“ยินดีต้อนรับกลับบ้านอีกครั้งนะคะคนดีของป้า” รอยยิ้มประดับบนใบหน้าที่มีริ้วรอยตามกาลเวลา
“ค่ะ คราวนี้จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนเลย ถ้าป้านุ่มมีอะไรให้ช่วยบอกเลยนะคะ แพรวทำได้ทุกอย่าง ไม่ได้โม้นะคะ ค่าแรงขอแค่ของอร่อยๆ ฝีมือป้านุ่มรับรองได้อย่างสั่ง” คนขยันเอ่ยประจบคนแก่ ทำเอาราฟาเอลต้องอมยิ้มให้กับความช่างพูดของนอกสาวนอกไส้คนนี้
“ช่างพูดเสียจริงแม่คุณ ขึ้นไปพักได้แล้วค่ะเดินทางมาตั้งไกล ตื่นมาจะได้สดชื่น และทานของอร่อยๆ ฝีมือป้า” ป้านุ่มลูบแก้มใสของคุณหนูขวัญใจคนทั้งบ้าน โดยเฉพาะร่างสูงของเจ้านายรูปหล่อที่ยืนคุมอยู่ทางด้านหลัง
“สัญญาแล้วนะคะ พี่ราล์ฟเป็นพยานให้แพรวแล้วนะ ถ้าลงมาทานมื้อเย็นแล้วไม่ได้กินแพรวจะงอนป้านุ่มจริงๆ ด้วย” เสียงใสเจื้อยแจ้ว ก่อนจะดึงแขนพี่ชายมาคล้องไว้เหมือนเดิม
“ค่ะ ป้าจะทำให้สุดฝีมือของป้าเลย รับรองว่าวันนี้คุณหนูเจริญอาหารแน่ๆ”
“ไปพักผ่อนได้แล้วเราน่ะ ไม่เหนื่อยหรือไง” ราฟาเอลดันหลังบางให้เดินขึ้นบันได
ป้านุ่มยืนมองเจ้านายทั้งสองคนที่เดินคุยกันขึ้นไป ด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินแยกออกไปบ้าง
แพรวพิชชาเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ก็ต้องตาโตอย่างชอบใจ เมื่อในห้องถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมด ในโทนฟ้าขาวอย่างที่เธอชอบ ร่างเล็กเดินสำรวจไปทั่วห้องอย่างตื่นเต้น ดวงตาสุกใสเปล่งประกาย ข้าวของเครื่องใช้ถูกเปลี่ยนใหม่ยกห้อง ยังไม่นับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมใช้งานได้ทันทีหากจะหยิบชิ้นไหนมาใช้งาน
ราฟาเอลกอดอกหยุดยืนอยู่ตรงมุมห้อง จ้องมองน้องน้อยในวันวานที่ตอนนี้เติบโตเป็นสาวเต็มตัวอย่างรักใคร่ แพรวพิชชาเข้ามาเติมเต็มชีวิตที่อ้างว้างของเขาให้มีชีวิตชีวา โลกหม่นๆ ก็กลับกลายเป็นสดใสขึ้นทันตา เพียงเพราะรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะที่มักจะทำให้เขามีความสุขเสมอ
“พี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟคะ พี่ราล์ฟขา ทำไมยืนนิ่งเป็นหุ่นแบบนี้คะเนี่ย” แพรวพิชชาโบกมือตรงหน้าเหม่อๆ ของพี่ชายอยู่สองสามครั้งราฟาเอลถึงได้รู้สึกตัว
“มีอะไรจ๊ะคนสวย เรียกพี่เสียงดังเชียว” ราฟาเอลมองใบหน้าสวยที่แทบจะชิดติดกับหน้าตัวเอง
“ก็พี่ราล์ฟยืนเหม่อ แพรวเรียกตั้งนานแน่ะ บอกได้ไหมคะว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่คะ” แพรวพิชชาเอียงคอมองอย่างสังเกตสังกาอาการของพี่ชาย
“พี่แค่คิดเรื่องงานน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เลิกสงสัยได้แล้ว ว่าแต่ชอบห้องใหม่ไหมครับ พี่ให้ช่างมาทำก่อนน้องแพรวจะกลับได้สักประมาณเดือนหนึ่ง เพิ่งจะตกแต่งเสร็จเมื่อไม่กี่วันนี้เอง” ราฟาเอลบอกปัดสาวน้อย พลางขยับหน้าออกห่าง และเดินเลี่ยงไปนั่งบนเตียงนุ่มแทน
แพรวพิชชาพยักหน้ายิ้มรับ “ชอบมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เตรียมห้องใหม่ให้แพรวสวยขนาดนี้ พี่ราล์ฟน่ารักกับแพรวตลอดเลย รู้ใจแทบทุกเรื่อง”แพรวพิชชาเดินมานั่งข้างๆ ร่างสูง โอบเอวสอบ พิงหน้าไว้ที่ไหล่หนาอย่างขอบคุณ ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจสักนิดที่แสดงออกแบบนี้กับราฟาเอล ถึงแม้จะไม่ใช่พี่น้องทางสายเลือดกันจริงๆ แต่เธอก็เคารพรักพี่ชายคนนี้ราวกับคลานตามกันออกมาจริงๆ
“สำหรับน้องแพรวไม่ว่าอะไรพี่ก็ทำให้ได้ แค่เอ่ยปากออกมา” ราฟาเอลกดริมฝีปากลงบนผมนุ่ม กอดกระชับไหล่บางเอาไว้หลวมๆ
“พี่ว่าพี่ออกไปก่อนดีกว่า น้องแพรวจะได้นอนพัก ขืนอยู่ด้วยกันไม่เป็นอันพักผ่อนกันพอดี”
“ไม่เอา บอกแล้วไงคะว่ามีเรื่องมาเล่าให้ฟังเยอะ พี่ราล์ฟอยู่ฟังก่อนสิ แพรวยังไม่ง่วงสักหน่อย” ร่างบางล้มตัวลงนอน พร้อมกับดึงแขนแกร่งให้ล้มตัวลงนอนตาม
“ทำไมชอบบังคับพี่นักนะ” ราฟาเอลพูดเบาๆ นัยน์ตาฉายชัดไปด้วยความสุข ลองถ้าเป็นคนอื่นทำกับเขาอย่างนี้สิ ไม่ตายดีแน่ แต่คนข้างๆ คือข้อยกเว้นทั้งหมดของสิ่งที่เขาไม่ชอบ
“แพรวนี่นะบังคับ คนที่ชอบบังคับนั่นคือพี่ราล์ฟต่างหาก แถมยังเป็นจอมบงการอีกด้วยรู้ตัวไหมคะ” แพรวพิชชาพลิกตัวนอนคว่ำหน้า เอาคางเกยไว้บนอกล่ำๆ ของราฟาเอล
“เขาเรียกว่าหวังดีต่างหาก” ราฟาเอลแก้คำ ตั้งแต่คนตัวเล็กกลับมาเขายังไม่ได้หยุดพูดเลย ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนพูดมากขนาดนี้ ยกเว้นเสียแต่คนข้างกายนี่แหละที่ชอบชวนคุยนั่นคุยนี่ และเขาก็ชอบที่จะโต้ตอบด้วย ไม่ว่าจะถามอะไรก็ตามเขาสามารถตอบได้ โดยที่ไม่ต้องคิดและหวงคำพูดเลยแม้แต่น้อย
“อื้อ ง่วงจังค่ะ ขอนอนก่อนนะคะ ไว้ตื่นมาแล้วค่อยเล่า เมื่อกี้ยังไม่ง่วงเลย แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว” คนที่บอกว่าตัวเองยังไม่ง่วงในคราแรก ตาเริ่มปรือปรอยลงเรื่อยๆ จนแทบจะปิด ปากเล็กๆ หาวแล้วหาวอีก อย่างคนง่วงนอนเต็มที่แล้ว
“ง่วงก็นอนดีๆ” ราฟาเอลจะจับร่างบางให้นอนที่หมอน แต่แขนเรียวที่กอดเอวเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ขาก็ยกขึ้นมาพาดกอดก่ายราวกับว่าเขาเป็นหมอนข้าง
“อือ ไม่เอาอยากนอนกอดพี่ราล์ฟเหมือนตอนเด็กๆ เราไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้มานานแล้วนะคะ พี่ราล์ฟอย่าขัดใจแพรวนะคะ” เสียงอู้อี้ดังอยู่กับอก ราฟาเอลไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องปล่อยให้นอนท่านั้น ครั้นจะบังคับก็ใช่ที่เพราะรู้ดีว่าแม่คนช่างอ้อนไม่มีทางยอมแน่ๆ
“ไม่ขัดก็ไม่ขัด งั้นก็นอนกอดตามสบายเลยเจ้าหญิงของพี่” มือใหญ่ลูบผมนุ่มเบาๆ เพื่อเป็นการขับกล่อม
“อย่าทิ้งแพรวไปนะ”
“ไม่มีวันทิ้ง” เสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าคนช่างพูดได้หลับลงไปแล้ว นัยน์ตาคมทอดมองใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างอ่อนโยน มือหนาเกลี่ยข้างแก้มนิ่ม ปัดปอยผมที่ระใบหน้าออกอย่างเบามือ ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปประทับจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา กดแช่ริมฝีปากเอาไว้เนิ่นนานก่อนจะตัดสินใจผละออกมานอนมองใบหน้าพริ้มเพราที่นอนหลับอย่างมีความสุข รอยยิ้มน้อยๆ ประดับบนใบหน้าที่คอยแต่จะดุดันเมื่อยามอยู่ต่อหน้าคนอื่น ราฟาเอลนอนมองคนที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยหัวใจที่แช่มชื่น ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินออกจากห้องนอนของคนตัวเล็กไปเงียบๆ
ตกดึกหลังจากส่งลูกๆ เข้านอนแล้วก็เป็นเวลาของพ่อแม่ สองร่างเปลือยเปล่ากำลังแลกจูบ ลูบไล้ร่างกายของกันและกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น “หลายวันแล้วที่ไม่ได้กินน้องแพรว คืนนี้พี่ขอทั้งคืนเลยได้ไหมคะ” “หลายวันที่ไหนกันคะ แค่วันเดียวเท่านั้นเอง” เรียวขางามแยกออกจากกันเพื่อให้สามีได้ซุกหน้าลงมาหาได้ถนัด “ทั้งคืนไม่ดีมั้งคะ แพรวกลัวลูกตื่นแล้วไม่เจอเรา” “ลูกไม่ตื่นหรอกค่ะ เล่นกันจนเพลียขนาดนั้น” “พี่ราล์ฟก็รู้ว่าลูก…อื้อ อย่าเป่าลมหายใจใส่แพรวแบบนี้สิคะ แพรวเสียว หยุดแกล้งสักที” แพรวพิชชาหนีบขาจึงเท่ากับหนีบใบหน้าสามีไปด้วย คนถูกหนีบชอบใจ ขยี้ปาก จมูกรังแกร่างบางจนสะโพกลอยเด่น “ลูกสองแล้วอะไรก็เอาเมียพี่ไม่ลง ยังน่ากิน และทำใจผัวสั่นทุกครั้ง” “ทำเลยได้ไหมคะ แพรวกลัวลูกตื่นจัง” “ไม่ตื่นหรอกค่ะ” “พ่อจ๋า แม่จ๋าอยู่ไหน ฮือๆ” “พี่ราล์ฟ เสียงเอลลี่นี่คะ!” แพรวพิชชาหน้าตื่น ดันไหล่สามี “เอลลี่ของพ่อ ทำไมหนูทำกับพ่อแบบนี้คะลูก” โอดครวญกลางวงล้อมระหว่างขาเมีย “รีบลุกสิคะพี่ราล์ฟ อย่ามัวแต่ซบแพรว เดี๋ยวแอรอนก็ร้องอีกคนหรอกค่ะ” ฟาดไหล่สามีพลางมองหาชุดนอนที่อยู่ไกลออกไปจากโซฟา ตอนบอกให้รีบล
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นโซ่ทองคล้องใจของราฟาเอล และแพรวพิชชามีอายุได้สามขวบแล้ว ความสวยที่ฉายแววมาตั้งแต่เล็กๆ นับวันยิ่งโดดเด่นจึงทำให้คุณพ่อหวงลูกสาวมากกว่าเดิม ส่วนลูกชายคนที่สองก็โตตามพี่สาวมาติดๆ รูปหล่อ น่ารักไม่แพ้พี่สาว ลูกหัวปีท้ายปีทำเอาคนเป็นพ่อแม่หัวหมุนไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับความสุขนั้นย่อมมีมากกว่า เป็นความวุ่นวายที่มีแต่รอยยิ้ม “แม่จ๋าเอลลี่อยากกินเยลลี่ค่ะ” สาวน้อยทำตาปริบๆ ออดอ้อนคุณแม่ท่าทางน่ารักน่าชัง “แต่เอลลี่เพิ่งจะทานขนมไปนะคะคนดี หนูหิวอีกแล้วเหรอคะ” แพรวพิชชาก้มมองลูกสาวที่กำลังยืนซบแก้มกอดขาเธอก่อนจะอุ้มขึ้นมาหอมแก้มยุ้ยๆ ด้วยความรักสุดหัวใจ เอลลี่น้อยของเธอชอบทานขนมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตามใจทุกครั้งที่เจ้าตัวร้องขอ ที่บอกว่าหิวน่ะบางครั้งก็ไม่ได้หิวจริงๆ แต่อยากทานมากกว่า “หิวค่ะ เอลลี่หิว” แพรวพิชชาอมยิ้ม เขี่ยจมูกน้อยๆ ด้วยจมูกของเธอ “หิวแบบไหนคะ ข้าวหรือขนม” “ขนมค่ะ” ตอบชัดถ้อยชัดคำแล้วใช้จมูกเล็กๆ หอมแก้มเอาใจคุณแม่ “เรานี่น้า” “แม่ค้าบ อุ้มแอรอนด้วย” “ครับลูก” แพรวพิชชาย่อตัวลงอุ้มลูกชาย มือน้อยๆ เกี่ยวคอคุณ
“เฮ้ย! แกเป็นใครวะมานอนกอดฉันแบบนี้ได้ไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะเว้ย!” ตอเรสโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเจอชายแปลกหน้ากำลังยุ่มย่ามกับตนเอง “เสียงดังหาป้าแกเหรอ เดี๋ยวหลานก็ตื่นเพราะความขี้โวยวายของแกหรอก” ไรอันลุกขึ้นนั่งทั้งที่ตายังไม่ลืม ท่าทางสะลึมสะลือ ผมยุ่งไม่เป็นทรง “ช่วยแหกตาขึ้นมาดูก่อนได้ไหมวะไรอัน จะเสียตัวให้ไอ้ห่านี่อยู่แล้วแม่งเอ๊ย!” ตอเรสหน้าบึ้งจัด พลางผลักชายแปลกหน้าที่ส่งยิ้มให้ไปทางไรอันแล้วตัวเองรีบกระโดดหนี “หลับสบายไหมครับสุดหล่อ” เจคอปถามชายหนุ่มที่ตนซบไหล่อยู่เสียงนุ่ม “เฮ้ย! ไอ้หมอนี่มันเป็นใครวะตอเรส ท่าทางมันเหมือนชอบเพศเดียวกันเลยว่ะ” ไรอันหน้าตาตื่น ผลักหน้าขาวๆ ถอยหลังกรูดทันทีที่มีสติ เขาเกือบจะเสียจูบให้มันไปแล้ว “ไม่เหมือนหรอกมันใช่เลยไอ้เพื่อนโง่เอ๊ย! ส่วนแก เป็นใครวะ เข้ามาในบ้านเพื่อนฉันได้ยังไงฮะ ไม่ต้องยิ้มให้ฉัน ขนลุกไปหมดแล้วกู” ตอเรสรัวภาษาอังกฤษ “นี่พวกแกเสร็จเพื่อนน้องแพรวไปแล้วเหรอวะตอเรส ไรอัน” “คุณตอเรสกับคุณไรอันไม่นะครับ” โรมตามเจ้านายเข้ามาทำตาโต “เมื่อคืนพวกผมก็เกือบโดนเหมือนกันครับ แต่ดีที่รอดมาได้” แบรทเสริมพลางค้อนเจ้านาย “พี่ไรอันก
“เอลลี่จ๋าวันนี้หนูต้องอยู่บ้านกับพ่อสองคนนะครับ คุณแม่เขาจะทิ้งเราพ่อลูกไว้ที่บ้านแล้วตัวเองก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หนูอย่างอแงกับพ่อมากนะครับ” ราฟาเอลพูดกับลูกน้อยตัวหอมฟุ้งระหว่างรอเมียบรรจงแต้มเครื่องสำอางบนใบหน้าขาวผ่อง ก่อนหน้านี้เขานอนเล่นกับลูกบนเตียงแต่อยู่ดีๆ หนูน้อยก็แผดเสียงร้องไห้จ้าแบบไร้สาเหตุ พออุ้มพามาหาแม่ก็อารมณ์ดี ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ถ้าแม่ไม่อยู่ให้เห็นหน้าจะร้องไห้อีกหรือเปล่า “แม่ไม่ได้ทิ้งหนูจ้ะ คุณพ่อพูดเกินความจริงไปมาก” แพรวพิชชาหันกลับมามองสองพ่อลูกที่นั่งเฝ้าเธอแต่งหน้า พลางค้อนสามีไปหนึ่งที ดูเอาเถอะท่านประธานที่น่ารักของเธอ เมื่อคืนก็นึกว่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่พอถึงเวลาที่เธอจะไปดันงอแงแข่งกับลูก ขอตีสักทีจะได้ไหม หน้างอใส่เธอตั้งแต่ตื่นนอนจนตอนนี้ “แอ้ๆ” เห็นคุณแม่คนสวยหันมาคุยด้วยเอลลี่น้อยก็ตอบโต้อย่างอารมณ์ดี ดวงตากลมโตจ้องกลับ ส่งเสียงอ้อแอ้ แกว่งแขน แกว่งกำปั้น เจื้อยแจ้วต เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพ่อและแม่ ยามคุณพ่อเอาไรเคราถูตรงฝ่าเท้าน้อยๆ ก็หัวเราะ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาแพรวพิชชา ก่อนรอยยิ้มจะมาสะดุดตรงประโยคคุณพ่อของลูก “ล
“แน่ใจนะคะว่าแค่อยากอาบน้ำให้เมีย” ดวงตาคู่งามมองสามี เธอรู้ทันเขาหรอก ถ้าไม่ติดว่าลูกกำลังกินนมอยู่ล่ะก็พี่จะจับน้องแพรวแก้ผ้าเดี๋ยวนี้เลย กระซิบชิดเรียวปากหวาน คว้าหมับเข้าที่เต้าอวบใหญ่ข้างที่เอลลี่ไม่ได้ดูดพลางบี้หัวนมแข็งคัดจนน้ำนมพุ่งออกมาจนเปรอะมือ ดวงตาเร่าร้อนมองสบตาเมียสาวแล้วเลียกิน “อร่อย” การกระทำดังกล่าวไม่ได้ทำให้คนเป็นเมียอายแต่อย่างใด “แย่งลูกกินทุกวันเลยนะคะคุณพ่อ”“แบ่งกันกินไงครับ ใช่ไหมลูก เราแบ่งกันได้ใช่ไหมคะ” ยิ้มพลางจูบแก้มลูกสาวด้วยความเอ็นดู “เอลลี่รักพ่อเลยไม่หวงพ่อ” “กินนมเมียเหมือนลูกต้องเชื่อฟังเมียด้วยนะคะ” แพรวพิชชายกมือขึ้นลูบแก้มสากของสามีเล่น “ทุกวันนี้พี่ก็เชื่อฟังเมียทุกเรื่องอยู่แล้ว” เสียงทุ้มกระซิบชิดเรียวปากบาง “เชื่อฟังอยู่คนเดียว” แกล้งงับแล้วดูดดึงกลีบปากล่าง จากนั้นค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปกลืนกินความหวาน นานกว่าจะผละออกจากกัน “พรุ่งนี้แพรวขอพาเจคออกไปเที่ยวนะคะ” ไม่เชิงขออนุญาต เรียกว่าแจ้งให้ทราบ “แค่ในกรุงเทพนี่แหละค่ะ ไม่ได้จะไปไหนไกล เพราะรู้อยู่แล้วว่าสามีต้องไม่อนุญาต” แพรวพิชชาอมยิ้มประโยคสุดท้าย หลับตาพริ้มพิงอกกว้างของร่างสูงที่
ราฟาเอลอุ้มลูกสาวเดินพลางชวนคุยไปด้วย ตอนนี้อาจจะยังไม่เข้าใจแต่เขาเชื่อว่าลูกจะซึมซับได้ เขาสื่อสารกับเอลลี่ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพราะต้องการให้แข็งแรงทั้งสองภาษา หลังจากทานอาหารเย็นด้วยกันทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น มีโรมกับแบรทตามมาสมทบด้วย บทสนทนาส่วนใหญ่เวลานี้จึงผูกไว้ที่เจคอป และสองคู่หูดูโอ้ แบรท โรมที่จ้อไม่หยุดตั้งแต่มาถึง ด้านราฟาเอลกับแพรวพิชชาก็ให้ความสนใจลูกสาวมากกว่าจะร่วมวงคุย มีบ้างที่จะกล่าวเสริมสักสองประโยค “คุณแบรทกับคุณโรมดูสนิทกันมากเลยนะครับ ไม่ทราบว่าทั้งสองคนมีคนรู้ใจกันหรือยังครับ” เจคอปถามพลางจิ้มผลไม้ที่สาวใช้เพิ่งยกมาเสิร์ฟเข้าปาก โรมโบกมือ “ผมสองคนยังโสดสนิทครับคุณเจค ไม่มีเวลาไปจีบสาวที่ไหนหรอกครับ” “โสดแบบไม่ธรรมดาด้วยนะครับ โส๊ดโสด สาวๆ นี่ไม่แลพวกเราเลยล่ะครับ แล้วคุณเจคล่ะครับ แต่ผมว่าหน้าตาหล่อๆ เรียกสาวแบบนี้คงไม่โสดเหมือนพวกพวกผมหรอกใช่ไหมครับ” แบรทยิ้มขณะที่เจคขยิบตาท่าทางขี้เล่น “พี่ว่าไอ้สองตัวนี้ไม่ใครก็ใครที่จะโดนงาบ” ราฟาเอลกระซิบข้างหูเมียเสียงเบา “คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ พี่ราล์ฟน่ะพูดอะไรก็ไม่รู้” เท่าที่ได้ยินก็คุย