“จะตกใจทำไมกัน”
“พี่ราล์ฟจะทำอะไรคะ แพรวตกใจนะอยู่ๆ ก็มาอุ้มโดยไม่บอกไม่กล่าว เกิดหัวใจวายตายใครจะรับผิดชอบ แพรวยังไม่อยากกลายเป็นผีนะ” ตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อถูกรวบตัวจนขาลอยเหนือพื้น บ่นเป็นหมีกินผึ้งไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยงอง้ำอย่างเจ้าแง่แสนงอน
“แล้วเราจะรีบไปไหนล่ะ พี่ยังไม่ทันได้คุยอะไรด้วยเลย อีกอย่างตกใจแค่นี้ก็ไม่ถึงกับหัวใจวายตายหรอกน่า เลิกบ่นแล้วมาคุยกันดีๆ” ราฟาเอลยกร่างบางเดินไปยังโซฟาตัวนุ่ม ทรุดกายแกร่งลงนั่งตามด้วยร่างนุ่มหอมกรุ่นที่เขาบังคับให้นั่งทับบนตัก
“ถ้าจะคุยก็ให้แพรวนั่งดีๆ สิคะ โตแล้วไม่จำเป็นต้องนั่งตักพี่ราล์ฟหรอกค่ะ เก็บตักไว้ให้คนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้เถอะ” คนโตเป็นสาวแล้วแย้งเสียงแข็ง ใบหน้าสวยคลายอาการงอนลง ไม่ทันได้สังเกตรอยลึกที่มุมปากของพี่ชาย เพียงแค่แวบเดียวรอยยิ้มน้อยๆ นั้นก็หายวับไป
“โตแล้วก็นั่งตักพี่ได้น้องแพรว โตยังไงก็ยังเด็กกว่าพี่มากอยู่ดี แล้วที่สำคัญไม่ต้องมาประชดพี่เรื่องผู้หญิงคนอื่น เราก็รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง” ราฟาเอลเอ่ยเรียบๆ เขาไม่เคยข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนนานๆ แล้วตอนนี้ก้ไม่ได้ยุ่งกับใครมานานแล้วด้วย ผู้หญิงที่เข้ามาก็หิวเงินด้วยกันทั้งนั้น เขาไม่คิดจะเสียเวลากับคนประเภทนั้นหรอก พอจบความต้องการทุกอย่างก็จบตามเหมือนกัน
“น้องรู้แล้วค่ะว่าพี่ราล์ฟยังหาเนื้อคู่ไม่เจอ พี่ราล์ฟไม่รีบก็ดีเหมือนกันจะได้อยู่กับแพรวไปนานๆ” แพรวพิชชาย่นคิ้ว ซบใบหน้าลงกับอกอุ่นๆ ที่ไม่ได้ซุกซบมานานเกือบหนึ่งปีเต็ม
“คิดถึงพี่ราล์ฟที่สุด เราไม่ได้เจอกันมาจะครบปีแล้วนะคะ เพราะคนแถวนี้ไม่มีเวลาว่างไปหาน้องเลย มัวแต่ทำงานงกๆ ไม่รู้จะคิดถึงเหมือนที่แพรวคิดถึงรึเปล่า” คนสวยบ่นอย่างไม่จริงจัง ถึงแม้จะไม่ได้เจอแต่ทั้งคู่ก็คุยโทรศัพท์กันเป็นประจำ
“ถ้าไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงเราล่ะ คิดถึงแค่ไหนพี่ก็ต้องอดทน นับวันรอให้ถึงวันที่เจ้าหญิงน้อยของพี่กลับมาอยู่บ้านเราอย่างถาวร และตอนนี้คำภาวนาของพี่ก็เป็นจริงแล้ว” อ้อมแขนแข็งแรงกอดรัดเอวคอดกิ่วแนบแน่น เกยคางไว้บนกระหม่อมบางแล้วขยี้เบาๆ อย่างมันเขี้ยว
“แพรวดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้กลับมาอยู่กับพี่ราล์ฟ เงินพี่ราล์ฟมีเยอะแยะไม่ต้องทำงานหนักขนาดนั้นก็ได้ค่ะ อีกอย่างแพรวไม่ได้ใช้เงินเปลืองขนาดนั้นนะคะ กลับมาอยู่ที่นี่แล้วแพรวจะช่วยพี่ราล์ฟทำงานเองค่ะ ต่อไปพี่ราล์ฟก็จะได้มีเวลาว่างไปพักผ่อนนานๆ อย่างคนอื่นเขาบ้าง” คนอาสาช่วยทำงานพูดอย่างแข็งขัน ถ้าพี่ชายจะให้ทำอะไรเธอก็ยินดีทั้งนั้น
“งานพี่ทำเองได้ น้องแพรวแค่คอยเป็นกำลังใจให้พี่อย่างเดียวก็พอแล้ว ตัวเล็กๆ อย่างนี้ทำงานไม่ไหวหรอกเชื่อพี่เถอะ” ราฟาเอลยิ้มในหน้า ไม่เคยคิดจะใช้แรงงานสาวน้อยในอ้อมกอดนี่หรอก อยากจะให้อยู่อย่างสบายๆ มากกว่าต้องไปนั่งใช้ความคิดเรื่องธุรกิจให้ปวดหัว
“แค่เป็นกำลังใจอย่างเดียว มันไม่คุ้มกับเงินที่พี่ราล์ฟส่งแพรวไปเรียนเลยนะคะ ไม่รู้แหละยังไงแพรวก็ไม่ยอมอยู่บ้านเฉยๆ โดยเปล่าประโยชน์แน่ๆ ใครรู้เข้าคงว่าแพรวขี้เกียจ อุตส่าห์ไปร่ำไปเรียนมาตั้งนมนาน พอกลับมาดันนอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆ ซะอย่างงั้น”
“ช่างหัวคนอื่นประไร ใครจะพูดยังไงก็ปล่อยไปตามเรื่องตามราวเถอะ จำไว้แค่ว่าคนที่น้องแพรวควรจะแคร์คือพี่คนเดียว แค่น้องแพรวไม่ดื้อ เชื่อฟังพี่ พี่ก็พอใจแล้ว กลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ พี่ไม่กวนเราแล้ว” ราฟาเอลบอกคนบนตักที่นั่งมองหน้าเขาตาแป๋วแหวว
“พี่ราล์ฟขึ้นไปด้วยกันสิคะ แพรวมีเรื่องมาเล่าให้พี่ราล์ฟฟังเยอะแยะเลย นะคะๆ” แพรวพิชชาเขย่าแขนแกร่งอย่างออดอ้อน ไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนั้นมันส่งผลต่อหัวใจราฟาเอลเข้าอย่างจัง โดนรบเร้ามากๆ คนที่ใจอ่อนกับน้องสาวนอกไส้แทบทุกเรื่องก็ยินยอมจนได้
“ไปสิ”
ร่างบอบางดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว มือเล็กคว้าแขนพี่ชายเอาไว้มั่นแล้วเดินควงออกไปจากห้องทำงานหรู
ราฟาเอลกับแพรวพิชชาเดินคุยกันกระหนุงกระหนิง เตรียมจะขึ้นด้านบนแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกพร้อมกับร่างท้วมที่เดินเร็วเข้ามาหา รอยยิ้มสดใสของคนข้างกายเจ้าของบ้านหนุ่มสว่างไหวขึ้นอีกครั้ง
“ป้านุ่มขา”
“คุณหนูของป้านุ่มกลับมาบ้านเราแล้ว ไม่เจอกันมานานมาก ป้าคิดถึงมากเลยรู้ไหมคะ ดูสิเนี่ยโตเป็นสาวสวยเต็มตัวแล้ว ตัวจริงสวยกว่าในรูปที่นายโรมกับนายแบรทเอาให้ป้าดูอีก” มืออวบคว้ามือคู่เล็กขึ้นมาแนบแก้มอย่างเอ็นดู
“ปากหวานตลอดเลยค่ะป้านุ่ม สงสัยต้องให้พี่ราล์ฟตบรางวัลชุดใหญ่ให้ซะแล้ว สำหรับคนสวยประจำบ้าน” ร่างบางโผเข้ากอดร่างท้วมของผู้สูงวัย ซบใบหน้าลงที่ไหล่อวบอย่างออดอ้อน โดยมีสายตาของราฟาเอลคอยจับจ้องอย่างไม่วางตา
“ปากหวานไม่เท่าคุณหนูหรอกค่ะ” ป้านุ่มประคองแก้มนุ่มอย่างเอื้อเอ็นดู
ตกดึกหลังจากส่งลูกๆ เข้านอนแล้วก็เป็นเวลาของพ่อแม่ สองร่างเปลือยเปล่ากำลังแลกจูบ ลูบไล้ร่างกายของกันและกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น “หลายวันแล้วที่ไม่ได้กินน้องแพรว คืนนี้พี่ขอทั้งคืนเลยได้ไหมคะ” “หลายวันที่ไหนกันคะ แค่วันเดียวเท่านั้นเอง” เรียวขางามแยกออกจากกันเพื่อให้สามีได้ซุกหน้าลงมาหาได้ถนัด “ทั้งคืนไม่ดีมั้งคะ แพรวกลัวลูกตื่นแล้วไม่เจอเรา” “ลูกไม่ตื่นหรอกค่ะ เล่นกันจนเพลียขนาดนั้น” “พี่ราล์ฟก็รู้ว่าลูก…อื้อ อย่าเป่าลมหายใจใส่แพรวแบบนี้สิคะ แพรวเสียว หยุดแกล้งสักที” แพรวพิชชาหนีบขาจึงเท่ากับหนีบใบหน้าสามีไปด้วย คนถูกหนีบชอบใจ ขยี้ปาก จมูกรังแกร่างบางจนสะโพกลอยเด่น “ลูกสองแล้วอะไรก็เอาเมียพี่ไม่ลง ยังน่ากิน และทำใจผัวสั่นทุกครั้ง” “ทำเลยได้ไหมคะ แพรวกลัวลูกตื่นจัง” “ไม่ตื่นหรอกค่ะ” “พ่อจ๋า แม่จ๋าอยู่ไหน ฮือๆ” “พี่ราล์ฟ เสียงเอลลี่นี่คะ!” แพรวพิชชาหน้าตื่น ดันไหล่สามี “เอลลี่ของพ่อ ทำไมหนูทำกับพ่อแบบนี้คะลูก” โอดครวญกลางวงล้อมระหว่างขาเมีย “รีบลุกสิคะพี่ราล์ฟ อย่ามัวแต่ซบแพรว เดี๋ยวแอรอนก็ร้องอีกคนหรอกค่ะ” ฟาดไหล่สามีพลางมองหาชุดนอนที่อยู่ไกลออกไปจากโซฟา ตอนบอกให้รีบล
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นโซ่ทองคล้องใจของราฟาเอล และแพรวพิชชามีอายุได้สามขวบแล้ว ความสวยที่ฉายแววมาตั้งแต่เล็กๆ นับวันยิ่งโดดเด่นจึงทำให้คุณพ่อหวงลูกสาวมากกว่าเดิม ส่วนลูกชายคนที่สองก็โตตามพี่สาวมาติดๆ รูปหล่อ น่ารักไม่แพ้พี่สาว ลูกหัวปีท้ายปีทำเอาคนเป็นพ่อแม่หัวหมุนไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับความสุขนั้นย่อมมีมากกว่า เป็นความวุ่นวายที่มีแต่รอยยิ้ม “แม่จ๋าเอลลี่อยากกินเยลลี่ค่ะ” สาวน้อยทำตาปริบๆ ออดอ้อนคุณแม่ท่าทางน่ารักน่าชัง “แต่เอลลี่เพิ่งจะทานขนมไปนะคะคนดี หนูหิวอีกแล้วเหรอคะ” แพรวพิชชาก้มมองลูกสาวที่กำลังยืนซบแก้มกอดขาเธอก่อนจะอุ้มขึ้นมาหอมแก้มยุ้ยๆ ด้วยความรักสุดหัวใจ เอลลี่น้อยของเธอชอบทานขนมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตามใจทุกครั้งที่เจ้าตัวร้องขอ ที่บอกว่าหิวน่ะบางครั้งก็ไม่ได้หิวจริงๆ แต่อยากทานมากกว่า “หิวค่ะ เอลลี่หิว” แพรวพิชชาอมยิ้ม เขี่ยจมูกน้อยๆ ด้วยจมูกของเธอ “หิวแบบไหนคะ ข้าวหรือขนม” “ขนมค่ะ” ตอบชัดถ้อยชัดคำแล้วใช้จมูกเล็กๆ หอมแก้มเอาใจคุณแม่ “เรานี่น้า” “แม่ค้าบ อุ้มแอรอนด้วย” “ครับลูก” แพรวพิชชาย่อตัวลงอุ้มลูกชาย มือน้อยๆ เกี่ยวคอคุณ
“เฮ้ย! แกเป็นใครวะมานอนกอดฉันแบบนี้ได้ไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะเว้ย!” ตอเรสโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเจอชายแปลกหน้ากำลังยุ่มย่ามกับตนเอง “เสียงดังหาป้าแกเหรอ เดี๋ยวหลานก็ตื่นเพราะความขี้โวยวายของแกหรอก” ไรอันลุกขึ้นนั่งทั้งที่ตายังไม่ลืม ท่าทางสะลึมสะลือ ผมยุ่งไม่เป็นทรง “ช่วยแหกตาขึ้นมาดูก่อนได้ไหมวะไรอัน จะเสียตัวให้ไอ้ห่านี่อยู่แล้วแม่งเอ๊ย!” ตอเรสหน้าบึ้งจัด พลางผลักชายแปลกหน้าที่ส่งยิ้มให้ไปทางไรอันแล้วตัวเองรีบกระโดดหนี “หลับสบายไหมครับสุดหล่อ” เจคอปถามชายหนุ่มที่ตนซบไหล่อยู่เสียงนุ่ม “เฮ้ย! ไอ้หมอนี่มันเป็นใครวะตอเรส ท่าทางมันเหมือนชอบเพศเดียวกันเลยว่ะ” ไรอันหน้าตาตื่น ผลักหน้าขาวๆ ถอยหลังกรูดทันทีที่มีสติ เขาเกือบจะเสียจูบให้มันไปแล้ว “ไม่เหมือนหรอกมันใช่เลยไอ้เพื่อนโง่เอ๊ย! ส่วนแก เป็นใครวะ เข้ามาในบ้านเพื่อนฉันได้ยังไงฮะ ไม่ต้องยิ้มให้ฉัน ขนลุกไปหมดแล้วกู” ตอเรสรัวภาษาอังกฤษ “นี่พวกแกเสร็จเพื่อนน้องแพรวไปแล้วเหรอวะตอเรส ไรอัน” “คุณตอเรสกับคุณไรอันไม่นะครับ” โรมตามเจ้านายเข้ามาทำตาโต “เมื่อคืนพวกผมก็เกือบโดนเหมือนกันครับ แต่ดีที่รอดมาได้” แบรทเสริมพลางค้อนเจ้านาย “พี่ไรอันก
“เอลลี่จ๋าวันนี้หนูต้องอยู่บ้านกับพ่อสองคนนะครับ คุณแม่เขาจะทิ้งเราพ่อลูกไว้ที่บ้านแล้วตัวเองก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หนูอย่างอแงกับพ่อมากนะครับ” ราฟาเอลพูดกับลูกน้อยตัวหอมฟุ้งระหว่างรอเมียบรรจงแต้มเครื่องสำอางบนใบหน้าขาวผ่อง ก่อนหน้านี้เขานอนเล่นกับลูกบนเตียงแต่อยู่ดีๆ หนูน้อยก็แผดเสียงร้องไห้จ้าแบบไร้สาเหตุ พออุ้มพามาหาแม่ก็อารมณ์ดี ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ถ้าแม่ไม่อยู่ให้เห็นหน้าจะร้องไห้อีกหรือเปล่า “แม่ไม่ได้ทิ้งหนูจ้ะ คุณพ่อพูดเกินความจริงไปมาก” แพรวพิชชาหันกลับมามองสองพ่อลูกที่นั่งเฝ้าเธอแต่งหน้า พลางค้อนสามีไปหนึ่งที ดูเอาเถอะท่านประธานที่น่ารักของเธอ เมื่อคืนก็นึกว่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่พอถึงเวลาที่เธอจะไปดันงอแงแข่งกับลูก ขอตีสักทีจะได้ไหม หน้างอใส่เธอตั้งแต่ตื่นนอนจนตอนนี้ “แอ้ๆ” เห็นคุณแม่คนสวยหันมาคุยด้วยเอลลี่น้อยก็ตอบโต้อย่างอารมณ์ดี ดวงตากลมโตจ้องกลับ ส่งเสียงอ้อแอ้ แกว่งแขน แกว่งกำปั้น เจื้อยแจ้วต เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพ่อและแม่ ยามคุณพ่อเอาไรเคราถูตรงฝ่าเท้าน้อยๆ ก็หัวเราะ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาแพรวพิชชา ก่อนรอยยิ้มจะมาสะดุดตรงประโยคคุณพ่อของลูก “ล
“แน่ใจนะคะว่าแค่อยากอาบน้ำให้เมีย” ดวงตาคู่งามมองสามี เธอรู้ทันเขาหรอก ถ้าไม่ติดว่าลูกกำลังกินนมอยู่ล่ะก็พี่จะจับน้องแพรวแก้ผ้าเดี๋ยวนี้เลย กระซิบชิดเรียวปากหวาน คว้าหมับเข้าที่เต้าอวบใหญ่ข้างที่เอลลี่ไม่ได้ดูดพลางบี้หัวนมแข็งคัดจนน้ำนมพุ่งออกมาจนเปรอะมือ ดวงตาเร่าร้อนมองสบตาเมียสาวแล้วเลียกิน “อร่อย” การกระทำดังกล่าวไม่ได้ทำให้คนเป็นเมียอายแต่อย่างใด “แย่งลูกกินทุกวันเลยนะคะคุณพ่อ”“แบ่งกันกินไงครับ ใช่ไหมลูก เราแบ่งกันได้ใช่ไหมคะ” ยิ้มพลางจูบแก้มลูกสาวด้วยความเอ็นดู “เอลลี่รักพ่อเลยไม่หวงพ่อ” “กินนมเมียเหมือนลูกต้องเชื่อฟังเมียด้วยนะคะ” แพรวพิชชายกมือขึ้นลูบแก้มสากของสามีเล่น “ทุกวันนี้พี่ก็เชื่อฟังเมียทุกเรื่องอยู่แล้ว” เสียงทุ้มกระซิบชิดเรียวปากบาง “เชื่อฟังอยู่คนเดียว” แกล้งงับแล้วดูดดึงกลีบปากล่าง จากนั้นค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปกลืนกินความหวาน นานกว่าจะผละออกจากกัน “พรุ่งนี้แพรวขอพาเจคออกไปเที่ยวนะคะ” ไม่เชิงขออนุญาต เรียกว่าแจ้งให้ทราบ “แค่ในกรุงเทพนี่แหละค่ะ ไม่ได้จะไปไหนไกล เพราะรู้อยู่แล้วว่าสามีต้องไม่อนุญาต” แพรวพิชชาอมยิ้มประโยคสุดท้าย หลับตาพริ้มพิงอกกว้างของร่างสูงที่
ราฟาเอลอุ้มลูกสาวเดินพลางชวนคุยไปด้วย ตอนนี้อาจจะยังไม่เข้าใจแต่เขาเชื่อว่าลูกจะซึมซับได้ เขาสื่อสารกับเอลลี่ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพราะต้องการให้แข็งแรงทั้งสองภาษา หลังจากทานอาหารเย็นด้วยกันทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น มีโรมกับแบรทตามมาสมทบด้วย บทสนทนาส่วนใหญ่เวลานี้จึงผูกไว้ที่เจคอป และสองคู่หูดูโอ้ แบรท โรมที่จ้อไม่หยุดตั้งแต่มาถึง ด้านราฟาเอลกับแพรวพิชชาก็ให้ความสนใจลูกสาวมากกว่าจะร่วมวงคุย มีบ้างที่จะกล่าวเสริมสักสองประโยค “คุณแบรทกับคุณโรมดูสนิทกันมากเลยนะครับ ไม่ทราบว่าทั้งสองคนมีคนรู้ใจกันหรือยังครับ” เจคอปถามพลางจิ้มผลไม้ที่สาวใช้เพิ่งยกมาเสิร์ฟเข้าปาก โรมโบกมือ “ผมสองคนยังโสดสนิทครับคุณเจค ไม่มีเวลาไปจีบสาวที่ไหนหรอกครับ” “โสดแบบไม่ธรรมดาด้วยนะครับ โส๊ดโสด สาวๆ นี่ไม่แลพวกเราเลยล่ะครับ แล้วคุณเจคล่ะครับ แต่ผมว่าหน้าตาหล่อๆ เรียกสาวแบบนี้คงไม่โสดเหมือนพวกพวกผมหรอกใช่ไหมครับ” แบรทยิ้มขณะที่เจคขยิบตาท่าทางขี้เล่น “พี่ว่าไอ้สองตัวนี้ไม่ใครก็ใครที่จะโดนงาบ” ราฟาเอลกระซิบข้างหูเมียเสียงเบา “คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ พี่ราล์ฟน่ะพูดอะไรก็ไม่รู้” เท่าที่ได้ยินก็คุย