“ยินดีต้อนรับกลับบ้านอีกครั้งนะคะคนดีของป้า” รอยยิ้มประดับบนใบหน้าที่มีริ้วรอยตามกาลเวลา
“ค่ะ คราวนี้จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนเลย ถ้าป้านุ่มมีอะไรให้ช่วยบอกเลยนะคะ แพรวทำได้ทุกอย่าง ไม่ได้โม้นะคะ ค่าแรงขอแค่ของอร่อยๆ ฝีมือป้านุ่มรับรองได้อย่างสั่ง” คนขยันเอ่ยประจบคนแก่ ทำเอาราฟาเอลต้องอมยิ้มให้กับความช่างพูดของนอกสาวนอกไส้คนนี้
“ช่างพูดเสียจริงแม่คุณ ขึ้นไปพักได้แล้วค่ะเดินทางมาตั้งไกล ตื่นมาจะได้สดชื่น และทานของอร่อยๆ ฝีมือป้า” ป้านุ่มลูบแก้มใสของคุณหนูขวัญใจคนทั้งบ้าน โดยเฉพาะร่างสูงของเจ้านายรูปหล่อที่ยืนคุมอยู่ทางด้านหลัง
“สัญญาแล้วนะคะ พี่ราล์ฟเป็นพยานให้แพรวแล้วนะ ถ้าลงมาทานมื้อเย็นแล้วไม่ได้กินแพรวจะงอนป้านุ่มจริงๆ ด้วย” เสียงใสเจื้อยแจ้ว ก่อนจะดึงแขนพี่ชายมาคล้องไว้เหมือนเดิม
“ค่ะ ป้าจะทำให้สุดฝีมือของป้าเลย รับรองว่าวันนี้คุณหนูเจริญอาหารแน่ๆ”
“ไปพักผ่อนได้แล้วเราน่ะ ไม่เหนื่อยหรือไง” ราฟาเอลดันหลังบางให้เดินขึ้นบันได
ป้านุ่มยืนมองเจ้านายทั้งสองคนที่เดินคุยกันขึ้นไป ด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินแยกออกไปบ้าง
แพรวพิชชาเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ก็ต้องตาโตอย่างชอบใจ เมื่อในห้องถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมด ในโทนฟ้าขาวอย่างที่เธอชอบ ร่างเล็กเดินสำรวจไปทั่วห้องอย่างตื่นเต้น ดวงตาสุกใสเปล่งประกาย ข้าวของเครื่องใช้ถูกเปลี่ยนใหม่ยกห้อง ยังไม่นับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมใช้งานได้ทันทีหากจะหยิบชิ้นไหนมาใช้งาน
ราฟาเอลกอดอกหยุดยืนอยู่ตรงมุมห้อง จ้องมองน้องน้อยในวันวานที่ตอนนี้เติบโตเป็นสาวเต็มตัวอย่างรักใคร่ แพรวพิชชาเข้ามาเติมเต็มชีวิตที่อ้างว้างของเขาให้มีชีวิตชีวา โลกหม่นๆ ก็กลับกลายเป็นสดใสขึ้นทันตา เพียงเพราะรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะที่มักจะทำให้เขามีความสุขเสมอ
“พี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟคะ พี่ราล์ฟขา ทำไมยืนนิ่งเป็นหุ่นแบบนี้คะเนี่ย” แพรวพิชชาโบกมือตรงหน้าเหม่อๆ ของพี่ชายอยู่สองสามครั้งราฟาเอลถึงได้รู้สึกตัว
“มีอะไรจ๊ะคนสวย เรียกพี่เสียงดังเชียว” ราฟาเอลมองใบหน้าสวยที่แทบจะชิดติดกับหน้าตัวเอง
“ก็พี่ราล์ฟยืนเหม่อ แพรวเรียกตั้งนานแน่ะ บอกได้ไหมคะว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่คะ” แพรวพิชชาเอียงคอมองอย่างสังเกตสังกาอาการของพี่ชาย
“พี่แค่คิดเรื่องงานน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เลิกสงสัยได้แล้ว ว่าแต่ชอบห้องใหม่ไหมครับ พี่ให้ช่างมาทำก่อนน้องแพรวจะกลับได้สักประมาณเดือนหนึ่ง เพิ่งจะตกแต่งเสร็จเมื่อไม่กี่วันนี้เอง” ราฟาเอลบอกปัดสาวน้อย พลางขยับหน้าออกห่าง และเดินเลี่ยงไปนั่งบนเตียงนุ่มแทน
แพรวพิชชาพยักหน้ายิ้มรับ “ชอบมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เตรียมห้องใหม่ให้แพรวสวยขนาดนี้ พี่ราล์ฟน่ารักกับแพรวตลอดเลย รู้ใจแทบทุกเรื่อง”แพรวพิชชาเดินมานั่งข้างๆ ร่างสูง โอบเอวสอบ พิงหน้าไว้ที่ไหล่หนาอย่างขอบคุณ ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจสักนิดที่แสดงออกแบบนี้กับราฟาเอล ถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องทางสายเลือดกันจริงๆ แต่เธอก็เคารพรักพี่ชายคนนี้ราวกับคลานตามกันออกมาจริงๆ
“สำหรับน้องแพรวไม่ว่าอะไรพี่ก็ทำให้ได้ แค่เอ่ยปากออกมา” ราฟาเอลกดริมฝีปากลงบนผมนุ่ม กอดกระชับไหล่บางเอาไว้หลวมๆ
“พี่ว่าพี่ออกไปก่อนดีกว่า น้องแพรวจะได้นอนพัก ขืนอยู่ด้วยกันไม่เป็นอันพักผ่อนกันพอดี”
“ไม่เอา บอกแล้วไงคะว่ามีเรื่องมาเล่าให้ฟังเยอะ พี่ราล์ฟอยู่ฟังก่อนสิ แพรวยังไม่ง่วงสักหน่อย” ร่างบางล้มตัวลงนอน พร้อมกับดึงแขนแกร่งให้ล้มตัวลงนอนตาม
“ทำไมชอบบังคับพี่นักนะ” ราฟาเอลพูดเบาๆ นัยน์ตาฉายชัดไปด้วยความสุข ลองถ้าเป็นคนอื่นทำกับเขาอย่างนี้สิ ไม่ตายดีแน่ แต่คนข้างๆ คือข้อยกเว้นทั้งหมดของสิ่งที่เขาไม่ชอบ
“แพรวนี่นะบังคับ คนที่ชอบบังคับนั่นคือพี่ราล์ฟต่างหาก แถมยังเป็นจอมบงการอีกด้วยรู้ตัวไหมคะ” แพรวพิชชาพลิกตัวนอนคว่ำหน้า เอาคางเกยไว้บนอกล่ำๆ ของราฟาเอล
“เขาเรียกว่าหวังดีต่างหาก” ราฟาเอลแก้คำ ตั้งแต่คนตัวเล็กกลับมาเขายังไม่ได้หยุดพูดเลย ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนพูดมากขนาดนี้ ยกเว้นเสียแต่คนข้างกายนี่แหละที่ชอบชวนคุยนั่นคุยนี่ และเขาก็ชอบที่จะโต้ตอบด้วย ไม่ว่าจะถามอะไรก็ตามเขาสามารถตอบได้ โดยที่ไม่ต้องคิดและหวงคำพูดเลยแม้แต่น้อย
“อื้อ ง่วงจังค่ะ ขอนอนก่อนนะคะ ไว้ตื่นมาแล้วค่อยเล่า เมื่อกี้ยังไม่ง่วงเลย แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว” คนที่บอกว่าตัวเองยังไม่ง่วงในคราแรก ตาเริ่มปรือปรอยลงเรื่อยๆ จนแทบจะปิด ปากเล็กๆ หาวแล้วหาวอีก อย่างคนง่วงนอนเต็มที่แล้ว
“ง่วงก็นอนดีๆ” ราฟาเอลจะจับร่างบางให้นอนที่หมอน แต่แขนเรียวที่กอดเอวเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ขาก็ยกขึ้นมาพาดกอดก่ายราวกับว่าเขาเป็นหมอนข้าง
“อือ ไม่เอาอยากนอนกอดพี่ราล์ฟเหมือนตอนเด็กๆ เราไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้มานานแล้วนะคะ พี่ราล์ฟอย่าขัดใจแพรวนะคะ” เสียงอู้อี้ดังอยู่กับอก ราฟาเอลไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องปล่อยให้นอนท่านั้น ครั้นจะบังคับก็ใช่ที่เพราะรู้ดีว่าแม่คนช่างอ้อนไม่มีทางยอมแน่ๆ
“ไม่ขัดก็ไม่ขัด งั้นก็นอนกอดตามสบายเลยเจ้าหญิงของพี่” มือใหญ่ลูบผมนุ่มเบาๆ เพื่อเป็นการขับกล่อม
“อย่าทิ้งแพรวไปนะ”
“ไม่มีวันทิ้ง” เสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าคนช่างพูดได้หลับลงไปแล้ว นัยน์ตาคมทอดมองใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างอ่อนโยน มือหนาเกลี่ยข้างแก้มนิ่ม ปัดปอยผมที่ระใบหน้าออกอย่างเบามือ ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปประทับจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา กดแช่ริมฝีปากเอาไว้เนิ่นนานก่อนจะตัดสินใจผละออกมานอนมองใบหน้าพริ้มเพราที่นอนหลับอย่างมีความสุข รอยยิ้มน้อยๆ ประดับบนใบหน้าที่คอยแต่จะดุดันเมื่อยามอยู่ต่อหน้าคนอื่น ราฟาเอลนอนมองคนที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยหัวใจที่แช่มชื่น ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินออกจากห้องนอนของคนตัวเล็กไปเงียบๆ
“ว่างกันมากใช่ไหม ถึงมีเวลามานั่งโพสต์อะไรบ้าๆ ลงอินเทอร์เน็ตช่อผกา คุณป้าขจี” เสียงเข้มห้วนถามผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า อย่างมีอารมณ์กรุ่นโกรธ“พี่ราล์ฟอย่ามาใส่ร้ายผกากับคุณแม่นะคะ ของแบบนี้ใครจะโพสต์ใครจะพิมพ์ก็ได้ คนร้อยพ่อพันแม่มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละค่ะ อยู่ๆก็มากล่าวหากันลอยๆ ไม่คิดว่าเกินไปหน่อยเหรอคะ” ช่อผกายกแขนขึ้นกอดอก แล้วเบ้ปาก“ไหนล่ะหลักฐานที่ว่าป้ากับผกาเป็นคนทำ มีหรือแค่ปรักปรำตาราล์ฟ และที่ให้คนไปพาตัวป้ากับน้องมาจากเชียงใหม่กระทันหัน เราสองคนยังไม่ว่าอะไรเธอเลย ฉันก็นึกว่าจะมาขอโทษขอโพย เรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้ แต่ที่ไหนได้ให้มาเพราะคิดว่าเราสองคนแม่ลูกเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีเมียตัวเอง เสียแรงที่รักเหมือนลูกในไส้” คุณขจีพูดจบก็เชิดหน้าบึ้งๆ ของตัวเองขึ้น“แบรท โรม เอาหลักฐานให้เขาดูสิ จะได้เลิกพูดว่าฉันกล่าวหาเสียที” ราฟาเอลสั่งเสียงดัง“นี่ครับคุณผู้หญิง สมัยนี้เขาตรวจสอบคนโพสต์สิ่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ครับ มันไม่ได้เป็นความลับอะไรหากจะดูชื่อคนโพสต์หมิ่นประมาท หรือใส่ร้ายเรื่องที่ไม่จริง” โรมวางเอกสารพร้อมกับชี้แจงเสียงดังฟังชัด“ไม่จริง! แกสองคนมันมั่วไอ
ราฟาเอลเดินมาหยุดยืนข้างเตียงนอน สายตาอ่อนโยนจับจ้องอยู่ที่ร่างของเมียขี้เซา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงขอบเตียง จากนั้นก็เริ่มลากฝ่ามือลูบไล้กายเปลือยเปล่าที่อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนา เขาต้องการจะปลุกมากกว่าการลวนลามจริงๆ จังๆ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเตรียมพร้อมจะออกไปทำงานแล้ว หากแกล้งมากเกินไปอาจจะต้องถอดเสื้อผ้าออก แล้วลงไปคลุกเคล้าคนหลับแน่ๆ ฝ่ายแพรวพิชชาแม้จะโดนลูบหนักมือก็ยังไม่ยอมตื่นจากนิทรา เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวต้นเหตุ เพราะกว่าจะยอมให้เมียพักผ่อนได้ก็ดึกโข กว่าจะนอนก็เข้าวันใหม่แทบทุกวัน“น้องแพรวจ๋า” เสียงทุ้มกระซิบเรียกชิดใบหูขาว พลางสูดดมความหอมของกลุ่มผมนุ่มเป้าปอด“ขา” แพรวพิชชาตอบรับเสียงแผ่ว งัวเงียเต็มที่ แล้วพลิกตัวนอนตะแคงข้างหนีการรุกราน“ตื่นมาส่งพี่ไปทำงานก่อนเร็วคนดี พี่ไม่อยากออกไปทั้งที่น้องแพรวหลับ” ราฟาเอลช้อนร่างอ่อนเปลี้ยขึ้นจากที่นอนให้มานั่งบนตักตนเอง แพรวพิชชานั้นก็ไม่ยอมตื่นง่ายๆ นั่งพิงแผงอกกว้าง แล้วหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น“พี่ราล์ฟจะไปทำงานแล้วเหรอคะ ทำไมรีบไปจังเลย” คนขี้เซาเบียดกายเข้าหา กอดรัดลำตัวหนาเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเ
“แกว่าฉันพิมพ์แบบนี้มันดูดียังวะ ต้องเพิ่มเติมอะไรอีกรึเปล่า” โรมถามเพื่อนที่กำลังยุ่งกับการทำคอม“ไหนเอามาอ่าน” แบรทกระดิกนิ้วขอดู สายตาก็ไม่ได้ละออกจากโน้ตบุ๊คส่วนตัวแม้แต่น้อย“อ่ะ แกช่วยดูหน่อย” โรมส่งโทรศัพท์ให้กับแบรทได้ช่วยวิเคราะห์ในสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ลงไป“ยินดีกับเจ้านายสุดที่รักด้วยครับ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ข่าวเม้าท์ใส่สีตีไข่ด้วยความอิจฉาของสาวนางหนึ่งไม่เป็นความจริงสักนิด ตื่นเถอะครับตื่น เห็นชัดไหมใบทะเบียนสมรส หลักฐานชิ้นนี้ยืนยันว่าคุณหนูของเราไม่ได้เป็นเมียเก็บเจ้านายแต่อย่างใด ทั้งสองคนรักกันมากจนคนรอบข้างแทบจะสำลักความหวานตาย ที่ว่าเมียเก็บน่ะ ถ้าจะเก็บเพราะความหวงเมียอันนี้เรื่องจริงไม่อิงนิยาย มีเมียสวยก็ต้องหวงอยากเก็บไว้ดูคนเดียว รักมากหวงมากเข้าใจป่ะครับ อ๊ะๆ แถมให้อีกนิด เพราะกลัวจะมีคนบอกว่าจดทะเบียนแล้วทำไมไม่แต่งงาน รอฤกษ์งามยามดีสิครับคุณไม่น่าถาม”“โอเคแล้ว จะว่าไปแกมั่นใจเรื่องเพศของตัวเองนะ ไม่สับสนอะไรใช่ไหม” แบรทส่งโทรศัพท์คืนแล้วถามโรมอย่างจริงจัง“แกหมายความว่าไงวะถึงถามฉันแบบนั้น อธิบายให้กระจ่างหน่อยไม่เข้าใจ”“ก็คำพูดคำจาที่แกใช้พิมพ์เหมือนกับผู
“พี่ราล์ฟขาเราควรจะอยู่เฉยจริงๆ เหรอคะ ใครก็ไม่รู้เอาเรื่องของแพรวไปโพสต์ในทางเสียๆ หายๆ ถึงแพรวจะไม่ได้เป็นคนดังเหมือนพวกดารา แต่เรื่องแบบนี้คนมักจะชอบนำไปแชร์ต่อ และวิจารณ์กันในทางเสียหายโดยที่เขาไม่ทราบความจริงนะคะ พี่ราล์ฟอย่าเอาแต่ยิ้มได้ไหมคะ แพรวจริงจังนะเนี่ย” ใบหน้าจิ้มลิ้มยุ่งลงเมื่อพูดและคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หากช้องนางไม่โทรมาเล่าให้ฟังเธอก็คงจะยังไม่รู้ว่ามีผู้ไม่หวังดีโจมตี จากที่ว่าจะไม่ติดใจอะไร แต่ตอนนี้เธอขอกลับคำพูดละกัน“แล้วน้องแพรวอยากจะให้พี่ทำอะไรกับเขาคนนั้นล่ะ คิดไว้ในใจหรือยัง” ราฟาเอลถามอย่างใจเย็น“เท่าที่คิดไว้ก็แค่อยากจะโชว์ทะเบียนสมรสกับถ่ายรูปหวานๆ ของเรา ประกาศให้รู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน ไม่ได้เป็นเมียเก็บอะไรสักหน่อย พี่ราล์ฟอาจจะคิดว่าความคิดของแพรวเด็กๆ ซึ่งแพรวก็ไม่เถียงหรอกค่ะ เพราะตอนนี้คิดได้แค่นี้”“พี่ไม่เห็นว่าความคิดของเมียพี่จะเด็กเลย พี่พร้อมจะถ่ายรูปแล้ว น้องแพรวอยากได้หวานมากแค่ไหนบัญชามาได้เลย จะกอดจะจูบจะหอมได้หมด” ราฟาเอลยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผมยุ่งนิดๆ อย่างเป็นธรรมชาติเพราะไม่ได้จัดทรง“พี่ราล์ฟหล่อจัง แพรวชักไม่อยากให้
แพรวพิชชาก้มลงมองแผ่นกระดาษในมือนิ่ง รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่ที่มุมปาก ความตื่นเต้นยังไม่จางหายไปไหน ก่อนหน้านั้นเธอยังเป็นนางสาวแพรวพิชชาอยู่เลย เพียงแค่ไม่กี่นาทีคำนำหน้าชื่อก็กลายเป็นนาง เสี้ยววินาทีที่จรดปลายปากกามันทั้งตื่นเต้นและอิ่มเอมใจไปพร้อมๆ กัน แม้จะรู้ตัวว่าต้องมีวันนี้เพราะคนข้างตัวคงไม่มีทางยอมให้เธอผลัดไปได้นาน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเมื่อเช้าที่พี่ราล์ฟปลุกให้เธอตื่น อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็รีบพาออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกว่าจะไปที่ใด จนกระทั่งมาถึงเธอจึงได้รับคำตอบ“เลิกมองได้แล้วมั้งนางแพรวพิชชา บารานอฟ จ้องไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกจ้ะ น้องแพรวต้องใช้นามสกุลนี้ทั้งชีวิต ใช้แล้วใช้เลยไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนเข้าใจไหมครับ” ราฟาเอลพูดอย่างอารมณ์ดี เพราะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายหมาดๆ ไม่ยอมละสายตาจากใบทะเบียนสมรสเลย“เข้าใจค่ะ แพรวมองเพื่อย้ำกับตัวเองว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันค่ะ พี่ราล์ฟเล่นพามาไม่บอกไม่กล่าวก่อนเลย พอมาถึงก็บอกเราถึงเวลาที่จะจดทะเบียนกันได้แล้ว ถามจริงคิดมาก่อนไหมคะเรื่องในวันนี้น่ะ” แพรวพิชชาเอาใบสำคัญใส่ซองเอกสาร เสียบไว้ในกระเป๋าถือที่วางไว้ข้างตัว แล้วเอียงต
“คุณราล์ฟนี่ตามใจเมียจังเลยนะคะ น่ารักจัง” แต่คนถูกชมก็ไม่ได้ยิ้มดีใจ ทำหน้านิ่งเหมือนไม่รับรู้“ไปชมมันทำไมดา ไอ้นี่มันโหดจะตาย ดีแค่ไหนแล้วที่มันเกรงใจเมีย แต่กับคนอื่นมันไม่สนใครหรอกนะจะบอกให้ มันไม่น่ารักเท่าผมหรอก” ไรอันขยิบตาใส่สาว“อยากมีคนดูแลเอาใจใส่แบบนี้บ้างจัง มิกิไม่เห็นห่วงผมแบบนี้เลย” ไรอันอ้อนสาวข้างตัว“คุณไม่ต้องเลิกขาดหรอกค่ะไรอัน ชีวิตคนเราต้องมีสีสันสิคะ คุณมีสังคม เรื่องดื่มมันปกติค่ะ” มิกิลูบแก้มไรอัน“จริงของคุณ ผมคงทำตามไอ้ราล์ฟมันไม่ได้” ตอเรสเงยหน้าขึ้นแล้วยักไหล่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่หากมีครอบครัวหรือเจอคนที่พร้อมจะหยุดทุกอย่าง เขาก็อาจจะเพลาๆ ของพวกนี้ลงได้“คุณแพรวไม่คิดว่าตัวเองทำเกินไปเหรอคะ” มิกิปรายตามองหน้าแพรวพิชชานิดๆ ตอนถาม“ทำเกินไปไหม แพรวคิดว่าไม่นะคะคุณมิกิ เพราะถ้าเรารักใคร เราย่อมห่วงใยเขาในทุกๆ เรื่อง เราทำเรื่องดีทำไมจะต้องคิดอะไรให้มากมายด้วย ถ้าคุณมิกิรักใครจริงๆ ก็คงจะเข้าใจ แต่ถ้ายังไม่เคยรักใครจริงๆ จังๆ ก็จะไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ถึงได้บอกให้เขาใช้ชีวิตแบบเดิมต่อไป” แพรวพิชชาตอบนิ่มๆ หน้าตายิ้มแย้ม มือก็ลูบศีรษะสามีเล่น ทำเอาคนถามถึงกับสะอึ
แพรวพิชชาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วเข้ามาภายในห้องนอน ความเหนื่อย เมื่อยล้า ที่เกิดจากกิจกรรมฉันท์สามีภรรยาก่อนหน้าเริ่มหายไป หลังจากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอหลายชั่วโมง ก้มลงมองที่หน้าอกก็เห็นว่าราฟาเอลยังคงหลับสนิทอยู่ คิ้วเรียวขมวดพันกันจนยุ่ง ปกติพี่ราล์ฟของเธอเป็นคนมีประสาทการได้ยินดีจะตาย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้ยิน คิดดังนั้นก็ใช้มือดันศีรษะที่ซุกซบกับอกของเธอออก เพื่อจะได้เดินไปดูว่าใครกันที่มาเล่นสนุก แต่ก็ไปไม่ได้เพราะสามีสุดที่รักไม่ยอม กอดก่ายเอาไว้ทั้งตัว แถมยังฝังใบหน้าลงมากลางอกแน่นอีก“พี่ราล์ฟ ปล่อยแพรวก่อนค่ะ อย่ารัดแน่นสิคะ แพรวจะลุกจากเตียง อื้อ” ฝ่ามือนุ่มฟาดที่ท่อนแขนกำยำ เมื่อไม่มีทีท่าว่าจะได้ลุกขึ้นตามที่ต้องการ“จะลุกไปไหน พี่ยังไม่อยากตื่นเลย นอนกอดกันต่อเถอะ” น้ำเสียงของราฟาเอลงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดสนิท งึมงำกับอกอวบที่ใช้หนุนนอนแทนหมอน“ยังไม่อยากตื่นก็นอนต่อสิคะ แพรวแค่จะเดินไปดูตรงหน้าต่าง ไม่ได้จะไปไหนไกลสักหน่อย”“ไม่ต้องสนใจหรอกคงเป็นเสียงสาวๆ ของไอ้พวกนั้น มันคงพามาเล่นน้ำตรงลำธาร”“รู้ดีจัง พี่ราล์ฟล่ะคะ เคยพาใครมา
“แพรวรักพี่ราล์ฟนะคะ” เสียงหวานติดจะเขินอายพูดเบาๆ“รักแบบที่พี่ราล์ฟรักแพรว” แพรวพิชชากระซิบ ช้อนสายตามองคนตรงหน้าแล้วยิ้มกว้าง“ในที่สุดพี่ก็ได้ฟังคำบอกรักที่ไม่ใช่ในฐานะพี่ชายเสียที หลังจากรอมานาน”ราฟาเอลยิ้มเต็มใบหน้า ปากร้อนก็จูบไปทั่วดวงหน้าสวยแทบทุกตารางนิ้ว อกหนั่นแน่นสั่นกระเพื่อมเพราะเขาหัวเราะไปด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเขา ทำให้แพรวพิชชาเคลิ้มไปด้วย เพราะไม่บ่อยนักที่พี่ราล์ฟของเธอจะเป็นแบบนี้“พี่ราล์ฟยิ้มและหัวเราะแบบนี้บ่อยๆ นะคะ แพรวชอบรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของพี่ราล์ฟ”“พี่จะทำตามคำขอนั้นนะ แต่ต้องหลังจากที่เราช่วยกันทำลูก” การบอกรักผ่านทางร่างกายในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากแพรวพิชชาเป็นอย่างดี มีทั้งอ่อนหวาน นุ่มนวล ไปจนถึงร้อนแรงจนร่างกายแทบมอดไหม้ราฟาเอลขับเคลื่อนสะโพกเข้าใส่ร่างกายของเมียไม่ยั้ง แม้พื้นที่จะคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่โหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ ได้ แพรวพิชชาก็ตอบสนองความต้องการของสามีได้เป็นอย่างดี เขาชักจูงให้ไปทางไหน ก็พร้อมใจที่จะทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน เร่าร้อนพอๆกัน“อื้ม ดีจังค่ะ” แพรวพิชชาในตอนนี้อยู่ใน
เมื่อตัวขัดขวางไม่มีแล้ว ราฟาเอลก็รีบอุ้มเมียเข้าไปในบ้านทันที ปิดประตูลงกลอนไม่ต้อนรับใคร เสื้อผ้าเสื้อผ่อนหลุดลุ่ยออกจากร่างกาย ไม่รอให้เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว“ว้าย! พี่ราล์ฟอย่าใจร้อนสิคะ ทำอย่างกับไม่เคยไปได้” แพรวพิชชาหวีดร้องเมื่อเสื้อชั้นในถูกกระชากออก เหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีขาวที่ยังคงติดกายอยู่“น้องแพรวให้พี่อดกลั้นมาหลายวันแล้วนะ ถึงเวลาที่พี่จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้ว” ราฟเอลแตะริมฝีปากที่ไหล่เปล่าเปลือย พลางดันหลังบางให้เดินไปที่หน้าโซฟากลางบ้านกายบางถูกจับหมุนให้หันมาเผชิญหน้ากับราฟาเอล เพื่อรับจุมพิตอันดูดดื่ม ท่อนแขนเรียวยกขึ้นเกาะกอดเอวสอบโดยอัตโนมัติ ส่งเสียงครางอืออาอยู่ในลำคอ ต้อนรับความอุ่นซ่านของเรียวลิ้นหนาด้วยความเต็มใจ“อือ” ใบหน้างามนิ่วลง เมื่อถูกบีบบี้ยอดอก ปลายเล็บจิกลงบนสะโพกหนาอย่างลืมตัวปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้งสองข้างทำหน้าที่ให้ความสุข ดึงเคล้นกับยอดทรวงสีสวย ไหล่บางห่อลงเรื่อยๆเมื่อโดนจู่โจมหนักมือขึ้น หว่างคิ้วก็ย่นเข้าหากัน ปากก็แลกจูบกันไม่มีถอย นานเข้าราฟาเอลก็ไล่ปากลงมาตามแนวคาง ลำคอระหงหอมกรุ่น ไหปลาร้านูน กลางอกอวบ จากนั้นก็งับเข้าที่ยอดสั่นร