เขายอมซูฮกให้เลยกับพวกคอทองแดง
ผู้หญิงก็เป็นอย่างนี้ด้วยหรือเปล่า หรือว่าเป็นอาชีพลำไพ่พิเศษ ของหนุ่มสาวถังแตกสมัยนี้ด้วยการจับยัดเยียดตัวเองเป็นสินค้า พลีกายอยู่กับกองกาม คงปางภูจงชังรังเกียจนัก
และเขาอยากจะเล่นด้วย ด้วยความสนุกและสะใจในอารมณ์
วางหล่อนไว้บนเตียงนุ่มแล้วพิจารณาชั่วครู่ด้วยความเสียดาย ก่อนหักใจเดินออกไป ปิดประตูล็อกกลอนสนิท
ปางภูออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่เนื้อตัวเปียกชื้น
เส้นผมเปียกลู่ นุ่งผ้าขนหนูเดินผ่านเตียงกว้าง ไม่ได้หันมองจ้องสาวสวย ที่ทราบดีว่า ธีรคามจัดส่งตัวหล่อนมาไว้บนเตียงนานพอสมควร เนื่องจากพื้นที่ของห้องนี้กว้าง
ก่อนจะทรุดกายนั่งลงขอบเตียง ชำเลืองมองสาวสวยที่นอนคว่ำ ดูจากลักษณะหุ่นของหล่อนแล้วดูสมส่วนแบบ เอวบางร่างน้อย เป็นที่พึงพอใจแก่ปางภู สินค้าที่ธีรคามจัดให้นับว่าไม่เลว หมอนี่เข้าใจความต้องการรสนิยมของเขามากทีเดียว
ปางภูจะเริ่มทำอะไรก่อนอับดับแรก ทำให้สาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้าเขา นี่ตื่นขึ้นก่อน เพราะเขาอยากนอนกับผู้หญิงที่มีเลือดเนื้อหัวใจไม่ใช่ท่อนไม้ เขาไม่ได้กระหายในเรื่องนี้มานานแล้ว จู่มันก็ตงิดมีความต้องการขึ้นมา ธีรคามเป็นคนจุดข้อเสนอ
ปางภูจะเริ่มอย่างไรก่อน การปลดเปลื้อง
อันดับแรกยื่นมือขาวไปแตะที่บ่าและไหล่ของสาวสวย เขย่าเบา จนไหล่คลอนกลับ ไม่ได้ยินปฏิกิริยาตอบรับ
นี่คงจะหลับนาน ธีรคามเล่นแรงไปหรือเปล่า เมื่อเลื่อนมือมาอังที่ปลายจมูก ได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออก ค่อยถอนใจตัวเอง
แสดงว่าแค่สลบ จึงจับพลิกใบหน้าและจัดท่าการนอนให้ดูเหมาะสมแจ่มชัดตากว่านี้
ก่อนที่ปางภูจะอุทานออกมาด้วยสายตาที่ตกใจและไม่เชื่อ ว่าจะเป็นสาวคนเดียวกับที่เขาได้พบเจอเมื่อวันไปเยือนที่คอนโดพักของเพื่อนที่ชื่อโทชินาดะ
ซึ่งชื่นชมว่าเธอน่ารักรูปกายสมส่วน
ปางภูจึงชะงักถดกายออกมานิดหนึ่ง เพื่อตั้งสติตัวเอง ก่อนกวาดตามองดูให้แน่ใจอีกครั้ง
ทั่วร่างระหงท่ามกลางแสงไฟกระจ่าง พลันใบหน้าก่อความเข้มขึ้นมาอีกครั้ง คิดว่าหล่อนเป็นสินค้าย้อมแมวขายที่ธีรคามกล้าเล่นเหลี่ยมกับเขา
รู้สึกช็อกไปชั่วขณะ เพราะหล่อนถูกเขาตั้งภาพไว้สวยหรูด้วยบุคลิกภาพงดงามน่ารัก
พลันแววตากลับเปลี่ยนเป็นหยันเยาะ ในเมื่อหล่อนกล้าพลีกายตนเอง จะเป็นไปด้วยการตกเป็นเหยื่อของธีรคามก็ตาม
หล่อนไม่ควรจะจนมุมในสภาพแบบนี้
จนเขาคิดว่า หล่อนนี่โง่มากมาย จนถูกหลอกง่าย
แววตาเข้มระยับขึ้นอย่างฉุน เบะริมฝีปากออกมาด้วยกิริยาที่น่าเกลียด พลางสบถออกมาด้วยคำหยาบ
และวินาทีเดียวกันนั้น สาวสวยเพิ่งได้สติ มีความรู้สึกว่าแสงไฟที่สาดสว่างมากส่องแยงตา กายจึงขยับเคลื่อนตามมา
ภาพนั้นทำให้หนุ่มหล่อร่างสูงยืนจ้อง หล่อนค่อยลืมเปลือกตารับกับภาพเบื้องหน้าทีละนิด
พลันใบฟางต้องเบิกตากว้าง เมื่อเห็นชายหนุ่มที่เปลือยท่อนบนเบื้องหน้า หล่อนร้องกรี๊ดสุดเสียงขึ้นมาทันที
“กรี๊ดดดด”
ขณะที่ปางภูกำลังจะตัดสินใจ
จากนั้นร่างระหงล้มพับหลังกระทบกับความนุ่มของที่นอน เริ่มมีสติ กระถดกายถอยหนีบนที่นอน เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาของบุรุษที่คุกคามในยามนี้
ใบฟางไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หล่อนมาทรุดนอนบนเตียงที่นี่ได้อย่างไร
ดูลักษณะสถานที่แล้ว นี่มันโรงแรมชัด นี่หล่อนตกอยู่ในภาวะอันตราย เกิดอะไรขึ้นกับหล่อน ใบฟางจดจำภาพอะไรสักอย่างไม่ได้
อยากจะถาม ใครเป็นคนพาหล่อนมาที่นี่
“แกเป็นใคร แล้วนี่ ฉันมานอนที่นี่ได้อย่างไร กรี๊ด”
ใบฟางเสียงแหลมร้องกรี๊ด เมื่อรับไม่ได้กับสภาพที่ตกอยู่เช่นนี้ เขาทำอะไรกับตัวเธอ หล่อนเสียตัวให้กับชายหน้ามืดตัณหากลับแล้วหรือยัง
มันช่างเลวร้าย หล่อนจะทำอย่างไร จะยอมรับกับเรื่องนี้ได้แค่ไหน เมื่อมันตอกย้ำ หล่อนนอนอยู่กับผู้ชายสองต่อสองในห้อง
กี่ชั่วโมงแล้วล่ะ เขาสัมผัสแตะต้องหล่อนมากมายแค่ไหน
เดาเอาจากสภาพที่นุ่งผ้าขนหนูเปลือยท่อนบน แค่นี้หัวใจหล่อนก็หล่นที่ตาตุ่ม
คงเสร็จแน่ เสร็จแน่นอนความสาวของใบฟาง
สาวสวยจึงกรีดร้องเท่าที่หล่อนทำได้ขณะนี้ เพื่อเอาเรื่อง
พอหล่อนขยับปากจะตะเบ็งเสียง
มือแข็งแรงก็ปิดหมับเข้าไปที่ริมฝีปากของหล่อน อย่างหมั่นไส้ ที่หล่อนทำตัวดีดดิ้น ทำท่าเหมือนไม่เคย
“หุบปากได้แล้ว เธอจะร้องหาสวรรค์วิมานอะไร ในเมื่อมันเลยผ่านไป เอาอะไรกลับคืนมาไม่ได้ ใครจะรู้ว่าเนื้อตัวของเธอ มันขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะขนาดนี้”
เหมือนเติมเชื้อไฟรุนแรงโหมให้สาวสวยเจ็บปวดอีกครั้ง
ใช่ ใบฟางเจ็บปวดมากที่สุด ไม่เคยมีครั้งไหนรุนแรงเท่าครั้งนี้ หล่อนถูกชายโฉดย่ำยีตอนที่ไม่รู้สึกตัว
จากนั้นร่างสูงก็ขยับกายของตนเอง ทิ้งโถมกายลงไปเกลือกกลั้วข้างกายหล่อน กิริยาที่ดิ้นรนปัดป่ายปกป้องตัวเองพัลวัน
ยิ่งเพิ่มความซาดิสม์ในกายของชายหนุ่มให้เล่นบทรุนแรง
แต่เขาก็ชะงัก..
แค่นี้เธอก็บอบช้ำมากพอแล้ว
มือที่เงื้อก็ลดต่ำลง
สาวสวยขัดขืน และมือไม้ของหล่อนไม่ปล่อยว่าง
จนปางภูว่าหล่อนฤทธิ์แรงเหลือเกิน
“ร้องตะโกนเอาอะไรอีกล่ะ บ้าจริง พอแล้ว ถ้าเธอไม่เชื่อ รับรองฉันจะซ้ำต่ออีกรอบ”
แค่คำพูดที่เขาเอ่ยขึ้น ขู่หล่อนทำให้ใบฟางสามารถเงียบกริบได้อย่างกะทันหัน
พลันบอกกับตัวเอง นี่หล่อนไม่มีอะไรเหลือแล้วในกาย ความสาวที่อุตส่าห์เก็บบ่มทะนุถนอม และไม่เคยปล่อยใจมักง่ายกับใคร
แต่ต้องมาเสียรู้ ทรชนเช่นเขา
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท