Share

ลบเพื่อน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-05 21:39:21

@คอนโดคะนิ้ง.. > 1 วันต่อมา

"แพตตี้ 💬 : ไม่สบายหนักเลยเหรอมึง..เป็นอะไรมากเปล่า...ไม่เห็นมาเรียน

"กัสจัง 💬 : ให้กูไปหาป่ะ...มึงเงียบไปแบบนี้พวกกูใจคอไม่ดีเลยนะอีชะนี

"แพตตี้ 💬 : นิ้ง..มึงโอเคป่ะ...อย่าเงียบดิว่ะ..

"คะนิ้ง 💬 : อืม..กูโอเค ไม่สบายนิดหน่อย พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวคาบบ่ายกูไปเรียน..

"แพตตี้ 💬 : ดีขึ้นแล้วเหรอ..ถ้ายัง..กูลาอาจารย์ให้...มึงจะได้พักผ่อน

"คะนิ้ง 💬 : ไม่เป็นไร กูดีขึ้นแล้ว..ไว้เจอกันเที่ยงนะ เดี๋ยวกูไปทานข้าวเที่ยงด้วย

"แพตตี้ 💬 : โอเค..งั้นมึงพักผ่อนเถอะ เที่ยงเจอกัน..

"คะนิ้ง 💬 : อืม แล้วเจอกัน

คะนิ้งวางมือถือลงในขณะที่ตัวเองกำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียง ทุกอย่างทุกคำเธอได้ยินมันชัดเจน ไม่ได้อยากร้องไห้เสียใจแบบนี้ แต่ทำไงได้ หัวใจเธอมันตกเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว ครั้นจะฝืนทำตัวให้เข้มแข็งอย่างเดิมมันก็ทำได้ยาก ถึงแม้จะเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ ที่มีแค่เธอคิดไปฝ่ายเดียว ความรักมันทำให้เธอเจ็บ ความรักครั้งแรกมันทำให้เธอผิดหวัง คนไม่มีประสบการณ์ไม่รู้จะตั้งรับอย่างไร เธอจึงขอหลบมาพักใจ ตั้งหลักกับตัวเองเสียก่อน ความเสียใจที่มีมันอาจจะยังไม่ได้มาก เพราะนี่ถือเป็นการเริ่มต้น โชคยังดีที่เธอยังไม่ได้ทุ่มใจไปให้เขาจนหมด คิดถูกแล้วที่เผื่อหัวใจเอาไว้เจ็บ และสุดท้ายเธอก็เจ็บอย่างที่เคยคิดไว้จริงๆ

"เฮียมันใจร้าย..ต่อไปนิ้งจะไม่ชอบเฮียอีกแล้ว..

@โอโซล

"มึงว่าน้องจะได้ยินที่เราคุยกันไหมวะ : ไฟเพลิง

"...ไม่รู้ดิ ยังไม่เห็นน้องมันเลย กูเดาไม่ถูก : รามสูร

"แม่ง..กูไม่น่าชวนน้องเขามาเลย...ป่านนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง : ไฟเพลิง

"เออน่า..รู้วันนี้ก็ดีกว่าปล่อยให้เวลามันผ่านไปนาน..รู้ตัวเร็วก็ดีแล้วนิ : รามสูร

"💬 ติ้ง!! : เสียงแจ้งเตือนแอฟพลิเคชั่นยอดนิยมดังขึ้น โอโซลที่เปิดเข้าไปดูข้อความก็ต้องขมวดคิ้วชนกันทันที ทำเอาเพื่อนอีกสองคนถึงกับอยากรู้ว่าใครกันที่ส่งข้อความมาหาเขา..ทำให้เพื่อนรักของเขาท่าทางหงุดหงิดแบบนี้..

"💬 เงินเข้า 100,000 บาท

"ปลาปักเป้า 💬 : ส่งสลิปการโอนเงิน

"โอโซล 💬 : .......?......

"ปลาปักเป้า 💬 : ค่าเดิมพันค่ะ

"โอโซล 💬 : ยังไม่ครบสามเดือน

"ปลาปักเป้า 💬 : ไม่ต้องรอสามเดือนหรอกค่ะ หนูขอหยุดไว้เท่านี้ ต่อไปจะไม่ไปกวนใจเฮียอีกแล้ว...

"โอโซล 💬 : แน่ใจว่าทำได้..

"ปลาปักเป้า 💬 : ค่ะ

"💬ปลาปักเป้า ลบเพื่อน....

สิ้นสุดข้อความสุดท้ายคะนี้งทำการลบโอโซลออกจากการเป็นเพื่อนในไลน์ทันที ทำเอาคนที่กำลังจะพิมพ์ตอบถึงกับคิ้วขมวดชนกันหนักขึ้นกว่าเดิม..แถมยังถอนหายใจพรืดออกมาอย่างกับคนที่กำลังโมโหอะไรสักอย่าง

"มึงเป็นอะไรวะไอ้โซล : รามสูร

"เปล่า..

"เปล่าอะไร..หน้ามึงตอนนี้อย่างกับกำลังโมโหใคร : ไฟเพลิง

".......กูไปเข้าห้องน้ำแปป... : โอโซลเดินออกจากกลุ่มเพื่อนตรงไปที่ห้องน้ำทันที เพียงเท่านี้เพื่อนของเขาก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้โอโซลกำลังพยายามข่มอารมณ์ความโกรธของตัวเองอยู่ เพราะทุกครั้งที่เขาอารมณ์เสีย หรือโมโหมากๆเขามักจะอยู่กับตัวเอง ไม่อยากยุ่งหรือพูดคุยกับใครแม้กะทั่งเพื่อนรักอย่างไฟเพลิงและรามสูรยังไม่กล้าเข้าใกล้

"มันโมโหอะไรวะ : ไฟเพลิง

"ปล่อยมันเถอะ...มันดีขึ้นเดี๋ยวก็กลับมาเอง : รามสูร

"อืม...คงไม่ไปต่อยใครระหว่างทางหรอกนะ : ไฟเพลิง

"ถ้ามันอยู่ตรงนี้ มันคงจะต่อยมึงเป็นคนแรก ข้อหาพูดมาก ... : รามสูร

"อ้าวไอ้ราม..กูก็แค่สงสัย มันผิดตรงไหนวะ : ไฟเพลิง..

@12.00 น. > โรงอาหาร

"มึงดีขึ้นแน่เหรอคะนิ้ง? ทำไมดูมึงซึมๆ ผิดปกติ…" แพตตี้เอ่ยถามเสียงเบา ขณะที่เหลือบมองใบหน้าของเพื่อนสาวที่ดูอ่อนแรงกว่าเดิมอย่างชัดเจน

"เออนั่นดิ…มึงโอเคแน่นะ? ไม่ใช่เข้าเรียนแล้วสลบค้างกลางอาการนะมึง" กัสจังพูดติดตลกแต่แววตายังเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

คะนิ้งฝืนยิ้มนิดๆ ก่อนจะส่ายหัวช้าๆ

"กูไม่เป็นไร…ไปสั่งข้าวกันดีกว่า หิวแล้ว" น้ำเสียงของเธอพยายามปกติให้มากที่สุด แม้ดวงตาจะคล้ายแบกอะไรบางอย่างไว้

"มึงเอาอะไร เดี๋ยวกูสั่งให้" แพตตี้รีบเสนออย่างคล่องแคล่ว

"เอาเหมือนมึงก็ได้ จะได้ไม่ต้องรอคิวนาน…งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำนะ" คะนิ้งตอบก่อนจะค่อยๆ เดินแยกออกไปทางแถวน้ำ ดวงตาเหม่อลอยเล็กน้อย

"โอเค~" แพตตี้หันไปต่อคิวสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว ขณะที่กัสจังยังมองตามคะนิ้งไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

คะนิ้งเดินไปเข้าแถวซื้อน้ำ เสียงจอแจของโรงอาหารลอยคลุ้งรอบตัว เธอพยายามตั้งสติและก้มหน้ามองเมนูในมือ แต่ในขณะนั้นเอง...

"ปั๊ก!!"

จู่ๆ นักศึกษาที่อยู่ด้านหน้าถอยหลังมาทันทีโดยไม่หันมาดู ทำให้ร่างของคะนิ้งถอยหนีไม่ทัน จนแผ่นหลังชนเข้ากับแผงอกของใครบางคน

"ขอโทษค่ะ..." เธอรีบหันกลับไปขอโทษด้วยสัญชาตญาณ ทว่าเสียงหนึ่งก็ตอบกลับมาอย่างเย็นชาและคุ้นเคย

"....ซุ่มซ่าม"

เสียงทุ้มต่ำที่แฝงความหงุดหงิด ทำให้คะนิ้งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และต้องชะงัก เป็นเขา...โอโซล ชายหนุ่มผู้เคยทำให้หัวใจเธอเต้นแรง และเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอตัดสินใจพับเก็บความรู้สึกนั้นไปเงียบๆ เพราะความเย็นชาที่เขาปฏิบัติกับเธออย่างไร้เยื่อใย คะนิ้งนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเม้มปากแน่น

"ขอโทษค่ะ..."

เธอกล่าวซ้ำอีกครั้งอย่างเบาเสียง แล้วหันกลับไปยังเคาน์เตอร์ขายน้ำโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีก เมื่อถึงคิว เธอรีบจ่ายเงิน หยิบแก้วน้ำ แล้วเดินจ้ำกลับไปยังโต๊ะของตัวเองอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ปกติคะนิ้งเป็นคนมั่นใจและไม่เคยมีท่าทีเลิ่กลั่กแบบนี้ โอโซลยืนมองแผ่นหลังเล็กๆ ที่รีบเดินหนีเขาไปอย่างเงียบๆ คิ้วของเขาขมวดชนกันอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังสงสัยในบางอย่างที่เริ่มไม่ชอบมาพากลจากคนตรงหน้า

"ท่าทางแบบนี้ กูว่าน้องได้ยินชัวร์"

ไฟเพลิงหันไปกระซิบกับรามสูร ขณะยืนอยู่ไม่ห่างจากเหตุการณ์เมื่อครู่ สายตายังกวาดมองตามแผ่นหลังของคะนิ้งที่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว

"อืม...กูก็ว่า..." รามสูรพยักหน้าเล็กน้อย ตอบกลับเรียบๆ สายตายังจับจ้องอยู่ที่สีหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนอีกคน

"มึงดูหน้าไอ้โซล มึงว่ามันกำลังโมโหอยู่ป่ะ?" ไฟเพลิงกระซิบต่อ น้ำเสียงปนความขบขันในอารมณ์

"มาก..." รามสูรตอบสั้นๆ ดวงตาเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

โอโซลยังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ซื้อน้ำ สีหน้าขมวดคิ้วค่อนข้างชัด ดวงตาแข็งกร้าว เคร่งเครียด เหมือนคนที่กำลังเก็บกลั้นอารมณ์ไว้เต็มที่

"สมน้ำหน้ามัน กูอยากจะรู้จริงๆ ไอ้ปากที่บอกไม่ชอบ ถ้าเขาเลิกสนใจมันจริงๆ มันจะยังนิ่งอยู่แบบนี้หรือเปล่า" ไฟเพลิงพูดพลางแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาไม่เชื่อหรอกว่าโอโซลจะไม่รู้สึกอะไรกับคะนิ้ง

"เรื่องของมัน มึงจะไปยุ่งอะไรกับมันหนักหนา" รามสูรเอ่ยเสียงราบ เอนหลังพิงเสากลางโรงอาหารอย่างสบายๆ ราวกับไม่อยากให้ไฟเพลิงเข้าไปขยี้ไฟในใจของเพื่อนมากไปกว่านี้

"เห้อ! กูเบื่อก้อนหินหน้านิ่งอย่างมึงสองคนจริงๆ" ไฟเพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าชัดเจนว่าเบื่อสุดขีด เพื่อนทั้งสองของเขาราวกับกินน้ำแข็งแทนข้าวทุกวัน ถึงได้เฉยชา เย็นชาขนาดนี้ ไม่แสดงอารมณ์กันสักนิด

"เผื่อกูด้วยขวดหนึ่ง" ไฟเพลิงพูดขึ้นลอยๆ ขณะเห็นโอโซลกำลังจ่ายเงินซื้อน้ำ สีหน้าของเพื่อนคนนี้ดูไม่สบอารมณ์ชัดเจน

"มีขาก็เดินมาซื้อเอง..." เสียงแข็งตอบกลับทันทีโดยไม่มองหน้า น้ำเสียงของโอโซลฟังดูห้วน ดุ และชัดเจนว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี

"ไอ้เชี่ย! โมโหแล้วพาลนะมึง ไอ้โซล..." ไฟเพลิงบ่นพึมพำ ขณะที่อีกฝ่ายเดินจากไปไม่แม้แต่จะหันกลับมาฟังคำพูดของเขา

โอโซลกลับมานั่งที่โต๊ะอย่างเงียบๆ แต่ใบหน้าบึ้งตึง ดวงตาคมคู่นั้นยังคงจับจ้องไปยังคนเป็นน้องที่นั่งอยู่ไม่ไกล แววตาของเขาแน่วแน่ ราวกับพยายามจะอ่านใจเธอจากระยะไกล จ้องอยู่อย่างนั้น ไม่ลดละ ไม่หลบสายตา แต่เขาไม่รู้เลยว่าคนที่เขาจ้องมอง…กำลังพยายามอย่างหนัก ที่จะไม่หันกลับไปมองเขาเช่นกัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมียดื้อของเฮียโซล   น้องสาวของแฟนเก่า

    @> 30 นาทีต่อมา ผับ KAI 🍻"โผล่หัวมาได้สักทีนะมึง...นัดพวกกูทุ่มครึ่ง มึงโผล่หัวมาตอนสามทุ่ม ???" ไฟเพลิงเอ่ยปากขึ้นทันทีเมื่อเห็นโอโซลเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาในห้อง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจปนหงุดหงิดชัดเจนโอโซลปรายตามองคนที่กำลังบ่นอุบ ก่อนจะกระตุกยิ้มบาง ๆ และทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหรูอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร"......บ่นอะไร มาตอนไหนสุดท้ายกูก็จ่ายไม่ใช่รึไง" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ ผิดกับเพื่อนร่วมวงเหล้าที่เหมือนจะพร้อมซัดเขาได้ทุกเมื่อ"เออ...ไอ้คนรวยโคตร ๆ...รู้หรอกว่าบ้านรวย...แต่มึงเป็นคนนัดพวกกูไหม...แต่ก่อนไม่เห็นเคยมาสาย...ไปไหนมาวะ" ไฟเพลิงยังไม่ยอมจบ พ่นคำถามชุดใหญ่ใส่โอโซลทันทีด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง"คอนโดคะนิ้ง" คำตอบของโอโซลเรียบง่ายและตรงไปตรงมาแบบไม่คิดจะปิดบัง"คอนโดน้องคะนิ้ง ???????" ไฟเพลิงถึงกับวางแก้วเหล้าในมือลงทันที ร่างเอนตัวไปข้างหน้า ดวงตาเบิกกว้างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน"ไปทำไมวะ...หรือว่ามึงกับน้อง...ป๊าบ ๆ...กันแล้ว ?" ไฟเพลิงหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด พร้อมทำท่าตบมือประกอบคำพูด"ป๊าบเชี้ยอะไร กูแค่ไปส่งน้องเขา" โอโซลถอนหา

  • เมียดื้อของเฮียโซล   อารมณ์แปรปรวน

    @20 นาทีต่อมา > คอนโดคะนิ้ง"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" คะนิ้งกล่าวขอบคุณเมื่อมาถึงคอนโดที่ตัวเองพักอยู่ เสียงหวานเอ่ยเบาๆ ขณะปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่เปิดประตู คนตัวเล็กตั้งใจจะลงจากรถ แต่จังหวะนั้นเองกลับต้องชะงัก เมื่อประตูฝั่งที่เธอนั่งอยู่ยังคงล็อกไว้".....???....."คะนิ้งหันไปมองหน้าคนขับอย่างงุนงง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงถาม"ขอเข้าห้องน้ำหน่อย" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเรียบๆ โดยที่ไม่มองหน้าคนข้างๆ ด้วยซ้ำ"ห้องน้ำ?" คะนิ้งทวนคำ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย"อืม.." อีกฝ่ายตอบสั้นๆ พร้อมพยักหน้าน้อยๆ ราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในโลก"อ่อค่ะ... ชั้นล่างเฮียเดินตรงไปเลี้ยวซ้าย อยู่ติดกับบันไดหนีไฟ" เธอชี้แจงเส้นทางพลางยิ้มจางๆ อย่างสุภาพ"ฉันหิวน้ำด้วย...ขอขึ้นไปกินน้ำหน่อย" คำพูดนั้นทำเอาคะนิ้งถึงกับนิ่งค้างไปชั่ววินาที ก่อนจะหันขวับมามองหน้าเขาเต็มตา".....หมายถึงขึ้นห้องหนูเหรอคะ?""อืม..."สายตาเขาจริงจังจนเธอเริ่มลังเล คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก ความรู้สึกบางอย่างบีบรัดกลางอกเบาๆ เธอรู้ดีว่าเฮียโซลไม่ใช่คนพูดเล่นโดยไร้เจตนา"...........?" คะนิ้งมองหน้าคนเป็นพ

  • เมียดื้อของเฮียโซล   ไม่คิดจะชอบ

    "หมับ !!!คะนิ้งหยุดชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันกลับมามองคนที่กำลังจับข้อมือเล็กของเธอเอาไว้ ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา"มีอะไรคะ ?"เอ่อ..ฉะ....ฉันจะขอเลขบัญชีเธอ.."เอาไปทำไมคะ"จะโอนเงินคืน...เงินของเธอฉันไม่อยากได้"ไม่ต้องคืนหรอกค่ะ หนูแพ้เดิมพันก็ต้องจ่ายให้เฮียตามที่ตกลงกันไว้"ใครเป็นคนตัดสินว่าแพ้หรือชนะ ในเมื่อมันยังไม่ครบกำหนดตามระยะเวลาที่วางเดิมพันเอาไว้"เห้อ ! : คะนิ้งถอนหายใจออกมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสดใสนัก ออกแนวหงุดหงิดเสียด้วยซ้ำ..แข่งกีฬามาทั้งวัน เหนื่อยจะแย่ แถมช่วงนี้ยังนอนไม่ค่อยหลับ เพราะคำพูดของคนที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้"ทำไมต้องรอให้ครบสามเดือนด้วยล่ะคะ"แล้วทำไมถึงไม่รอให้ครบสามเดือน"ก็เฮียบอกเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าไม่คิดจะชอบผู้หญิงแบบหนู...แล้วหนูจะรอไปทำไม เสียเวลา ... ปล่อยข้อมือหนูได้แล้ว.."ไม่ปล่อย...จนกว่าเธอจะเลิกบล็อคไลน์ฉัน.."เฮียรู้ด้วยเหรอว่าหนูบล็อคไลน์เฮีย...แอบมาส่องหนูรึไง 🙄"ส่องอะไร ก็แค่จะทักไปขอเลขบัญชี"ไม่ต้องโอนคืนหรอกค่ะ บ้านหนูรวย แค่เงินหนึ่งแสน หนูไม่อยากได้คืนหรอก"แต่ฉันอยากให้คืน..."ไม่เอา ไม่อยากมีอะไรติดค้างหรือคาใจ"

  • เมียดื้อของเฮียโซล   เมิน

    @1 สัปดาห์ต่อมา > การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยการแข่งขันกีฬาบาสเก็ตบอลหญิงรอบชิงชนะเลิศระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะแพทย์ศาสตร์เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศคึกคักทั่วทั้งโรงยิม นักศึกษาแทบทุกคณะต่างพากันหลั่งไหลเข้ามาแย่งที่นั่งกันจนแน่นขนัด บางคนถึงขั้นยืนเบียดอยู่ริมรั้วสนามเพื่อไม่ให้พลาดแม้เพียงวินาทีเดียว โดยเฉพาะฝั่งกองเชียร์คณะแพทย์ ที่ดูจะหนาแน่นเป็นพิเศษชนิดที่ว่าเสียงเชียร์แทบกลบลำโพงประกาศ“ทำไมแมตช์นี้คนเยอะจังเลยวะ... รอบก่อนๆไม่เห็นจะเยอะขนาดนี้...”ไฟเพลิงบ่นพึมพำ พลางเหลือบมองไปรอบตัวอย่างไม่เข้าใจ บรรยากาศวันนี้มันต่างจากแมตช์อื่นอย่างเห็นได้ชัด“ก็คงจะมาดูสาวๆแข่งล่ะมั้ง” รามสูรตอบเรียบๆ ขณะยืนกอดอกพิงเสา เสียงรอบข้างยังดังไม่หยุดจนต้องตะโกนคุยกัน“สาวๆคณะเรา ไม่เห็นจะมีใครน่าเชียร์...” ไฟเพลิงเบ้ปากเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย เพราะทีมฝั่งวิศวะของเขาก็ใช่ว่าจะมีใครหน้าตาสะดุดตาเท่าไหร่“ก็คงจะมาเชียร์คณะแพทย์... เห็นว่ากัปตันทีมนี้ฮอตไม่เบา หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทอดสะพานจีบกันเป็นแถว...” รามสูรพูดโดยไม่มองหน้าเพื่อนด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ลืมจะโยนข้อมูลที่ได้ยินมาให้“ใครวะ.

  • เมียดื้อของเฮียโซล   ลบเพื่อน

    @คอนโดคะนิ้ง.. > 1 วันต่อมา"แพตตี้ 💬 : ไม่สบายหนักเลยเหรอมึง..เป็นอะไรมากเปล่า...ไม่เห็นมาเรียน"กัสจัง 💬 : ให้กูไปหาป่ะ...มึงเงียบไปแบบนี้พวกกูใจคอไม่ดีเลยนะอีชะนี"แพตตี้ 💬 : นิ้ง..มึงโอเคป่ะ...อย่าเงียบดิว่ะ.."คะนิ้ง 💬 : อืม..กูโอเค ไม่สบายนิดหน่อย พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวคาบบ่ายกูไปเรียน.."แพตตี้ 💬 : ดีขึ้นแล้วเหรอ..ถ้ายัง..กูลาอาจารย์ให้...มึงจะได้พักผ่อน"คะนิ้ง 💬 : ไม่เป็นไร กูดีขึ้นแล้ว..ไว้เจอกันเที่ยงนะ เดี๋ยวกูไปทานข้าวเที่ยงด้วย"แพตตี้ 💬 : โอเค..งั้นมึงพักผ่อนเถอะ เที่ยงเจอกัน.."คะนิ้ง 💬 : อืม แล้วเจอกันคะนิ้งวางมือถือลงในขณะที่ตัวเองกำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียง ทุกอย่างทุกคำเธอได้ยินมันชัดเจน ไม่ได้อยากร้องไห้เสียใจแบบนี้ แต่ทำไงได้ หัวใจเธอมันตกเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว ครั้นจะฝืนทำตัวให้เข้มแข็งอย่างเดิมมันก็ทำได้ยาก ถึงแม้จะเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ ที่มีแค่เธอคิดไปฝ่ายเดียว ความรักมันทำให้เธอเจ็บ ความรักครั้งแรกมันทำให้เธอผิดหวัง คนไม่มีประสบการณ์ไม่รู้จะตั้งรับอย่างไร เธอจึงขอหลบมาพักใจ ตั้งหลักกับตัวเองเสียก่อน ความเสียใจที่มีมันอาจจะยังไม่ได้มาก เพรา

  • เมียดื้อของเฮียโซล   ข่าวลือ...

    @3 วันต่อมา....."มึงๆ คนนี้ไงที่เป็นข่าวกับพี่โซล!" เสียงแหลมๆ ดังขึ้นเบาๆ แต่ก็ชัดพอจะทำให้ใครต่อใครต้องหันมามอง"นี่เหรอ...ก็ไม่เห็นจะสวยตรงไหน" อีกเสียงหนึ่งเสริมขึ้นทันที พลางมองคะนิ้งตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประเมิน"แบบนี้ยังเรียกว่าไม่สวยอีกเหรอ..." น้ำเสียงของอีกคนเจือความหมั่นไส้"หน้าตาก็งั้นๆ...ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่เหมาะกับพี่โซลของกูหรอก" คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความอิจฉาและดูถูก"กูได้ข่าวว่ายัยเด็กนั่นวิ่งตามพี่โซลต่อยๆ หน้าไม่อายเลยจริงๆ"เสียงซุบซิบนินทาเริ่มหนาหูขึ้นทุกที ตั้งแต่วันที่โอโซลเดินไปส่งคะนิ้งที่คณะแพทยศาสตร์ นักศึกษาหลายคนก็เริ่มพูดถึงกันอย่างหนาหู เสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่กระจายราวกับไฟลามทุ่ง ทั้งในกลุ่มเพื่อน ทั้งในห้องเรียน และแม้แต่ตามโถงทางเดิน โดยเฉพาะคำพูดส่วนใหญ่ มักจะเป็นการพูดถึงคะนิ้งในแง่เสียมากกว่า เหมือนกับว่าการที่เด็กปีหนึ่งหน้าตาธรรมดาๆ คนหนึ่งจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “โอโซล” รุ่นพี่หน้านิ่งผู้เพียบพร้อม เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้สำหรับบางคน สายตาหลายคู่มองเธอด้วยแววตาเหยียดหยาม ปะปนกับความสงสัยและริษยา จนคะนิ้งเองก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status