคดี ไปทำหน้าที่ของมึงซะเถอะ” ฉันพูดเสียงส

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status