ห้างหรูใจกลางเมือง - ร้านอาหารไทย
ร้านอาหารไทยที่มีรสชาติอร่อยถูกปากทุกเพศทุกวัย มีเมนูให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารคาวหวาน ร่างสูงโปร่งเดินนำเลขาสาวของตัวเองเข้ามานั่งในร้าน โดยมีสายตาของผู้คนในร้าน หลายคู่มองจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สำหรับนาธานแล้วชายหนุ่มคุ้นชิน กับการตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอยู่แล้ว เขาเลยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่สำหรับม่านฟ้าที่ถูกลากมาด้วยนั้น พอต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ หญิงสาวก็ทำตัวแทบไม่ถูก และความรู้สึกประหม่าที่มีอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ร่างบางเดินก้มหน้าตามหลังคนตัวโตไปติด ๆ ม่านฟ้าไม่ชอบการตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนแบบนี้เลยจริง ๆ
“เอ้านี้…กินเยอะ ๆ ถ้าคุณอยากกินอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมตักอาหารใส่จานให้หญิงสาว ที่นั่งเกร็งอยู่ตรงหน้าอย่างเอาใจ บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกของเขาเลย ที่มานั่งตักอาหารให้คนอื่นกินแบบนี้
นาธานรู้ดีว่าม่านฟ้าคงจะประหม่ามากแน่ ๆ ที่ต้องมานั่งกินอาหารสองคนกับตัวเองแบบนี้ แต่ชายหนุ่มอยากลองออกมากินอาหารกับเธอสักครั้งหนึ่งนี่นา สายตาจ้องมองดูคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอย่างนึกตลก นี่เขามันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง เธอถึงเอาแต่นั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จาด้วยแบบนี้
“ขอบคุณค่ะ…แล้วไม่รอลูกค้าก่อนเหรอคะ” ม่านฟ้าพยักหน้ารับ อย่างเก้ ๆ กัง ๆ
หญิงสาวไม่คุ้นชินกับเรื่องแบบนี้เลยจริง ๆ แถมคนที่ตักอาหารให้ยังเป็นถึงประธานหนุ่ม ที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันหาอีกด้วย ถ้าเรื่องในวันนี้รู้ถึงหูเพื่อน ๆ ในแผนกเก่าเธอละก็ คงกรี๊ดกร๊าดจนแผนกแตกกันแน่ ๆ
ม่านฟ้าถามกลับไปด้วยความสงสัย ไหนชายหนุ่มบอกว่าจะมาพบลูกค้าอย่างไงละ แล้วนี่เขาคิดจะกินก่อนลูกค้ามาเลยอย่างงั้นเหรอ เธอไม่เข้าใจการกระทำของเจ้านายคนนี้เลยจริง ๆ
“ลูกค้าอะไร?” นาธานเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว ถามหญิงสาวกลับหน้าตายราวกับว่าตัวเองไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้มาก่อน
“ก็ที่คุณพูดตอนอยู่ที่บริษัทไงคะ” ม่านฟ้าแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ แล้วพูดทวนความจำของชายหนุ่มกลับไปอีกครั้ง ก็เขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นา ว่าจะออกมาพบลูกค้า แล้วตอนนี้กลับมาถามเธอกลับซะอย่างงั้น
“อ๋อ เรื่องนั้นผมโกหกน่ะ” นาธานพูดตอบเลขาสาวกลับอย่างหน้าตาเฉย ก็ตอนนั้นเขาแค่หาข้ออ้างลากม่านฟ้าให้ออกมาด้วยก็เท่านั้น เพราะถ้าไม่ใช้วิธีนี้หญิงสาวก็คงจะไม่ยอมออกมาด้วยอย่างแน่นอน แล้วอาจจะได้อีกคนออกมาแทนด้วยก็ได้
“โกหก!” ม่านฟ้าพูดทวนขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว ใบหน้าสวยชักสีหน้าไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกชายหนุ่มตรงหน้า หลอกลวงให้ออกมาด้วยอีกแล้ว
เขาโกหกเธออีกแล้วอย่างงั้นเหรอ นี่มันรอบที่สามแล้วนะ ม่านฟ้าไม่เข้าใจเจ้านายตัวเองจริง ๆ ว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่ เพราะครั้งก่อน ๆ ก็หลอกว่าออกมาพบลูกค้า พอมาถึงเขาก็พาเธอเดินเที่ยวเล่นไปทั่วห้าง ซื้อของนู่นนี่ให้เธอถือเต็มมือไปหมด
“ผมหิวเลยอยากออกมาหาอะไรกินก็เท่านั้น”
นาธานพูดขึ้นเสียงเรียบไม่สนใจเสียงตกใจของหญิงสาวตรงหน้า ก็ถ้าเขาไม่ยกเอาเรื่องงานมาบังหน้ามีเหรอ ที่แม่เลขาคนนี้จะยอมมาด้วยไหม อีกอย่างถ้าไม่ชิงตัดหน้าออกมาก่อนแบบนี้ ก็คงจะต้องถูกแม่โรสคนดีของคุณแม่ ชวนออกมาหาอะไรกินข้างนอกอีกแน่
นาธานอยากลองศึกษานิสัยใจคอของม่านฟ้าให้มากขึ้นกว่านี้ ชายหนุ่มอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีนิสัยอย่างไง ช่วงนี้เขาเลยชอบหาข้ออ้างพาเธอออกมาข้างนอกด้วยประจำ และยิ่งเขาได้ใช้เวลาอยู่กับเธอมากขึ้น นาธานก็รู้สึกถูกใจหญิงสาวมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือท่าทีที่แสดงออกมา ชายหนุ่มก็รู้สึกชอบไปหมด แบบนี้สิถึงคุ้มค่ากับสิ่งที่ทำลงไปหน่อย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ” ปากเล็กพูดบ่นงึมงำออกมาเบา ๆ อย่างไม่พอใจ โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดพวกนั้น เข้าไปในหูของท่านประธานทุกคำ
“พูดว่าอะไรนะ” นาธานที่ยินเสียงบ่นของคุณเลขาสาว ปากหนาก็กระตุกยิ้มออกมาจาง ๆ แล้วแกล้งเอ่ยถามหญิงสาวกลับไปเสียงเรียบ ให้คนขี้บ่นตกใจเล่น
“เปล่า ค่ะ” ใบหน้าสวยรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้ชายหนุ่มกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ เกือบไปแล้วนะยัยม่านฟ้า
“งั้นก็กินเยอะ ๆ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”
“ค่ะ”
นาธานพูดจบก็ก้มหน้ากินอาหารต่อ โดยไม่สนใจม่านฟ้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามตัวเองอีก เพราะถ้ายังชวนคุยไปมากกว่านี้ หญิงสาวอาจตื่นเต้นจนไม่กล้ากินอะไรอีกแน่ ๆ ม่านฟ้าที่ปฏิเสธอะไรไม่ได้ก็เลยต้องจำใจ นั่งกินอาหารกับประธานหนุ่มอย่างเงียบ ๆ โดยมีสายตาของคนทั้งร้านหันมามองเป็นพัก ๆ
บริษัททำเครื่องประดับ
เจมส์ยืนมองดูเลขาสาวที่กำลังนั่งเล่น โทรศัพท์มือถืออยู่ที่โต๊ะอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าหล่อส่ายไปมาด้วยความเหนื่อยหน่าย ผู้หญิงคนนี้เหรอที่คุณหญิงโสมนภาอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ บอกเลยให้ฟรีเจ้านายของเขาก็คงไม่เอาอย่างแน่นอน วัน ๆ เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ สอนงานอะไรไปก็ไม่สนใจ แล้วยังคิดอยากจะมาเป็นเลขาของท่านประธานอีก โชคดีนะที่เจ้านายของเขาไม่ใช่คนโง่ เตรียมวิธีรับมือกับผู้หญิงคนนี้เอาไว้แล้ว ไม่งั้นถ้าเธอได้มาเป็นเลขาจริง ๆ มีหวังเขาได้ปวดหัวกว่าเดิมแน่ ๆ
“คุณโรสทำงานใกล้เสร็จหรือยังครับ งานจะต้องส่งพรุ่งนี้แล้วนะครับ” เจมส์เดินมาหยุดที่โต๊ะของโรส แล้วเอ่ยถามเรื่องงานที่จะต้องส่งออกไป
“โอ๊ย ถ้ารีบมากก็เอาไปทำเองเลยสิ” โรสชักสีหน้าไม่พอใจใส่เจมส์อย่างสุดจะทน อะไร อะไร ก็งาน! งาน! งาน! เธอเบื่อที่จะฟังคำนี้แล้ว
“นี่คุณจะไปไหน ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะครับ” เจมส์คว้าแขนของโรสข้างหนึ่งเอาไว้ เมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเก็บข้าวของใส่กระเป๋า เตรียมตัวจะเดินไปที่ลิฟต์
“ปล่อยมือ! ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง” โรสหันมาตะคอกใส่เจมส์ พร้อมสะบัดแขนที่ถูกจับอยู่ออกอย่างสุดแรง
ในเมื่อนาธานไม่อยู่ที่บริษัทแล้ว เธอจะอยู่ทำไมไปหาเดินช็อปปิ้งเล่นที่ห้างดีกว่า ส่วนเรื่องงานใครรีบก็ทำกันเองไปเลย โรสเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างไม่สนใจ เพราะรู้ดีถึงเธอจะทำตัวแย่แค่ไหน แต่พอครบหนึ่งเดือนอย่างไงนาธานก็ต้องเลือกเธอ ที่เป็นลูกสาวเพื่อนคุณแม่ตัวเองให้ทำงานต่ออยู่แล้ว
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะครบหนึ่งเดือนสักทีนะ” เจมส์ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นชายหนุ่มก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความให้กับเจ้านายตัวเอง ‘เป็นไปตามแผนครับ’