Mag-log inดวงตากลมโตมองขึ้นไปอย่างตึกสูง ขาเรียวก้าวเข้าไปในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มีห้องลับสำหรับพี่น้องตระกูลซามูเอล ห้องที่มีแค่สามพี่น้องเท่านั้นที่สามารถเข้าได้
ทว่าเธอเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้ทางเข้าทางออกเป็นอย่างดีและไม่เคยมีใครรู้เลยว่าเธอมีรหัสผ่านพร้อมลายนิ้วมือที่เคยสแกนเอาไว้...นอกเสียจากคนที่เป็นคนให้รหัสผ่าน
“คงยังไม่เปลี่ยนพาสเวิร์ดหรอกนะ” เสียงบางเบาเอ่ยกับตัวเอง
ไม่รอช้า แพร์พีญาจึงเอื้อมมือไปสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดห้องทันที
กึก!
ไม่เปลี่ยน เวลาผ่านไปห้าปีทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยกเว้นเขาสินะที่เปลี่ยนไป
ร่างบางก้าวเข้ามามองเห็นร่างสูงที่คุ้นชินยืนชิดขอบตู้หนังสือ กลายกับว่าเขารู้ดีว่าเธอต้องมาที่นี่
“ฝีมือนายใช่ไหม!?” ไม่พูดพร่ำทำเพลง แพร์พีญาเอ่ยถามตรงประเด็น
“...” คูเปอร์ยังคงยืนก้มอ่านหนังสือ ไม่คิดจะหันกลับไปมองต้นเสียง
“นี่...คูเปอร์!!”
เจ้าของดวงตาสีนิลหันกลับมาทันควันเมื่อโดนเรียกชื่ออย่างไม่ให้เกียรติ ทั้งที่เขาอายุมากกว่า
“เมื่อไหร่จะหยุดวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที”
“...” ทว่าดวงตาคู่นั้นได้แต่จับจ้องร่างบางด้วยแววตาดุดันคาดเดาอะไรไม่ได้เลยสักนิดและไม่แม้แต่จะปริปากเอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน
“นายกำลังทำให้ฉันลำบาก รู้ตัวไหม” แพร์พีญาไม่รู้จะพูดคำไหนกับคนประเภทนี้อีกแล้ว
เหมือนคำพูดของเธอเป็นเพียงอากาศเท่านั้น นอกจากจะไม่ตอบกลับ เขายังจะเดินไปหย่อนตัวนั่งโซฟายกขาพาดบนโต๊ะพร้อมกับอ่านหนังสือต่ออย่างหน้าตาเฉย
“เป็นบ้าอะไรของนาย ขาดความรักรึไงถึงได้เรียกความสนใจ” แพร์พีญาฟิวส์ขาดเอ่ยออกมาด้วยความโมโหกับท่าทีพวกนั้น
ฟึ่บ! คูเปอร์โยนหนังสือทิ้งจากมือ
“มันจะมากไปแล้วนะ” พร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วถลาตัวเข้าประชิดร่างบางทันที
“แต่สิ่งที่นายกำลังทำอยู่มันหมายความว่าอย่างนั้น” เธอเชิดหน้าไม่เกรงกลัว วันนี้เป็นไงเป็นกัน เธอจะไม่หนีคนพวกนี้อีกแล้ว
หมับ! มือหนาคว้าต้นแขนเล็กกระชากเข้าหาตัวเต็มแรง
“ความรักของเธอมันไม่มีค่าสำหรับฉัน!” พูดจบเขาก็สะบัดมือออกจากตัวแพร์พีญา
“อึก!” สุดท้ายคำพูดนี้ก็หลุดจากปากเขาสักที คำพูดที่ใครบางคนพยายามบอกเธอมาโดยตลอด
‘ผู้หญิงที่ทำตัวง่าย มีใครบ้างไม่ชอบ’
“...” คูเปอร์เงียบเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้หญิงตรงหน้า
“ความรักของนายก็ตายจากฉันไปแล้วเหมือนกันเพราะฉะนั้นเราควรจะจบกันสักที หยุดทำลายชีวิตฉัน หยุดข่มขู่และหยุดทุกสิ่งที่นายคิดจะทำ!” ร่างบางกัดฟันพูดออกมาอย่างแค้น ๆ และจุกในอกอย่างบอกไม่ถูก
“หึ เป็นใครถึงมาห้ามฉันได้” เขาแสยะยิ้มเค้นหัวเราะสมเพชประโยคพวกนั้น
“อยากให้ฉันตายตรงหน้านายใช่ไหม ถึงจะพอใจ!” ไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงได้ประชดออกไปอย่างนั้น ทั้งน้ำเสียงและสายตามันตัดพ้อโดยที่ห้ามตัวเองไม่ได้
“ลองตายดูสิ เพื่อฉันจะพอใจ”
“คูเปอร์!” เธอกดเสียงต่ำด้วยความขุ่นเคือง
“ห้ามเรียกชื่อฉัน!” ทว่าเขากลับตวาดใส่ร่างบางเสียงดังลั่น แววตาดุร้ายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“...” แม้แต่ชื่อคนเคยคบกัน เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกสินะ
“...” เขาเงียบเพื่อลองเชิงคนที่กล้ามาเหยียบที่ห้องแห่งนี้อีก
“อืมฉันเข้าใจแล้ว...ฉันเองก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นาน แค่ต้องการเคลียร์กับนายให้จบวันนี้”
“หึ” คูเปอร์เค้นเสียงหัวเราะอีกครั้ง ท่าทีของเขากวนประสาทร่างบางได้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับเขา จบ...เพื่อไปมีความสุขใหม่ ใครมันจะยอม
“คือฉันไม่รู้ว่านายทำแบบนี้ทำไม แต่ช่วยหยุดสักทีได้ไหม”
“งั้นฉันถามหน่อย ว่าทำไมฉันต้องหยุด!?”
“คนรวยอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“กลับไปทำอาชีพเก่าสิ ถ้าอยากสบาย”
แพร์พีญาเงยหน้าสบดวงตาสีนิล นี่เขาจะยัดเยียดอาชีพนี้ให้เธอให้ได้เลยใช่ไหม เป็นลูกของผู้หญิงขายตัวมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วครอบครัวของใครกันที่กดให้แม่ของเธอทำอาชีพนี้...ถ้าไม่ใช่ครอบครัวคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้!
“เงียบ!?...” คูเปอร์เค้นเสียงใส่ร่างบางแล้วเอ่ยต่อ “หรือว่ามีลูกค้าแค่ไอ้หมอหน้าจืดนั่นคนเดียวแล้ว มันสนองเธอไม่พอเหรอถึงต้องรับงานถ่ายแบบโชว์เนื้อโชว์ตัวอย่างนี้”
“...” แพร์พีญาเบี่ยงหน้าไปทางอื่นรู้สึกว่าการมาครั้งนี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ในเมื่อเขาไม่คิดจะจบ
“ถ้าหาลูกค้าไม่ได้ ฉันยอมเป็นลูกค้าให้เธอก็ได้ เอาไหม!?”
“ทุเรศ! สมองนายมันมีแต่เรื่องต่ำ ๆ ฉันไม่น่าเสียเวลามาคุยกับนายจริง ๆ” เธอแวดเสียงใส่หน้าร่างสูงด้วยความไม่พอใจ สุดท้ายแล้วเขาก็แค่ต้องการจะกดเธอก็เท่านั้น
หมับ!
“ต่ำเหรอ” คูเปอร์เชยคางมนให้เชิดหน้าขึ้นมาสบตา
“...” ร่างบางพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ก็สู้แรงบีบไม่ได้
“ฉันจำได้ว่าเธอเองก็ชอบเรื่องต่ำ ๆ เหมือนกัน ไม่งั้นเธอจะยอมทุกครั้งที่ฉันขอเหรอ”
“...” กำหมัดเล็กกำเข้าหากันแน่น มือไม้สั่นไปทั้งตัว ไม่เคยรู้สึกโกรธตัวเองอย่างตอนนี้มาก่อนเลย
“เถียงไม่ออกเหรอหรือฉันพูดตรงเกินไป” เมื่อเห็นว่าร่างบางตรงหน้ายืนนิ่ง เขาก็ยียวนต่อทันควัน
“อย่าหวังว่าฉันจะนอนกับนายอีก”
“อืม ฉันจะรอดู” เขายักคิ้วอย่างเหนือกว่า
“ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อที่จะดูถูกฉันใช่ไหม”
“พิสูจน์สิ ว่าเงินซื้อเธอไม่ได้อย่างที่ใคร ๆ เขาพูดกัน”
“ฉันไม่พิสูจน์อะไรทั้งนั้นเพราะเงินซื้อฉันได้จริง ๆ ถ้าใครให้เงินฉันตอนนี้ ฉันก็พร้อมทำทุกอย่าง”
หมับ!
“หน้าไม่อาย” มือหนากระชากร่างบางอีกครั้งพร้อมทั้งกดเสียงด่าทอใส่
“ในเมื่อฉันต้องการเงิน ฉันไม่จำเป็นต้องแอ๊บ” ก่อนที่แพร์พีญาจะตอบโต้เต็มน้ำเสียง ไม่มีอีกแล้วผู้หญิงที่อ่อนโยน โลกนี้มันมีไว้สำหรับคนที่เข้มแข็งเท่านั้น
“แพร!” ทำให้คูเปอร์โกรธจัดเอ่ยเรียกชื่อร่างบางดังลั่นห้อง
“อย่ามาเรียกชื่อฉัน นายเองก็ไม่มีสิทธิ์แล้วเหมือนกัน” ทว่าเธอเองก็สวนกลับไปทันทีพร้อมย้อนประโยคเดิมที่ชายหนุ่มตรงหน้าพูดไว้ก่อนหน้านี้
“เท่าไหร่!? ถึงจะทำให้เธอเลิกนิสัยนี้สักทีห๊ะ” คูเปอร์ตะคอกใส่อย่างเดือดดาล เก็บอารมณ์แทบไม่อยู่เมื่อร่างบางตรงหน้าแสดงธาตุแท้ให้เห็น
ผ่านมาห้าปีเพิ่งจะเห็นธาตุแท้ ผู้หญิงที่อ่อนหวาน ใสซื่อ มันเป็นแค่ฉากจอมปลอม เอาไว้หลอกผู้ชายเพื่อโกงค่าตัวก็แค่นั้น
“เงินนายอาจจะซื้อได้ทุกอย่างที่นายต้องการ แต่ยกเว้นฉัน!” เอ่ยจบแพร์พีญาสะบัดมือออกจากการเกาะกุมอย่างแรงจนหลุดพ้น
“หึ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะจริงอย่างที่เธอพูดรึเปล่า” ทำให้คูเปอร์เอ่ยดูถูกออกไป
ดวงตากลมโตสบตาคู่สีนิลอย่างหลากหลายความรู้สึก เขาที่มองมาเต็มไปด้วยความรังเกียจและสมเพช
และในเมื่อพูดไม่รู้เรื่องแพร์พีญาจึงหมุนตัวเพื่อที่จะกลับ ผิดเองที่มาที่นี่ คิดว่าจะคุยด้วยเหตุผลแล้วจะจบแต่ทว่าเขากลับกดเธอให้ต่ำกว่าเดิม
หมับ! มือหนาคว้าแขนเล็กเอาไว้ไม่ให้เดินต่อ
“จำเอาไว้ว่าฉันจะทำให้เธอคลานมาขอร้องเงินจากฉันเอง...แพร์พีญา”
แพร์พีญาเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทาง หลังจากกลับถึงห้องพัก ถึงแม้เธอจะได้ค่าตอบแทนไม่ถึงครึ่งซะด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็ตั้งใจจะไปรับพีพีขึ้นมารักษาตัวและเมื่อกลับมาถึงห้องเธอรู้ได้ทันทีว่าพีรภัทรยังไม่กลับห้องตั้งแต่เมื่อวาน เธอหวังลึก ๆ ว่าพีรภัทรจะใจเย็นลงบ้างแล้ว มือบางกดต่อสายหาน้องชายทว่าก็ไร้การตอบรับ ไม่รับสาย ไม่อ่านข้อความไลน์หรือช่องทางการติดต่ออื่น ๆทำให้ร่างบางสะพานกระเป๋าเตรียมตัวไปขนส่งโดยไม่ลังเล เวลาของเธอสำคัญกว่ามานั่งเสียใจเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ อีกแล้ว ถึงจะไม่ได้เงินครบตามจำนวน แต่เธอก็ต้องไปรับพีพีมาพักรอการรักษาตัวก่อน..ร่างสูงโปร่งยืนพิงประตูรถญี่ปุ่นหน้าหอพัก คนที่เดินลงมาจากตึกเข้าใจสิ่งที่เห็นว่าใครเป็นคนบอกให้เขาต้องมาจอดรถรอที่นี่ ณ เวลานี้“พี่หมอ” แพร์พีญาเข้าไปทักทายอย่างเลี่ยงไม่ได้“จะกลับบ้านทำไมไม่บอกพี่ละ วันก่อนเราคุยกันแล้วนะ” ทันทีที่คนตัวเล็กเอ่ยเรียก เขาก็ยิงคำถามกลับมา“คือแพร...” เธอไม่รู้จะบอกยังไงดี ได้แต่ยืนก้มหน้าหาคำแก้ตัว“ไม่อยากรบกวน” ทว่าร่างสูงรู้ทัน เอื้อมมือไปวางบนศีรษะ คล้ายกับว่าเอ็นดูในท่าทีหญิงสาว“...” ดวงตากลมโตเงยขึ้นไปสบต
รถสปอร์ตหักเลี้ยวเข้าข้างทางกะทันหัน นัยน์ตาสีนิลบัดนี้แทบจะร้อนระอุเป็นเพลิงไฟ คล้ายกับคนสติแตกโกรธตัวเอง!?ไม่!...เขาสมควรทำอย่างนั้น ทำไมต้องรู้สึกกับสิ่งที่ทำลงไป เขาเองก็โดนทำร้ายจนสาหัสไม่ต่างกันดีไม่ดีมีแค่เขาเท่านั้นที่เจ็บปวดกับเรื่องราวในอดีต‘แกจะรักผู้หญิงคนนั้นไม่ได้!’เขาไม่เคยคิดจะฟังคำเตือน ต่อให้เขาจะโดนบี้แค่ไหนก็ตาม ‘ถ้าแกยังดื้อด้าน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกสักสลึงเดียว’เขาไม่สนเพราะเชื่อว่าตัวเองสามารถเลี้ยงดูคนรักได้โดยไม่ต้องง้อสมบัติเก่าเขายอมทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเธอแต่แล้ว...ทุกอย่างกลับพังทลายไม่คู่ควรกับคำว่ารักที่เขามอบให้สักนิดเดียวโดนหักหลัง โดนหลอก พร้อมภาพและคำพูดทุกอย่างตอกย้ำว่าเธอเป็นอย่างที่เขาได้ยินมา‘หนูจะขายให้ฉันไหม’‘ขายค่ะ’‘หนูแพรแน่ใจน่ะ’‘ทำไมถามอย่างนั้นล่ะคะ เสี่ยมีพระคุณกับครอบครัวหนู ให้ฟรีหนูยังให้ได้เลย’ ตุบ!นิ้วเรียวกำหมัดแน่นฟาดลงไปบนพวงมาลัยรถเต็มแรงประโยคเหล่านั้นยังวกวนในหัวสมองตลอดห้าปี มันคือฝันร้ายที่ทำให้ความเจ็บปวดตอกย้ำซ้ำ ๆทว่าจู่ ๆ ความสุขที่เขาได้รับเมื่อคืนย้อนเข้ามาลบภาพจำในอดีตรสจูบที่หอมหวาน กลิ่นกายชวนหลงใหล
ขาเรียวยาวตวัดเกี่ยวเอวสอบเอาไว้ผ่อนคลายไปตามแรงปรารถนา ไม่ใช่หลงไหลในบทรักของเขา แต่ต้องการให้ทุกอย่างที่ตั้งใจราบรื่นเร็วที่สุด“แน่น...แน่นเหมือนเดิม”คูเปอร์พึมพำด้วยความพึ่งพอใจ“แพร” ไม่วายยังจะเอ่ยเรียกชื่อร่างบางเสียงกระเส่า ลืมตัวไปหมดสิ้นว่ากำลังลงโทษแพร์พีญาให้หลาบจำทำเอาคนใต้ร่างถึงกับชะงักเพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดชื่อของเธอ ตั้งแต่กลับมาเจอกันไม่มีสักครั้งที่เขาจะเรียกชื่อเธอเหมือนอย่างตอนนี้ทว่าบางทีเขาแค่ใกล้จะปลดปล่อยเลยระบายมันออกมาต่างหาก‘แพรจ๋า’‘พี่เปอร์..เบาหน่อยน้องเจ็บไปหมดแล้ว’ มือบางประคองใบหน้าคมที่จู่โจมเธอตั้งแต่ย่างกร่างเข้ามาในคอนโดของเขา ‘พี่ขอโทษ’คูเปอร์โน้มลงไปจูบแนบชิดเพื่อให้เธอผ่อนคลาย จูบไล้ตั้งแต่หน้าผากจนถึงปลายคางมน ซุกหน้าคมคายเข้าไปในซอกคอ สูดดมกลิ่มหอมประจำตัวให้ชื่นหัวใจ ‘อื้ออ..พี่คูเปอร์’‘ดีขึ้นไหม’เธออมยิ้มพยักหน้าตอบกลับ ‘จะทำไรคะ’ ก่อนจะชะโงกหน้าขึ้นมาดูเมื่อเขาถอดบางอย่างที่แข็งแรงออกจากตัว‘เปลี่ยนท่า’เสียงเรียบราบบอกเพียงสั้น ๆ แต่กลับบ่งบอกถึงอารมณ์ใคร่ได้เป็นอย่างดีเขาจับร่างบางพลิกนอนคว่ำจากนั้นค่อยสอดแทรกตัวตนเข้าไปลึกสุดใ
“อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้น คืนนี้เธอต้องทรมานอีกหลายยก”แพร์พีญาดันมือหนาที่กำลังรังแกเธอออกอย่างไว แต่แล้วสายตาของเธอก็สังเกตเห็นบางอย่าง เธอจึงก้มมองตามร่างกำยำที่คุ้นชิน ทว่าบัดนี้เปลี่ยนไปจากเดิมเขาไม่ชอบให้มีลวดลายบนตัวแม้กระทั่งลายสักประจำตระกูลแต่...ตอนนี้แทบจะไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับเนื้อหนังอีกแล้วดวงตากลมโตเบิกตามองแขนทั้งสองข้าง แผ่นอกตรงหน้าไล่ยาวมาจนถึงหน้าท้องแกร่ง“ทำไม...” ปากอวบอิ่มเผยอถามได้เพียงเท่านั้น“โดนเข็มแทงยังเจ็บน้อยกว่าคบกับผู้หญิงหิวเงิน”คูเปอร์รู้ทันทีว่าคำถามนั้นคืออะไร เขาจึงตอบกลับทันควันโดยไม่ต้องรอคำถามจบประโยค“ฉันไม่ได้เป็นแบบที่นายกล่าวหา”“จะแก้ตัวตอนนี้คงไม่ทันแล้ว ฉันมีเวลาให้เธอตัดสินใจก่อนมาที่นี่...สุดท้ายเธอก็ไม่เปลี่ยนใจ”“เพราะฉัน...อื้อออ” หมดคำพูดจากปากบางเมื่อเข้าจู่โจมเพื่อไม่ฟังคำพูดไร้สาระนั่นบทเรียนในอดีตเขาจะทำให้เธอรู้ว่าใครเจ็บปวดกว่ากันร่างกำยำเข้าแนบชิดบดเบียดจนแผ่นหลังร่างบางเสียดสีกับผนังหินอ่อน ลิ้นหนาตวัดดูดรัดเรียวลิ้นเล็กด้วยความร้อนแรง บดขยี้ซ้ำ ๆ จนแพร์พีญารับมือแทบไม่ไหว สองมือประคองท้ายทอยให้รับกับจูบเร้าร้อน ส่ว
เมื่อแพร์พีญากลับมาถึงห้องทบทวนทุกอย่างอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งและมั่นใจว่าสิ่งที่จะทำต่อจากนี้คือทางที่ดีที่สุดแล้ว ร่างบอบบางลุกเข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวทำหน้าที่เพื่อไม่ให้พลาดเงินก้อนนี้จนเธอออกมาจากห้องน้ำก็ยังไม่มีวี่แววว่าพีรภัทรจะกลับมา“ทำไมยังไม่กลับมาอีก” เพราะตอนนี้พีรภัทรไม่มีงานทำที่ไหนอย่างเมื่อก่อนแล้ว มันผิดปกติจากนิสัยเดิมน้องชาย ไม่รู้ว่าพีรภัทรจะเข้าใจเธอผิดมากเพียงใดกับการที่เธอร้องห้ามไม่ให้ด่าทอใส่พวกตระกูลนั้นเพราะเธอรู้ดีว่าถึงสู้ก็มีแต่คำว่าแพ้แพร์พีญาสลัดความคิดแล้วส่ายหน้าเรียกสติตัวเองกลับมา“แต่ก็ดี” ก่อนจะเอ่ยงึมงำกับตัวเองเพราะเธอเองก็ไม่อยากให้พีรภัทรต้องรับรู้ที่มาของเงินก้อนนี้อยู่แล้ว ไปทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จจะได้เอาเงินมารักษาพีพีและกลับไปอยู่ที่ที่ควรอยู่ ไม่ใช่ถิ่นฐานที่ใครบ้างคนเคยตอกหน้าไว้‘อย่ามาเหยียบที่นี่อีก หายสาปสูญไปเลยยิ่งดี’..จนกระทั่งถึงเวลานัดร่างบางย่างกรายเข้ามาในห้องที่มีชายหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขานั่งไขว่ห้างพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ กระดกน้ำสีเข้มมันลงไปในคราวเดียว แล้วลุกขึ้นเต็มความสูงเมื่อสายตาประสานกันนัยน์ตาสีนิลฉายความว่า
ร่างบอบบางหนีจากความวุ่นวายไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับห้องพัก ไม่อยากพบหน้าใครในตอนนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเธอคนเดียว แพร์พีญาเดินตามทางเรื่อย ๆ นึกย้อนอดีตที่น่าจดจำในช่วงเวลาตอนนั้น‘อื้ออ~ พี่เปอร์’ เธอย่นซอกคอหลบหนีจากริมฝีปากร้ายที่กำลังซุกซนฝากรอยจูบเอาไว้‘คิดถึง’ คำสั้น ๆ ที่ล้วนความสุขแฝงอยู่ทุกการกระทำพร้อมกับอ้อมกอดจากทางด้านหลัง‘แพรไปเรียนมาแค่สองชั่วโมงเอง’ เธอหมุนตัวกลับไปหาเขา‘จะกี่นาทีก็ไม่อยากห่าง’ใบหน้าคมคายจับจ้องร่างบางในอ้อมกอดอย่างห่วงแห แพร์พีญาเองก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นว่ามันคือ ‘ความรัก’ความรักที่คล้ายจะเป็นความจริง แต่วันนี้มันอาจจะแสดงให้เห็นแล้วว่ามันคือ ‘ความหลอกลวง’‘ผู้ชายเวลามันจะเอา มันทำได้ทุกอย่าง!’..เอี๊ยดดดด!รถสปอร์ตหรูหักเลี้ยวเข้าข้างทางกะทันหันทำเอาร่างบางที่เดินใจลอยอยู่ก่อนแล้วสะดุ้งตกใจ แต่แล้วเมื่อเห็นเจ้าของรถหรูที่เปิดประตูลงจากรถอย่างเอาเรื่อง สองขาเรียวก็รีบทำงานอัตโนมัติทันทีทว่า...ช้ากว่าที่จะหนีได้เพราะเพียงไม่กี่ก้าวที่เธอวิ่ง เขาก็เข้ามาประชิดตัวพร้อมทั้งกระชากแขนเล็กอย่างแรง“จะทำบ้าอะไรอีกห๊ะ!” มือบางพยายามแก



![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



