แพรวพิชชาลุกขึ้นจากที่นอนแสนสุข เมื่อคืนเธอนอนหลับสบายมากไม่มีสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางคัน พี่ชายเธอออกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะหลับลึกจริงๆ ลุกขึ้นจากที่นอนได้ก็ยืนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าออกจากร่างกาย แล้วสาวเท้าเดินไปที่หน้าต่างบานหรูเปิดผ้าม่านรับแสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้า สายตากลมโตมองดูดอกไม้แสนสวยอย่างชื่นมื่น ต้องขอบคุณพี่ชายสุดที่รักที่ให้คนมาจัดแปลงดอกไม้ตรงกับหน้าต่างห้องนอนของเธอ
“สดชื่นจัง” แขนเรียวเสลากางออก แหงนหน้าขึ้นสูง มุมปากยกยิ้มกว้าง บ่งบอกว่าเจ้าตัวมีความสุขมากแค่ไหนในเช้าวันนี้
ชีวิตของเธอในตอนนี้มีความสุขมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากราฟาเอลมันมากมายเหลือเกิน เขาไม่ใช่แค่ผู้มีพระคุณที่รับอุปการะเธอเอาไว้ แต่เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ ใครที่ไม่เคยได้สัมผัสกับตัวตนที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้จะคิดว่าเขาโอหัง สำหรับเธอขอเถียงหัวชนฝาหากมีใครว่าให้ได้ยิน
มือใหญ่ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม สายตาคมก็ไม่ได้ละออกจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจ ฉบับภาษาอังกฤษที่อ่านอยู่แม้แต่น้อย ไม่ทันสังเกตว่ามีใครเข้ามา แพรวพิชชาเดินอ้อมไปทางด้านหลังของราฟาเอลด้วยท่าทางซุกซน แขนเรียวคว้ากอดที่ลำคอแกร่ง หอมแก้มสากซ้ายขวาฟอดใหญ่ แล้วก็ยิ้มอย่างชอบใจที่สามารถทำให้คนโดนขโมยหอมเลิกสนใจหนังสือพิมพ์
“เด็กซนแกล้งพี่อีกแล้ว” ราฟาเอลเปรยเบาๆ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ราล์ฟ ไม่ได้แกล้งแค่อยากเล่นด้วย ชีวิตคนเราต้องมีสีสันกันบ้างค่ะ” แพรวพิชชายิ้มตาหยี ยังไม่ยอมคลายวงแขนออกจากคอแกร่งของพี่ชาย ใบหน้าเล็กซบที่ไหล่หนา มองนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องเธออย่างไม่วางตา
“พี่ไม่เถียงเราหรอกจ้ะ ว่าแต่เมื่อคืนนี้หลับสบายดีไหมน้องแพรว มื้อเย็นเลยไม่ได้กินเลย” ราฟาเอลยังไม่ละสายตาออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มที่เกยคางไว้บนบ่าของเขา
“สบายมากเลยค่ะ นอนแบบไม่รู้สึกหิวสักนิด แถมตื่นมายังได้เห็นดอกไม้สวยๆ ที่แข่งกันออกดอกเต็มไปหมดด้วย ขอบคุณนะคะสุดหล่อของแพรว” เสียงใสๆ พูดอยู่ข้างหูราฟาเอลโดยที่เขาไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิด
“พี่ดีใจที่น้องแพรวชอบ”
“แพรวชอบทุกอย่างที่พี่ราล์ฟให้ค่ะ”
“พี่น้องคู่นี้ทำไมยังไม่ทานข้าวกันอีกคะ” ป้านุ่มเดินถือเหยือกน้ำคั้นสดเข้ามาในห้องอาหาร มองดูสองพี่น้องที่อ้อนกันอยู่อย่างน่ารักน่าเอ็นดู พอคุณหนูแพรวกลับมาอยู่บ้านคุณราล์ฟของนางก็มีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย
“ก็รอน้ำส้มคั้นสดๆ ของป้านุ่มอยู่ไงคะแพรวเลยยังทานไม่ได้ ต้องจิบให้คล่องคอก่อน” แพรวพิชชาปล่อยแขนออกจากราฟาเอล แล้วเดินมากอดร่างท้วมของมีบ้านเก่าแก่อย่างอ้อนๆ
“ไม่ต้องมาอ้อนป้าตอนนี้เลยค่ะ นั่งลงแล้วก็ทานข้าวเช้าได้แล้วค่ะคุณหนู เดี๋ยวก็ถูกคุณราล์ฟท่านดุเอาหรอกค่ะ” ป้านุ่มตีแขนเนียนเบาๆ ดันคนช่างอ้อนให้นั่งลงบนเก้าอี้
“รับทราบแล้วค่ะป้านุ่มคนสวย พี่ราล์ฟไม่กล้าดุแพรวมากหรอกค่ะ” แพรวพิชชายิ้มหวานให้ป้านุ่มและพี่ชาย
“ทานข้าวให้หมดนะคะคุณหนู มื้อเย็นเมื่อวานก็ไม่ยอมลงมาทาน ต้องชดเชยมื้อเช้าให้เยอะๆ” ป้านุ่มย้ำก่อนจะเดินออกไปเพื่อให้เจ้านายได้ทานอาหารตามลำพัง
“ค่า” แพรวพิชชารับคำเสียงใส มือบางตักข้าวต้มปูหอมกรุ่นขึ้นมาเป่าเบาๆ พอเย็นลงจึงเอาเข้าปาก แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีสายตาของราฟาเอลจับจ้องอยู่ตลอดเวลา จนคนถูกมองรู้สึกได้ “ทำไมพี่ราล์ฟไม่ทานล่ะคะ มองแพรวทานแบบนี้มันจะอิ่มได้ยังไง” คิ้วเรียวพันกันยุ่งอย่างไม่ชอบใจ ที่เห็นพี่ชายไม่ทานอะไรเลยนอกจากกาแฟ
“พี่ไม่ค่อยทานอาหารเช้าน้องแพรวก็รู้” ราฟาเอลพูดเสียงเรียบ จะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มอีก แต่ถูกมือบางยึดเอาไว้สียก่อน
“ต่อไปนี้พี่ราล์ฟต้องทานข้าวเช้าทุกวันค่ะ ลดกาแฟลงตั้งแต่วันนี้เลยด้วย ข้าวเช้ามันสำคัญมากนะคะ ต่อไปนี้แพรวจะบังคับให้พี่ราล์ฟทานข้าวทุกวัน” แพรวพิชชาพูดเสียงเข้มเลียนแบบคำพูดพี่ชาย ตักข้าวต้มในชามตัวเองมาจ่อที่ปากหยักบางของราฟาเอล
“อ้าปากค่ะพี่ราล์ฟ” แพรวพิชชาสั่งพี่ชายที่ยังไม่ยอมเปิดปากออก ราฟาเอลส่ายศีรษะสุดท้ายก็ยอมเปิดปากออกแต่โดยดี
“พี่ทานแล้วน้องแพรวก็ทานต่อเถอะ อย่ามัวแต่ป้อนพี่ ตัวยิ่งเล็กๆอยู่” ราฟาเอลกลืนข้าวลงคอ มองคนข้างๆ ที่ยังไม่ยอมตักข้าวเข้าปาก ด้วยสายตาเป็นคำถาม
“ทานแค่คำเดียวไม่ได้ค่ะต้องทานให้หมดชาม มาค่ะเดี๋ยวแพรวจะเป็นคนป้อนพี่ราล์ฟเอง” แพรวพิชชายกชามข้าวของราฟาเอลมาไว้ข้างๆ ชามของเธอ ตักข้าวต้มป้อนพี่ชายสลับกับตัวเอง โดยที่คนหน้านิ่งไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น และไม่นานข้าวต้มแสนอร่อยก็เกลี้ยงชาม
“พี่ไม่เคยทานข้าวเช้าได้มากขนาดนี้มานานมากแล้ว” ราฟาเอลพูดหลังจากดื่มน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
“ต่อไปนี้ต้องทานทุกวันนะคะ เพราะแพรวจะไม่ยอมให้พี่ราล์ฟดื่มกาแฟแทนข้าวอีกเด็ดขาด มันไม่ดีต่อสุขภาพ” แพรวพิชชาพูดเสียงจริงจัง
“พี่คงต้องยอมเราอีกแล้วใช่ไหม” ราฟาเอลโยกศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเอ็นดู มุมปากยกยิ้มอย่างมีความสุข
“ใช่ค่ะพี่ราล์ฟต้องยอมแพรว เพราะแพรวรักและหวังดีกับพี่ราล์ฟจริงๆ” แพรวพิชชาขยิบตา
“ว่างกันมากใช่ไหม ถึงมีเวลามานั่งโพสต์อะไรบ้าๆ ลงอินเทอร์เน็ตช่อผกา คุณป้าขจี” เสียงเข้มห้วนถามผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า อย่างมีอารมณ์กรุ่นโกรธ“พี่ราล์ฟอย่ามาใส่ร้ายผกากับคุณแม่นะคะ ของแบบนี้ใครจะโพสต์ใครจะพิมพ์ก็ได้ คนร้อยพ่อพันแม่มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละค่ะ อยู่ๆก็มากล่าวหากันลอยๆ ไม่คิดว่าเกินไปหน่อยเหรอคะ” ช่อผกายกแขนขึ้นกอดอก แล้วเบ้ปาก“ไหนล่ะหลักฐานที่ว่าป้ากับผกาเป็นคนทำ มีหรือแค่ปรักปรำตาราล์ฟ และที่ให้คนไปพาตัวป้ากับน้องมาจากเชียงใหม่กระทันหัน เราสองคนยังไม่ว่าอะไรเธอเลย ฉันก็นึกว่าจะมาขอโทษขอโพย เรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้ แต่ที่ไหนได้ให้มาเพราะคิดว่าเราสองคนแม่ลูกเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีเมียตัวเอง เสียแรงที่รักเหมือนลูกในไส้” คุณขจีพูดจบก็เชิดหน้าบึ้งๆ ของตัวเองขึ้น“แบรท โรม เอาหลักฐานให้เขาดูสิ จะได้เลิกพูดว่าฉันกล่าวหาเสียที” ราฟาเอลสั่งเสียงดัง“นี่ครับคุณผู้หญิง สมัยนี้เขาตรวจสอบคนโพสต์สิ่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตได้ครับ มันไม่ได้เป็นความลับอะไรหากจะดูชื่อคนโพสต์หมิ่นประมาท หรือใส่ร้ายเรื่องที่ไม่จริง” โรมวางเอกสารพร้อมกับชี้แจงเสียงดังฟังชัด“ไม่จริง! แกสองคนมันมั่วไอ
ราฟาเอลเดินมาหยุดยืนข้างเตียงนอน สายตาอ่อนโยนจับจ้องอยู่ที่ร่างของเมียขี้เซา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงขอบเตียง จากนั้นก็เริ่มลากฝ่ามือลูบไล้กายเปลือยเปล่าที่อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนา เขาต้องการจะปลุกมากกว่าการลวนลามจริงๆ จังๆ ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเตรียมพร้อมจะออกไปทำงานแล้ว หากแกล้งมากเกินไปอาจจะต้องถอดเสื้อผ้าออก แล้วลงไปคลุกเคล้าคนหลับแน่ๆ ฝ่ายแพรวพิชชาแม้จะโดนลูบหนักมือก็ยังไม่ยอมตื่นจากนิทรา เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากตัวต้นเหตุ เพราะกว่าจะยอมให้เมียพักผ่อนได้ก็ดึกโข กว่าจะนอนก็เข้าวันใหม่แทบทุกวัน“น้องแพรวจ๋า” เสียงทุ้มกระซิบเรียกชิดใบหูขาว พลางสูดดมความหอมของกลุ่มผมนุ่มเป้าปอด“ขา” แพรวพิชชาตอบรับเสียงแผ่ว งัวเงียเต็มที่ แล้วพลิกตัวนอนตะแคงข้างหนีการรุกราน“ตื่นมาส่งพี่ไปทำงานก่อนเร็วคนดี พี่ไม่อยากออกไปทั้งที่น้องแพรวหลับ” ราฟาเอลช้อนร่างอ่อนเปลี้ยขึ้นจากที่นอนให้มานั่งบนตักตนเอง แพรวพิชชานั้นก็ไม่ยอมตื่นง่ายๆ นั่งพิงแผงอกกว้าง แล้วหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น“พี่ราล์ฟจะไปทำงานแล้วเหรอคะ ทำไมรีบไปจังเลย” คนขี้เซาเบียดกายเข้าหา กอดรัดลำตัวหนาเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองใบหน้าหล่อเ
“แกว่าฉันพิมพ์แบบนี้มันดูดียังวะ ต้องเพิ่มเติมอะไรอีกรึเปล่า” โรมถามเพื่อนที่กำลังยุ่งกับการทำคอม“ไหนเอามาอ่าน” แบรทกระดิกนิ้วขอดู สายตาก็ไม่ได้ละออกจากโน้ตบุ๊คส่วนตัวแม้แต่น้อย“อ่ะ แกช่วยดูหน่อย” โรมส่งโทรศัพท์ให้กับแบรทได้ช่วยวิเคราะห์ในสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ลงไป“ยินดีกับเจ้านายสุดที่รักด้วยครับ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ข่าวเม้าท์ใส่สีตีไข่ด้วยความอิจฉาของสาวนางหนึ่งไม่เป็นความจริงสักนิด ตื่นเถอะครับตื่น เห็นชัดไหมใบทะเบียนสมรส หลักฐานชิ้นนี้ยืนยันว่าคุณหนูของเราไม่ได้เป็นเมียเก็บเจ้านายแต่อย่างใด ทั้งสองคนรักกันมากจนคนรอบข้างแทบจะสำลักความหวานตาย ที่ว่าเมียเก็บน่ะ ถ้าจะเก็บเพราะความหวงเมียอันนี้เรื่องจริงไม่อิงนิยาย มีเมียสวยก็ต้องหวงอยากเก็บไว้ดูคนเดียว รักมากหวงมากเข้าใจป่ะครับ อ๊ะๆ แถมให้อีกนิด เพราะกลัวจะมีคนบอกว่าจดทะเบียนแล้วทำไมไม่แต่งงาน รอฤกษ์งามยามดีสิครับคุณไม่น่าถาม”“โอเคแล้ว จะว่าไปแกมั่นใจเรื่องเพศของตัวเองนะ ไม่สับสนอะไรใช่ไหม” แบรทส่งโทรศัพท์คืนแล้วถามโรมอย่างจริงจัง“แกหมายความว่าไงวะถึงถามฉันแบบนั้น อธิบายให้กระจ่างหน่อยไม่เข้าใจ”“ก็คำพูดคำจาที่แกใช้พิมพ์เหมือนกับผู
“พี่ราล์ฟขาเราควรจะอยู่เฉยจริงๆ เหรอคะ ใครก็ไม่รู้เอาเรื่องของแพรวไปโพสต์ในทางเสียๆ หายๆ ถึงแพรวจะไม่ได้เป็นคนดังเหมือนพวกดารา แต่เรื่องแบบนี้คนมักจะชอบนำไปแชร์ต่อ และวิจารณ์กันในทางเสียหายโดยที่เขาไม่ทราบความจริงนะคะ พี่ราล์ฟอย่าเอาแต่ยิ้มได้ไหมคะ แพรวจริงจังนะเนี่ย” ใบหน้าจิ้มลิ้มยุ่งลงเมื่อพูดและคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หากช้องนางไม่โทรมาเล่าให้ฟังเธอก็คงจะยังไม่รู้ว่ามีผู้ไม่หวังดีโจมตี จากที่ว่าจะไม่ติดใจอะไร แต่ตอนนี้เธอขอกลับคำพูดละกัน“แล้วน้องแพรวอยากจะให้พี่ทำอะไรกับเขาคนนั้นล่ะ คิดไว้ในใจหรือยัง” ราฟาเอลถามอย่างใจเย็น“เท่าที่คิดไว้ก็แค่อยากจะโชว์ทะเบียนสมรสกับถ่ายรูปหวานๆ ของเรา ประกาศให้รู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน ไม่ได้เป็นเมียเก็บอะไรสักหน่อย พี่ราล์ฟอาจจะคิดว่าความคิดของแพรวเด็กๆ ซึ่งแพรวก็ไม่เถียงหรอกค่ะ เพราะตอนนี้คิดได้แค่นี้”“พี่ไม่เห็นว่าความคิดของเมียพี่จะเด็กเลย พี่พร้อมจะถ่ายรูปแล้ว น้องแพรวอยากได้หวานมากแค่ไหนบัญชามาได้เลย จะกอดจะจูบจะหอมได้หมด” ราฟาเอลยันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผมยุ่งนิดๆ อย่างเป็นธรรมชาติเพราะไม่ได้จัดทรง“พี่ราล์ฟหล่อจัง แพรวชักไม่อยากให้
แพรวพิชชาก้มลงมองแผ่นกระดาษในมือนิ่ง รอยยิ้มหวานแต่งแต้มอยู่ที่มุมปาก ความตื่นเต้นยังไม่จางหายไปไหน ก่อนหน้านั้นเธอยังเป็นนางสาวแพรวพิชชาอยู่เลย เพียงแค่ไม่กี่นาทีคำนำหน้าชื่อก็กลายเป็นนาง เสี้ยววินาทีที่จรดปลายปากกามันทั้งตื่นเต้นและอิ่มเอมใจไปพร้อมๆ กัน แม้จะรู้ตัวว่าต้องมีวันนี้เพราะคนข้างตัวคงไม่มีทางยอมให้เธอผลัดไปได้นาน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเมื่อเช้าที่พี่ราล์ฟปลุกให้เธอตื่น อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็รีบพาออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกว่าจะไปที่ใด จนกระทั่งมาถึงเธอจึงได้รับคำตอบ“เลิกมองได้แล้วมั้งนางแพรวพิชชา บารานอฟ จ้องไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกจ้ะ น้องแพรวต้องใช้นามสกุลนี้ทั้งชีวิต ใช้แล้วใช้เลยไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนเข้าใจไหมครับ” ราฟาเอลพูดอย่างอารมณ์ดี เพราะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายหมาดๆ ไม่ยอมละสายตาจากใบทะเบียนสมรสเลย“เข้าใจค่ะ แพรวมองเพื่อย้ำกับตัวเองว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันค่ะ พี่ราล์ฟเล่นพามาไม่บอกไม่กล่าวก่อนเลย พอมาถึงก็บอกเราถึงเวลาที่จะจดทะเบียนกันได้แล้ว ถามจริงคิดมาก่อนไหมคะเรื่องในวันนี้น่ะ” แพรวพิชชาเอาใบสำคัญใส่ซองเอกสาร เสียบไว้ในกระเป๋าถือที่วางไว้ข้างตัว แล้วเอียงต
“คุณราล์ฟนี่ตามใจเมียจังเลยนะคะ น่ารักจัง” แต่คนถูกชมก็ไม่ได้ยิ้มดีใจ ทำหน้านิ่งเหมือนไม่รับรู้“ไปชมมันทำไมดา ไอ้นี่มันโหดจะตาย ดีแค่ไหนแล้วที่มันเกรงใจเมีย แต่กับคนอื่นมันไม่สนใครหรอกนะจะบอกให้ มันไม่น่ารักเท่าผมหรอก” ไรอันขยิบตาใส่สาว“อยากมีคนดูแลเอาใจใส่แบบนี้บ้างจัง มิกิไม่เห็นห่วงผมแบบนี้เลย” ไรอันอ้อนสาวข้างตัว“คุณไม่ต้องเลิกขาดหรอกค่ะไรอัน ชีวิตคนเราต้องมีสีสันสิคะ คุณมีสังคม เรื่องดื่มมันปกติค่ะ” มิกิลูบแก้มไรอัน“จริงของคุณ ผมคงทำตามไอ้ราล์ฟมันไม่ได้” ตอเรสเงยหน้าขึ้นแล้วยักไหล่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่หากมีครอบครัวหรือเจอคนที่พร้อมจะหยุดทุกอย่าง เขาก็อาจจะเพลาๆ ของพวกนี้ลงได้“คุณแพรวไม่คิดว่าตัวเองทำเกินไปเหรอคะ” มิกิปรายตามองหน้าแพรวพิชชานิดๆ ตอนถาม“ทำเกินไปไหม แพรวคิดว่าไม่นะคะคุณมิกิ เพราะถ้าเรารักใคร เราย่อมห่วงใยเขาในทุกๆ เรื่อง เราทำเรื่องดีทำไมจะต้องคิดอะไรให้มากมายด้วย ถ้าคุณมิกิรักใครจริงๆ ก็คงจะเข้าใจ แต่ถ้ายังไม่เคยรักใครจริงๆ จังๆ ก็จะไม่มีวันรู้หรอกค่ะ ถึงได้บอกให้เขาใช้ชีวิตแบบเดิมต่อไป” แพรวพิชชาตอบนิ่มๆ หน้าตายิ้มแย้ม มือก็ลูบศีรษะสามีเล่น ทำเอาคนถามถึงกับสะอึ
แพรวพิชชาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วเข้ามาภายในห้องนอน ความเหนื่อย เมื่อยล้า ที่เกิดจากกิจกรรมฉันท์สามีภรรยาก่อนหน้าเริ่มหายไป หลังจากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอหลายชั่วโมง ก้มลงมองที่หน้าอกก็เห็นว่าราฟาเอลยังคงหลับสนิทอยู่ คิ้วเรียวขมวดพันกันจนยุ่ง ปกติพี่ราล์ฟของเธอเป็นคนมีประสาทการได้ยินดีจะตาย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้ยิน คิดดังนั้นก็ใช้มือดันศีรษะที่ซุกซบกับอกของเธอออก เพื่อจะได้เดินไปดูว่าใครกันที่มาเล่นสนุก แต่ก็ไปไม่ได้เพราะสามีสุดที่รักไม่ยอม กอดก่ายเอาไว้ทั้งตัว แถมยังฝังใบหน้าลงมากลางอกแน่นอีก“พี่ราล์ฟ ปล่อยแพรวก่อนค่ะ อย่ารัดแน่นสิคะ แพรวจะลุกจากเตียง อื้อ” ฝ่ามือนุ่มฟาดที่ท่อนแขนกำยำ เมื่อไม่มีทีท่าว่าจะได้ลุกขึ้นตามที่ต้องการ“จะลุกไปไหน พี่ยังไม่อยากตื่นเลย นอนกอดกันต่อเถอะ” น้ำเสียงของราฟาเอลงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดสนิท งึมงำกับอกอวบที่ใช้หนุนนอนแทนหมอน“ยังไม่อยากตื่นก็นอนต่อสิคะ แพรวแค่จะเดินไปดูตรงหน้าต่าง ไม่ได้จะไปไหนไกลสักหน่อย”“ไม่ต้องสนใจหรอกคงเป็นเสียงสาวๆ ของไอ้พวกนั้น มันคงพามาเล่นน้ำตรงลำธาร”“รู้ดีจัง พี่ราล์ฟล่ะคะ เคยพาใครมา
“แพรวรักพี่ราล์ฟนะคะ” เสียงหวานติดจะเขินอายพูดเบาๆ“รักแบบที่พี่ราล์ฟรักแพรว” แพรวพิชชากระซิบ ช้อนสายตามองคนตรงหน้าแล้วยิ้มกว้าง“ในที่สุดพี่ก็ได้ฟังคำบอกรักที่ไม่ใช่ในฐานะพี่ชายเสียที หลังจากรอมานาน”ราฟาเอลยิ้มเต็มใบหน้า ปากร้อนก็จูบไปทั่วดวงหน้าสวยแทบทุกตารางนิ้ว อกหนั่นแน่นสั่นกระเพื่อมเพราะเขาหัวเราะไปด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเขา ทำให้แพรวพิชชาเคลิ้มไปด้วย เพราะไม่บ่อยนักที่พี่ราล์ฟของเธอจะเป็นแบบนี้“พี่ราล์ฟยิ้มและหัวเราะแบบนี้บ่อยๆ นะคะ แพรวชอบรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของพี่ราล์ฟ”“พี่จะทำตามคำขอนั้นนะ แต่ต้องหลังจากที่เราช่วยกันทำลูก” การบอกรักผ่านทางร่างกายในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากแพรวพิชชาเป็นอย่างดี มีทั้งอ่อนหวาน นุ่มนวล ไปจนถึงร้อนแรงจนร่างกายแทบมอดไหม้ราฟาเอลขับเคลื่อนสะโพกเข้าใส่ร่างกายของเมียไม่ยั้ง แม้พื้นที่จะคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่โหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ ได้ แพรวพิชชาก็ตอบสนองความต้องการของสามีได้เป็นอย่างดี เขาชักจูงให้ไปทางไหน ก็พร้อมใจที่จะทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน เร่าร้อนพอๆกัน“อื้ม ดีจังค่ะ” แพรวพิชชาในตอนนี้อยู่ใน
เมื่อตัวขัดขวางไม่มีแล้ว ราฟาเอลก็รีบอุ้มเมียเข้าไปในบ้านทันที ปิดประตูลงกลอนไม่ต้อนรับใคร เสื้อผ้าเสื้อผ่อนหลุดลุ่ยออกจากร่างกาย ไม่รอให้เสียเวลาแม้แต่นิดเดียว“ว้าย! พี่ราล์ฟอย่าใจร้อนสิคะ ทำอย่างกับไม่เคยไปได้” แพรวพิชชาหวีดร้องเมื่อเสื้อชั้นในถูกกระชากออก เหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีขาวที่ยังคงติดกายอยู่“น้องแพรวให้พี่อดกลั้นมาหลายวันแล้วนะ ถึงเวลาที่พี่จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้ว” ราฟเอลแตะริมฝีปากที่ไหล่เปล่าเปลือย พลางดันหลังบางให้เดินไปที่หน้าโซฟากลางบ้านกายบางถูกจับหมุนให้หันมาเผชิญหน้ากับราฟาเอล เพื่อรับจุมพิตอันดูดดื่ม ท่อนแขนเรียวยกขึ้นเกาะกอดเอวสอบโดยอัตโนมัติ ส่งเสียงครางอืออาอยู่ในลำคอ ต้อนรับความอุ่นซ่านของเรียวลิ้นหนาด้วยความเต็มใจ“อือ” ใบหน้างามนิ่วลง เมื่อถูกบีบบี้ยอดอก ปลายเล็บจิกลงบนสะโพกหนาอย่างลืมตัวปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้งสองข้างทำหน้าที่ให้ความสุข ดึงเคล้นกับยอดทรวงสีสวย ไหล่บางห่อลงเรื่อยๆเมื่อโดนจู่โจมหนักมือขึ้น หว่างคิ้วก็ย่นเข้าหากัน ปากก็แลกจูบกันไม่มีถอย นานเข้าราฟาเอลก็ไล่ปากลงมาตามแนวคาง ลำคอระหงหอมกรุ่น ไหปลาร้านูน กลางอกอวบ จากนั้นก็งับเข้าที่ยอดสั่นร