ログイン“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ “ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ” “ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป “พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน “จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ” “เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขา ทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป “คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ “เปล่าครับ” “ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ “จริงเหรอ” “คุณทำอะไรนี่มันที่บริษัทนะปล่อยฉันเลย” เธอรีบดันตัวเขาออกเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาเห็นแต่ที่นี่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากวุฒิชัยก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก “ไม่ปล่อยขอหอมอีกหน่อยนะ” เขาหอมไปที่แก้มของเธออีกรอบ “พอเลย อย่ามารักฉันเวอร์ๆ มันเลี่ยน” ก็อก! ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นเขารีบปล่อยข้าวฟ่าง “เข้ามา” เสียงอนุญาตที่สุขุมนุ่มลึกดังขึ้นจากปากเขา บิวเลขาของเขาเปิดประตูเข้ามาและมีเอกสารมาให้เซ็น “เอกสารที่ต้องเซ็นค่ะ วันพรุ่งนี้คุณวุฒิมีประชุมนะคะที่บริษัทตอนเช้าประมาณสิบโมง” เลขาของวุฒิชัยเอ่ยขึ้น “ประชุมกับใคร” เขาถามด้วยความสงสัย “คุณภูริทัตบริษัท พีอาร์ทีค่ะ” ได้ยินแบบนั้นเขารีบหันไปมองสีหน้าภรรยาของเขาทันทีว่าเธอรู้สึกยังไง ข้าวฟ่างสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยที่ได้ยินชื่อคนรักเก่าของเธอ เธออาจไม่ได้รักแล้วแต่พอได้ยินมันก็มีหวั่นอยู่บ้าง “ออกไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาคุยรายละเอียด” เขารีบสั่งเลขาให้ออกไปในทันที ทำให้บิวสาวเลขานั้นงงไปเลยทำไมพูดชื่อคุณภูถึงกับเปลี่ยนสีหน้าแถมยังให้มาบอกรายละเอียดพรุ่งนี้เพราะปกติต้องแจ้งรายละเอียดให้ครบก่อน “ค่ะ” เลขาสาวรีบเดินออกไปทำงานต่อ ทั้งคู่นั่งมองหน้ากันโดยที่ยังไม่พูดอะไร วุฒิชัยเอ่ยปากเปลี่ยนเรื่องไม่ให้เธอคิดถึงเรื่องของภูริทัต “ไหนอาหารเอามาลองทานดูสิ” “เดี๋ยวฉันแกะใส่จานให้ชิมดูนะ ฉันไม่เคยทำจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกเลย” เธอแกะอาหารใส่จานให้เขาชิม เขาตักใส่ปากชิมคำแรกรู้สึกว่ามันยังไม่อร่อยสักเท่าไหร่แต่ก็พอทานได้ “มันยังไม่อร่อยนะ แต่พอทานได้ผมเข้าใจมันเป็นครั้งแรกของคุณเดี๋ยวผมจะสอนให้ใหม่" “ว่าไงนะ ฉันอุส่าตั้งใจทำมาบอกไม่อร่อยได้ยังไงกันไม่อร่อยก็ไม่ต้องกิน" เธอหยิบจานอาหารที่วางบนโต๊ะขึ้นมา “เดี๋ยวก่อนสิคุณก็มันไม่อร่อยจริงๆ แต่มันพอทานได้นะผมก็บอกคุณตรงๆ ไงคุณจะได้ไม่เข้าใจผิดจะได้ปรับปรุง” “เดี๋ยวนะคุณว่าเดี๋ยวคุณจะสอนฉันใหม่งั้นเหรอคุณทำเป็นด้วยเหรอ” เธอมองหน้าผู้เป็นสามีด้วยความสงสัยว่าคนแบบนี้ทำอาหารเป็นด้วยหรือยังไง “ใช่เดี๋ยวผมทำให้ทานคุณจะเป็นคนแรกที่ได้ทานฝีมือผม” เขาพูดจบก็หยิบอาหารจากมือเล็กๆ ของภรรยามานั่งทานจนหมด เธอมองดูเขาด้วยสีหน้าที่งงงวยไหนว่าไม่อร่อยแล้วทำไมถึงทานหมด “ไหนว่าไม่อร่อยคุณโกหกฉันใช่ไหมความจริงแล้วมันอร่อย” เธอนึกว่าเขาแค่โกหกหลอกเธอว่ามันไม่อร่อยแต่ความจริงแล้วมันก็ไม่อร่อยจริงแต่แค่กลัวเธอเสียน้ำใจที่อุส่าทำมาให้ “อะโอเค อร่อยก็อร่อยมันอร่อยมากเลยครับ” เขาพูดเพื่อเอาใจเมียของเขา “เห็นไหมที่แท้คุณก็แค่พูดเล่นฉันตั้งใจทำขนาดนี้จะไม่อร่อยได้ยังไงกัน” เธอพูดจบก็ลองแกะมาชิมเมื่อเอาเข้าก็มีแต่ความเค็มแต่เธอก็ยังคงกินต่อไปและแกล้งทำเป็นอร่อยเพราะกลัวเสียฟอร์ม “ครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ และก็ไปเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้าน “คุณจะเก็บของไปไหน” ข้าวฟ่างมองดูนาฬิกานี่มันยังไม่เย็นเลย “กลับบ้านครับ” “กลับได้ยังไงยังไม่เย็นเลย” “ก็เคลียร์งานเสร็จแล้วไงจะกลับไปทำอาหารให้กิน” พูดจบมือหนาใหญ่ก็ไปคว่้ามือบางเล็กของเธอพาออกไปจากห้องทำงานเพื่อกลับบ้าน “จานยังไม่เก็บเลยจะไปได้ยังไง” “ช่างเถอะเดี๋ยวให้เลขามาเก็บ” ทั้งคู่เดินออกไปและเขาก็แวะโต๊ะทำงานของเลขา “ผมฝากคุณบอกแม่บ้านเก็บจานในห้องผมไปล้างด้วยนะครับ ผมกลับก่อน” เลขาของเขาก็พยักหน้าตอบรับด้วยอาการงงงวย อะไรกันนี่พึ่งจะบ่ายทำไมเขากลับเร็วแบบนี้แล้วถ้ามีเอกสารที่ต้องให้เซ็นฉันจะทำยังไงเนี้ย เลขาของเขาได้แต่บ่นอยู่คนเดียว เมื่อถึงรถ วุฒิชัยก็เปิดประตูรถให้ข้าวฟ่างซึ่งเมื่อก่อนเขาไม่เคยทำแบบนี้เลยเพราะเขาไม่เคยใส่ใจใครแม้แต่ข้าวฟ่างเองเขาก็ไม่ใส่ใจจนมาถึงวันนี้วันที่เขามั่นใจว่าเขารักเธอ เมื่อถึงบ้านทั้งคู่ก็ไปนั่งพักที่ห้องรับแขกแม่บ้านก็เอาน้ำมาเสิร์ฟ เขาเอ่ยปากบอกกับเธอว่า “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ เพราะท้องคุณโตมากแล้วผมจะปิดกิจการผับและมาดำเนินธุรกิจต่อจากคุณพ่อ ผมจะดูแลคุณและลูกเอง” สองมือหนาจับไปที่มือบางเล็กด้วยความอบอุ่นสองสายตาของเขามองไปที่เธอด้วยความจริงใจ “ฉันไว้ใจคุณได้ใช่ไหม” สีหน้าของเธอดูท่าจะไม่ค่อยเชื่อใจเขาสักเท่าไหร่เพราะเมื่อก่อนเขาเป็นคนที่ไม่เอาไหนจริงๆ งานการก็ไม่ช่วยพ่อมีแต่เปิดผับหลอกสาวไปวันๆ “ได้สิ ทำไมคุณพูดแบบนี้ละผมพูดจริงๆ นะผมไม่เคยจริงจังกับใครเท่าคุณเลย รักใช่สิมันคือความรักความผูกพันธ์ผมพูดตรงๆ เลยแต่ก่อนผมไม่เคยรักคุณเลยจนกระทั่งได้อยู่กับคุณไม่มีใครเหมือนคุณเลยจริงๆ” “คุณไม่บอกฉันก็รู้ค่ะว่าเมื่อก่อนคุณไม่รักฉันให้ฉันไปเอาลูกออก ต้องเป็นผู้ชายแบบไหนกัน” เธอพูดด้วยอาการเคืองโกรธเขาและเชิดหน้าหนี “โถ่คุณมันผ่านมาแล้วน่า อย่าเอามาทะเลาะสิตามนั้นนะไม่ต้องไปทำงานเมียคนเดียวผมเลี้ยงได้สบาย” สองสายตาของข้าวฟ่างเธอจ้องมองผู้เป็นสามีด้วยความดีใจที่เขารักและจริงใจกับเธอขนาดนั้น แต่ความกังวลใจก็มีมากมายเหมือนกันเธอกลัวว่าวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนไป เขาอาจจะดีแค่แรกๆ ก็เป็นไปได้เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมามันสอนให้เธอได้รู้ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ แต่เธอก็จะทำตามที่เขาบอก
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







