เมื่อมาถึงในร้านอาหารดารินก็จัดการสั่งทุกอย่างที่ตัวเองอยากกินจนเสร็จสรรพ โดยที่เธอถามความต้องการของมาคัสแล้ว แต่ชายหนุ่มกลับบอกว่าแล้วแต่เธอ เธอถามเขาว่าเขาชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรแต่ก็ได้คำตอบกลับมาเพียงว่าเขากินทุกอย่างตามใจเธอแบบนั้น เธอจึงไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวเขาในเชิงลึกเลย ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟเธอก็ชวนเขาคุยสารพัดอย่าง จนมาคัสเองเริ่มอึดอัดและรำคาญ " พี่มาคัสคะ พี่ทำงานอะไรอยู่หรอเห็นคุณป้าบอกว่างานที่พี่ทำค่อนข้างเสี่ยงอันตราย " ดารินเอ่ยถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาทำอาชีพอะไร " ธุรกิจคาสิโนครับ แต่ถูกกฎหมายสานต่อธุรกิจจากที่คุณพ่อของพี่ได้ทำเอาไว้แล้ว แม่ของพี่คงเล่าให้น้องดารินฟังหมดแล้ว แล้วพี่ก็ทำผับ ไม่รู้ว่าดารินจะรังเกียจธุรกิจสีเทาของพี่หรือเปล่า " เขาบอกเธอออกไปตามตรง หากเธอรับไม่ได้เขาจะได้บอกผู้เป็นแม่ให้หาคนใหม่ " ใช่ค่ะ คุณป้าเล่าให้ดารินฟังคร่าวๆแล้ว แต่ดารินไม่รังเกียจหรอกค่ะทุกอาชีพก็มีเกียรติด้วยกันทั้งนั้น แต่ดูพี่มาคัสท่าทางจะเจอกับสาวๆสวยๆมากหน้าหลายตาอยู่ไม่น้อยนะคะ " เธอที่รู้ดีเพราะคู่ขาคนเก่าของเธอก็ทำอาชีพเหมือนกับมาคัส เธอจึงรู้ว่า
แล้วก็มาถึงวันที่มาคัสจะต้องไปรับดารินไปงานประมูลเครื่องเพชรการกุศล เขาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยในชุดสูทสุดหรูพร้อมกับเดินออกมานอกห้องจนทำให้ปลายฝันที่นั่งอยู่บนโซฟาอดจะถามเขาไปไม่ได้ " พี่มาคัสจะไปไหนหรอคะ " หลังจากถามเขาเสร็จแล้วเธอก็ก้มหน้าลง สิ่งที่เธอทำไปคือสิ่งที่เขาห้ามเอาไว้ตลอด ว่าห้ามถามซักไซร้ ห้ามหึง ห้ามหวง เธอจำมันได้ขึ้นใจ ส่วนมาคัสเองที่เห็นเธอถามแบบนั้นเป็นครั้งแรกเขากลับไม่ได้รู้สึกโกรธแต่รู้สึกดีมากกว่าที่อย่างน้อยเธอก็ยังสนใจเขาบ้าง " คืนนี้พี่จะไปงานประมูลเครื่องเพชรน่ะ ไว้พี่จะรีบกลับมา อย่าไปเถลไถลที่ไหนล่ะ " เขาตอบเธอกลับไปโดยไม่ได้บอกว่าจะไปกับใคร แล้วร่างบางเองก็คิดว่าที่เขาไปคงเกี่ยวกับธุรกิจของเขานั่นแหละ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนัก" ค่ะ รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสายเอา "เธอที่เห็นเขามีธุระสำคัญก็บอกให้เขารีบไปด้วยกลัวว่าเขาจะเสียการเสียงาน มาคัสเดินตรงมาที่เธอ พร้อมกับก้มลงมาหอมที่เรือนผมสวยของเธอแล้วก็ออกไปพร้อมกับโดนัลบอดี้การ์ดมือซ้ายของเขา โดยมีซานโต้อยู่ดูแลเธออย่างเช่นทุกวัน มาคัสไปรับดารินมาจนถึงงานประมูลเครื่องเพชร พอลงมาจากรถเหล่าบรรดานักข่
หลังจากที่นักข่าวสอดส่ายสายตากันจนเห็นคนที่ประมูลเครื่องเพชรชุดนั้น ซึ่งประกอบไปด้วยสร้อยคอ กำไลและแหวน คนๆนั้นก็คือมาคัส " ห้าร้อยล้านบาทครั้งที่หนึ่ง ห้าร้อยล้านบาทครั้งที่สอง ห้ารอยล้านบาทครั้งที่สาม ปึ้ง!! " สิ้นสุดเสียงเคาะหยุด เครื่องเพชรชุดนั้นก็ตกเป็นของมาคัสทันที และทุกคนในงานก็คิดเหมือนกันว่าสาวน้อยที่มากับเขาในวันนี้ต้องเป็นคนได้เครื่องเพชรชุดนี้ไปแน่ เครื่องเพชรที่แสนล้ำค่าก็ต้องเหมาะกับบุคคลที่สำคัญที่สุดของมาคัสอย่างเช่นดาริน ซึ่งดารินเองก็ยิ้มแก้มแทบฉีก เธอดีใจที่มาคัสประมูลเครื่องเพชรที่แพงที่สุดในงานนั้น เธอมั่นใจว่าเขาต้องมอบให้เธอแน่ และที่สำคัญเมื่อเขาประมูลไปแบบนั้นมันทำให้เขาดูหล่อเท่ห์มากขึ้นไปอีกสำหรับดาริน " โดนัลจัดการเรื่องเครื่องเพชรชุดนั้นให้ฉันด้วย " มาคัสหันไปสั่งบอดี้การ์ดที่มากับเขาด้วยในวันนี้ ซึ่งโดนัลก็รับคำแต่โดยดีและเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเพื่อไปจัดการกับเพชรชุดนั้น " พี่มาคัสสนใจเรื่องเพชรแบบนี้ด้วยหรอคะดารินไม่ยักรู้ " เธอโยนหินถามทางและหวังลึกๆว่าเขาจะตอบว่าเครื่องเพชรชุดนั้นสำหรับเธอ " ครับ พี่เห็นว่ามันสวยดีและเป็นของหายากเลยประมูลเอามาไว
พอกลับมาถึงคอนโด มาคัสก็รีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าทั้งห้องมืดสนิท เขาจึงเปิดไฟและตรงเข้าไปยังห้องนอนก็เจอปลายฝันที่นอนหลับไปแล้ว เครื่องเพชรที่เขาถือมากะว่าจะมอบให้เธอทันทีที่มาถึง เขาจึงต้องพับเก็บมันไว้ก่อน เขาเก็บมันไว้ในลิ้นชักหัวเตียงพร้อมกับล็อคกุญแจไว้อย่างดี คิดเอาไว้ว่าพรุ่งนี้ค่อยเอาให้เธอก็ยังไม่สาย ร่างสูงหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำใช้เวลาเพียงไม่นานก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่แล้วเดินตรงเข้าไปนอนพร้อมกับรั้งร่างบอบบางของเธอเข้ามากอดไว้แนบอก ทั้งที่ตัวเขามีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่แบบนั้น ปลายฝันเองรู้สึกตัวตั้งแต่ที่เขาเข้ามาแล้วเปิดไฟเธอก็ตื่นขึ้นมา เพราะปกติเธอเป็นคนตื่นง่าย แต่เธอเลือกที่จะไม่ลืมตาขึ้นมาเพราะยังไม่อยากคุยอะไรกับเขาในตอนนี้ เขาคงไม่รู้สินะว่าที่เขาไปวันนี้มันมีถ่ายทอดสดออกทีวีด้วย เขาเลือกที่จะบอกเธอว่าไปงานประมูลเพชร ใช่เขาไม่ได้โกหกแต่เขาแค่บอกไม่หมดว่าเขาไปกับใคร เขารั้งเธอเข้าไปนอนกอดแนบอกเอาไว้ เธอก็ไม่ขัดขืนแล้วก็หลับตาลงอยู่แบบนั้นสักพักเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราจริงๆ เช้านี้ปลายฝ
ร่างสูงกระชากเธอเข้ามาภายในห้องนอนกว้างอีกครั้ง จากนั้นก็เหวี่ยงเธอลงบนเตียงอย่างแรงจนคนตัวเล็กจุกจนตัวงอไปหมด แต่เขาก็ยังไม่สนใจเพราะแรงโมโหที่มีต่อเธอยังมากล้น" โอ้ย! ฝันเจ็บนะ โยนลงมาได้ " ร่างบอบบางมองค้อนให้กับเขาด้วยความไม่พอใจ เอะอะอะไรก็ใช้แต่กำลังข่มขู่เธอ คอยดูนะถ้าเธอทนไม่ไหวขึ้นมาเมื่อไหร่เธอจะหนีเขาให้ดูเลยคอยดู แล้วหนี้สินอะไรเธอก็จะไม่สนใจอีกแล้ว " เจ็บสิดี แค่นี้ไม่ถึงตายหรอกปลายฝัน เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรมาขึ้นเสียงกับฉัน ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะปลายฝัน การที่ฉันทำดีกับเธอไม่ได้หมายความว่าเธอจะพูดไม่ดีกับฉันยังไงก็ได้ เด็กเมื่อวานซืนแบบเธอไม่มีลมหายใจมาหลายคนแล้วนะ " เขาแค่พูดขู่เพื่อให้เธอกลัวเขาเท่านั้น เพราะถ้าหากเขาเอาเธอไม่อยู่แล้วลูกน้องที่ไหนจะมาเคารพเขากัน ความเป็นมาเฟียนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดและตัวเขาเองก็ไม่อยากทำให้เธอเป็นจุดอ่อนของเขาด้วยเช่นกัน " งั้นก็แล้วแต่คุณเลย อยากฆ่านักก็ฆ่าเลยฉันก็เบื่อที่จะอยู่บนโลกนี้แล้วเหมือนกัน ชีวิตของฉันมันก็เฮงซวยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ฉันไม่กลัวหรอกนะกับอีแค่ความตาย อยากฆ่าฉันใช่ไหมเอาปืนมายิงฉันให้ตายไปเลยสิ " เธ
ร่างบอบบางครางอู้อี้ในลำคอ เมื่อคนตัวโตจับยัดแก่นกายลำใหญ่เข้ามาทีเดียวจนเธอตั้งตัวไม่ทัน เขายัดมันเข้ามาจนคับปากไปหมด จะต่อต้านยังไงก็ไม่ได้ เพราะมือก็ถูกมัดติดไว้ที่หัวเตียง ส่วนขาทั้งสองข้างก็โดนเขาทับเอาไว้ " จัดการมันสิปลายฝัน ทำให้มันสงบที บำเรอให้ฉันพอใจ อยากเป็นมากไม่ใช่หรอนางบำเรอ " เขากดศรีษะของเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับกระแทกตัวตนของเขาเข้าไปในโพรงปากของเธอ อย่างไม่ปราณี อ็อก....อ็อก...อ็อก... เสียงท่อนเนื้อที่กระแทกกระโพรงปากหวานของเธอส่งผลให้น้ำลายไหลยืดออกมาตามเรียวปากสวย เขาส่งมือหนายื่นไปปาดน้ำลายออกให้เธอ หลังจากที่เขากระแทกอยู่สักพักเขาก็เริ่มไม่ไหวซะเอง เพราะโพรงปากหวานของเธอมันช่างนุ่มนิ่มเกินต้านทาน " อ๊าาาส์...เสียวหัวชะมัด...ไม่ไหวแล้ว "เขาจับเธอกระแทกอีกไม่กี่นาทีก็ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในโพรงปากหวานของเธอ ร่างบอบบางที่ไม่มีสิทธิ์เลือกเมื่อเขาปล่อยน้ำรักออกมามากมายจนล้นปากของเธอ เธอก็จำเป็นต้องกลืนมันลงไปเพราะเขาไม่ยอมถอดถอนแก่นกายใหญ่โตออกจากเธอเลย เมื่อเขาปลดปล่อยจนสมใจแล้ว ก็ถอดถอนแก่นกายออกมาพร้อมกับก้มลงไปบดจูบเธออีกครั้งเพื่อชิมน้ำรักของเขาจากโพรงปากหวานข
ร่างสูงจับเธอนอนตะแคง จากนั้นก็ยกขาเรียวของเธอขึ้น พร้อมกับสอดใส่แก่นกายใหญ่โตเข้าไปในช่องทางรักของเธอจากข้างหลังจนมิดลำ "โอ้วววว....ซี๊ดดด ไม่ว่าจะเอาเธอกี่ครั้งก็ยังตอดแน่นดีเหมือนเดิมนะปลายฝัน "เขาจับเธอให้หันหน้ามารับจูบของเขา ลิ้นหนาเกี่ยวพันกับลิ้นบางไปมาอยู่แบบนั้นจนน้ำลายไหลยืดออกจากมุมปากของร่างบาง " อื้อ..." พลั่บ พลั่บ พลั่บ พลั่บ พลั่บ เสียงแก่นกายใหญ่ยักษ์ของร่างสูงที่ดังกระทบกับสะโพกของเธอไปมาอยู่แบบนั้นซ้ำๆ เขาจับขาเรียวของเธอยกลอยมาพาดไว้ที่เอวหนา แล้วกระแทกกระทั้นตัวตนใหญ่โตเข้าไปในร่องรักของเธออย่างเอาเป็นเอาตายจนร่างบอบบางขาสั่นไปหมด " อื้อ...บะ...เบาหน่อยค่ะ มันจุก " " จุกหรือเสียวกันแน่ " เมื่อถูกเขาจับได้ร่างบอบบางก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงจนคนตัวโตอดเอ็นดูไม่ได้ต้องก้มลงไปหอมฟัดกับแก้มนุ่มนิ่มของเธออยู่หลายครั้ง เขาซอยถี่จนพอใจแล้ว จากนั้นก็ถอดถอนตัวตนออกมาพร้อมกับเดินไปที่ปลายเตียงแล้วอุ้มเธอขึ้นในท่าลิงอุ้มแตง จนร่างบอบบางรีบยกมือขึ้นมาคล้องคอของเขาเอาไว้เพราะกลัวว่าจะตกลงไป " พี่มาคัส ฝันเสียว มันจะตกค่ะ " เธอเอ่ยบอกกับเขาเพราะท่านี้หากเธอตกลงไปคงเจ็บไปห
มาคัสตื่นมาในตอนเช้าตรู่ของอีกวัน พร้อมกับชำเลืองมองร่างบอบบางของปลายฝันที่เขาโอบกอดเธอไว้แน่นตั้งแต่เมื่อคืน " หลับเป็นแมวน้อยขี้อ้อนเลยนะยัยตัวแสบ "เสียงโทรศัพท์ที่เขาตั้งไว้เป็นระบบสั่นดังขึ้นจากหัวเตียง ทำให้เขาละจากการกอดเธอแล้วออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงด้านนอก เมื่อเห็นรายชื่อคนที่โทรมาก็รู้ได้ทันทีว่าคนปลายสายต้องการอะไร" ครับแม่ "" ตื่นหรือยังลูกมาคัส " " พึ่งตื่นครับ แม่โทรมาแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่าครับ "" แม่ก็จะโทรชวนแกไปกินข้าวกับบ้านของคุณไกรสอนเขาน่ะสิ บ้านนั้นเขาโทรมาชวนบอกว่าอยากรู้จักนิสัยใจคอของแกให้มากกว่านี้จะได้ฝากฝังลูกสาวของเขาไว้กับทางบ้านเราได้ "คุณหญิงฤทัยที่หมายมั่นปั้นมือให้นิดารินเป็นลูกสะใภ้ และเธอก็คิดว่าที่ลูกชายไม่ปฏิเสธคงเป็นเพราะก็ชอบหนูดารินเขาเหมือนกัน ส่วนมาคัสเองได้แต่ถอนหายใจออกมา " วันไหนครับแม่ " " วันนี้ลูกตอนเย็น ลูกมาหาแม่ที่คฤหาสน์ไมโลเวอร์นะ แล้วเราค่อยออกไปพร้อมกัน "" ครับ แค่นี้ใช่ไหมครับเย็นๆเจอกันนะครับแม่ "เขาไม่รอให้ผู้เป็นมารดาตอบแต่เลือกจะตัดสายไปก่อน พร้อมกับทอดมองไปยังบรรยากาศตรงริมระเบียงนี้ พร้อมกับคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
มาคัสหลังจากที่ช่วยเมียสาวถอดชุดเจ้าสาวออกเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ก้มลงจูบที่แผ่นหลังบางของเธออย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา กลิ่นกายที่ไม่ว่าจะสูดดมสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ พร้อมกับเลื้อยไปเรื่อยๆมาจนถึงไหล่บอบบางและมาซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างบ้าคลั่ง กลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอที่เขาสูดดมเมื่อไหร่ก็เป็นนั้นต้องเคลิบเคลิ้ม เขาชอบสูดดมกลิ่นกายของเมียตัวน้อยแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเธอทำให้เขารู้สึกมีพลังและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ใช้น้ำหอมส่วนมากกลิ่นของเธอจะมาจากแป้งเด็กอ่อนๆเท่านั้น ทำให้มาคัสรู้สึกผ่อนคลายและอยากเข้าไกลตลอดเวลา " อื้อ...ไม่อาบน้ำก่อนหรอคะที่รัก เดินในงานทั้งวันฝันตัวเหม็นจะแย่ " เธอเอ่ยทักท้วงเขาเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน วันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งรับแขกแล้วทั้งยังรับมือกับลูกชายตัวน้อยทั้งสองคนที่วิ่งเล่นจนรอบงานอีก " ไม่ต้องอาบหรอกที่รัก คุณตัวหอมจะตาย ผมรอไม่ไหวแล้ว " เขาจับเธอให้หันหน้ามาหาเขาพร้อมกับดันตัวเธอให้ไปชิดกับผนังห้อง ซึ่งตอนนี้เธอมีร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว หลังจากที่เขาถอดชุดแต่งงานของเธอออกเมื่อสักครู่เขาไม่รอช้ารีบถอ
และแล้วก็มาถึงวันที่มาคัสและปลายฝันเข้าสู่ประตูวิวาห์ ที่ทางครอบครัวของมาคัสจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติลูกชายคนโตแห่งไมโลเวอร์ " ยัยฝัน เรายินดีด้วยนะ ในที่สุดก็เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาสักทีเรื่องจบลงแบบ Happy Ending แบบนี้ฉันก็ดีใจกับแกด้วย " มะลิและเพื่อนสาวคนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในห้องแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน " ขอบใจแกมากนะ วันนั้นถ้าไม่มีแกชีวิตฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอบคุณที่รักฉันและหลานๆนะ "" แกเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนแท้ แกสุขฉันก็สุข แกเศร้าฉันก็เศร้า " ปลายฝันลุกขึ้นกอดเพื่อนสาวด้วยความดีใจพลันน้ำตาก็กำลังจะไหลลงมา จนเป็นมะลิเองที่ต้องห้ามเอาไว้ก่อน " หยุดร้องไห้ไปเลยนะแก เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก วันนี้เป็นวันสำคัญของแก แกต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหม ห้ามร้องไห้เด็ดขาดไม่งั้นถ่ายรูปออกมาจะไม่สวยเอานะ " ปลายฝันนั่งยิ้มให้กับเพื่อนพร้อมกับปาดน้ำตาน้อยๆออก " แต่งตัวเสร็จกันหรือยังลูก ใกล้จะได้ฤกษ์แล้วนะ " รำพาที่ขึ้นมาตามลูกสาวเพราะตอนนี้ใกล้จะถึงฤกษ์ดีแล้ว " เสร็จแล้วจ่ะแม่จ๋า " ปลายฝันตอบผู้เป็นแม่ พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง จึงทำให้รำพาแทบตกตะลึง ลูกสาวของเธอสว
หลังจากที่ปลายฝันตัดสินใจยกคาเฟ่ให้กับนิดหน่อยไปแล้วเพราะเธอรักเหมือนกับครอบครัวจะริงๆ ก็ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯพร้อมกับมาคัสและลูกๆ ทีแรกนิดหน่อยไม่อยากรับเพราะเกรงใจ แต่พอมารู้เหตุผลว่าปลายฝันจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรและไม่อยากยกคาเฟ่นี้ให้กับใครนอกจากเธอ เธอจึงต้องรับมันไว้พร้อมกับขอบคุณปลายฝันซ้ำๆที่เอ็นดูเธอขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งสี่คนเดินทางมาถึงคฤหาสน์ไมโลเวอร์เรียบร้อยแล้ว และยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกำลังจะเข้าไปแต่คุณหญิงฤทัยและคุณมอร์แดนเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับหลานๆเสียก่อน ด้วยทนไม่ไหวอยากเห็นหน้าหลานๆเต็มแก่แล้ว ได้ยินข่าวว่าพิมพ์เดียวกับพ่อมาเลย " ตามาคัสนี่คือหลานชายทั้งสองคนของพ่อกับแม่ใช่ไหม ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ล่ะ " คุณหญิงฤทัยที่จะเดินตรงเข้าไปกอดหลานชาย แต่ผู้เป็นหลานชายก็เดินเข้าไปหลบหลังแม่ของตัวเองโดยอัตโนมัติ " เอ่อ...ลูกเรากลัวแม่หรอมาคัส หรือว่าแม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า " " เปล่าหรอกครับคุณแม่ เด็กแฝดอาจจะยังเด็ก คงยังไม่ชินน่ะครับ ให้เวลาแกสักหน่อยนะครับคุณแม่ " " ได้ลูก แม่รอได้ แล้วนี่เมียเราใช่ไหมปลายฝันใช่ไหมลูก " คุณหญิงฤทัยเดินเข้าไปหา
มาร์คัสมองหน้าลูกชายพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ลูกชายของเขาเมื่อโตขึ้นก็ต้องเป็นทายาทสืบทอดที่นี่ต่อจากเขาและน้องชายอยู่แล้ว " ที่นี่ที่ทำงานของพ่อเองครับ แล้วต่อไปก็จะเป็นของลูกทั้งสองคนรู้ไหมครับ " มาคัสบอกกับลูกชายที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกใหม่แห่งนี้ " " จริงหรอครับ ที่ทำงานคุณพ่อทำไมกว้างจัง ไคเลอร์อยากมาที่นี่ทุกวันเลย " " จริงสิลูก พอโตขึ้นลูกก็จะได้มาที่นี่จนเบื่อเลยล่ะ ถึงตอนนี้อย่าบ่นให้พ่อได้ยินก็แล้วกัน " มาคัสให้ลูกชายและภรรยานั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมกับบอกให้เลขาหาขนมมาให้ในระหว่างที่เขาจัดการกับเอกสารตรงหน้า เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็จัดการกับเอกสารตรงหน้าจนจะเสร็จแต่เมื่อหันไปมองลูกน้อยทั้งสองคนก็ไม่ยอมนอนทั้งที่เมื่อวานก็นอนกลางวันกันไป " ฝัน ลูกเราไม่นอนกลางวันหรอ "เขาเงยหน้าขึ้นมาถามภรรยาสาว " นั่นสิคะ ปกติตอนนี้แกต้องง่วงแล้ว " มาคัสลุกขึ้นแล้วเดินมาหาลูกชายทั้งสองคนที่ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว แต่ยังไม่ยอมหลับสักที " ไคเลอร์ คาร์ลอสทำไมไม่ยอมนอนล่ะลูก " " ผมพวกผมกลัวว่าถ้าหลับแล้วคุณพ่อจะหายไป " คำพูดที่แสนไร้เดียงสาของลูกชายทำเอาเขาแทบชะงัก พร้อมกับปลายฝันที่จุกในอ
เช้านี้ปลายฝันตื่นขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่เช้าเธอตื่นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่มีลูกน้อยเธอต้องทำอาหารเช้าไว้ให้กับลูกของเธอ เพราะตื่นขึ้นมาลูกของเธอก็จะหิวเลย ถ้าเธอไม่ทำอาหารไว้ลูกของเธอก็จะบ่นหิวไม่หยุดแล้วงอแงทั้งวัน แต่ละวันกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวให้เด็กน้อยทั้งสองคนก็กินเวลาไปนานพอสมควร เธอเคยไม่ทำอาหารเช้าไว้รอลูกผลลัพธ์คือเจ้าสองแฝดงอแงหนักมากๆ ทั้งอยากให้เธอกอดไม่ไปไหน ทั้งหิว จนเธอไม่รู้ต้องแยกร่างยังไงเลย มาคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอก็รีบลงมาข้างล่าง กวาดสายตามองไปแล้วเจอกับเธอที่อยู่ในครัว กำลังทำอาหารอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกอดเธอจากทางด้านหลัง " อุ๊ย! ทำอะไรของคุณ ฝันตกใจหมด ปล่อยกอดเดี๋ยวนี้นะ " เธอออกคำสั่งกับเขาแล้วร่างสูงก็ปล่อยกอดออกจากเธอแต่โดยดี " ทำอะไรกินครับทำไมหอมจัง " คำพูดนี้ทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เธอทำอาหารให้เขาทานในตอนแรกๆที่ยังอยู่คอนโดด้วยกัน แต่ก็ต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันมาโฟกัสที่อาหารตรงหน้าแทน" ซุปมันฝรั่งค่ะ ไคเลอร์กับคาร์ลอสชอบเมนูนี้ แล้วก็ชอบให้ฝันทำให้กินเป็นประจำ " มาคัสฟังที่เธอพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับจดจำข้อมูลเกี่ยวกับลูกๆของเข
ร่างสูงใช้ความหน้าด้านหน้าทนเข้าแลกและตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว โดยที่เขาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอว่าเขาเดินทางดึกๆดื่นคงอันตรายมากแน่ เพราะเขาไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วเขามาทำงานที่โรงแรมนี้ก็ออกบ่อย ทำไมเขาจะไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้กัน นอกจากเขาจะรู้จักเส้นทางแล้วคนทั้งเมืองยังรู้จักเขาอีกด้วย เพราะครอบครัวเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในแถบนี้ในฐานะนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ " บ้านหลังนี้มีแค่สองห้อง ซึ่งเป็นห้องของฝันแล้วอีกห้องเป็นของไคเลอร์กับคาร์ลอส คืนนี้คุณนอนที่โซฟาได้ไหมคะ แต่ถ้าคุณนอนไม่ได้จะกลับไปนอนที่โรงแรมของคุณก็ได้นะ " ที่เธอรู้ว่าเขามีโรงแรมเพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาบ้านเธอ เขาได้เล่าให้เธอฟังว่าเพราะต้องมาทำงานที่นี่เขาถึงได้เจอกับเธอโดยบังเอิญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอเธอเพราะเธอมาไกลถึงที่นี่ แล้วเขาก็ไม่ได้มีเส้นสายมากพอที่จะตามหาเธอถึงหมู่บ้านแถวชานเมืองแบบนี้ " ผมนอนที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้คุณกับลูก หรือถ้าคุณจะใจดีให้ผมขึ้นไปนอนกับคุณ... " " ไม่ค่ะ " เธอตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด ถ้าให้เขาไปนอนกับเธอ
ปลายฝันที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองภายใต้อ้อมกอดอบอุ่นของเขา ที่เธอเองก็โหยหามันเช่นกัน เขาบอกคิดถึงเธอแต่สิ่งที่เธออยากได้ยินไม่ใช่คำนี้เลยสักนิด เธออยากได้ยินคำพูดที่สามารถยืนยันได้ว่าเธอกับเขาคิดตรงกัน เธอจะไม่ยอมให้อภัยเขาจนกว่าเขาจะพูดคำนั้นออกมา " แต่ฝันไม่อยากกลับไปเป็นนางบำเรอของคุณอีกแล้ว ตอนนี้ฝันมีชีวิตใหม่แล้ว แล้วเด็กๆก็อยู่ได้โดยที่มีฝันเป็นแม่แค่คนเดียว " มาคัสใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่มีทางทนได้แน่หากไม่มีเธออยู่ในชีวิต " โถ่ฝัน คุณไม่ใช่นางบำเรอ และผมไม่มีทางให้คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรอกนะ คุณเป็นเมียผมมาตั้งแต่ทีแรกผมไม่เคยคิดแบบนั้นกับคุณเลย ผมขอโทษที่ตอนนั้นปากผมมันไม่ดี ผมมันปากเสีย คุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะ ผมอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีคุณกับลูกๆ " " จะลงโทษคุณยังไงก็ได้อย่างนั้นใช่ไหมคะ " มาคัสถึงกับหน้าซีดเผือก เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและสายตาแบบนั้นของเมียตัวน้อย " ครับ ผมยอมทุกอย่างขอแค่คุณไม่ทิ้งผมไป แล้วกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม " " คุณต้องเอาชนะใจเด็กๆให้ได้ก่อนถ้าคุณเข้ากับไคเลอร์และคาร์ลอสไม่ได้คุณ
มาคัสทำหน้าสงสัยว่าทำไมเธอต้องบอกว่าไม่ใช่ลูกของเขาในเมื่อ DNA บนหน้าของเด็กแฝดทั้งสองคนก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าเหมือนเขาขนาดไหน ต่อให้เธอจะโกหกยังไงเขาก็ไม่มีทางเชื่อ ลูกของเขาเขาทำเองกับมือแถมยังสำเนาถูกต้องขนาดนี้อีกด้วย " คุณอย่ามาโกหกผมฝัน คุณหนีผมมาพร้อมกับลูกทำไมผมจะไม่รู้ " ปลายฝันรู้สึกตกใจอีกครั้งทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้บอกใครเลยนอกจากมะลิผู้เป็นเพื่อนสาวแล้วก็ครอบครัวของเธอ หรือว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นคนบอกเขา แต่เธอก็กำชับไว้แล้วว่าให้เก็บไว้ให้เงียบที่สุด " ใครเป็นคนบอกคุณว่าฉันหนีมาพร้อมกับลูก " " ไม่ต้องมีใครบอกผมก็รู้ แล้วถ้าผมจะหาหลักฐานมันก็ไม่ยากหรอกนะปลายฝัน อีกอย่างเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม คุณจะมาพรากลูกพรากพ่อเขาแบบนี้ไม่ได้ " ในเมื่อพูดกับเธอดีๆแล้วเธอไม่ฟังก็คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง " คุณหมายความว่ายังไง คุณจะมาแย่งลูกของฝันไปอย่างนั้นหรอ ฝันไม่ยอมหรอกนะ " มาคัสกระตุกยิ้มที่มุมปาก " ถ้าอย่างนั้นคุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม " เมื่อเขาต้อนเธอจนจนมุมร่างบอบบางจึงปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป " ค่ะ เขาเป็นลูกของคุณฉันไม่ปฏิเสธ แต่เรื่องมัน
หลังจากที่ถามทางจากพนักงานคนนั้นแล้วเขาก็ขับรถออกมาเพื่อไปยังคาเฟ่แห่งนั้น เนื่องจากช่วงนี้เขาเคลียร์ปัญหาของโรงแรมเสร็จหมดแล้วเขาจึงว่างทั้งวัน และคงเป็นการดีไม่น้อยถ้าได้เค้กของเธอมาเพิ่มยอดขายให้กับโรงแรมและดึงดูดความสนใจจะนักท่องเที่ยวได้ และในที่สุดเขาก็มาถึงคาเฟ่แห่งนี้หลังจากที่ตามหาอยู่สักพัก เขามองก็ไปด้านในถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆแต่คนก็แน่นถนัดตาเหมือนที่พนักงานของเขาบอกจริงๆ เมื่อเขาเดินเข้ามาด้านในแล้ว ก็เห็นโต๊ะว่างที่อยู่ตรงมุมสุดซึ่งเป็นมุมอับ เขาก็เลยไปนั่งตรงนั้นสักพักก็มีพนักงานมารับออเดอร์ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆมีพนักงานแค่ไม่กี่คน คนที่มาหาเขาก็คงจะเป็นของเจ้าของร้านสินะ " สวัสดีค่ะคุณลูกค้า วันนี้รับอะไรดีคะ " นิดหน่อยเธอยื่นเมนูน้ำและของหวานเพื่อให้กับชายรูปหล่อคนนี้ เขามองจนเธอนึกแปลกใจไม่ได้เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้แถวนี้เลย " คุณเป็นเจ้าของร้านนี้หรอครับ? " ในระหว่างที่เขากำลังเลือกเมนูของว่างอยู่นั้นเขาก็ได้ถามกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านทันที " ไม่ใช่หรอกค่ะ ดิฉันเป็นแค่ผู้จัดการร้านนี้เท่านั้น ตอนนี้เจ้าของร้านยังไม่เข้ามานะคะ น่าจะ